สวัสดีครับ วันนี้มีเรื่องจะมาเล่าสู่กันฟังครับทริปล่าสุดเรียกได้ว่าสดๆร้อนๆเลย
พึ่งกลับมาจากเขาค้อ เมื่อวันที่ ๒๙-๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ทริปนี้เกิดจากการไปงานแต่งพี่ที่ทำงาน ที่จังหวัดมุกดาหารครับ
ออกจาก อำเภอชะอีช่วงสายๆประมาณ ๑๑ โมงครับ เส้นทางที่ใช้เดินทางวันนนี้จะผ่าน จังหวัดข่อนแก่น เข้าสู้อำเภอ ชุมแพ เขาค้อ
ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๖ ชั่วโมง ไปถึงเขาค้อประมาณ ๕ โมงเย็น นัดเจอกับน้ออีกคันหนึ่งที่ ปั้ม ปตท เขาค้อ ครับ
ซึ่งที่พัก เราพัก รีสอร์ทพึ่งเปิดใหม่ Sunset Resort Khao Koh แวะนมัสการ พระธาตุผาซ่อนแก้ว กินเค้กที Pino latte ถ่ายรูปที่ Route 12
และจบด้วย ไก่ถัง วังทอง ครับ
ถนนที่มุ่งเข้าสู่เขาค้อ จาก อำเภอ ชุมแพ ทางค่อนข้างลาดชันพอสมควร แต่ไม่ลาดชันเท่ากับอ่างขาง
ครับ รถเก่งขึ้นได้สบายๆ ส่วนขากลับจาก เขาค้อเข้ากรุงเทพ ถนนดีมากครับพึ่งทำถนนเสร็จ จนเกือบถึงอำเภอ
วังทองเลยครับ ถนนใหม่ กว้าง วิ่งได้สบายแถมบรรยากาศด้านข้างก็สวย ถ้าใครขึ้นมาช่วงเช้าๆคงฟินน่าดู
จุดนัดพบของพวกเราคือปั้ม ปตท ครับ ปั้มมีขนาดใหญ่พอสมควร พักรถได้สบายๆ
หลังจากพบกันแล้ว เราก็ไปซื้อเนื้อหมู เนื้อวัว และ ผัดสดเตรียมทำบาร์บีคิว กันครับ เข้ามาถึงที่พักค่ำมากแล้ว
เลยอดถ่ายรุป รีสอร์ทและรูปห้องพักเลย
ได้รูปมานิดหน่อยครับ เนื่องจากดึกมากแล้ว รีบทำบาร์บีคิวกันดีกว่าครับ การเดินทางมาที่นี้จะผ่านไร่บีเอ็น โรงแรม
รีสอร์ทต่างๆมากมาย มีตลาดข้างทางแนะนำเลยครับ แวะซื้อ มัน เห็ดหอม เห็ดออริจินอล ลูกผลับ สตอเบอรรี่ ผลไม้
กรอบและหวานมาก ส่วนที่ประทับใจสุดๆคือ มันเผาครับ กิโลละ ๒๐ บาท ถูกมากทั้ง ถูกทั้งอร่อย
เตาบาร์บีคิว ทางรีสอร์ทเป็นคนจัดการให้ครับ มีเตาไว้ให้บริการ แต่ต้องเตรียมจาน ชาม ช้อน มาเองน่ะครับ
มื้อนี้ลงทุนน้อยมากแต่ได้ของกินมาเยอะทีเดียว เนื่อหมูกิโลละ ๑๒๐ บาท เนื่อวัวครึ่งกิโล ๑๔๐ บาท มะเขือเทศกับพริก
๒๐ บาท มัน ๔๐ บาท ฟักทองลุกละ ๒๐ บาท เห็ดหอมและเห็ดออริจินอล ๑๐๐ บาท สตอเบอรรี่กับลูกพลับ ๑๐๐ บาท ได้มา ๓ ถุง
กินกัน ๗คน อิ่มถึงเช้าเลยครับ
นั่งกินไป ปิ้งย่างกัน อากาศเย็นๆมันฟินเหลือเกินครับ คุยกันถึง ๔ ทุ่ม นึกว่า ตี ๒ เงียบมากครับ บรรยากาศเหมาะแก่การมา
พักผ่อนจริงๆ อากาสสดชื่น เย็นๆ
นอนไม่หลับครับ ปรกติจะเป็นคนนอนดึกมาก เลยออกมาถ่ายรุปตอนกลางคืน ไม่ได้เอาขาตั้กล้องมาอีกตามเคย
ในรูปเป็นห้องแอร์น่ะครับ มี ๒ ห้อง
ส่วนด้านนี้เป็น ลอบบี้ เอาไว้เชคอินและติดต่อพนักงานครับ
ห้องพัดลมมี ๓ ห้อง ครับ และเป็นเต็นท์ อีก ๓ เต็นท์ ครับ
คืนนี้ ฟ้าไม่ค่อยเปิด ไม่ค่อยมีดาวครับ ราตรีสวัสดิ์กันด้วยรุปนี้ครับ พรุ่งนี้จะตื่นมารอดูทะเลหมอก
รูปแรกของวันครับ ขอพาโรนาม่า และเป็นทะเลหมอกแรกของปี เวลาประมาณ ๖ โมงนิดๆ
ถ่ายจากเตียงนอน ครับ คือดีงามมากครับ ดูทะเลหมอกได้จากเตียงเลยครับ
อากาศช่วงเช้าค่อนข้างเย็นครับ เลยเข้ามาใส่เสื้อแขนยาว ไม่ถึงกลับหนาวมาก อากาศเย็นสบายๆ
พระอาทิตย์กำลังจะโผล่พ้น สันเขาครับ แสงสีทองทำให้รู้สึกมีความอุ่นใจ สงบ มีความสุขมากครับ
ยิ่งสาย ยิ่งสวยครับ อย่าว่าผมเลยนะครับถ้าภาพมันจะดูซ้ำๆแต่สำหรับผมแล้วดูกี่ทีก็มีความสุข
ทะหมอกจางๆอีกสักใบและมีอีกหลายใบครับ
ที่นี้เป็นที่ผมประทับใจมากครับ ถึงแม้การบริการจะสู้โรงแรมใหญ่ๆไม่ได้แต่ที่นี้ บริการด้วยน้ำใจจริงๆครับ
ทั้งเตรียมเตาบาร์บีคิว ให้น้ำแข็งกินฟรีด้วยครับ เนื่องจากลืมซื้อเข้ามา และบบรยากาศเกินราคาครับ
ทะเลหมอกจางๆกับช่วงสายๆค่อยหายไปครับ
ด้านข้างๆเป็นที่เปล่าๆครับ ใครสนใจ ไปซื้อปลูกบ้านพักตากอากาสได้เลยครับ บรรยากาศน่าอิจฉามาก
ป้ายรีสอร์ทซึ่งเป็นแลนด์มาร์คขแงที่นี้ครับ
บรรยากาศรอบๆรีสอร์ทครับ เป็นห้องพักด้านล่าง ห้องพัดลมและเต็นท์ครับ
อาหารเช้าที่ระเบียงครับ ไม่ทันได้กินก็อิ่มแล้วครับ
ฟินมั้ยละครับกับโต๊ะอาหารแบบนี้ กินไปฟินไป บรรยากาศดีเวอร์จะนั่งเป็นหมู่ขณะ
หรือจะนั่งเป็นคู่รัก ก็โรแมนติกไม่เบาครับ
แต่สุดท้ายทนแสงแดดไม่ไหวครับ เริ่มร้อนแล้วย้ายมากินกันที่หน้าห้องแทน
ทานเสร็จ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อยว่าเคยมาแล้ว
ลาที่นี้ด้วยภาพนี้ครับ ถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีกหลายๆครั้งครับ
ระหว่างทางที่ออกมาจากที่พัก ผ่านจุดชมวิว ครับ แวะสิครับ จะรออะไร
หนาวนี้ที่เขาค้อ
ถนนเลียบฟ้า
ออกจากจุดชมวิวประมาณ ๒๐ นาที ถึงจุดหมายครับ นมัสการพระธาตุผาซ่อนแก้ว ใครมาเขาค้อแล้วไม่มาถือว่ามาไม่ถึง
เพราะที่นี้ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญทั้งเขาค้อและจังหวัดเพรชบูรณ์เลยครับ
มาที่นี้สองครั้ง ชอบมากครับ รู้สึกที่นี้เป็นระเบียบและสะอาดมากครับ สงบไม่มีเสียงพุดตามสายเหมือนวัดอื่นๆ
ใช้ป้ายต่างๆสื่อสารให้คนที่เข้ามาเยี่ยมชม ให้สงบจิต สงบใจ และไม่มีล็อตเตอรรี่ขายครับ ชอบมากก
ผมไม่ได้เข้าไปในจุดนี้ครับ ได้แต่ยืนมองแค่นี้ก็มีความสุขมากแล้ว ลมเย็นทั้งกายทั้งใจ
อยู่ที่วัดประมาณชั่วโมงเศษๆครับ เตรียมตัวไป พิโน่ ลาเต้ ด้านบนต่อ
ระหว่างเดินทางกลับ เจอห่านขาว ว่ายมาใกล้เลยครับ ดูห่านยังสงบ ตามบรรยากาศวัดเลยครับ
จากวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ขึ้นมาที่พีโน่ ลาเต้ ไม่ไกลครับประมาณ ๕๐๐ เมตร ทางค่อนข้างแคบและลาดชัน
ที่นี้ดีอย่างเดียวครับคือมาถ่ายรูป บรรยากาศสวยมากครับ
บอกได้เลยครับ ว่า รสชาติไม่คุ้มค่ากับราคา ไม่มีอะไรแนะนำ ถ้าพอที่จะกินได้และคุ้มค่ากับราคา คือ
ครัวซองค์อัลมอลล์ ๘๕ บาทเค้กแบร็คแอนด์ไวท์ ชอคโกแลต และ มัชชาเค็ก บอกเลยว่าไม่ผ่านกับราคา ๑๖๕ บาท
ส่วนเครื่องดื่มกาแฟ หรืออิจาเลียนโซดารสชาตธรรมดามากครับ แต่แตกต่างคือราคา
ผมแทบไม่ได้แตะเลยครับ ทานแค่อย่างละคำ นอกนั้นสาวๆจัดการหมดครับแต่สำหรับผมคงลิ้นจระเข้ ที่นี้ไม่ผ่าน
ที่ผ่านคือบรรยากาศครับ สุดยอดมาก มองเห็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว และเทือกเขา
ออกจาก พีโน่ ลาเต้ ก็มุ่งหน้ากลับกรุงเทพครับ ระหว่างทางแวะถ่ายรูปสักหน่อย
ที่นี้ทรุดโทรมไปเยอะครับ ครั้งก่อนมาสวยกว่านี้ บรรยากาศดีกว่านี้คงเป็นเพราะเปิดมานานแล้วครับ
ที่นี้ก็ไม่มีอะไรมากครับ ใช้เวลาเดินสัก ๕ นาทีก็ทั่วแล้ว ถ้าถ่ายรูปด้วยสัก ครึ่งชั่วโมงก็หมกแล้วครับ
ออกจากรูท ๑๒ มาแวะทานข้าวที่ ไก่ถัง วังทอง ร้านนี้รสชาติอร่อยใช้ได้เลยครับ แถมราคาถูกมาก คุ้มค่ากับเงินมากๆถ้ามีโอกาส
แวะไปชิมน่ะครับ ซื้อใส่กล่อง แล้วเอาไปทานที่รีสอร์ทนี้คงฟินน่าดู ร้านอาหารถูกปากในเขาค้อไม่ค่อยมีครับ ร้านตามหนังสือ
ที่แนะนำบอกเลยว่า รสชาติธรรมดามาก แถมราคาโหดด้วยครับ
สรุป ทริปนี้
ประทับใจที่สุดคงเป็นการปิ้งบาร์บีคิวกินกันที่เดอะซันเซ็ท ครับ บรรยากาศดีมาดครับ และพี่มีน้ำใจมากจริงๆทั้งเตรียมเตาและ
ยังให้น้ำแข็งไว้กินอีกต่างหาก บรรยากาศทะเลหมอกก็สุดยอดถึงแม้ว่าวันที่ผมไปจะไม่เยอะก็ตาม แต่มันก็ทำให้ผมมีความสุข
ได้อย่างมากมาย วัดพระธาตผาซ่อนแก้ว เป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ ให้ความรู้สึกสงบ และสวยงามมากไม่เคยเปลี่ยน
พีดน่ ลาเต้ บรรยากาศดีมากจริงๆครับ มองเห็นทิวทัศน์ได้ไกลและลมพัดเย็นๆ ส่วนเรื่องขนมกับราคานี้บอกเลยว่าไม่แนะนำเลยครับ
ราคาโหดมาก รูท ๑๒ หลังจากเปิดมาหลายปีก็เสื่อมสภาพตามการเวลา บรรยากาศดีครับถ้ามาช่วงเย็นๆ ร้านไก่ถังทอง วังทอง
รสชาตออร่อยใช้ได้เลยครับ คุ้มค่ากับราคาและปริมาณ เป็นอีกที ที่ประทับใจครับ
Mr'Napat Ittiyos
วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.54 น.