การเที่ยวหน้าฝนบางคนอาจคิดหนักไม่อยากออกจากบ้าน ไม่อยากเจอฝนตก เราลองมาเปลี่ยนความคิดและไปเที่ยวกันค่ะ แนะนำอีกหนึ่งสถานที่ ที่น่าเที่ยว "อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด" อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สิ่งที่จำเป็นที่ต้องเตรียม

1.เต็นท์,เปล(ต้องมีมุ้ง)

2.ไฟฉาย

3.สเปรย์กันยุง(สำคัญมากยุงที่นี่ดุจริงๆ)

4.เสื้อกันฝน

การเดินทาง รถยนต์จากบางนา - อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด (หาดสามพระยา) 256 กม.

3-4 ชั่วโมง

ติดต่อสอบถามข้อมูล 032-821568 อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ.ประจวบศีรีขันธ์

อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด มีพื้นที่ทั้งหมด 98.08 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กิ่งอำเภอสามร้อยยอด และอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 4 ของประเทศไทย และเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรก

สถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ได้แก่ หาดแหลมศาลา ถ้ำพระยานคร ถ้ำแก้ว ถ้ำไทร หาดสามพระยา จุดล่องคลองเขาแดง จุดชมวิวเขาแดง และทุ่งสามร้อยยอด

ออกเดินทางจาก เซ็นทรัลบางนา เวลา 22.30 น. การเดินทางสะดวกรถไม่ติดแต่มีฝนตกเป็นบางช่วงของการเดินทาง มีเพื่อนร่วมเดินทาง 5 คน และอีก 2 คนไปเจอกันที่จุดนัดพบหาดสามพระยา เราใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงที่นัดพบ หาดสามพระยาให้เข้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าใครมีเต็นท์ หรือเปล ไปกาง แต่ถ้าใครจะติดต่อบ้านพักต้องติดต่อในเวลาทำการ (บ้านพักหลังละ 1,500 - 2,000 บาท)

พอถึงเราไม่สามารถกางเต็นท์ได้เพราะฝนตกตลอดเลยดีหน่อยมีที่หลบฝนเพราะวันที่ไปมีค่ายลูกเสือมาพักและมีเต็นท์ใหญ่กางสามารถเอารถเข้าไปจอดไว้ได้คืนนี้นอนในรถนะ(ยุงเยอะมากไล่ก็ไม่ไป)

วันแรก ตื่น 6 โมงเช้า อยากนอนต่อนะแต่เด็กๆที่เข้าค่ายจะกลับบ้านแล้วเลยมีการเรียกรวมพล นาฬิกาปลุกชั้นดีเลย55+++จากนั้นเลยล้างหน้าแปลงฟันเตรียมตัวไปหาดแหลมศาลา และถ้ำพระยานคร

การเดินทางไปหาดแหลมศาลา หากเริ่มต้นที่หาดสามพระยา ต้องมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปหมู่บ้านชาวประมง "บ้านบางปู" เป็นทางผ่านไปแหลมศาลา และถ้ำพระยานคร บ้านบางปูมีวิถีชีวิตของชาวประมงริมทะเลฝั่งอ่าวไทย เรียบง่าย คลองบางปูมีการนำเรือประมงมาจอดไว้ยังท่าเรือหน้าบ้าน ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร นำรถยนต์ไปจอดที่วัดบางปู (รถยนต์เข้าไม่ถึงหาด) จากนั้นต้องตัดสินใจว่าจะเดินทางโดยวิธีการใดใน 2 ทางเลือกนี้

1.ทางเรือ มีเรือหางยาวของชาวบ้านให้บริการรับ-ส่ง จากหาดบางปูไปหาดแหลมศาลา เป็นการเดินทางเลียบชายฝั่ง ราคาเรือเหมาลำละ 400 บาท ไป-กลับ

2.ทางเท้า เดินข้ามเขาไปตามทางเดินที่อุทยานแห่งชาติจัดทำไว้ ระยะทางประมาณ 500-600 เมตร ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที หรืออาจมากกว่านั้น ระหว่างทางสามารถชมทิวทัศน์ท้องทะเล หมู่บ้านชาวประมง และพรรณไม้ที่ขึ้นอยู่ตามเทือกเขาหินปูน

กลุ่มเราเลือกเดินเท้าเพราะอยากถ่ายรูปและชมธรรมชาติ ใครที่ไปถึงตอนเช้าไม่ต้องห่วงนะว่าจะไม่มีอาหารให้กินแถววัดมีร้านขายของฝากและร้านอาหารให้เลือกเยอะสั่งอาหารถ่ายรูปรอได้เพราะอุทยานเปิดให้เดินขึ้น 08.30 น.

อาหารที่นี่ราคาทั่วๆไปตามสถานที่ท่องเที่ยวอาหารจานเดียว 50-60 บาท

เปลี่ยนชุดพร้อมเดินขึ้นเขาแล้วจ๊า จ่ายค่าเข้าอุทยานฯ

คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

ดีแล้วที่กลุ่มเราตัดสินใจเดินเพราะวิวสวยมากๆเลยเห็นตรงไหนสวยต้องแวะถ้าเดินจริงๆคงถึงหาดแหลมศาลาแล้วเพราะระยะทางไม่ไกล

ที่ถ่ายรูปก็มีเยอะนะแต่ทำไมชอบปีนจัง5+++++

มองวิวจากบนเขาลงไปยังท้องทะเล มองเห็นเรือแล่นดูแล้วสบายตา มีลมโชยมาอากาศเย็นสบายไม่ร้อน

มุมนี้ก็สวย มองรอบๆจะมองเห็นทั้งบ้านบางปู และหาดแหลมศาลา เป็นมุมที่กว้างมากมองทะเลก็กว้างสุดลูกหูลูกตา(คำเปรียบ55++)

จุดที่เดินนี้จะมองเห็น หาดแหลมศาลาได้ชัดมากๆ แถมมองเห็นค่างแว่นถิ่นใต้ ได้ชัดด้วยนะ

เย้ในที่สุดก็ถึงแล้ว หาดแหลมศาลา เป็นหาดที่มีทรายขาวน่านั่งพักผ่อนหย่อนใจ แนวหาดที่โค้งสวยเป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์ ยังร่มรื่นด้วยทิวสนสมบูรณ์มาก ที่หาดลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร และเส้นทางศึกษาธรรมชาติบริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน เช่าเต็นท์ได้ที่อุทยานฯ 150 บาท บ้านพักแต่ก่อนเคยให้พักแต่ ณ ปัจจุบันทางอุทยานฯยกเลิกพักให้กางเต็นท์ได้อย่างเดียวทำอาหารได้ด้วยนะ

ได้เวลาเดินไปถ้ำพระยานครแล้ว ทางเดินเข้าไปสะอาดมากทั้ง 2 ขอบทางที่เดิน แถมมีดอกหางนกยูงร่วงลงพื้นเต็มเลย

ถึงทางขึ้นถ้ำแล้วแนะนำใครที่มีโรคประจำตัวควรพิจารณาตัวเองก่อนขึ้นนะคะ

ถ้ำพระยานคร เป็นถ้ำขนาดใหญ่อยู่ในเทือกเขาเลียบทะเล ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ไปทางทิศเหนือประมาณ 17 กิโลเมตร จากชายหาดแหลมศาลาเดินขึ้นเขาไปยังถ้ำพระยานครอีก 500 เมตร ทางเดินอาจลำบากนิดหนึ่งเพราะมีแต่หินแล้วฝนพึ่งตกทางอาจลื่นนิดหนึ่งเดินระวังมีชันบางเรียบบางสลับกัน แต่ก็ไม่ยากอย่างที่คิดนะ

วันที่ไปไม่ค่อยมีแดดเลยไม่มีแสงลอดผ่านช่องมาตรง "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์"

"พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" เป็นพลับพลาแบบจตุรมุข สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 และเป็นฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าขจรจรัสวงศ์ ทรงสร้างขึ้นในกรุงเทพฯ แล้วส่งมาประกอบทีหลังโดยให้พระยาชลยุทธโยธินเป็นนายงานก่อสร้าง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมายกช่อฟ้าด้วยพระองค์เอง ที่กำแพงหินด้านขวามีพระปรมาภิไธยย่อในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 เป็นตัวหนังสือใหญ่สีขาวสะดุดตา พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์นับเป็นจุดเด่นของถ้ำพระยานคร และเป็นตราประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบัน

มีพระพุทธรูปให้กราบไหว้ขอพรด้วยนะคะ

ถ่ายรูปเดินดูความสวยงามของ "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" ได้เวลากลับเพราะวันนี้ทั้งวันอยู่แต่ที่ถ้ำแวะถ่ายรูปทุกที่55+++

ลงจากถ้ำพระยานครแล้วก็ไปล้างหน้าที่ห้องน้ำในอุทยานฯ ห้องน้ำสะอาด น้ำเย็นสบายมากๆ ได้เวลากินข้าวเที่ยงแล้วอาจเลยเวลามานิดหนึ่งแต่ยังทนได้ในอุทยานฯมีร้านอาหารให้บริการราคาก็เหมือนสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไปจานละ 50-60 บาท

อิ่มแล้วก็ไปต่อเดินกลับไปที่จอดรถไว้ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที ก็ถึงที่จอดรถ ทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ไปจ่ายตลาดในเมืองกันวันนี้เรามีเมนูเยอะเลยที่จะทำกินตอนเย็น

จ่ายตลาดเสร็จขับรถเข้าไปที่พักคืนนี้นอนที่หาดสามพระยา เสียค่ากางเต็นท์ คนละ 30 บาท วันสบายๆนอนฟังเสียงคลื่นริมหาดทราย

หาดสามพระยา อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติไปทางเหนือ ประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยงามเงียบสงบ ท่ามกลางดงสน ทะเลสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ โดยมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร ศาลาพักผ่อน และ ห้องน้ำ – สุขา สะอาดมากๆ มีไว้บริการ

ห้ามก่อกองไฟ ห้ามประกอบอาหาร แต่สามารถใช้แก๊สต้มมาม่า ต้มข้าวต้ม ลวกของสดทำยำได้

คืนนี้ปาร์ตี้ยาวเพราะอากาศดีมาก มีลมโชยตลอด ท้องฟ้ามีดาว อากาศเหมือนจะมีฝน แต่ก็ภาวนาไม่อยากให้ตก มองไปยังท้องทะเลมีแสงไฟสลับกันสวยงาม อากาศดีแบบนี้นอนกันดีกว่า แต่นอนยังไม่นานฝนก็ตกลงมาดีหน่อยเต็นท์กันน้ำเลยไม่เปียก นอนเย็นสบาย เจอกันพรุ่งนี้เช้านะคะ

เช้าวันที่สอง ตื่นสายหน่อยเพราะอากาศเย็นสบาย ฝนปรอยๆคิดว่าวันนี้คงตั้งหลักที่นี่เลยไม่ไปไหนแล้วค่อยกลับบ้านกัน สายๆเริ่มมีแสงและฝนหยุด ชงกาแฟ และเตรียมทำอาหารเช้ากันค่ะ

อาหารเช้านี้ มีข้าวต้มกุ้ง มาม่าแห้ง กุ้งย่าง อร่อยสุดๆและและอิ่มมากๆ ไปเดินเล่นให้ย่อยค่อยไปต่อวันนี้วางไว้จะไปถ้ำแก้วแต่อากาศแบบนี้ไปก็ไม่เห็นอะไร เลยจะไปขึ้นชมวิวที่เขาแดงกัน

เก็บของขึ้นรถ อาบน้ำเพื่อจะได้ไปเที่ยวต่อ อากาศก็ฟินไม่ร้อน ห้องน้ำที่อุทยานฯสะอาดมากๆแถมน้ำก็เย็นอาบแล้วสบายตัวก่อนไปขอถ่ายกับป้ายหน่อยมาถึงหาดยังไม่ได้ถ่ายเลย

หลังจากถ่ายรูปเสร็จกลุ่มเราก็เดินทางไปประทับตราอุทยานฯที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ห่างจากหาดสามพระยา 5 กม. ประทับตราเสร็จไปขึ้นจุดชมวิวเขาแดงต่อ

จุดชมวิวเขาแดง สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 157 เมตร จุดชมวิวนี้อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ไปตามถนนลาดยาง 400 เมตร แล้วเดินขึ้นเขาไปอีก 300 เมตร ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที เวลาที่เหมาะแก่การขึ้นชมวิวคือตอนเช้ามืด เพราะสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือขอบทะเลบ้านเขาแดงและทัศนียภาพรอบ ๆ ได้ดี แต่ขึ้นตอนบ่ายก็จะได้อีกมุมหนึ่งของจุดชมวิวเขาแดงสวยเหมือนกัน

ในที่สุดการเดินทางครั้งนี้ก็สำเร็จถึงแม้จะไปไม่ครบแต่สถานที่ ที่ไปก็สวยงามไม่แพ้กันเลย อาจจะมีฝนปรอยบ้างแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคในการเที่ยว แนะนำเลยถ้าใครที่ไม่มีที่ไปเที่ยวไหนช่วงหน้าฝนเดินง่ายด้วย ออกไปหาความสุขให้กับตัวเองกันนะคะ เจอกันทริปหน้าค่ะ

ค่าใช้จ่าย

1.ค่าเข้าอุทยานฯคนละ 40 บาท

2.ค่ากางเต็นท์ คนละ 30 บาท

3.ค่าอาหาร 4 มื้อ 3100 บาท / 7 คน = 443 บาท

4.ค่าน้ำมันรถ 1700 บาท / 5 คน = 340 บาท

รวมทั้งหมด 853 บาท

ขอบคุณภาพสวย

1.พี่ไผ่ #คู่เที่ยวIndy

2.P'Spize

3.P'Ploy

4.พี่หลี

5.น้องแฟง

6.น้องแสน