โหลๆปีใหม่ผ่านไป มันคือ.. วันหยุดยาวหมดลงต้องทำงานแต่ใจหรอ วางแผนเที่ยวสิครับรอไร เราทุกคนจะมีเพื่อนพวก Type สายเลือดเที่ยวประเภทว่า ถ้าช่วงนั้นมันไม่ได้จน(เงินหมด)ชนิดแดรกมาม่า โทรไปกริ๊งเดียวแล้วมันว่าง คือได้"เที่ยว"แน่นอนไรงี้ เพื่อน Type นี้แหละรักมันไว้มากๆ 555+ ...

ติดตามการเดินทางของหมี : https://www.facebook.com/bearalone/

"เห้ยย 9-10 มกรานี้ เราไปเที่ยววันเด็กกันเถ๊อะ"


รีวิวนี้จะเป็นรีวิวสั้นๆได้ใจความ ถ้ามีคำถามว่า อ่านแล้วได้อะไร ---> "รู้จักเขาแหลมหญ้าไงละสาดด" เผลอๆ มันจะน่าสนใจกว่าเสม็ดซะอีก


เอาเว้ยๆ เราจะไปกันแบบชิวๆ แบบที่ชาวบ้านเค้าไปกันนั่นละรถตู้จร้า แต่ก่อนจะพูดถึงสิ่งอื่นใด ผมจะแบ่งหมวดหมู่แบบง่ายๆไว้ 2 หัวข้อนะครับดังนี้

Episode 1 :: เขาแหลมหญ้า ให้เยอะกว่าที่คิดจริงๆนะ
Episode 2 :: ค่าใช้จ่ายและเทคนิคการเดินทาง

มาๆเรามาเริ่มต้นกันเลย เดี๋ยวทำงานอีก = =

** ทริปเข่าเสื่อมจร้า 5555+




Episode 1 :: เขาแหลมหญ้า ให้เยอะกว่าที่คิดจริงๆนะ


วันเสาร์ที่ 9 มกราคม 2559 05:40น :


ตื๊ดๆ (เสียงนาฬิกาปลุก) "ห่าาา นัดเช้าเลยยย" การเดินทางไประยองฮิ ใช้เวลาประมาณ3ชั่วโมง ถ้าเราอยากไปถึงแบบชิคๆและกินเที่ยงที่โน้นก็ต้องง 12นาฬิกา - 3 ชั่วโมง = 9โมง แต่นี่นัดกัน 6.30 น. จะไปเหมาของสดที่ตลาดรึไง 555+

เราขึ้นรถตู้ที่อนุเสาวรีย์นะครับ นัดกันจริงๆหนะ 6.30น. แต่ทุกคนไปสาย โดยเฉพาะผม ไปถึงก็... 7.15ได้มั้ง(ถ้าจำไม่ผิด) 555+ จัดแจงซื้อตั๋วซ๊าคนละ200บาท เราจะไป "อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า" บอกเค้าไป เราจะได้ป้ายรถบ้านเพมา - - แบบใบแดงๆดังภาพ รอไม่นานรถก็ออก Manage ที่นั่งกันดีๆ ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องพกยาดม หรือยานวดตูดไปแก้ปวดเมื่อยนะครับ ฮ่าๆ

ประมาณ 10.40น. นั่งๆหลับๆตื่นไปตามเสตปก็ถึง ความรู้สึกเร็วกว่าไปพัทยาอีกครับ เพราะระยองเหมือนรถจะวิ่งตรงอีกเส้นยาวๆเลยเวลาก็อย่างที่บอกเลยครับ ประมาณ 3 ชั่วโมง มาถึงก็ยืนถ่ายป้ายอุทยานกันประมาณ 15 นาที (ไม่ได้โม้กว่าจะถ่ายกันได้)


** ภาพช่วงนี้แสงไม่สวยเลย เนื่องจากฝนตก พวกผมนี่ภาวนาให้ฟ้าเปิดซะที ไม่งั้นเสียดายแย่

หลังจากนั้นจ่ายค่าเข้า สำหรับวัยรุ่นอย่างพวกผมก็ 40 บาทครับ หลังจากนั้นเราจะต้องเดินเข้าไปตามถนนนะครับ ระยะทางก็ ประมาณ 250-300เมตรก็จะถึงจุดทำการอุทยาน เดินไปชมวิวไป ชีวิตดี!!


สิ่งแรกคือเราต้องเข้าไปติดต่อที่ทำการอุทยานนะครับเรื่องการเข้าพักผ่อน รายละเอียดคร่าวๆก็ดังนี้


- ถ้านำเต้นท์มาเอง จ่ายค่ากางเต้น 30 บาท (ไม่ชัว) 555+

- เช่าเต้นท์อุทยาน เต้นนึง150บาท (สองคน) + ค่าเครื่องนอน2ชุด (140) รวมเป็น 290บาท

พวกผมมาแบบชิคๆ นั่งรถตู้ มีหรอจะแบกเต้นท์มาให้เหนื่อย เช่าสิเช่าคำตอบสุดท้าย

หลักฐานก็แค่ยื่นแจ้งว่าจองไว้ชื่ออะไรแล้วเอาบัตรแลกบัตรประจำเต้นท์มาก็เรียบร้อยครับ


แล้วก็ตามเสตปมาเสียเวลาถ่ายรูปป้ายอีก 15นาที 555+ แล้วก็เดินๆๆ

เวลาประมาณ11.30น. พวกเราก็ถึงจุดกางเต้นท์ ที่นี่มี2จุดนะครับ


1. ต้นมะขาม จะติดชายหาดหากต้องการปิ้งย่างปาร์ตี้แนะนำที่นี่ เพราะจะไกลถนนอยู่ติดหาดเลยครับเงียบสงบ

2. ท่าเรือ จะติดจุดLandmarkสวย ท่าเรือ ห้องน้ำ และร้านค้า คนจะเยอะกว่าต้นมะขาม แต่จุดสวยๆเยอะเชียว

ของพวกผมอยู่จุดที่2ครับ จุดสุดฮิต(ตามกระแส) และนี่คือ 2 เต้นท์ที่ทำเลดีที่สุดในอุทยานก็ว่าได้ โชคดีอะไรแบบนี้

ในเต้นท์จะเป็นแบบนี้นะครับ (มีถุงนอน ที่รองพื้นนอนด้วย)


เอาภาพบริเวณเต้นท์มาฝาก


ฟ้ายังปิดสลัด ภาวนาขอให้เปิดเถอะ จะเก็บภาพสวยๆ อันนี้ภาพถ่ายจากบริเวณหน้าเต้นท์ของผมครับ โล่งๆเห็นทะเลสุดๆ


หลังจากนั้นก็เก็บของให้เรียบร้อยเตรียมตัว และเดินเซอเวย์รอบๆกันครับ


พอหอมปากหอมคอนะครับ บริเวณที่กางเต้นท์ท่าเรือ จะมีทั้งห้องน้ำและร้านอาหาร แต่ราคาค่อนข้างจะสูงหน่อย พวกผมตัดสินใจเติมพลังกันก่อนครับเนื่องจากเป็นเวลาเที่ยงพอดี แอบเอาภาพอาหารมาให้ยลโฉม (ส้มตำเผ็ดมาก)


นี่เป็นภาพที่มองออกมาจากร้านค้านะครับมองไปไกลๆเห็น2เต้นท์นั่นละของพวกผมเอง(ภาพแรก)


*ข้อเสียของที่นี่เท่าที่ผมเจอเพราะไปตอนวันเด็กคือ ให้นำรถเข้ามาจอดถึงด้านในบริเวณเต้นท์เลยครับ


*** แต่พี่ผมที่ไปช่วงปีใหม่บอกไม่มีครับ สงสัยวันเด็กเลยอนุญาติเป็นกรณีพิเศษ (รึเปล่า)

หลังจากอิ่มแล้วพวกผมใช้เวลานั่งหย่อนตูดที่ร้านข้าวนานเลยครับ เพราะกิจกรรมหลังจากนี้หลักๆคือการเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ พวกเราเลยวางแปลนว่าจะเดินซักเย็นๆหน่อยครับ พอเดินเสร็จจะได้ไปอยู่บริเวณพระอาทิตย์ตกดินที่แหลมหญ้าพอดีครับ ซักประมาณ 13.30น. เราก็เดินออกจากร้านข้าวไปบริเวณเต้นแล้วอ้อร้อกันพักนึง เลยได้ภาพพวกนี้มา

เก็บของพร้อมสำหรับช่วงบ่าย ทั้ง Power Blank กล้องต่างๆที่จะใช้ น้ำดื่ม ก็ย้ำเท้ากันต่อเลยบ่ายนี้ยาวๆไป อิอิ ไปจุด Landmark ที่ใกล้ที่สุดก่อนเลยครับ บริเวณท่าเรือ (ที่เมื่อกี้ไปมาแล้วแปปนึง)


ก่อนเก็บภาพสวยก็เฮฮากันปายย!! (มีแต่ภาพเพื่อน)


เข้าสู่โหมดภาพสวยย!!


เดินมาสุดปลายทางก็เก็บภาพสวยฟรุ้งฟริ้งกันหน่อยครับ ได้ภาพมาประมาณนี้ั


ยาวๆไป๊ เนื้อหาน้อยเน้นภาพสวย นี่แค่จุดเดียวนะเนี่ย - -" บ้ากล้องยกชุด 555+


15.15น.<<<โดยประมาณนะผมก็ลืมๆ อิ่มหนำสำราญแล้วก็ถึงเวลาต้องเดินทางไกลเส้นทางศึกษาธรรมชาติ "อุทยานเขาแหลมหญ้า"ระยะทาง 10กิโลเมตร แอร๊ยไม่ใช่ 1กม(โดยประมาณ)


** ทางเดินลักษณะเป็นวงกลม ผมแนะนำให้เดินย้อนกลับมาตรงถนนทางเข้าไปที่พักแล้วเริ่มต้นจากจุดนั้น และจะมีจุดเป็นฐานๆให้เราอ่านเป็นความรู้ได้ โดยปลายทางมันจะไปอยู่ที่เขาแหลมหญ้าในช่วงเย็น ซึ่งพระอาทิตย์กำลังสวยพอดีครับ แต่ช่วงแรกเป็นทางขึ้นเขา (ทนลำบากนิดนึง)

ช่วงแรกจะเป็นทางเดินขึ้นเขานะครับ ชันนิดนึงแต่ร่ม(ไม่รู้เย็นมั้ยนะลมไม่ค่อยมี555) บรรยากาศก็แนวๆนี้ แต่ยิ่งเดินยิ่งสวย

เดินไปเรื่อยๆแล้วเราจะพบกับบบ...


จับใจมั้ยละเมิงง!! ฮ่าๆ สวยนะ(ถ้าได้มองด้วยตาตัวเอง) ทองอร่ามเชียวละครับ



อะเอาภาพแบบเวิ่นเว้อฟุ้งฟิ้ง แบบในนิยายสวยๆที่เค้าชอบถ่ายมาให้ชมบ้าง ดูๆตามเค้ามาแล้วก็ลองถ่ายดู 555+

เก็บภาพบริเวณนี้เสร็จก็หาทางเดินลงไปหน่อยครับ จะถึงจุดที่คนชอบถ่ายรูปกันเยอะๆ

ติดตามการเดินทางของหมี : https://www.facebook.com/bearalone/

มาๆๆต่อเม้นสอง
บริเวณนี้จะเป็นจุดที่อยู่สูงกว่าจุดที่มีป้ายเขาแหลมหญ้า บริเวณนี้คนจะน้อย มุมถ่ายรูปก็น้อยไปด้วย แต่พวกผมมันบ้ากล้องในสายเลือด Creative ท่ากันได้ชิคๆมาก ไปดูกันครับ เผื่อเป็นไอเดียเกร๋ๆ เพราะท้องฟ้ากับพระอาทิตย์งามมากจริงๆ

บ้ากล้องกันเสร็จก็ลงไปจุด Landmark ที่คนชอบยืนกัน


แถมภาพสุดฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิงกันภาพนึง แอร๊ยๆๆๆ


มีก้อนหินถูกเรียงหลายก้อนนะครับ **อย่างไรก็ตามมันทำลายธรรมชาตินะครับ อย่าไปเรียงเลยนะ


บริเวณนี้จะเป็นจุดที่พระอาทิตย์ตกดินครับ คนจะเยอะในช่วง 17.30-18.30น. แต่พวกผมมาถึงช่วง4-5โมงเราเลยตัดสินใจเดินทางกลับที่พัก ไปซดน้ำอัดลมเย็นๆกันก่อน แล้วพอตกเย็นก็จะเดินกลับมาใหม่ครับ


ทางเดินกลับจะเป็นแนวติดขอบทะเลไปนะครับ ทางเดินต้องระวังนิดนึง เพราะบางช่วยจะมีสะพานและบางช่วงเป็นหินแข็ง


มองกลับไปทางที่ตั้งแคมป์จะเป็นแบบนี้


พวกผมกลับมาชาร์จพลังงาน ซดน้ำอัดลมรัวๆ(ปกติไม่ค่อยกินนะ) พร้อมกับสั่งข้าวกล่องไว้กินตอนค่ำคืนนี้ เนื่องจากปกติร้านข้าวจะปิดหกโมงนะครับ (แต่วันเด็กปิดสองทุ่มกรณีพิเศษ) แล้วรอเวลาพระอาทิตย์ใกล้ตกดินเราก็ออกเดินเท้าไปเขาแหลมหญ้าอีกรอบ = = เดินตลอดเวลาอะเดินกลับไปที่เดิม (มุมเดิมแต่แสงเปลี่ยน บรรยากาศภาพก็เปลี่ยน)


------ Take a picture of the sunset -----


สิ่งแรกที่ทำคือหามุมถ่ายภาพตอนพระอาทิตย์ตกสวยๆ


พระอาทิตย์ตัดเส้นขอบฟ้าบนทะเลสวยงามจริงๆ ^^


พอแสงเริ่มน้อยภาพก็จะเปลี่ยนอารมณ์ มันมีเสน่ห์ตรงนี้


ซักประมาณ 6.40น. ก็ได้เวลาเดินทางกลับครับ ถือว่าเต็มอิ่มจริงๆสำหรับพระอาทิตย์ตกที่นี่ แต่ผมเสียดายคือมีเมฆที่ปลายขอบฟ้า เลยอดดูพระอาทิตย์ตัดแสงกับทะเล = =


เดินทางกลับเต้นท์ด้วยเส้นทางเดิมครับ จัดแจงเตรียมขนมนมเนยไว้ให้พร้อมและมากินข้าวกัน พวกเรากินข้าวกันหน้าเต้นท์เลย มีหลายกลุ่มคนที่มาทำปาร์ตี้เล็กๆกันวันเด็กมาเป็นครอบครัว (เห็นแล้วอิจฉา เพราะผมเป็นคนตจว) อะมากินข้าวกันเถ๊อะ


บรรยากาศดีนะ ลมเย็นพัดตลอดเวลาเงยหน้าจากการป้อนข้าวเข้าปากก็เป็นทะเล อยากเก็บภาพมาให้ดูแต่ มันมืด - -"


อิ่มแล้วอย่าลืมเก็บขยะทิ้งด้วยละ แล้วหยิบขนมเดินดุ่มๆไปสะพานกันครับ (ตอนแรกก็นั่งหน้าเต้นท์ มองไปแล้วมันชิคเหลือเกิน) นั่งเมาล์กันนานมากนะครับ ยันเกือบ 5ทุ่มมั้ง(ถ้าจำไม่ผิด) เอาภาพมาฝากว่ามันชิคยังไง


เจอมุก "งู" ดูกันใหญ่ มันมีที่ไหนเล่าาา!!


พอค่ำเราก็ต้องกลับเข้าเข้าเต้นท์ ทุกๆคนที่มาที่นี่ผมโอเครนะ คือไม่ว่าไหนจะตั้งเตาปิ้งของกินกันแต่ไม่มีคำว่าเสียงดังและวุ่นวาย 4ทุ่มครึ่งก็เก็บของนอนกันหมดแล้วครับ ไม่มีการรบกวนกันเลย บริเวณสะพานไม้ที่ผมไปนอนไปนั่งเล่นตอนกลางคืนก็มีคนแต่ไม่เยอะเลย ห่างๆกันด้วยส่วนตัวมากครับ (แต่แนะนำมาไวนิดนึง ถ้ามาช้าคนก็อาจจะมานั่งเล่นเต็มกันก่อน)



ถึงเต้นท์ก็อาบน้ำให้เรียบร้อยตัวหอมฉุยพร้อมสำหรับการนอน บริเวณนี้มียุงนะครับ เต้นท์รูดซิบปิดให้ดีครับ นี่เป็นภาพห้องน้ำกับบรรยากาศรอบๆเต้นท์ยามคำคืนนะครับ (อาจจะไม่ชัดนะ ถ่ายแบบง่ายๆครับ เก็บภาพมาให้เห็นกัน)
*เท่าที่ถามๆ ถ้าเป็นช่วงวันปกติไม่มีรถเข้ามาจอดนะครับ อันนี้วันเด็ก (ปีใหม่ก็ไม่มีเท่าที่ถามคนที่เคยมาพัก)

อาบน้ำเครียของเสร็จก็เข้านอน กว่าจะหลับก็นะ ลมดีมากบอกเลย เต้นท์นี่โยกไปโยกมาตลอดคืนนึกว่าฝนตก 555+

------Good Night "เขาแหลมหญ้า"




---Other Trip Review----

"หมีผู้กล้ากับสาวฮิปสเตอร์ :: 5คืน4วัน "อาบแดดปนทะเลหมอกที่ จาโบ่ ปางอุง ชูตองเป้ ปาย เชียงใหม่ บลาๆ" ด้วยงบ3,500บาท"

http://pantip.com/topic/34563586

-----10-01-2556 05.45------


ตั้งนาฬิกาปลุก 05.50 แหม่ เพื่อนตื่นก่อน เมิงจะตื่นไวไปไหนน เต้นท์ก็สั่นไหวเหลือเกิน นึกว่าฝนตกหนักตลอดคืน - -"
ฮ๊าววว!! อรุณสวัสดิ์เขาแหลมหญ้าาาายามเช้า

เอ้า!! ลุกสิสาดเก็บภาพสวย มองไปเมฆริมขอบฟ้าเยอะจัง แอบเสียจัย!! (ภาพตอนมืดอาจจะไม่ชัดนะ)


เวลายิ่งสาย แดดยิ่งมา Create ท่ากันใหญ่เลย 555+ ไปดูๆ


ถ่ายรูปกันใหญ่


และแล้ววแสงก็มาเป็นวงกลมสวยครับ สวัสดีตอนเช้าครับ โย้วว


ขยะเยอะเหลือเกินในยามเช้า เจ๊ของเราเป็นคนดีไปเก็บขยะไม่หวังสิ่งใดตอบแทน (เราก็ถ่ายภาพไว้นิดนึง) 5555+


เช้านี้เราวางแผนจะไปเล่นน้ำกันครับ บริเวณหาดฝั่งเต้นท์ ต้นมะขาม รอเวลาจัดเตรียมเสื้อผ้า หลังจากดูดดื่มกับแสงแดดยามเช้าจนพอใจแล้วก็ออกเดินเท้า ผ่านร้านอาหาร เลยแวะจิบน้ำร้อนๆยามเช้ากันซะหน่อย แต่เดวก่อน(กรูกินโอวัลตินเย็น) 5555+


ที่นี่มีลิงอยู่ทั่วไปนะครับ ถือของก็ระวังกันด้วย โดนฉกละตามกันขาลากแน่ๆ 555+


----- ถึงแล้วครับ ลั่ลล๊า On the Beach กัน-----


เสร็จก็นั่งหายใจแปป เหนื่อยสัดเลยฮะ 555+


หลังจากอิ่มน้ำ ปล่อยตดในน้ำกันจอพอใจก็ได้เวลาเดินทางกลับซะที(พูดเหมือนไกลจริงๆใกล้มาก) -- ลิง!!! จะตื่นเต้นทำไมสาด


อาบน้งอาบน้ามถ่ายรูปเล่นไปมาอยู่รอบๆเต้นท์ เหมือนเด็กอยู่ไม่นิง


หลังจากนั้นพวกเราตัดสินใจออกไปซ่อมภาพที่ถ่ายที่จุด Landmark เกร๋ๆ (สะพานไม้)กันอีกรอบครับ มาดูกัน มันจะซ่อมหรือจะรุ่งริ้งง


งานทำลายสุขภาพเข่าก็มา เอ้าไปดูยาวๆ - - 555+


ไอนี่เทพสุด กว่าจะได้บอกเลยคนกดกล้องปวดเอวไป 1เดือน ><


การลอยตัวเกิดจากการฝึกฝนครับ


เศร้าจังถ่ายกันเป็นโคตรจะมหาหลายรูป ก็ถึงเวลาเดินทางกลับ แต่ความสนุก มันเกิดขึ้นได้เสมอ แค่เมิงคิดวางแผนที่จะเที่ยว


**จริงๆการเที่ยวไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะเสมอไปหรอกนะ มันอยู่ที่เราจะ Manage มันยังไงมากกว่า

สายดิบเถื่อนอย่างเราก็แบกเป้ขึ้นหลังแบบหนัก (มันมีเสื้อผ้าเล่นน้ำแบบเปียกๆอยู่ในเป้) แล้วเดินตามถนนเส้นเดิมออกมา คือคนอื่นเข้านั่งรถกันไง - -"


ถึงเวลาแล้ววว 11.50น. คืนป้ายเต้นแลกเอาบัตรคืนแล้วเดินออกมาด้านหน้าอุทยานเพื่อ ..... พวกผมกินก่อน - -" หิวมากครับ


แล้วเรียกรถตู้คู่ใจให้มารับบริเวณหน้าอุทยานแล้วก็ - -" นั่งตาพริ้มมม ยาวๆถึงกทมกันครับ


------ End of Episode 1------


---- เศร้าคือกรูต้องกลับไปทำงานวันจันทร์อีกแล้วว ห่อออ!!!





Episode 0 :: ค่าใช้จ่ายและเทคนิคการเดินทาง



*** ค่าใช้จ่ายนะครับ ***

วันที่ 9

1. รถตู้เดินทาง กรุงเทพ-อท.เขาแหลมหญ้า 200*4 = 800 บาท

2. ค่าเข้าอุทยาน 40*4 = 160 บาท

3. ค่าที่พัก นอนเต้นท์-อุปกรณ์ครบชุด 145*4 = 580 บาท

4. ค่าอาหารมื้อกลางวัน 118.75*4 = 475 บาท

5. ค่าอาหารมื้อค่ำ 105*4 = 420 บาท

วันที่ 10

1. ค่ากาแฟ-ขนม 28.75*4 = 115 บาท

2. ค่าอาหารกลางวัน 57.5*4 = 230 บาท

3. ค่ารถตู้จากอุทยาน-กรุงเทพ 200*4 = 800 บาท

สรุปค่าใช้จ่ายต่อคนในทริป = 895 บาท


*** การเดินทางไป - กลับ ***

ขาไป -- เดินทางด้วยรถตู้ที่อนุเสาวรีย์นะครับ ราคาตั๋ว 200 บาท แจ้งเค้าได้เลยครับว่าจะไป "อุทยานเขาแหลมหญ้า" รถตู้จะส่งหน้าอุทยาน

ขากลับ -- 1. ออกมาหน้าอุทยาน ขึ้นรถสองแถวคันสีน้ำเงินไปลงคิวรถตู้ในตัวเมืองระยอง

2. โทรเรียกรถตู้ตามเบอร์นี้จร้า

- 2.1 ถ้าอยากมีที่นั่งให้รถแวะรับก่อนวิ่งเข้าบ้านเพครับ (คือรถส่งคนที่ระยองแล้วจะวิ่งรถมาเริ่มคิวใหม่ที่บ้านเพ ให้นั่งตอนนั้นเลย)


- 2.2 ถ้าเน้นความเร็วไม่เสียเวลานั่งตรงไหนก็ได้ ก็ให้รถที่ออกจากบ้านเพแวะมารับครับ

เส้นทางวิ่งรถ บ้านเพ ---> หน้าอุทยาน --> ระยอง ---> กทม


การเที่ยวอยู่ที่ใจล้วนๆครับ ค่าใช้จ่ายถ้า Manageดีๆ ก็ไปได้ ทริปนี้พวกผมใช้เงิน 895บาท(กินเปรมมากครับ) อยู่กทมเสาร์อาทิตย์ 895บาท ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะพอมั้ย แต่เอามาแลกประสบการณ์แบบนี้คุ้มค่ายิ่งนัก ว่างๆแนะนำเลยครับ แล้วคุณจะไม่ลืม

"อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า"

-----End Of Episode 0 ----


---Other Trip Review----

"หมีผู้กล้ากับสาวฮิปสเตอร์ :: 5คืน4วัน "อาบแดดปนทะเลหมอกที่ จาโบ่ ปางอุง ชูตองเป้ ปาย เชียงใหม่ บลาๆ" ด้วยงบ3,500บาท"

http://pantip.com/topic/34563586

by. หมีผู้กล้า อิอิ (ฝากเพจ)

ติดตามการเดินทางของหมีด้วยนะงับ : https://www.facebook.com/bearalone/

A Bear & Alone

 วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 10.41 น.

ความคิดเห็น