แบกกล้องไปท่องโลก EP.05 ตะลอนเชียงใหม่ 3 วันเต็มๆ แม่กำปอง ม่อนแจ่ม ดอยหลวงเชียงดาว [Part II]

~ Part II ~

เดินทางกันมาถึง Part II แล้วนะครับ สำหรับท่านใดที่พลาด Part I สามารถอ่านได้จากลิงก์ด้านล่างเลยครับ

https://th.readme.me/p/27374/

เรื่องราวทั้งหมดฉบับบวีดีโอ

เวลาที่เหลือจะไปที่ไหนกันบ้าง เดี๋ยวเรามาดูไปพร้อมๆ กันเลยครับ

~ สวนพฤกษศาสตร์ ~

สมัยผมอยู่ประมาณ ม.3 เคยได้ยินว่าเขามีจัดงานพืชสวนโลก ยิ่งใหญ่อลังกาล เดินทั้งวันยังดูไม่หมด ผมก็ได้แต่ดูผ่านทางโทรทัศน์ คราวนี้ได้มาเห็นสถานที่จริง ความรู้สึกแรกคือ ร้อน !!! ถ้าจะมาแนะนำช่วงหนาวๆ เลยครับ จะได้ไม่หงุดหงิดตอนเที่ยว

โซนเดินเที่ยวที่นี่จะแบ่งเป็นสองโซนใหญ่ๆ เป็นสองโซนคือโซน Canopy walk และโซนเดินชมต้นไม้

Canopy walk เป็นสะพานลอยฟ้าสูง 20 เมตร(โครตสูงงง) ระยะทางกว่า 400 เมตร ใช้เวลาเดินแป๊บเดียวครับ

เห็นตามป้ายมี Icon เป็นรูป "กิ้งก่าบิน"

น่าเสียดาย ผมไม่ได้หยิบเลนส์ Tele มาด้วย จะกลับไปเอาก็ร้อนเหลือเกิน ถ่ายได้แค่ไหนแค่นั้นแล้วกัน

ถึงเวลาตามล่าหากิ้งก่าบินกันแล้วครับ เขาบอกว่าเป็นสัตว์หายาก แต่ที่นี่มีให้เห็นตามธรรมชาติ

พอเดินๆ ไปได้ซักพักก็ได้ยินเสียงผู้คนกรี๊ดกร๊าดกัน เหมือนเขาจะเจอตัวเจ้ากิ้งก่าบินตัวเป็นๆ ผมรีบหันกล้องไปถ่าย แต่ก็นะ... มันซูมสุดได้แค่นี้หล่ะครับ ฮ่าๆ

อกหักจากกิ้งก่าบิน เลยลงมาย้อมใจกับพืชสวนข้างล่าง มุมถ่ายรูปเยอะมาก ใครอยากได้ภาพ Portrait สวยๆ แนะนำมาที่นี่เลยครับ

A : อันนี้ปลามีมารยาท

B : ปลาอะไรว๊าา ?

A : ปลาคร๊าบบ แฮร่ !!

บริเวณๆ ด้านล่างเขาจะจัดเป็นโซนๆ อีกทีนึง พวกป่าดิบชื้น อะไรพวกนี้ แต่มีอยู่โซนนึงที่เป็นกระบองเพชร หูยยยย อันนี้สวยยย เชื่อว่าใครไม่ชอบกระบองเพชรได้เห็นแล้วจะหลงรักเลยหล่ะครับ

~ ดอยหลวงเชียงดาว ~

เอาหล่ะครับ ได้เวลาเดินทางกันต่อ เป้าหมายต่อไปคือ "ดอยหลวงเชียงดาว" บอกได้เลยว่าเป็นไฮไลท์ของทริปนี้เลยทีเดียว ผมพยายามหารูปภาพจาก Internet และทาง Social network เพื่อหาว่ามีใครเคยถ่ายทางช้างเผือกที่นี่มั้ย ซึ่งหาแทบตายยังไงก็ไม่เห็น ผมก็ต้องคำนวณออกมาเอง ปุ๊บๆ ปั๊บๆ ตามทฤษฎีเราจะสามารถเห็นทางช้างเผือกได้ในวันที่เราไปพัก ช่วงก่อนเช้า

ระหว่างนั่งรถไป เนื่องจากตื่นเช้ามาก พอพี่บูมเหยียบมิด ผมก็หลับปุ๋ยทันที ~

ตื่นมาอีกทีก็ใกล้ถึงละครับ บูมก็สะกิดให้ผมดู "นู่น ดอยหลวงฯ" สายตาผมค่อยโฟกัสไปที่ภูเขาลูกมหึมาสูงเสียดฟ้ากินพื้นที่ความยาวหลายสิบกิโลเมตร จนแทบมองข้ามภูเขาลูกอื่นที่อยู่บริเวณนั้น ภาพทมึนไกลชวนให้หลงไหลมันบอกผมว่า ถ้าสูงขนาดนี้ก็บอกลาทางเผือกได้เลย ฮ่าๆ คือมันสูงมากครับ สูงเกินไป ผมกังวลว่ามันจะบังทางช้างเผือก เพราะที่พักเราอยู่ตีนเขาเลย

ภาพแรกที่ไปถึง

โห้ๆๆๆๆ อลังกาลงานสร้างจริงๆ สูงเสียดฟ้าเลยครับ แต่ถ้ากลับมาพูดถึงว่าถ่ายทางช้างเผือกได้มั้ย ผมลองคำนวนผ่าน App ถ่ายภาพวิวแล้ว ปรากฏว่าได้ครับ !! ตอนเช้าเจอกันนนน ช่วงนี้เรามาเสพบรรยากาศกันต่อ

ใครได้มานั่งตรงนี้ รับรองฟินแน่นอน ~

บรรยากาศแบบนี้ได้อยู่กับคนที่ใช่นี่อย่างฟินเลยครับ น่าเสียดายผมไปแบบไม่มีคู่ คนอื่นเขามีคู่กันหมด ฮ่าๆ

ผมถ่ายรูปไปได้แป๊บเดียว มาอีกละ ควัน ~

พอมองไปทางขวาปุ๊บ ชัดเจนเลยครับ

เล่นเอาวิวสวยๆ หมองไปหมด

ตกค่ำวันนี้เปลี่ยนจากหมูกระทะมาเป็นหมาล่าแทน อากาศหนาวๆ แบบนี้ได้นั่งย่างกับเตาไฟอุ่นๆ มันฟินจริงๆ

ก่อนนอนพวกเรามานอนดูดาวห่มผ้า พูดคุย เฮฮา รับลมหนาว อย่างฟินเลยครับ คุยได้แป๊บเดียวเท่านั้นแหล่ะ หนาวครับ นอน ฮ่าๆ

~ Day 3 ~

รีบตื่นตั้งแต่ตี 5 มาล่าทางช้างเผือก เห็นเกือบชัดครับ ฝุ่นเยอะไปหน่อย

แสงตะวันสาดส่องยามเช้า จุดเริ่มต้นของเช้าวันใหม่

กาแฟ & ข้าวต้ม เข้ากันมากกกกก

อิ่มแล้วก็ได้เวลาเก็บข้าวของ ลำบากตรงอาบน้ำนี่แหล่ะ เพราะที่พักที่เราไปไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ทนเอาแค่ขันแรกเท่านั้นแหล่ะครับ !! พอขันที่สองเท่านั้นแหล่ะ หนาวเหมือนเดิม !!!

ผมชอบที่นี่มากนะ มันยิ่งใหญ่มาก สมคำร่ำลือ คงอีกนาน จะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง "หลวง เชียง ดาว"

วัดถ้ำผาปล่อง

วัดนี้มันไฮไลท์อยู่ที่สำนักสงฆ์ ซึ่งตั้งอยู่บนบันไดขั้นที่ 510 เล่นเอาหอบเลยครับ

มองเห็นสำนักอยู่ไกลๆ

บรรยากาศด้านในอลังกาลเลยทีเดียวครับ

หลังออกจากวัดก็รีบกลับเข้าเมือง หาข้าวหาปลากิน เข้าโรงแรมนอนทันทีเลยครับ ตื่นมาอีกทีก็ช่วงเย็นๆ เลยครับ บรรยากาศแบบนี้ไม่มีให้เห็นเหมือนตอนอยู่จังหวัดบ้านเกิด มองผ่านช่องหน้าต่าง เห็นแสงรำไร พร้อมวิวภูเขา