ฤดูการท่องเที่ยว กับกาแฟสัญญาใจ บนยอดดอยหลวง ดอยหนอก จ.พะเยา
ยอดดอยหลวงเป็นจุดที่สูงที่สุดของสันเขาดอยหลวง ซึ่งมีความสูง 1,694 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนยอดดอยหนอกตั้งอยู่บนสันเขาดอยหลวง เป็นเขาหินปูนที่มีความสูง 1,077 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่นี่สามารถชมทิวทัศน์ได้ 360 องศา สามารถมองเห็นกว๊านพะเยาได้อย่างชัดเจน ในวันที่ฟ้าเปิด ส่วนเส้นทางที่เราเดินนั้นจะผ่านป่าดึกดำบรรพ์ ป่าสนเขา และทุ่งหญ้า
ในการเดินทางสู่ยอดดอยหลวง ดอยหนอกนั้น จะต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ซึ่งการเดินขึ้นยอดนั้นสามารถขึ้นได้ 2 ทาง คือ เส้นทางแรกขึ้นจากบ้านปากบอก อำเภองาว จังหวัดลำปาง ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร เส้นทางที่สอง ขึ้นจากบ้านห้วยหม้อ ตำบลบ้านตุ่น อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร แต่เส้นทางค่อนข้างลาดชันกว่า
“เรา คิด ว่า เรา ค้น พบ แนว ทาง ของ เราแล้ว”
“อา สา เที่ยว แค่ อยาก ให้ คน ไป เที่ยว ได้ อะไร มาก กว่า แค่ ไป เที่ยว”
ติดตามภาพทริปนี้เพิ่มเติมที่ : https://www.facebook.com/pg/rsatieowfanpage/photos...
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/1-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/1-02.jpg)
เราพยายามหาโอกาสในการไปเยือนที่นี่หลายครั้ง ซึ่งก็พลาดทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้น่าจะเป็นช่วงที่เหมาะและเป็นเวลาของเราสักที เจอกัน ดอยหนอก
ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติดอยหลวง ครอบคลุมถึง 3 จังหวัด คือ
เชียงราย ลำปาง และพะเยา ที่เรียกว่าดอยหนอกเพราะว่า
ยอดสูงสุดนั้นมีลักษณะภูเขาสูงแหลมปลายมนขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านสูงเสียดฟ้า
ดูคล้ายหนอกวัว ความใฝ่ฝันที่จะได้ไปเยือนที่นี่ก็เป็นจริงสักที
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/2-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/2-02.jpg)
กางแผนที่
การออกเดินทางกลางคืนก็เหมือนได้หลับไปในตัว ตื่นมาก็ถึงพะเยาแล้ว ซึ่งบรรยากาศต่างจากกรุงเทพฯ มาก มีหมอกลงระหว่างทางเต็มไปหมด เรารู้ตัวอีกทีก็มาถึงกว๊านพะเยาแล้ว จึงหามื้อเช้าที่นี่ให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทางไปยังจุดนัดหมายทันที และตรงนั้นก็มีทีมงานรอรับเราอยู่แล้ว ซึ่งมีททท. เชียงราย สนับสนุนโครงการ “ต้า GEN Y ไต่ฟ้าต้าหนาว คืนป่าให้ภูฟ้า ตามล่าทางช้างเผือก” เป็นช่วงการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวดอยหนอกพอดี เราเปลี่ยนเสื้อและรับต้นกล้วยไม้คนละหนึ่งถุง และเริ่มออกเดินทันที
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/3-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/3-02.jpg)
ทีละก้าว ทีละก้าว
เราเดินตัดเข้าป่าเป็นแถวยาว เรียงกันไปทีละคน ตามทางที่แคบพอให้เดินได้โดยที่ไม่มีหญ้ามาขวางทาง ซึ่งเราไม่คิดว่าทางเริ่มแรก จะเป็นทางชันแบบนี้เลย เสียงหายใจของแต่ละคนดังจนคนข้างๆ ได้ยิน เราเดินกันไปอย่างช้าๆ เพราะนอกจากของส่วนตัวที่มีอยู่ในกระเป๋าแล้วก็ยังต้องแบกอุปกรณ์ชงกาแฟ แก้ว และนมอีก ซึ่งทุกคนช่วยกันแบ่งไปคนละอย่างสองอย่าง เพื่อขึ้นนำไปชงข้างบน เราเดินเกาะกลุ่มกันไปอย่างช้าๆ แต่เดินเรื่อยๆ ทางชันกับของหนักทำให้เสียพลังงานในการเดินไปเยอะเลย
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/4-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/4-02.jpg)
หลังจากที่เดินไปได้สักพัก แต่กลับเหนื่อยเต็มที่แล้ว
พอเจอทางเรียบเราก็หยุดพักทันที
หลังจากที่ดื่มน้ำเพื่อดับกระหายจนสดชื่นแล้ว
เราก็เริ่มมองหาจุดที่จะปลูกกล้วยไม้ที่เรานำมาด้วย
ต้นไม้ที่มีมอสขึ้นตรงจุดตัดตามกิ่งตรงนั้นแหละที่เราจะสามารถผูกติดกล้วยไม้
เพื่อให้มันเติบโตและออกดอก เราพยายามมัดอยู่นาน แต่ละคนก็ดูเก้ๆ กังๆ
เล็กน้อย ต้นหนึ่งก็ช่วยกันหลายๆ คน เผื่อเราไปปลูกต้นต่อไป
ส่วนที่เหลือก็ให้กำลังใจข้างๆ หลังจากผูกกล้วยไม้กับต้นไม้จนแน่นพอดีๆ
แล้วก็รดน้ำสักหน่อยก่อนที่เราจะออกเดินทางกันต่อ
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/5-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/5-02.jpg)
จากจุดนี้เราเดินตามกันไป แบบสบายกว่าตอนเริ่ม เพราะทางไม่ค่อยชันมาก เริ่มมีเสียงสนทนา เดินไปคุยไป แม้จะมีหญ้าทิ่มแทงแขนขาบ้าง แต่ถือว่าเดินสบาย จากตรงนี้เราเริ่มมองเห็นต้นสนบ้างเล็กน้อย และจุดนี้ก็เป็นอีกจุดที่เราปลูกกล้วยไม้ได้อีกหลายต้น ช่วยกันจะได้เสร็จไวๆ ส่วนใครปลูกเสร็จก่อนก็พักรอ เพราะทางข้างหน้าไม่น่าจะเดินสบายแล้ว ออมแรงไว้ก่อน
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/6-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/6-02.jpg)
ป่าสนเขา จุดนี้เราเริ่มมองเห็นสันเขาไกลๆ แล้ว
แม้ว่าจะมีหมอกพัดมาบังในบางส่วนจนมองเห็นคล้ายภาพในฝัน
แต่การเดินขึ้นจุดนี้กลับไม่ง่าย
เพราะความจริงเราต้องฝ่าดงหญ้าที่สูงท่วมหัว และพร้อมทิ่มแทง บาดแข้ง บาดขา
รวมไปทั้งสามารถบาดหน้าได้เลย แดดที่ส่องมาก็แรงมาก แผดเผาเรา
โดยที่ไม่สามารถหลบไปไหนได้เลย
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/7-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/7-02.jpg)
เราทำได้เพียงเดิน เดิน และรีบเดิน เพราะนอกจากแดดที่แรง ต้นหญ้าที่สูงแล้วทางตรงนี้ก็เริ่มชันอีกต่างหาก จากที่เดินช้าอยู่แล้วยิ่งช้าไปใหญ่ ก้มหน้าก้มตาเดินมองเท้าตัวเอง ก้าวไปทีละก้าว แต่เราก็ยังคงเดินเรื่อยๆ ไม่หยุด เงยหน้ามองอีกที อ้าวกลุ่มข้างหน้าขึ้นเขาทิ้งเราไปไกลพอสมควร ส่วนเราขอพักกินมื้อเที่ยงก่อน เพิ่มพลังก่อนเดินขึ้นทางชัน แต่ข้าวเที่ยงอยู่ไหน!!! อ้าวเราไม่ได้รับข้าวเที่ยงมา ทุกคนก็รื้อกระเป๋าหาขนมที่ติดมากินเพิ่มพลังแบ่งกันคนละนิดคนละหน่อย และตอนนี้กลุ่มแรกก็ถึงยอดแล้ว ถึงเวลาที่เราจะต้องเดินบ้างแล้ว
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/8-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/8-02.jpg)
สันหมูแม่ด้อง จุดนี้เป็นจุดที่ค่อนข้างอันตรายจนต้องมีป้ายเตือน ทางชันมากๆๆ และนี่จะเป็นจุดขึ้นไปเพื่อเดินบนสันเขา ไร้ต้นไม้ใหญ่ ไม่มีร่มเงาให้หลบแดด ซ้ายขวาเริ่มเป็นเหว เราต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเดินให้มาก เดินตามกันไปทีละคน เพราะพื้นที่ค่อนข้างแคบ
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/9-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/9-02.jpg)
ก้มหน้าก้มตาเดิน มองเท้าที่ค่อยๆ ก้าวไป ทีละก้าว
รวบรวมพลังหวังให้ถึงจุดหมายไวๆ เดินเรื่อยๆ แต่ก็หยุดพักยกเป็นระยะๆ
เช่นกัน และแล้วสิ่งที่เราทำ ธรรมชาติก็มอบสิ่งที่งดงามให้เรา
เราเดินขึ้นมาถึงอีกจุดที่สามารถยืนรับลมและหยุดมองวิว
ทั้งจากที่เดินผ่านมา และข้างหน้าที่เราจะต้องเดินไป
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/10-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/10-02.jpg)
เราสามารถมองเห็นวิวได้รอบตัว 360 องศา บอกเลยว่าหายเหนื่อย
ลืมสิ่งที่ทำให้ท้อเมื่อกี้ไปหมดเลย เมื่อได้เห็นวิวแบบนี้
แต่ไม่นานฟ้าก็เริ่มปิด
เมฆดำก้อนใหญ่เข้ามาปกคลุมท้องฟ้าจนเห็นเป็นเส้นแบ่งตัดกันอย่างชัดเจน
จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่า แล้วฝนจะตกไหม
แต่อีกไม่นานแสงก็ส่องทะลุก้อนเมฆออกมาได้ เปิดๆ ปิดๆ อยู่แบบนั้น
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/11-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/11-02.jpg)
เราเริ่มเดินต่ออีกครั้ง ซึ่งเราต้องเดินตามที่ป้ายบอก เพราะแม้นว่าเราจะเดินตามสันเขาแล้วก็มีบางจุดที่ต้องเดินเลี้ยวไปตามทางให้ถูกเพราะเขาก็มีหลายลูกเหลือเกิน เราต้องเดินขึ้น เดินลงสันเขา แต่ตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่ไม่ชันเท่าไร ทำให้เรามีเวลาเห็นกลุ่มหน้าเดินไป ถ่ายรูปไป เสียงสนทนาดังขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าฟ้าจะเปิดแต่แดดกลับส่องมาที่เราไม่แรงอย่างที่คิด ลมก็เย็นสบายที่พัดมาเป็นระยะๆ
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/12-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/12-02.jpg)
เราเดินตามกันแบบไม่ทิ้งห่างเท่าไร คนแรกยังมองกลับไปเห็นคนสุดท้ายของกลุ่มเราอยู่ แม้ทางไม่ชันแต่ดูเหมือนว่าเราก็เดินช้าอยู่ดี มัวแต่มองวิว พูดคุย และถ่ายรูปกันไปมา ก็ช่วงที่ฟ้าเปิดมันมาเป็นพักๆ พอเปิดก็เลยต้องรีบถ่าย เพราะไม่นานฟ้าก็จะปิด อึมครึม แต่ก็สวยไปอีกแบบ และทำให้เราเดินง่ายไม่ร้อน
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/13-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/13-02.jpg)
และแล้วเราก็เดินผ่านสันเขามาหลายลูกจนมาถึงทุ่งหญ้าเด่นสแกง เป็นทุ่งหญ้ากว้างๆ มีดอกไม้แซมอยู่ทั่วไป และเป็นอีกจุดที่เราทิ้งเป้และเดินเล่น พร้อมทั้งบางคนก็ได้ที่ปลูกต้นกล้วยไม้ด้วย ซึ่งเราปลูกข้างๆ ต้นที่มีอยู่แล้วให้มันอยู่ข้างๆ กัน สมาชิกกลุ่มเราเดินมาถึงนี่จนครบแล้ว และจากที่พักจนหายเหนื่อย เราก็เริ่มเดินอีกครั้ง ซึ่งเราก็คิดว่าทางมันน่าจะเดินสบาย
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/14-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/14-02.jpg)
แต่ยิ่งเดินทำไมยิ่งรู้สึกว่าทางแคบลงๆ และทางเดินก็ดูไม่ชัด รกและเหมือนไม่ใช่ทางเดินที่จะมีคนเดินมาก่อนหน้าเราได้เลย เราพยายามเดินตามกันเกาะกลุ่มกันไปเพื่อไม่ให้ใครหลงออกไปจากกลุ่มอีก ในที่สุดเราก็ตัดออกมาจนเจอป้าย และคนที่เดินมาก่อนหน้าเราแล้ว คราวนี้ไม่หลงแน่ จุดนี้มองเห็นเขาข้างหน้าที่เราต้องเดินไปแล้ว ซึ่งดูเหมือนว่าไม่ไกล แต่เดินเท่าไรก็ยังไม่เห็นถึงสักที นี่แค่เริ่มต้นก็ดูเหมือนว่าจะหมดแรงแล้ว บันไดก่ายฟ้า จากการดูน่าจะทั้งสูงและชันที่สุดละมั้งเท่าที่เดินมา
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/15-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/15-02.jpg)
แต่เราก็ไม่หวั่น ชันแค่ไหน สูงแค่ไหนก็สู้ จะระมัดระวังในการเดินไม่เร่งรีบ เราสามารถเดินไป หยุดไป เพื่อชมวิวได้ตลอดเลย ก็เลยทำให้ทุกครั้งที่เรารู้สึกเหนื่อยก็แค่หยุดพักแล้วมองวิวสักพักก็เดินต่อ จนทำให้เราขึ้นมาถึงข้างบนจนได้ วิวที่มองได้รอบตัวทำให้ลืมเหนื่อย วิวด้านหลังที่เดินผ่านมาก็งดงาม ส่วนด้านหน้าไม่ต้องพูดถึง งามไม่แพ้กัน
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/16-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/16-02.jpg)
กลุ่มหน้าเดินถึงแล้วส่วนกลุ่มหลังก็ทยอยเดินตามกันขึ้นมาเรื่อยๆ
แม้ว่าจะเดินทิ้งห่างกันบ้างแต่ก็ยังมองเห็นกันไกลๆ
เพราะเราเดินตามสันเขาที่ไม่มีทางเลี้ยวไปไหน
ฉะนั้นก็ไม่ต้องเดินเกาะกลุ่มกันไป ใครเดินเร็วนำไปก่อน ใครช้าก็ค่อยๆ
ตามไปไม่ต้องรีบ เพราะจุดนี้ยังไงก็ไม่หลง
ซึ่งตรงนี้ก็มีจุดที่พวกเราขอหยุดพักนานๆ ไม่ใช่พักเหนื่อย
แต่ขอเก็บบรรยากาศและภาพถ่ายสักหน่อย
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/17-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/17-02.jpg)
หลังจากนั้นเราก็เดิน เดิน เดิน เดินขึ้น เดินลงตามสันเขาไปเรื่อยๆ
ตอนนี้เริ่มมีหมอกมาสมทบกันเมฆเป็นระยะๆ หลังจากที่เราเพลินกับวิวมานาน
พอฟ้าเริ่มมืดและปิดอีกครั้ง
เราก็เลยต้องรีบเดินเพราะถ้าฝนตกลงมาตอนนี้คงทำให้เราเดินยากขึ้นแน่นอน
อีกอย่างจุดกางเต็นท์อยู่ตรงไหนยังไม่รู้เลย
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/18-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/18-02.jpg)
ในขณะที่เรารีบเดินแต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังด้วยนั้น ฟ้าก็เริ่มเปิด
แสงแดดเริ่มส่องอีกครั้งตรงข้างหน้าที่เราจะเดินไปจนทำให้เห็นจุดกางเต็นท์ที่ตอนนี้มีคนกางอยู่บ้างแล้ว
แค่เขาอีกลูกเดียว ไม่ไกลเกินเอื้อม อีกนิดเดียว
แต่ทำไมยิ่งเดินก็ยิ่งเหมือนไกล ทางก็ชัน เดินไปหยุดไป
พอเราหันไปดูกลุ่มหลังก็แทบจะมองไม่เห็นเพราะหมอกบังจนเกือบมิด
แต่แล้วเราก็มาถึงจุดกางเต็นท์ ที่เต็มไปด้วยเต็นท์มากมาย
จนแทบจะหาที่กางไม่ได้
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/19-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/19-02.jpg)
ไม่รู้ว่าพื้นที่มันแคบหรือคนที่มาเยอะเกินไป เพราะมองทางไหนก็แทบจะไม่มีที่กางเต็นท์ ไม่ต้องพูดถึงถ้าจะกางรวมกันเป็นกลุ่มของเรา ทุกคนช่วยกันเดินหาที่ที่พอจะว่างและแทรกกางเต็นท์จนครบเต็นท์ที่มี ยกเว้นหนึ่งเต็นท์ที่หาเท่าไรก็หาไม่เจอ ถามพี่ๆ ลูกหาบก็บอกว่าแบกขึ้นมาครบ แต่ก็ไม่มีเราก็เลยต้องปรับเปลี่ยนคนในแต่ละเต็นท์ใหม่ กลุ่มหนึ่งกางเต็นท์ อีกกลุ่มก็ไปหุงข้าว ก่อนที่จะมืดก็วิ่งไปเก็บแสงเย็นกันสักนิดที่สันเขาด้านหลังเต็นท์ แม้ว่าจะมีหมอกมาบดบังตอนพระอาทิตย์ตกแต่ก็งดงามไปอีกแบบ
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/20-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/20-02.jpg)
เราได้กินมื้อเย็นกันตอนฟ้ามืดแล้ว
เราก็นั่งคุยท่ามกลางกองไฟและชุดกันหนาวเท่าที่มีในตอนนี้ สักพักฟ้าก็ค่อยๆ
เปิด
ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าที่หลายคนชอบเรียกว่าดาวบนดินตอนนี้มันช่างงดงามเหลือเกิน
แสงไฟในเมืองกับแสงจันทร์ที่ส่องแสงเหลืองอร่ามสะท้อนกับกว๊านพะเยายิ่งทำให้เรายืนมองกันเพลิน
จนลืมหนาวไปชั่วขณะ ทั้งๆ ที่ลมยังคงพัดตลอดที่ดอยหลวงแห่งนี้
ซึ่งเราเข้านอนกันตั้งแต่หัวค่ำ เพื่อตื่นตอนเช้ากับภาระกิจที่ตั้งใจมาทำ
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/21-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/21-02.jpg)
เสียงเจ้าหน้าที่ปลุกเราตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่สว่าง
หลายคนยังคงอยู่ในเต็นท์ แต่พอเช้าฟ้าสว่าง เราเพียงแค่เปิดเต็นท์เท่านั้น
สิ่งที่เราเห็นก็ทำให้เราตื่นเต้นสุดๆ ทะเลหมอกขาวโพลน
หนานุ่มเต็มไปทั่วจนปิดบังวิวในเมือง เหมือนเราลอยอยู่บนยอดเมฆ
พระอาทิตย์ขึ้นสูงขึ้นแต่ก็ยังไม่สามารถส่องแสงทะลุทั้งเมฆและหมอกออกมาได้
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/22-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/22-02.jpg)
แสงพระอาทิตย์โผล่พ้นก้อนเมฆมาได้แล้วแต่หมอกก็ยังคงหนาอยู่ บางส่วนที่พัดฟุ้งอยู่ทั่วไปพอโดนแสงก็กลายเป็นสีทองสว่างสดใส ส่วนอีกด้านก็สวยไม่แพ้กัน ภูเขาสลับซับซ้อนมีหมอกไหลผ่านยอดเขาไปเรื่อยๆ บอกเลยว่าเราชอบช่วงเวลานี้มาก บรรยากาศยามเช้าสดชื่นจริงๆ แม้ว่าแสงแดดเริ่มแรงแต่อากาศก็ยังหนาว
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/23-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/23-02.jpg)
กาแฟสัญญาใจ
ภาระกิจที่เราตั้งใจมาทำในการมาเดินป่าครั้งนี้คือ การชงกาแฟสัญญาใจให้นักท่องเที่ยวได้ดื่ม ซึ่งซุ้มกาแฟก็ถูกจัดเตรียมตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง พอแสงมาหลายคนก็สงสัยในสิ่งที่เราทำ เดินเข้ามาดูมากมาย โดยมีพี่ๆ เจ้าหน้าที่ก็ช่วยประชาสัมพันธ์อีกทาง ว่าเราจะชงกาแฟให้ดื่ม หลายคนเดินมาพูดคุย สอบถามเรากับสิ่งที่เราทำ คนชงตั้งใจชง คนมาชิมตั้งใจยิ่งกว่า
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/24-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/24-02.jpg)
ในการชงกาแฟของเราจะชงจากเครื่องชงที่ไม่ใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่อง rok espresso ที่เราชงแก้วต่อแก้ว ซึ่งแต่ละแก้วก็ต้องมีผู้ช่วยเพราะเราเริ่มตั้งแต่บดกาแฟ ส่วนใครที่อยากกินกาแฟนมก็ต้องตีฟองนมรอได้เลย ซึ่งทุกคนที่มาก็น่ารัก นำแก้วติดมือมาด้วย แถมช่วยกันทำ ซึ่งในระหว่างนั้นก็พูดคุยกันไปด้วย ทุกคนดูจะสนุกกับการได้ช่วยทำซึ่งแต่ละคนก็ขอลองบดบ้าง ตีฟองนมบ้าง ปรับเปลี่ยนกันไป ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีคนทยอยมารอคิวชิมกาแฟอย่างต่อเนื่อง
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/25-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/25-02.jpg)
การชงกาแฟของเราผู้ช่วยนี่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นการบด ตีฟองนม ต้มน้ำ ส่วนที่เหลือส่งให้มือชงจัดการต่อได้เลย กว่าจะได้แต่ละแก้วคนที่รอก็จะได้ฟังเรื่องราวในการชงกาแฟของเราไปด้วย โดยเราจะไม่คิดเงินหรือรับบริจาคใดๆ ส่วนใหญ่จะเป็นทุนที่เรานำมาซื้อของเอง แต่ครั้งนี้ ททท. เชียงราย ได้นำเมล็ดกาแฟที่ปลูกในจังหวัดพะเยามาให้ในการชงกาแฟที่ยอดดอยหลวงในครั้งนี้ด้วย หลังจากที่ทุกคนได้รับกาแฟที่สั่งแล้วก็ต้องสัญญากับเราด้วยนะว่า จะไม่ทิ้งขยะตามแหล่งท่องเที่ยวและจะนำออกมาด้วยทุกครั้ง ยิ่งอันไหนเป็นขยะส่วนตัวเราก็ควรจะเป็นคนเอาออกด้วยตัวเอง อย่างน้อยๆ ก็รับผิดชอบกับการมาเที่ยว ส่วนใครไม่ดื่มกาแฟเราก็มีโกโก้ด้วยนะ
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/26-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/26-02.jpg)
เริ่มสายแล้วเราสลับกันไปกินมื้อเช้าที่เราเพียงแค่หุงข้าวเท่านั้น กับข้าวก็เน้นไปทางเมนูง่ายๆ อย่างหมูแผ่น น้ำพริก ปลากระป๋อง ต้มมาม่าซดน้ำร้อนๆ บางส่วนก็ยังคงชงกาแฟสัญญาใจอยู่ ส่วนใครที่อิ่มแล้วก็ไปทยอยเก็บเต็นท์ ช่วยกันแป๊บเดียวก็เสร็จ ข้าวของส่วนตัวและอุปกรณ์กาแฟก็อยู่ในเป้เรียบร้อย เต็นท์และของกองกลางบางส่วนก็ถูกนำออกมารวมเพื่อให้ลูกหาบ และเต็นท์ที่หายไปหากันตั้งนานเมื่อวานก็เจอแล้ว (เจอตอนนี้!!!) ฟ้าที่ใสๆ อยู่ตอนนี้มีหมอกปกคลุมขาวไปทั่ว
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/27-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/27-02.jpg)
เราเดินเกาะกลุ่มตัดขึ้นไปบนสันเขาที่อยู่ข้างหลังจากจุดที่เรากางเต็นท์ ค่อยๆ เดินตามกันขึ้นไปอาศัยมองสีเสื้อไปก่อนเพราะหมอกเยอะ แต่พอเดินถึงข้างบนฟ้าก็เปิดอีกครั้ง มีลมพัดเย็นๆ เห็นหมอกค่อยๆ ไหลผ่านไป เรามองวิวจากจุดสูงสุดดอยหลวงอยู่สักพักฟ้าก็ปิดอีกครั้ง
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/28-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/28-02.jpg)
เราค่อยๆ เดินตามสันเขา และตามกลุ่มหน้าไป พร้อมทั้งพี่ๆ เจ้าหน้าที่ และลูกหาบ ซึ่งจุดนี้เป็นทางที่ไมค่อยจะชันเท่าไร ทางลงก็เดินสบาย แต่หลายคนเริ่มมีตัวช่วย เราใช้เวลาเดินตรงจุดนี้ไม่นานก็มาถึงจุดที่จะต้องเดินลงเพื่อไปยังเขาอีกลูก ซึ่งจุดนี้ไม่หยุดไม่ได้จริงๆ เพราะมันสวยมาก
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/29-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/29-02.jpg)
ฟ้าเปิดจนเราสามารถมองเห็นเส้นทางที่เราต้องเดินไปได้อย่างชัดเจน ลมพัดแรงจนหมอกไปอยู่ฝั่งขวาหมดแล้ว ก้อนหินจากจุดที่เรายืนก็เหมาะพอดีกับการถ่ายรูปมุมนี้ เส้นทางเป็นสันเขายาวๆ ที่ไม่ชันมาก ทำให้กลุ่มหน้าเดินทิ้งห่างเราไปไกลแล้ว เดินกันไวมากเลยนะ สิงห์ทางเรียบ
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/30-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/30-02.jpg)
แต่เรายังไม่ทันได้เริ่มเดิน หมอกก็พัดมา ฟ้าก็ปิดแบบที่ไม่สามารถมองเห็นไกลๆ ได้เลย ตอนนี้เราถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยๆ พยายามเดินเกาะกลุ่มตามกันไป ซึ่งทางก็ชัดเจนยังไม่ได้มีทางแยกใดๆ เพียงแค่มองไม่เห็นกลุ่มข้างหน้าเท่านั้นเอง หมอกลงหนาและนานมาก แต่เราก็ยังเดินต่อไปเรื่อยๆ
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/31-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/31-02.jpg)
เราเดินมาสักพักก็ถึงจุดที่มีป่าหญ้าคาที่สูงท่วมหัว ทางแคบและเป็นทางลงเล็กน้อยแต่ก็เป็นระยะทางสั้นๆ ก่อนที่เราจะมาถึงทางที่เต็มไปด้วยหิน ซึ่งมีเยอะมากและแคบกว่าเดิม แต่ทางก็ค่อนข้างจะเดินง่ายเพราะไม่มีหญ้าคาบาดแขน ขา
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/32-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/32-02.jpg)
เราเดินเรียงกันไปทีละคนเพราะทางแคบมากจริงๆ ซึ่งถึงตอนนี้หมอกก็ยังคงหนาและฟุ้งเต็มไปหมด เราจึงถอดใจไม่เดินขึ้นดอยหนอก เพราะถึงขึ้นไปก็คงไม่เห็นอะไรอยู่ดี และทางเดินขึ้นก็ต้องขึ้นทีละคนน่าจะยิ่งช้าไปกันใหญ่ และยังมีผู้คนต่อคิวรอขึ้นอยู่อีก เราก็เลยมุ่งหน้าเพื่อเดินลง หมอกก็ยังคงไม่จางไปไหน อากาศก็ค่อนข้างเย็น เราก็ค่อยๆ เดินตามกันไปไม่ให้ห่างกันมาก เพราะจะมองไม่เห็น
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/33-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/33-02.jpg)
สาวๆ แก้งค์ไม้เท้าก็ค่อยๆ เดินลงจากหินอย่างช้าๆ อาจจะเป็นเพราะความล้าจากการเดินมาหลายชั่วโมง และบางคนมีปัญหากับการเดินลง ก็ยิ่งต้องช้า และเพิ่มความระมัดระวังให้มาก ซึ่งใครที่เดินเร็วกว่าก็นำหน้าไปก่อนเลย จากจุดนี้มีงงกันเล็กน้อย เพราะมีทางแยกหลายทางอยู่จนเราเห็นองค์พระ ซึ่งกำลังมีการบูรณะองค์พระอยู่พอดี หลวงพ่อทันใจองค์นี้มีชื่อเต็มว่า องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธสิกขีปฐมบรมสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ พระพุทธรูปชำระหนี้สงฆ์ เราเดินผ่านจุดนี้ผ่านทางด้านหน้าองค์พระไปเรื่อยๆ
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/34-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/34-02.jpg)
ช่วงนี้เป็นทุ่งหญ้าที่น่าจะเดินสบายที่สุด เพราะเป็นทางเรียบตามสันเขาไป หมอกก็ลง ลมก็พัด ถ้าทางเป็นแบบนี้ตลอดก็คงเดินกันเพลิน แต่มันไม่มีทางเป็นแบบนั้น ทางลงกลับมาให้เราได้เดินอีกครั้ง แต่เป็นทางลงที่ทั้งลื่น แฉะ และรกสุดๆ
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/35-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/35-02.jpg)
แม้ว่าจะเป็นทางลงที่รกและพร้อมลื่นตลอดเวลาแต่ระหว่างทางก็มีดอกไม้สีม่วงแซมให้เราได้ชื่นชม แต่หลายคนก็เริ่มที่จะไม่สนใจกับสิ่งรอบข้างสักเท่าไร เริ่มเดิน เดิน เดิน เพื่อให้ถึงจุดหมายสักที
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/36-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/36-02.jpg)
ทางที่เราเดินยังคงเป็นทางลงอย่างต่อเนื่อง เป็นทางดินที่แฉะและพร้อมทำให้เราลื่นตลอดเวลา นอกจากไม้เท้าที่มีบางครั้งก็ต้องใช้มือช่วยอีกแรง ต้องค่อยๆ เดินลง และที่สำคัญต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา ในบางช่วงทางลงชันมากจนต้องมีเชือกให้ได้ไต่ลงมา แต่การจับเชือกก็ใช่ว่าจะดี มือถลอกกันไปหลายคน จนต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นเป็นเท่าตัว
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/37-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/37-02.jpg)
หลายคนเปลี่ยนปอกแขนเป็นถุงมือเพื่อกันเชือกบาด แต่หลายคนก็พยายามหาทางลงที่ง่ายๆและไม่ยากเท่ากับการลงทางที่มีเชือก แต่ไม่ว่าจะลงทางไหน ทุกคนต้องใช้ความรมัดระวังอย่างมาก กว่าจะผ่านไปได้แต่ละจุดเสื้อผ้าหลายคนก็ทั้งเละและเลอะไปหมด ส่วนจุดไหนที่ไม่มีเชือกก็พยายามเกาะต้นไม้ เกาะหิน ก้าวให้มั่นคงก่อนเดินลง แต่ก็ได้ยินเสียงอุทานตลอดทางเช่นกัน
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/38-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/38-02.jpg)
เรายังคงเดินตามกันไปเรื่อยๆ แม้ว่าทางจะไม่ชันมาก แต่ก็ไม่ได้เรียบเท่าที่ควร เพราะมันเต็มไปก้อนหิน ก้อนเล็ก ก้อนน้อยเต็มไปหมด และแล้วเราก็มาถึงผานางจูบที่หลายคนแวะพักกินมื้อเที่ยงที่นี่ แต่กลุ่มเราแค่แวะเติมน้ำก่อนออกเดินทางต่อทันที
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/39-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/39-02.jpg)
นขณะที่เราหันกลับไปแทบจะมองไม่เห็นทางเลย แต่เราก็ยังหาทางเดินมาได้ ซึ่งจุดนี้จะมีน้ำมากหน่อยเพราะเป็นลำธาร แต่เราก็พยายามเดินหลีกเลี่ยงตามแต่ละคน บางช่วงก็เป็นทางรกมากจนเราต้องเดินเกาะกลุ่มตามกันไปติดๆ เพื่อกันหลงทาง
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/40-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/40-02.jpg)
เรายังคงต้องเดินตามลำธารไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าเดินคนเดียวอาจจะมีหลงแน่ เพราะทางไม่ได้ชัดเจนแต่ระหว่างทางจะมีป้ายให้เห็นเป็นระยะๆ แม้จะเป็นทางเรียบแต่การเดินริมลำธารแบบนี้ก็ต้องหลบทั้งน้ำ และระวังจะเหยียบหินแล้วลื่นล้ม ไม่ได้ทำใหเราเดินเร็วขึ้นเลย
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/41-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/41-02.jpg)
เราตัดขึ้นข้างบนเล็กน้อย แม้ว่าจะเดินขึ้นไม่มาก แต่อุปสรรคระหว่างทางกลับเยอะเหลือเกิน ต้นไม้ที่ล้มลงมาขวางทางเดินเราเต็มๆ เราต้องค่อยๆ แทรกตัวระหว่างกิ่งมันไปตามแต่ความถนัดของแต่ละคน ซึ่งจุดนี้ก็เรียกเสียงฮือฮาจากพวกเรา ได้ไม่ได้ หลังจากที่เงียบกันมานาน ยิ่งกว่านั้นทางลงตรงนี้ก็มีเชือกเพื่อให้จับลงเพิ่มความปลอดภัย แต่จากการดูสองคนที่เดินหันหลังไต่เชือกลงก็คิดว่าเดินลงง่ายกว่า ฮากันลั่นสำหรับคนที่ไต่เชือกลงมา
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/42-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/42-02.jpg)
อีกจุดที่ทำให้เรายิ้มได้ก็เจ้าต้นนี้ ที่มีใบขนาดใหญ่ โดดเด่นอยู่ตรงทางที่เราต้องเดินผ่านพอดี ยิ่งเทียบกับตัวเรายิ่งรู้เลยว่าใบมันใหญ่มาก นี่ถ้าฝนตกคงเป็นร่มให้เราได้เป็นอย่างดี
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/43-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/43-02.jpg)
รอยยิ้มบนใบหน้าและเสียงสนทนาเงียบหายไปอีกครั้ง เราตั้งหน้าตั้งตาเดิน เดิน เดิน เพราะหลายคนเริ่มงอแง และอยากถึงจุดหมายแล้ว แต่ก็ดูเหมือนยังไร้วี่แวว เรายังคงเดินตามลำธารต่อไปเรื่อยๆ จนถึงแอ่งน้ำ แอ่งหนึ่ง ที่พอจะแช่เท้า แช่ตัวได้หน่อย เราก็ทิ้งเป้ ลงไปแช่ทันที หยิบข้าวและหมูที่มีรองท้องก่อนที่จะเดินทางต่อ กลุ่มหลังตามเรามาทันแล้ว เราก็เลยเดินไปพร้อมกันเลย เลาะลำธารทำไมมันไม่เห็นชิวเลย หญ้ารก ทางลื่น แต่เราก็เดิน แบบไม่สนใจสิ่งรอบข้างแล้ว
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/44-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/44-02.jpg)
เรายังคงเดิน เดิน เดิน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะต้องเดินไปอีกนานแค่ไหน บางช่วงขึ้นเขา บางช่วงเลาะลำธาร แม้ว่าอากาศจะไม่ได้ร้อน หรือเจอแดดแรง แต่การเดินมาอย่างยาวนานขนาดนี้ ก็ทำให้เราไม่ได้สนใจอะไรแล้ว คิดแค่เพียงว่า เมื่อไรจะถึงจุดหมายสักที
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/45-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/45-02.jpg)
และแล้วเราก็ถึงจุดหมาย ไม่ต้องเดินอีกแล้ว สภาพแต่ละคนบอกเลยว่าอยากทิ้งตัวลงนอนเลยแหละ แต่เราต้องทำเวลาก็เลยรีบขึ้นรถกระบะที่พยายามพาเราไปยังจุดรวมตัวกับกลุ่มอื่นๆ ขับวนไป วนมาหลายรอบ เราก็เลยต้องมองทุ่งนาไป เพราะทำอะไรไม่ได้ แต่ในที่สุดเราก็มาถึงได้กินข้าวและน้ำรองท้องก่อนไปอาบน้ำ
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/46-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/46-02.jpg)
มิใช่… แค่ปลายทาง
แม้ว่าหลายต่อหลายครั้งที่เราเดินแล้วรู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากสนใจสิ่งรอบข้างแล้ว นึกถึงแต่จุดหมายที่จะไปถึงอย่างเดียว แต่ก็มีหลายต่อหลายครั้งที่เราเห็นต้นไม้เล็กๆ ออกดอกมาให้เราได้ชื่นชม และเหมือนเป็นกำลังใจระหว่างทางได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อไรที่เราหันมาเห็นหรือสนใจสิ่งรอบตัว ก็จะทำให้เราหายเหนื่อยไปชั่วขณะจริงๆ
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/47-01.jpg)
![](http://www.rsatieow.com/wp-content/uploads/2019/03/47-02.jpg)
เก็บตก
สิ่งที่เราตั้งใจไปทำคือการชงกาแฟสัญญาใจที่คนรับกาแฟต้องสัญญาว่าจะไม่ทิ้งขยะ ฉะนั้นระหว่างทางที่เราเดินตั้งแต่ตอนไป เราก็เจอขยะตลอดทางเช่นกัน ซึ่งเราทำได้คือเก็บ เก็บ เก็บ ขยะที่เจอก็มีทั้งขยะชิ้นเล็กไปจนถึงชิ้นใหญ่ ซึ่งระหว่างทางกลับพี่ๆ ลูกหาบก็ขนขยะกลับออกมาด้วยเช่นกัน ได้มาหลายถุงใหญ่เลย เป็นการรับผิดชอบต่อธรรมชาติที่ดี เพราะก่อนเราไปไม่มีขยะยังไง เราออกมาก็ต้องไม่มีขยะเช่นนั้น
ไปเที่ยวครั้งต่อไปอย่าลืมเก็บขยะของตัวเองออกมาด้วยนะ อย่าทิ้งให้เป็นภาระคนอื่นที่ต้องมารับผิดชอบกับขยะของเราเลย ธรรมชาติก็ควรจะมีแต่ธรรมชาติอย่าให้มีสิ่งแปลกปลอมหลงเหลืออยู่เลย ให้คนหลังๆ ได้เห็นความงามแบบที่เราเห็น ให้แหล่งท่องเที่ยวน่าเที่ยวตลอดไป
ติดตามภาพทริปนี้เพิ่มเติมที่ : https://www.facebook.com/pg/rsatieowfanpage/photos...
ติดตามทริปอื่นๆ ที่ : https://www.facebook.com/rsatieowfanpage/
หรือตามได้จากเว็ปไซต์ http://www.rsatieow.com
May Macro
วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 01.05 น.