สวัสดีครับ ผมไม่ได้เขียนมานานมาก ช่วงหลังเที่ยวเยอะจนไม่รู้จะเขียนอันไหนและเอาเวลาไหนมาเขียน แต่ทริปนี้คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับหลายๆคนที่มีไฟอยู่ในตัวเบาๆว่า "อยากไปแบบนี้บ้าง" แต่ไม่กล้า จริงๆเที่ยวมันก็แค่อยู่ที่ว่า "กล้าที่จะทำ หรือไม่ทำ" แค่นั้น
ติดตามการเดินทางของหมี :
https://www.facebook.com/bearalone/
กระทู้นี้ผมจะไม่เน้นบรรยายโวหารมากมายนะครับ เน้นจุดที่ผมไป และข้อมูลที่สำคัญให้คนที่สนใจเสพข้อมูลได้ตรงจุดและชัดเจนครับ ออกตัวก่อนนะว่า ภาษาอังกฤษผมโบ๋เบ๋มากๆเลย และเที่ยวแนวเก็บภาพไปจุดสำคัญที่จะได้ภาพสวยๆกลับมา ไม่ได้ไปเดินเก็บจับฉ่ายครับ ฮ่าๆ
*** เวลาในกระทู้จะเป็นเวลาของ Malaysia & Singapore นะครับ เร็วกว่าเรา 1 ชั่วโมง ***
-----Episode of Topic -----
- สกิลติดตัวของการเดินทางคนเดียว
- Step การเดินทาง จากหัวลำโพงไปขึ้นเครื่องบินที่ Changi Airport @ Singapore...
- การเตรียมตัวจองตั๋วและที่พัก
- Introduction for 2 Country Malaysia & Singapore
๐ สิ่งที่ควรรู้ การเดินทาง
๐ คู่มือท่องเที่ยวที่ควรมีใน Malaysia & Singapore
๐ เม็ดเงินที่ควรพก และนามสกุลเงิน
- Main Episode การเดินทาง...
- รวมเด็ดเกร็ดย่านน้ำ และสิ่งที่อยากจะบอกเล่าเก้าสิบ ...
- สรุปค่าใช้จ่าย
๐๐๐๐ 0. สกิลติดตัวของการเดินทางคนเดียว ๐๐๐๐
0. ใช้ Google Mapให้เป็นครับ ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ รีวิวนี้ผมก็อ้างอิงจาก Google map เป็นหลักเช่นกัน
1. คุณไม่จำเป็นต้องเก่งภาษาอังกฤษ แค่สื่อสารได้ ทักทายพูดคุยเรื่องทั่วไป คุณก็เที่ยวได้สบาย แต่ถ้ามีปัญหา ก็ควรพูดได้บ้าง
2. แต่ถ้าคุณคล่องภาษาอังกฤษ คุณจะได้เพื่อนโคตรเยอะ เพราะชาวต่างชาติที่ชอบเที่ยวส่วนใหญ่อยากได้เพื่อนใหม่
3. เราเอ่ยคำว่า "ขอโทษนะ สำหรับทักษะภาษาอังกฤษที่ไม่ดีของฉัน" บ่อยมาก แต่ทุกครั้งกลับได้รอยยิ้มและเสียงขำเบาๆกลับมา พร้อมบอกอย่างเฮฮาว่า "เห้ย ไม่เป็นไรสบายมาก"
4. บางวันเวลาเจอเรื่องแย่ๆ แม่มก็แย่รัวๆเลย แย่ที่1 แย่ที่2 แย่ที่3 แล้วก็แย่ที่4 แต่จงมุ่งมั่นทำสิ่งที่วางแผนไว้ให้สำเร็จ เช่น ยังไงก็ต้องเที่ยวที่นี่ให้ได้หรือต้องทำในสิ่งที่วางแผนไว้ให้ได้
5. ส่วนตัวคิดว่า พกกระเป๋าเป้ดีสุด เราพก 2 ใบ ใบเล็กสะพายหน้าใส่ของสำคัญ เช่นเงิน พาสปอร์ต อีกใบเป็นใบใหญ่ ใส่แต่สิ่งที่หายก็ไม่เดือดร้อนเท่า ไหร่ เช่นเสื้อผ้า เวลาเที่ยวก็ตั้งใบใหญ่ไว้ที่พัก แล้วหยิบใบเล็กไป
** แต่ถ้าอายุเยอะ พกเป้ใบนึงกับกระเป๋าลากก็ได้ครับ
6. ถ่ายรูปพาสปอร์ตไว้ แล้วแบ่งเงินเล็กๆเก็บใส่กระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ไว้เผื่อฉุกเฉิน
7. สำหรับเรา มือถือสำคัญกว่าพาสปอร์ตอีก เพราะว่าอะไร อ่านข้อ 8
8. วางแผนการเดินให้ดีๆ ต้องคิดละเอียดถึงขนาดว่า จุดไหนจะไม่มีอินเตอร์เน็ต คุณต้องสามารถเดินทางได้ อาจจะแก้ปัญหาโดยการโหลด Google Map offline หรือ Save as แผนเป็น PDF ไว้ในมือถือ
9. สำหรับภาษาในการสื่อสาร เราว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ คำศัพท์นะ เรียงไม่ต้องถูกแต่มีคำศัพท์สำคัญๆครบ เค้าก็เข้าใจ 555+
10. แนะนำให้ไม่โหลดกระเป๋า เพราะมันย่อมดีที่สุด ถ้าไม่แยกจากเราไปไหน (เรื่องเล่าเยอะแยะจากอินเตอร์เน็ต)
11. ไปต่างประเทศคนเดียว แนะนำให้ทำประกันตอนจองตั๋วเครื่องด้วย !! 12. ถ้าไม่เก่งอิ้งเอามากๆ แนะนำให้หาเพื่อนไปด้วย ไม่ใช่ว่ากลัวสื่อสารลำบากนะ แต่กลัวจะเหงามากกว่า
๐๐๐๐ 1. Step การเดินทาง จากหัวลำโพงไปขึ้นเครื่องบินที่ Changi Airport @ Singapore ๐๐๐๐
แผนการที่ผมวางเอาไว้คือจะเป็นดังนี้นะครับ
Day 1 :: หัวลำโพง นอนบนรถไฟ
- เดินทางด้วยขบวนรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศ กรุงเทพ - Butterworth
Day 2 :: เที่ยวปีนัง นอนปีนัง (Old Penang Guest House)
- เปลี่ยนถ่ายเป็นรถไฟของมาเลเซียที่ปาดังเบซาพร้อมกับทำเรื่องผ่าน ตม ในช่วงเช้า
- ถึง Butterworth เวลาประมาณ เกือบเที่ยงวัน
- จากสถานีรถไฟ ถ้ามากันเยอะนั่งTaxiได้ (ได้นั่งรถข้าม Penang Bridge) ถ้าคนน้อยนั่งเรือ Ferry ประหยัด
- ถึงที่พักประมาณ บ่าย 2 โมง
Day 3 :: Cameron Highland (Father Guest House)
- ขึ้นรถทัวร์ที่ตึก Komtar ประมาณบ่ายโมงเพื่อไป Cameron HL..
- ถึง Cameron HL ประมาณห้าถึงหกโมงเย็น
Day 4 :: Cameron Highland (Father Guest House)
- ออกทัวร์ Cameron HL อยากไปไหนเชิญไปตามใจเรียกร้อง
Day 5 :: Kuala Lumpur (ฺBackhome Hostel KL)
- ขึ้นรถทัวร์ที่ Bus Terminal ของ Cameron ประมาณ 9.30 น.
- ถึง Terminal Bersepadu Selatan ทางตอนใต้ของ KL ประมาณบ่ายๆ
- แวะไปอ้อร้อ Putrajaya
Day 6 :: Malacca (Oriental Riverside Residence Guest House)
- ขึ้นรถทัวร์ที่ Terminal Bersepadu Selatan เพื่อไป Malacca ตอนเที่ยงตรง
- ถึง Malacca Central ประมาณบ่ายสองโมง ต่อรถเข้าเมืองถึงที่พักประมาณบ่ายสาม
Day 7 :: Singapore (Beary Best Guest House)
- กลับมาขึ้นรถไป Singapore ที่ Malacca Central ประมาณสิบโมงเช้า
- ผ่านด่านในตำนาน Woodland ตม เข้าสิงคโปร์ประมาณบ่ายโมง
- โดนรถทัวร์ทิ้งเพราะติด ห้องเย็น หาทางเข้าเมืองถึงที่พักเกือบ 5 โมง
Day 8 :: Singapore (Beary Best Guest House)
- อ้อร้อตามอัธยาศัย
Day 9 :: Singapore (Come Back to Thailand)...
- อ้อร้อตามอัธยาศัยรอกลับบ้าน
๐๐๐๐ 2. การเตรียมตัวและการจองที่พัก ๐๐๐๐
1. ตั๋วรถไฟ กรุงเทพ - Butterworth จองล่วงหน้าก่อนเดินทาง ราคาอยู่ที่ 1200 โดยประมาณ
2. ตั๋วเครื่องบิน Changi Airport --> Bangkok ผมได้ราคาที่ 1000บาทนิดๆ
3. ที่พัก - ถ้านอน Hostel แนะนำให้จองแบบ ห้องเดี่ยวไว้ด้วยซักวันที่3กับ6ของทริป เพื่อจัดการเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัว แต่ถ้าManageไปดีก็ไม่จำเป็น
- ถ้าเดินทางคนเดียวแนะนำให้จองไปก่อนก็ดีครับเพราะในเหตุการณ์จริง ผมมองว่าเหนื่อยพอสมควรเลย การไปแบกเป้เดินหาเองในบางวันจะกลาย เป็นลำบากแทนเพราะกว่าจะถึงก็ค่ำแล้วและส่วนใหญ่ฝนตกด้วย แต่ถ้าจะไปเดินหาเองก็ได้ครับ เพราะถ้าเดินทางคนเดียวหาไม่ยาก
Penang :: Old Penang Guest House จองผ่าน My Booking ครับ ราคาก็ตามภาพเลย ขั้นตอนการจองผมขอไม่อธิบายนะครับ
ระดับความพึงพอใจ Grade Hostel :: 7/10 "เฉยๆ"
Cameron Highland :: Father Guest House จองเป็นโรงแรมเคยเห็นของ Expediaมีครับ แต่ถ้าเป็น Dorm Walk-in เลยครับ
Ref.
http://fathers.cameronhighlands.com/ Dorm ต่อหัวจะอยู่ที่ 25RM ต่อคืนครับ
ระดับความพึงพอใจ Grade Hostel :: 8/10 "แนะนำ"
KL :: Backhome KL Hostel จองผ่าน Agoda ครับ
ทำเลดี ห้องสะอาด อาหารเช้าอร่อย สาวๆเยอะครับ 555+
ระดับความพึงพอใจ Grade Hostel :: 8.5/10 "แนะนำ"
Malacca :: โอเรียนท์ ริเวอร์ไซด์ เรสซิเดนซ์ เกสท์เฮาส์ จองผ่าน Agoda ครับ
ที่นี่ไม่ได้นอน Dorm ครับพักส่วนตัวเป็นเหมือนอาศัยบ้านเค้าอยู่ เจ้าของบ้านดีมาก ที่สำคัญหลังบ้านติดแม่น้ำครับ วิวสวย
ระดับความพึงพอใจ Grade Hostel :: 7.5/10 "แนะนำ"
Singapore :: Beary Best Hostel จองโดยตรงผ่านเว็บไซต์ที่พัก
Ref. http://www.bearybesthostel.com/
ที่นี่สำหรับ Hostel ผมให้เต็มเลย ชอบทุกอย่างครับ อยู่แล้วอบอุ่น อาหารอร่อย Receptionก็เป็นมิตรครับ ข้อมูลอาจจะไม่เยอะ แต่ถ้านอน Dormแนะนำที่นี่ครับ ติดรถไฟฟ้าเดินออกมาไม่ถึง10เมตร
ระดับความพึงพอใจ Grade Hostel :: 9.5/10 "แนะนำมากๆ"
End of 2.
๐๐๐๐ 3. Introduction for 2 Country Malaysia & Singapore ๐๐๐๐
ผมจะไม่อธิบายประวัติความเป็นมา พวกพื้นที่ ประชากร หรือ ศาสนา นู้นนี่นั่นนะครับ ทั้งหมดนี้หาได้จาก Google 555+ ผมจะเน้นสิงที่คุณควรจะต้องทราบ ถ้าคุณจะไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านเราเหล่านี้ ไปดูกันเลยครับ
1. Malaysia
- ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวอิสลาม หรือแขกหลากหลายสีผิว
- ส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษแนวแขกแท้ๆเลย ฟังค่อนข้างยากมาก อันนี้ต้องใช้ทักษะการเอาตัวรอดเองละครับ 55+
- 7-11 ของมาเลเซีย มีอยู่ทั่วไปครับ แต่คนเข้าน้อยมาก และน้ำใน 7-11 จะแพงกว่าข้างนอก
- จากที่สัมผัสมาคนประเทศเค้ามีน้ำใจมากๆครับ ผมนี่ชอบเลย
- เงินของทีนี่เรียกว่า RM หรือริงกิต 1ริงกิต ประมาณ 10บาทไทย (ตอนนี้เงินมาเลตกอยู่ น่าจะอยู่ที่ 8บาทกว่าๆครับ)
- หน่วยเงินที่เล็กกว่า RM ก็คือCenโดย 100เซน = 1 RM .. และเราจะเจอหน้าห้องน้ำบ่อยๆ เขียนว่า Toilet = 30Cen (3บาท)
- รถไฟฟ้าของ KL นี่เหมือน Bangkok บ้านเราเลย เช้าวันทำงานนี่คนล้นเหมือนกัน
- รถเมล์มาเลเซีย ขึ้นหน้า ลงหลัง กดกริ่งนะครับ ควรพกเงินไปให้พอดี แต่จำได้ว่าการทอนเงินแล้วแต่อารมณ์คนขับ 55+
- รถไฟฟ้าของ Malaysia มีหลายสาย ทุกสายต้องซื้อแยกกันหมดครับ และสายที่วิ่งไปสนามบินเร็วสุด 55+
ติดตามการเดินทางของหมี : https://www.facebook.com/bearalone/
๐
รถทัวร์ระหว่างเมือง
กล่าวโดยรวมก่อนครับ รถทัวร์ผมมองว่า ทุกๆเมืองจุดลงรถกับขึ้นรถเป็นจุดเดียวกันดังนั้น เราไม่จำเป็นต้องจองตั๋วรถล่วงหน้าครับ สามารถไปจองหน้างานได้เลย แต่จองวันไปถึงเมืองนั้นๆนะครับ เช่น ที่ Cameron HL ผมถึง Bus Terminal ผมก็ซื้อตั๋วไป KLในวันถัดไปทิ้งเอาไว้เลย กันตั๋วเต็ม
แต่ถ้าไม่สบายใจ อยากจองผ่านเว็บก็ได้ครับ
http://www.busonlineticket.com/ ขั้นตอนเหมือนตั๋วเครื่อง จองเสร็จ ปริ้นออกมา เอาไปยื่นได้เลยครับ ต่อไปจะให้รายละเอียดและราคากันซักนิดครับ
1. สายรถทัวร์ Penang --> Cameron Highland ลง Tanah Rata
จองที่ใต้ตึก Komtar ราคา 43 RM ขึ้นรถใต้ตึก Komtarครับ โดยจะมีรถมารับและพาเรามาส่งที่ Bus Terminal เพื่อรอรถทัวร์อีกคัน ถ้าเดินทางไป Cameron HL ด้วยวิธีนี้ เราจะได้นั่งรถข้ามสะพาน Penang Bridge ในตำนานด้วยครับ
2. สายรถทัวร์ Cameron Highland จุดขึ้นรถ Tanah Rata --> KL
ขึ้นที่ Bus Station ของ Tanah Rata ราคาตั๋ว 35ริงกิต แนะนำรถของ Unititi Express ครับ ซึ่งปัจจุบันนี้สายรถเกือบทั้งหมดจะไปลงที่ TBS หรือจุดขนส่งใหญ่ ทางใต้ของ KLครับ เราต้องต่อสายรถไฟฟ้าเพื่อเข้าเมืองครับ ภาพข่างล่างคือตำแหน่งของ TBS แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะมีสายรถที่ลง KL Central อีกมั้ยในปัจจุบันนะครับเพราะที่ถามจุดซื้อตั๋วของ Cameron HL Bus Terminal เค้าบอกว่าทั้งหมดลง TBS หมดแล้ว
3. สายรถทัวร์ TBS@KL --> Malacca Central
ขึ้นรถที่ TBS ครับ ราคา 13.40 RM ตามภาพรถใช้เวลาวิ่งไม่นานครับ Gate ที่ใช้ขึ้นรถก็หาง่ายครับ มองป้ายหาคำว่า Departure แล้วเดินตามนั้นเลยครับ จะมีเลข Gate กำกับอยู่ ผมใช้บริการ KKL Express ครับดีใช้ได้เลยครับ ฟากซ้ายของรถจะเป็นเบาะเดี่ยวครับ ตอนจองตั๋วบอกเค้าได้ ใช้เวลาเดินทางไม่นานครับ 2ชั่วโมงกว่า
4. สายรถทัวร์ Malacca Central --> Singapore
สามารถซื้อตั๋วที่ Malacca Centralได้เลยครับ ค่าเสียหาย 27 RM ผมใช้บริการของ 707 Travel Tour Group บอกตรงๆกับไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ กลิ่นบุหรี่ค่อนข้างแรงครับ โดยรถจะแวะจอดให้เราทำเรื่องที่ ตม ขาออกมาเลเซียและขาเข้าสิงคโปร์ที่ด่าน WoodLandครับ
๐รถเมล์ในประเทศมาเลเซีย ส่วนของรถเมล์ ผมจะไม่ระบุสายรถให้นะครับ แต่ผมจะเกลาความคิดให้เราใช้การถามแทน เพราะมีหลายจุดที่เส้นรถเมลล์ไม่เหมือนใน Review เก่าๆครับ รถเมล์หลายสายเปลี่ยนเส้นการวิ่ง เช่น ที่ปีนัง หรือ รถเมล์ที่จะวิ่งเข้า Putrajaya เป็นต้นครับ
โดยรถเมล์ของประเทศมาเลเซียขึ้นหน้า ลงหลังนะครับ ใช้บริการง่ายมากๆครับ การถามทางก็ง่ายครับ ใช้ประโยคง่ายๆ เช่น I want to go...
What bus number to go there?. เป็นต้นครับ เค้าจะตอบเป็นตัวเลขง่ายๆมาเลย เช่น one oh one (101) เป็นต้นครับ
ปล. แนะนำให้แลกเหรียญให้พอดีครับ
๐เรือเฟอรี่ข้ามฝากไปปีนัง จากสถานีรถไฟ Butterworth เดินประมาณ 300เมตรก็จะถึงท่าเรือที่ข้ามฟากไปปีนังครับ ค่าบริการไม่แพงครับ การเดินไปก็ง่าย จะมีป้ายบอกกำกับอยู่ตลอดเส้นทาง
๐รถไฟฟ้าของประเทศมาเลเซีย
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าของประเทศมาเลเซียจะอยู่ที่บริเวณ KL ทั้งหมด การใช้บริการไม่ยากครับ แต่ผมไม่ได้ซื้อบัตรใดๆ ใช้วิธีการจ่ายด้วยเงินสด เหมือนมันจะแยกสายกันหมดเหมือนของไทย คือถ้ามีการเปลี่ยนสาย เราต้องซื้อสายแยกแล้วไปซื้อสายที่สองอีกทีนึงครับ ไม่ได้รวมกันเหมือนฮ่องกงหรือสิงคโปร์ แต่เป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุด ในKLไม่ว่าไปที่ใดรถไฟฟ้าคลอบคลุมเกือบทั้งหมดครับ
1
.2 สกุลเงินในประเทศมาเลเซีย
100 Cen = 1RM
10 Bath = 1RM
10 Bath = 100 Cen
ผมไปใช้ชีวิตในมาเลเซียหกวัน ผมแลกเงินในส่วนนี้ไปประมาณ 5000บาทหรือ 500RM ค่าใช้จ่ายจะเปลืองในส่วนของ Cameron HL ที่สุดเพราะอัตราการเหมารถเพื่อเที่ยวชมไร่ชานั้นแสนแพง ผมแลกเงินที่ Superrich นะครับ Rate เงินค่อนข้างจะดีที่สุด
1.3 ซิมการ์ดในประเทศมาเลเซีย
ผมซื้อซิมการ์ดใต้ตึก Komtarครับ มันเป็นห้างขนาดย่อม ได้ของHotlinkมา เห็นโปรมันถูก พอใช้แล้วพอใจนะครับ ผมเล่นค่อนข้างเยอะ โปรเค้าจะได้เน็ตประมาณ 4GB ราคาแค่20RMเท่านั้น โดยวันแรกจะได้1GB แล้วมันจะเด้ง Refill Data ให้เราโดยรวม4-5วันจะได้3-4GB
2. Singapore
- คนในประเทศสิงคโปร์ส่วนใหญ่ พูดภาษาอังกฤษได้ดีและเข้าใจง่ายกว่ามาเลเซีย
- น้ำในประเทศสิงคโปร์แพงมาก ถ้าซื้อใน 7-11 ราคาจะอยู่ที่ 2$ หรือประมาณ 50บาท แนะนำให้หาซื้อจากที่พักจะได้ราคาประมาณ 1$
- You must have "Tourist Ticket" จำเป็นต้องมีเลย ตั๋วรถไฟฟ้าแบบนักท่องเที่ยว
- ค่าครองชีพใน Singapore สูงมาก สูงกว่ามาเลเยอะเลย
- รถไฟฟ้าถึงกันทุกสายเหมือน ฮ่องกง เช่น อยู่สายสีฟ้า ไปปลายทางที่สีแดง กดซื้อได้เลยทีเดียวครับ
- สกุลเงินของสิงคโปร์คือ Singapore Dollar โดย 1$ ประมาณ 25 บาทไทย
2.1 การเดินทางในประเทศสิงโปร์ เกือบทั้งหมดจะใช้รถไฟฟ้าทั้งหมดครับ เพราะจุดสำคัญล้วนมีรถไฟฟ้าวิ่งถึง
นับว่าสบายทุกสายทุกเส้นทาง สิ่งแรกที่สุดที่คุณจะต้องมีคือ Tourist Pass หน้าตาเป็นดังนี้
โดยมีค่ามัดจำ 10$นะครับ ได้มาแล้วคุณจะไปที่ไหนในสิงคโปร์ก็ได้ ตามระยะเวลาในบัตรเหมารวมหมด รถไฟฟ้า รถเมลล์สาธารณะ แต่พวกรถทัวร์วิ่งวิเศษในเมืองไม่รวมนะครับ แต่เท่าที่ผมเที่ยวเพียงพอสำหรับทุกเส้นทางครับ โดยเจ้า Tourist Pass นี่ซื้อได้ที่สนามบิน แต่ถ้าเราเข้ามาจากมาเลเซีย แนะนำดูตามสถานี China Town , Dhoby Ghaut มองหา "Ticket Office" นะครับ (มีแค่บางสถานี ส่วนน้อยครับ)
๐รถเมล์ในสิงคโปร์ ขึ้นหน้าลงหลังเหมือนมาเลเซียครับ ถ้าถือบัตร Tourist Pass ขึ้นไปได้เลย แล้วแตะที่ประตูตอนลงครับ เท่าที่ผมเที่ยวมา มีเฉพาะที่ Marina Barrage ที่ต้องนั่งรถเมล์ไปครับ
2.2 สกุลเงินในประเทศ Singapore เรียกว่า Singapore Dollar ครับ
1$ Dollar = 25 บาทไทยโดยประมาณ
100 Cen = 1$ Dollar ครับ
ค่าครองชีพที่ Singapore สูงมากเลยครับ ผมแลกมา 5000บาท เหมือนจะเกือบไม่พอเลยทีเดียว มาถึงโดนค่ามัดจำบัตรกับที่พักไปก็หายไปหลายDollarฮะ แลกเหรียญมาจาก Superrich เช่นกัน แต่ของผมเงินเหลือจากมาเลเซีย จึงแอบมาแลกเป็น Dollar สิงคโปร์เพิ่มเติมด้วย กลัวเงินไม่พอ
2.3 ซิมการ์ดในประเทศมาเลเซีย
เนื่องจากผมโดนเข้าห้องเย็นที่ด่าน Woodland เลยตกรถทัวร์ครับ ต้องหารถทัวร์เข้าเมืองเอง ซิมก็ดับไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้เจออะไรก็ซื้อไปก่อน เลยมาได้ซิมของ Star hub ราคา 15$ เน็ต 1GB และมีโบนัสโทรได้ 5$มั้งนะถ้าจำไม่ผิด ผมใช้พอนะครับ สัญญานจัดว่าใช้ได้ครับ
Main Episode การเดินทาง
Day 1 :: จากกรุงเทพสู่.. ตู้นอนบนรถไฟ
จองตั๋วไว้นาน ถึงเวลาเดินทางซักที บ่ายสองวันเสาร์เก็บกระเป๋าถือกล้องที่รัก ลงรถไฟฟ้าใต้ดินไปหัวลำโพงกันครับ ถึงเวลาต้องเปิดโลกเพียงลำพังในประเทศเพื่อนบ้านทางใต้กันแล้ว จริงๆลังเลมาซักพักป๊อดๆเหมือนกันไง ฮ่าๆ
การจองตั๋วรถไฟ กรุงเทพ Butterworth แนะนำให้รีบจองหน่อยนะครับ จะได้เลือกที่นั่งได้ ของผมนั่งใกล้ประตูข้อเสียคือเวลาประตูเปิด เหม็นกลิ่นควันมากพอดูเลยครับ
อย่าตั้งแง่กับรถไฟไทยนะครับ ผมมองว่าถ้าเรานั่งตู้นอนแอร์ ปลอดภัยใช้ได้เลย ถ้าเกิดเป็นผู้หญิงมาคนเดียวจะเลือกนอนเตียงบนก็ได้ครับ หากเราเลือกที่จะเดินทางโดยรถไฟเราจะได้กินก๋วยเตี๋ยวราชบุรี หม้อแกงเมืองเพชร มีเตียงนุ่มๆแบบส่วนตัวมากๆติดริมกระจกเห็นวิวสวยๆ ตื่นเช้ามาเห็นพระอาทิตย์ขึ้น 555+
ยาวไป เข้าเนื้อหา รถไฟจะออกจากกรุงเทพ 14.45(มั้ง) แล้วถึงปาดังเบซาตอน 7โมงเช้าเพื่อให้เราทำเรื่องที่ ตม.ครับโดยจะผ่านไทยก่อน แล้วจะมาจอดที่ฝั่งมาเลเซีย ตรงนี้สำคัญ!!
รีวิวเก่าๆจะบอกว่า ถ้าถึงตมฝั่งมาเลเซีย ให้เราหยิบของทั้งหมดลงแล้วเหลือของกินไว้จองที่ เพราะจะมีคนมาเลเซียขึ้นรถไฟมาเพิ่มด้วย อาจจะทำให้ที่นั่งเราโดนแย่งได้ แต่ ปัจจุบันนี้ เราจะต้องนำของทั้งหมดลงไป ทำเรื่องผ่าน ตม. แล้วเปลี่ยนขบวนรถไปนั่งรถของมาเลเซียแทนครับ ไม่มีการลากโบกี้ของไทยเข้ามาเลเซียอีกต่อไปครับ ไปดูภาพเจ้าพ่อโบกี้ที่จะพาเราไป Butterworth จาก Padang Besarกันครับ เจ้าหัวเหลือง
สภาพในรถก็เหมือนรถไฟฟ้า BTSบ้านเราครับ แต่วิ่งเร็วกว่า ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมงกว่าๆก็วิ่งมาถึง Butterworth เราจะไป Penang สิ่งที่ต้องทำคือมองหาป้าย Ferry ครับเพื่อไปลงเรือข้ามฝั่งไป Penang ฮรี่ๆ
สภาพเรือก็ เหมือนเรือไปสมุยบ้านเรานี่แหละครับ ค่าบริการไม่แพงนะผมจำไม่ได้ สิบบาทหรือไรนี่ละครับ = =
สวัสดี.. ปีนังที่รัก
ภาพ Penang bridge จากเรือสำราญ เอ้ย เรือ Ferry(รุ่นโบราณ)ข้ามฝากของเราครับ
มาทำความรู้จักกันซักหน่อย เมืองแห่งนี้เมื่อเราข้ามเมืองมาปุ๊ป เราจะเจอสายรถเมล์โคตรเยอะ รอรับเราไปในที่ต่างๆ หลักๆของการมาเที่ยวปีนัง สาวๆส่วนใหญ่จะมาถ่ายรูป Street Art ที่ฝังอยู่มากมายในเมืองนี้ โดยจะมีแผนที่(ไม่ได้ถ่ายมา)ที่บอกพิกัดรูปต่างๆ
จากแผนที่ขวาสุดคือท่าเรือ Ferryครับ Love land คือจุดกึ่งกลางของ Street Art สวยๆ ส่วนตึก Komtar อยู่บริเวณล่างซ้าย ทั้งสามจุดเดินถึงกันได้ครับ ระยะทาง 1-2 km
สิ่งแรกที่ผมทำคือเก็บของเข้าที่พัก แล้วเดินไปใต้ตึก Komtar จัดการซื้อ Sim ที่มี Data เพียงพอจะใช้ในช่วงที่อยู่มาเลเซีย แล้วจองตั๋วรถเพื่อเดินทางไป Cameron Highland ในวันรุ่งขึ้นครับ ข้อมูลส่วนนี้ ไม่แจงนะครับเดินดูได้เลยเยอะมากครับ 555+
เมืองฮิปๆที่บางทีคนแบบผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่มาแล้วก็เดินถ่ายมันหน่อย
ฝากติดตามการเดินทางด้วยนะครับ : https://www.facebook.com/bearalone/
๐ ร้านลอดช่องในตำนาน @ Penang
ผมเดินเก็บภาพมาได้ชุดนึง ก็ได้เวลาหาที่คลายร้อนด้วยลอดช่องเจ้าดัง พิกัดหรอ Google map ฮะพิมพ์ไป "Penang Road famous teochew chendul ice kachang" รับรองขึ้นมาแน่นอน แปะภาพลอดช่องไรหว้าคนเยอะชิบ
๐ Gurney Drive @ penang
การเดินทาง :: ผมใช้การเดินทางด้วยรถสาย 101 นะครับ จะขึ้นที่ท่าเรือ หรือมารอขึ้นรถที่ Komtar ก็ได้ครับค่าโดยสาร 1.4RMครับรถวิ่งตรง ให้ลงหน้า Gurney Plaza แล้วเดินทะลุห้างไปออกด้านหลัง แล้วเดินไปทางซ้ายนะครับ จริงๆที่นี่บรรยากาศมันก็คล้ายๆศูนย์อาหารOutdoor ต่างจังหวัดบ้านเราเลยล่ะ ผมกินหลายเมนู เน้นอย่างละนิดอย่างละหน่อย รึเปล่าา...
การเดินทางกลับ :: จากจุดลงรถมันเป็น one-way นะครับรอกลับตรงนั้นไม่ได้ ให้เราเดินมาพิกัดนี้ครับ(จุดที่ปักแดง) แล้วรอรถที่ป้ายนี้แทน จะนั่ง 101กลับหรือจะนั่งรถที่ผ่าน Komtar แล้วมาเปลี่ยนสายรถก็ Up to you เลยครับ
๐ Leong Kee Tim Sum Restaurant
ตื่นเช้าตบด้วย ติ่มซำร้านนี้ครับ รสชาติเรียกว่าอร่อยเลยแหละ ยังไงแนะนำให้ละกันครับ พิกัดตามชื่อร้านเลย Google map รู้จักทุกสิ่งบนโลก 555+
ผมไม่ได้เดินทางไป พวก Penang Hill นะครับ เพราะผมเป็นนักเดินทางสายประหยัด เอ้ยไม่ใช่ เค้าบอกหมอกลงหนักมากและเวลาผมก็มีไม่เยอะครับ = = หลังจากอิ่มจากติ่มแล้ว เดินอ้อร้อถ่ายรูป Art เพิ่มเติม แวะกินลอดช่องร้านเดิมซ้ำ ก็กลับไปเอากระเป๋า Check-Out แล้วไปรอรถเดินทางไป Episode ที่2ของทริปครับ "Cameron Highland"
กล่าวถึงที่พักนิดนึง ผมพักที่ "Old Penang Guest house" พิกัดดีอยู่บริเวณ Love Land ที่พักก็ดีครับ สบายถือว่าผ่านสำหรับผม
บอกเล่าเก้าสิบนิดนึง ของผมซื้อตั๋วที่ Komtar แต่จุดขึ้นรถจริงๆจะอยู่ที่ Bus Terminal ทางใต้ของเกาะ Penangนะครับ โดยร้านขายตั๋วจะนัดเรามา แล้วจะมีรถรับไปส่งที่ Bus Terminal อีกทีนึงครับ
เรื่องมีอยู่ว่า พอมาถึงKomtar เค้าก็เขียนเลขทะเบียนรถลงในกระดาษที่จองตั๋ว ชี้ไปที่รถทัวร์คันนึง แล้วบอกผมว่า "they are go to Cameron, you follow them." แล้วก็เดินไป อ้าว!! 555+ ผมก็ขึ้นรถมาแบบงงๆ นั่งซักพักรถก็พาเรามาส่ง Bus Terminal ผมก็ถามคนแถวนั้นหาเพื่อนๆที่ไป Cameronเหมือนเรา และก็เจอพี่คนไทยกลุ่มโต ในที่สุดเราก็มีเพื่อน ฮรี่ๆ
เรานั่งรอรถอยู่นานมากเป็น ชั่วโมงเหมือนรถจะเสียเวลา สภาพอากาศก็ไม่ดีฝนตกตลอดเวลา
บ๊ายบาย ปีนัง See ya... ลาด้วยภาพกลุ่มพี่ๆเพื่อนใหม่ที่เจอและเที่ยวด้วยกันที่นี่ 555+ สองวันหนึ่งคืนเอง
-
--Next Station 'Cameron Highland'---
นั่งรถตูดชา วนขึ้นวนหลงเมารถนับครั้งไม่ถ้วน เรามาทำความรู้จัก Cameron HL กันซักนิดนะครับ ที่นี่มีที่พักที่นิยมสองจุดหลักๆ คือ Tanah Rata กับ Brinchang เจ้า Brinchang เป็นที่พักออกแนวย่านเจริญแสงสีเสียง ส่วน Tanah Rataเนี่ยเป็นสวรรค์ของเหล่า Backpackerครับ ที่พักส่วนใหญ่จะราคาไม่แพงครับ รถที่วิ่งมาจาก Penang จะวิ่งมาจากฝั่งบนผ่าน Brinchangก่อนครับแล้วจะมาจอดที่ Tanah Rata สุดปลายทาง Landmark สำคัญของที่นี่คือ Boh Plantations Sdn. Bhd ที่เราผ่านมาตอนขาเข้า Cameron HL เนี่ยแหละ
ผมมาถึง Cameron HL เย็นมากเก็บของทุกอย่างเสร็จก็ออกมาหา Stream Boatกิน พอดีระหว่างทางมาได้รู้จักกับพี่อีกสองคน เลยได้ PartyกินStreamพอดีฮ่าๆ
๐Stream Boat
อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ พูดบ้านๆมันคือ ชาบูแบบไม่บุฟเฟ่ต์บ้านเรานั่นเองครับ ปกติได้ข่าวมาว่า ถ้ามาคนเดียวอาจจะไม่ได้นะครับ ต้องสองคนขึ้นไป
ร้านที่ผมเลือกกินคือ Restoran May Flower ครับพิกัดคงหาไม่ยาก อยู่บริเวณ May Bank สีเหลืองๆ
๐วิธีการเที่ยวบนCameron Highland
เรามาพูดถึงวิธีการเที่ยวบน Cameron เพื่อไปให้ถึงดวงดาวกันดีกว่าครับ การเที่ยวที่นี่นั้นมีหลากหลายวิธีครับ
1. การซื้อทัวร์ ข้อมูลด้านนี้ผมไม่ทราบเท่าไหร่ แต่มีทัวร์ขายอยู่เต็มไปโหม๊ด แต่หมวดนี้ไม่แนะนำสำหรับคนชอบถ่ายรูปเท่าไหร่ เพราะเราไม่สามารถ Control อะไรได้เลยเช่นระยะเวลา แต่ๆๆ มันก็มีทัวร์ที่ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นได้ด้วย แต่ราคาก็จะบวกขึ้นไปอีก
2. เช่ารถจักรยานยนต์ ที่ร้าน TJ Tourist Information ราคาค่อนข้างแพงครับ รู้สึก3ชั่วโมงขึ้นไป 35RM จริงๆวิธีนี้แนะนำเหมือนกัน แต่ทางขับค่อนข้างไกล มันไม่ได้ขับยากครับ แต่ทางมันไกล แต่ว่าล่าสุดผมไปถาม เค้าไม่อนุญาติให้ขับเข้าไปในเขตไร่ชาครับ
3. เหมารถ Taxi วิธีนี้ค่อนข้างจะเวิร์คที่สุด แต่เป็นอุปสรรค์สำหรับคนโสด เอ้ย คนโฉดเอ้ย คนที่ไปคนเดียว เพราะค่าใช้จ่ายมันค่อนข้างแพง จับกลุ่มกันให้ได้ซัก 3คนขึ้นไป แล้วเดินเข้าไปหา Taxi ซักคันมาถามราคา รายละเอียดส่วนนี้ผมไม่ลงนะครับ
แต่ผมจะแนะนำให้ถ้าไปคนเดียว และไม่ชอบถ่ายภาพคือไม่เน้น ก็ไปซื้อทัวร์ซะครับ สอบถามจากที่พักก็ได้ครับ แต่!! ถ้าคุณชอบถ่ายภาพ แนะนำให้เลือกวิธีที่ 3ครับ โดยทำยังไงก็ได้ ให้มีเพื่อนอีก2คนครับ ง่ายแมะ 555 แล้วไปติดต่อรถ Taxi สอบถามราคา แล้วบอกเค้าด้วยนะครับ ว่าต้องการไปถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น นัดเวลาเค้าให้พร้อม ถ้าเลือกวิธีนี้ราคาจะตกคนละ 50RM โดยประมาณครับ แพงมากก แต่ก็จำเป็น
๐เช้านี้ที่ ไร่ชา ...
พวกผมนัด Taxi มารับ 6 โมงเช้า(ตี5เมืองไทย) เพื่อไปให้ถึงไร่ชาและเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นทัน เราตัดสินใจไม่แวะไหนเลยครับ เพราะมันไม่ใช่ Highlight ทั้งฟาร์มผึ้ง หรือสวนสตอเบอรี่ที่ดอยอ่างข่างยังสวยกว่า 555+ เอาภาพไปดูเลยละกัน
เอ้ยถึงที่พักนิดนึง ผมพัก Father's Guest house ที่พักถือว่าผ่านครับ แต่ถ้ามานอน Dorm แล้ว Walk-in ถ้าเกิดมาหลายคนมีโอกาสที่จะเต็มครับ แต่ถ้ามาคนเดียวก็เดินเข้ามาถามได้เลยครับ ส่วนตัวแล้วพอใจมากครับ
บริเวณไร่ชามีร้านชาให้นั่งชิคๆ แต่พวกผมไม่ได้เข้าไปถือว่าน่าเสียดายมาก เวลาไม่พอ มีโอกาส อาจจะ Return กลับไปอีกแน่นอน
** เพิ่มเติมนิดนึงครับจริงๆแล้ว Highlight Cameron อยู่บริเวณใกล้ๆกันทั้งหมด บอกไว้เผื่อคนวางแปลนมาเที่ยวจะได้ทราบ
๐Char Kway Teow & BOH Tea @ Restoran Ferm Nyonya SDN BHD
เมนูนี้ผมชอบสุดๆที่ชา ชาร้อนร้านนี้อร่อยมากๆ ประทับใจฟุดๆครับ มีเวลาลองแวะไปกินครับ ส่วนชาก๋วยเตี๋ยวผมเฉยๆฮะ
๐ Cameron Highland Bus Terminal
ได้เวลาโบกมือลา Cameron มุ่งสู่ KL เมืองหลวงใจกลางมาเลเซียฝั่งตะวันตก ผมวางแผนออกจาก Cameron ช่วงเช้าเลยครับ ประมาณ9.30น. เพื่อให้ถึง KL เที่ยงๆบ่ายๆ จะได้มีเวลาไปเดินเที่ยวที่ Putrajaya หรือเมืองใหม่ที่อยู่ไปทางใต้ของ KL
ภาพบรรยากาศบริเวณจุดขึ้นรถครับ
** ประสบการณ์เสริม ผมจองตั๋วรถ Cameron --> KL มาจากเว็บแล้วลืม มาซื้อตั๋วซ้อนที่นี่ เลยขอ Refund คืนเจ้าหน้าที่บอกไม่ได้แล้ว แต่เค้าใจดีฝากขายต่อให้ เลยได้เงิน 30RMกลับมา (ให้ค่าน้ำใจเค้า5RM) = = ประทับใจจริงๆครับ
---"Kuala Lumpur" Capital of Malaysia---
ออกตัวก่อนว่า ผมมีเวลาอยู่ที่ KL แค่คืนเดียว ผมเลยตั้งเป้าหมายไว้ชัดเจนว่า สิ่งที่อยากจะทำคือการถ่ายรุป Petronas Twin Towers กับ Musjidที่เมืองแห่งใหม่นามว่า Putrajaya นอกนั้นแล้วผมถือเป็นโบนัสครับ มาถึงก็ซื้อตั๋วรถไป Malacca ทิ้งเอาไว้ด้วยนะครับ
ตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่ KL 1วัน 70%ของการเดินทางผมเจอฝนทั้งหมดเลย เสียใจมากๆ มาเข้าเรื่องกันครับ ผมมาถึง KL จาก Cameron HL เวลาประมาณบ่ายโมงครับ โดยรถทัวร์จะส่งเราที่ TBS ผมเลยตัดสินใจแบกเป้หนักๆไปลุย Putrajaya ก่อนแล้วค่อยวกกลับเข้า KL (ยอมหนัก แต่ประหยัดเวลา) จากแผนที่จะเป็นดังภาพครับ จะเห็นว่าถ้าเข้า KL ก่อนเราต้องนั่งย้อนกลับมาไกลพอสมควร ผมเลยไป Putrajayaก่อน
๐ Putrajaya @ KL
การเดินทาง :: การมาที่ Putrajaya ให้เราต่อรถไฟฟ้าสาย KLIA Line จาก TBS มาได้เลยครับ ค่าใช้จ่ายประมาณ 8RMครับ รถไฟฟ้าสายนี้จะนานๆมาทีนึงครับ การซื้อตั๋วเหมือนบ้านเราทุกประการ จะหยอดตู้ หรือซื้อที่Counterจำหน่ายตั๋วก็ได้ครับ รถไฟสายนี้วิ่งเร็วมาก (เป็นรถไฟฟ้าสายระยะไกล) จาก TBS ไป Putrajaya ใช้เวลาไม่นานครับ สถานีที่เราจะต้องลงก็ชื่อเดียวกับเมืองที่ไปเลยครับ Platform ต่างๆไม่ยากครับดูป้ายเอา
พอถึงแล้วให้เราเดินหาจุดจอด Bus ซึ่งจะมีป้ายบอก ผมแวะซื้อของรองท้องที่นี่ครับเล็กๆน้อย หลังจากลงไปบริเวณจุดจอด Bus แล้วให้สอบถามเค้าเรื่องสายรถครับ ถามง่ายๆก็ได้ "Masjid Putra" What bus number? ก็ได้ครับ รถจะมาจอดถึงที่เลย จ่ายตังหน้าลงหลังเหมือนเดิม
*ในรีวิวเก่าๆจะมีบอกสายรถอยู่ซึ่งตอนนี้ยุบไปแล้วนะครับ ผมไปไม่มีสายรถนั้นแล้ว
ตลอดเส้นทางจะมีวิวสวยๆตลอดเวลา พอข้ามสะพานจะมองเห็น Landmarkที่เราต้องการไป ขากลับผมเลยแอบคิดไว้ว่า ผมจะเดินกลับ 2กิโลกว่าเพื่อเก็บภาพระหว่างทางครับ 55+
ตลอดการเดินทางฟ้าฝนไม่เป็นใจเลย ผมมาถึง Masjid Putra ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก เลยแวะหาไรรองท้องรอฝนหยุดครับ โดยร้านอาหารจะอยู่ด้านล่าง ทางลงจะเป็นบันไดมองหาง่ายครับ ไม่ก็สอบถามยามก็ได้ครับ แต่ออกเสียง Restoranให้ชัดๆหน่อยนะครับ 555+
พอฝนหยุดก็เริ่มเดินสำรวจถ่ายรูปเล่นบริเวณรอบๆกัน เจอคนไทยเรื่อยๆแต่ไม่ได้ทักทายเท่าไหร่ ส่วนใหญ่มาเป็นกลุ่ม ส่วนผมแบกกระเป๋าหน้าหลังเหมือนคนบ้าหอบฟาง 555+
ติดตามการเดินทางของหมี : https://www.facebook.com/bearalone/
หลังจากนั้นเดินถอยมาจากตรงกลางหน่อยหน่อย ฝนตกเลยได้ภาพแปลกไปอีกแบบนึง
ขากลับผมตัดสินใจที่จะเดินกลับครับ จาก Musjid Putra ไป Putrajaya Station จากประสบการณ์แนะนำให้นั่งรถครับ แต่ผมอยากได้ภาพจากสะพานเลยตัดสินใจเดิน ไกลเหมือนกันครับ 3.3KMเป้ก็หนักแต่ได้ภาพจากสะพานมาแทน
ปล. ถ้าจะนั่งรถกลับก็มารอรถที่จุดเดิมแต่เป็นอีกฝั่งของถนนครับ ไม่ต้องกลัวหลง มีคนมารอขึ้นกับเราด้วยแน่ๆ
มุมจากสะพานครับ อุตส่าเดิน
อีกฝั่งของสะพานก็จะเป็นภาพวิวว
เดินทางกลับมาที่ Putrajaya Station รอรถสายเดิมเพื่อนั่งกลับที่พักครับ
ที่พักของผมพักที่ Backhome KL ครับ สถานที่อยู่ไม่ไกลจาก Petronas Twin Towers (ประมาณ 2สถานีรถไฟฟ้า) ส่วนตัวแล้วชอบที่นี่นะครับในเมืองที่วุ่นวายมี Hostel ดีๆพักสบายอยู่ในมุมๆนี้ด้วย
หลังจากถึงที่พักผมตั้งกระเป๋าจัดของแล้วนอนพักเอาแรงครับ รอเวลาเย็นๆเพื่อไปถ่าย Petronas Twin Towersครับ
๐
Petronas Twin Towers @KL
การเดินทางใน KL ก็ใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักครับเปิด Google Map เทียบเอา จากที่พักผมนั่งสายสีส้มมาแปปนึงก็ถึงครับ เมื่อมาถึงฝนฟ้าไม่เป็นใจ ฝนตกตลอดเวลาเลยครับ ช่วงเย็นของวันนี้5นี้ผมเลยตัดสินใจลุยฝนเก็บภาพครับ ไม่งั้นก็ไม่ได้ภาพแน่ๆ
ช่วงเย็นวันแรกผมวนอยู่แค่ที่นี่ครับ ฝนก็ตกลำบากฟุดๆ ไม่ได้เดินเก็บบรรยากาศและภาพได้เท่าที่ควรเลยเสียจุย
หมดไปอีกหนึ่งวันครับ ไม่ค่อยจุใจเท่าไหร่ แต่ก็หยวนๆกันได้ 55+
๐Day6 Petronas Twin Tower Again @KL
หลังจากเมื่อคืนลุยฝนอย่างHardcore เช้าวันนี้อากาศสดใสเผยให้เห็นฟ้าสวยๆ ผมเดินกลับมาเก็บมุมเดิมอีกครั้ง เอาเป็นว่าดูภาพเลยละกัน คือเน้นแต่ที่นี่จริงๆครับมา KL รอบนี้ 555+
ผมมาเดินเล่นบริเวณสวนสาธารณะด้านหลังลานน้ำพุก่อนครับ ยามเช้ามีคนมาวิ่งออกกำลังกายเยอะมากครับ
หลังจากเดินวนอิ่มใจกับสวนเสพสุขแล้ว ก็เดินลอดตึกแฝดเอกลักษณ์ของ KL มาอีกฝั่ง คือบริเวณด้านหน้าเพื่อเก็บภาพครับ = = ถ่ายแต่รูป
หลังจากอิ่มกับที่นี่ผมก็เดินทางกลับที่พักเก็บของเพื่อนั่งรถไฟฟ้ากลับไปที่ TBS รอขึ้นรถทัวร์เพื่อไป Malaccaต่อครับ
-----Malacca @ Last Place in Malaysia-----
จุดประสงค์ของการแวะ Malacca ในครั้งนี้เพื่อมาดูพระอาทิตย์ตกดินกับมัสยิดที่เค้าว่าสวยที่สุดในประเทศมาเลเซีย เล่าเรื่องการเดินทางใน Malaccaนิดนึงครับ จุดลงรถของ Malacca จะอยู่ที่ Malacca Central ซึ่งจะอยู่ไกลจากตัวเมืองประมาณ 3กิโลเมตรครับ พอลงรถแล้วเราต้องมองหารถบัสประจำทางเพื่อเข้าเมืองอีกที ส่วนสายรถ แนะนำให้สอบถามเหมือนเดิมครับ เทคนิคคือเปิดแผนที่เพื่อดูถนนเส้นที่เราต้องการไปครับ แล้วเอาชื่อถนนนั่นแหละไปสอบถามพนักงาน เค้าก็จะบอกเลขรถมาให้ครับ ตอนลงก็เปิดแผนที่เช็คพิกัดเอาก็ได้ครับ ใกล้ก็กดกริ่ง
เป้าหมายหลักของการเดินทางมา Malacca ในครั้งนี้คือการดูพระอาทิตย์ตกดินฟรุ้งฟริ้งครับ 555+
๐Masjid Terapung Selat Melaka
หลังจากนอนพักเอาแรง พอช่วงเย็นก็เดินออกจากที่พักแล้วหาร้านเช่าจักรยานเพราะมันไกล และเวลากลับค่อนข้างเปลี่ยวครับ แต่ตอนผมไปเจอฝรั่งเค้าหาคนหารค่า Taxi ออกด้วย เพราะเค้านัดให้ Taxi มารับ จะใช้วิธีนี้ก็ได้เช่นกันครับ แต่ขาไปก็ลำบากพอสมควร (ถ้าไปคนเดียว)
ร้านเช่าจักรยานตามพิกัดครับ จริงๆจากกระทู้อื่นก็พอมีคนบอก แต่ของผมเดินผ่านตอนไปที่พักแล้วเจอพอดี
ค่าบริการค่อนข้างแพง แต่สำหรับผมคืนเดียวก็ไม่เป็นไร คุณภาพก็ได้อยู่ครับ 55+ หลังจากได้จักรยานก็ปั่นตามเส้นทางเพื่อไป Masjid Terapung Selat Melaka โดยผมปั่นตามเส้นทางด้านล่างเลยครับ ระหว่างทางจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังหลายแห่ง
ผมไม่เน้นแหล่งท่องเที่ยวฮิตๆทั่วไปนะครับ ผมเสพบรรยากาศทั่วๆไป มันก็เหมือนเดิมตลาดนัดเปิดท้ายบ้านเรา(แต่สถานที่จัดสวย) (ส่วนตัวนะ 555) ผมเน้นเฉพาะจุดที่ทำให้ผมประทับใจ และอิ่มใจ ได้ฟิลลิ่งแนวว่า เห้ยอิ่มวะ มาถึงแล้ว = = หลังจากปั่นมานานเราก็จะสบตากับ
จุดชมพระอาทิตย์ตกสุดสวย ผมเดินถ่ายรูปรอบๆรอแสงเย็นครับ มีคนเดินทางมามากมายแต่ผมไม่เจอคนไทยเลยนะ
พอพระอาทิตย์ตก แสงก็จะสวยขึ้น วันนี้โชคดีที่ฝนไม่ตก เดินทางมาตั้งหลายวันเจอแต่ฝนตอนเย็น แต่วันนี้ดันมีฟ้าสวยๆให้เรามอง
ยิงภาพกันไป ขากลับผมก็ปั่นจักรยานกลับครับ โดยช่วงอยู่ที่เกาะก็ปั่นให้เร็วหน่อยครับ เพราะค่อนข้างเปลี่ยวมาก ระหว่างกับก็แวะถ่ายรูปครับ ชอบเมืองเค้าตอนพรบค่ำจริงๆ แสงสีแสง แฟนตาซีสวยงามมากๆเลย
ภาพจากหลังที่พักครับ เส้นๆนี่คือแสงไฟจากเรือนะครับ หลังที่พักติดแม่น้ำ ได้ฟีลจริงๆ(รายละเอียดเขียนไว้ในส่วนที่พักแล้วคร้าบ)
หลังจากเสร็จกิจก็นอนพักผ่อน วันรุ่งขึ้นผมต้องเดินทางไปสิงคโปร์ต่อ ความกังวลหนึ่งของผมคือการหารถเพื่อนั่งไป Malacca Central อยากจะบอกว่าเมืองเค้ารถเมล์มองไม่ค่อยจะเจอครับ จะวิ่งเฉพาะถนนเส้นหลัก เทคนิคที่ผมใช้คือ ผมกางแผนที่ Google Map ออกครับ แล้วดูถนนเส้นหลักที่วิ่งไป Malacca Central โดยใกล้เราที่สุด ผมก็เดินไปที่ถนนเส้นนั้นครับ เพราะสันนิษฐานไว้เลยว่าต้องมีรถเมล์ผ่านแน่นอน
ภาพด้านล่างคือจุดที่ผมเดินมารอรถครับ เดินไปถามคนบริเวณนั้นไป หาทางไปป้ายรถเมล์ให้เจอครับ
ที่ Malacca Central ผมได้ตั๋วรถไป Singapore กับบริษัท 707 Travel Group ครับ ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่เนื่องจากกลิ่นบุหรี่แรง รถทัวร์จะขับพาเราเข้า Singaporeที่ด่าน Woodlandนะครับ ขั้นตอนก็ปกติทุกอย่าง ทำเรื่องออกทางฝั่งมาเลเซียไม่ต้องเอากระเป๋าลงก็ได้ครับ (แต่เอาลงก็ได้เพื่อความสบายใจ)พอเสร็จ รถก็จะพาเราวิ่งไปฝั่ง ตม สิงคโปร์ DeadZone ของด่านในตำนานที่ถูกกล่าวถึงกันเยอะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังครับ ประสบการณ์ชายโฉดเดินทางคนเดียวผ่านด่านที่นี่จะเป็นยังไง พร้อมวิธีการรับมือ
Bye... Malacca
To..be continuous in evening "Singapore" The king of City Scape..
๐Day 7 Wood land @Singapore
รถทัวร์ล้อหมุนกับใจต๋อมๆ รถวิ่งผ่าน ตม. มาเลเซียมาที่ด่าน Woodland ทางเข้าสิงคโปร์ จริงๆมันไม่ได้น่ากลัวหรอกครับ ลำดับขั้นตอนปกติทุกอย่างแต่แนะนำให้นำกระเป๋าลงจากรถ พกติดตัวให้หมดครับ (บังคับเลยละกันไม่แนะนำ555) ขั้นตอนการผ่าน ตม.ที่นี่ก็ปกติ แต่ผมติดตอนจะประทับตราครับ เพราะผมมาคนเดียว ผมก็ยืนรออยู่ตรงด่านผ่านนานมากครับ รอคนพาขึ้นห้องเย็น .. ประมาณ 20นาที รถทัวร์ที่เรานั่งมาก็คงไม่รอแน่นอน..
ห้องข้างบนขึ้นไปก็นั่งรอ เค้าจะเรียกเข้าห้องไปนั่งคุยครับ คำถามก็จะเดิมๆ คำถามส่วนใหญ่ฟังง่ายไม่ยากครับเดี๋ยวจะสรุปให้ฟัง หลังจากผ่านในห้องมาแล้ว ออกมานั่งรออีกรอบ ก็จะมีคนสองถึงสามคนเรียกไปคุยอีกรอบ คำถามก็เหมือนเดิมแต่จะละเอียดมากขึ้นครับ มีให้เปิดกระเป๋ารื้อออกมาจนหมดด้วยด้วยครับ หลังจากผ่าน ก็กลับมานั่งรอ พอเสร็จเค้าจะเรียกชื่อและพาเรากลับลงมา รับพาสปอร์ตก็เป็นอันเสร็จสิ้นครับ
รวมสิ่งที่ต้องรู้ครับ
1. คุณมากี่คน กลับวันไหน พักที่ไหน กลับกับสายการบินอะไร ไฟท์ไหน คุณมาทำอะไร ทั้งหมดนี้เค้าจะเรียกดูหลักฐานครับ แนะนำให้ปริ้นมาแสดงให้หมด ถ้าไม่ได้ปริ้น เปิดในโทรศัพท์มือถือให้ดูก็ได้ (อย่าลืมว่าถ้ามาจากมาเลเซียจะไม่มีสัญญาน ให้โหลดเป็น Offline ทิ้งไว้ด้วย)
2. ขอดูมือถือ ปลดล็อค แล้วยื่นให้เค้าครับ เค้าก็ไม่ได้ดูไรมากครับ ดูแอพลิเคชั่นเปิดอัลบั้มรูปแล้วดูคร่าวๆก็เป็นอันเสร็จครับ
3. ขอทราบจำนวนเงินทั้งหมดที่เราพกมาครับ ทุกสกุลเงิน แค่หยิบให้เค้าดูให้หมดครับ
4. เปิดกระเป๋า อันนี้รื้อของออกมาแค่ให้เค้าเห็นว่ามีอะไรบ้างก็พอครับ ไม่ต้องหยิบหมด
5. พูดคุยทั่วไปครับ เช่น คุณมาทำอะไร ชอบเที่ยวหรอ ทำไมมาคนเดียว ชอบเที่ยวคนเดียวหรอ ชอบถ่ายรูปหรอ คุณจะไปถ่ายที่ไหน คุณมาจาก ที่ไหน แล้วจะมาอยู่กี่วัน ประมาณนี้ครับ คำถามจะวนอยู่แค่นี้เป็นส่วนใหญ่ครับ และพนักงานของทางสิงคโปร์สุภาพและยิ้มแย้มครับ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครับ
ต่อคอมเม้นที่ 11 นะครับ
ผมถามเค้าว่ามีการสอบสวนทุกคนที่เดินทางคนเดียวหรอ เค้าบอกว่า สุ่มครับ 555+
ติดตามการเดินทางของหมี : https://www.facebook.com/bearalone/
ฝากติดตามการเดินทางของหมี : https://www.facebook.com/bearalone/
Singapore ...
ประมาณบ่าย2โมงกว่า หลังจากได้รับพาสปอร์ต รถทัวร์ของเราก็คงไม่รอ ให้เราออกมาตรงทางออกแล้วเดินลงไปข้างล่างครับ จะมีจุดรถเมล์ประจำทางมาจอด ตรงนี้จะมีหลายสายมากๆ อินเตอร์เน็ตก็ไม่มี ผมเหมือนอยู่จุดแรงโน้มถ่วงไปไหนไม่ถูกคนก็เยอะมากครับป้ายรถเค้าก็จะเขียนแค่ว่า ex1 ,ex2 หรือเป็นหมายเลขสายรถ ผมมองดูรถอยู่ซักพักครับ เห็นรถคันนึงเขียนว่า MRT ผมก็ไม่ลังเลที่จะกระโดดขึ้นรถเลย ค่ารถ 1$ครับ แต่ผมไม่มีเศษ เลยใส่ 2$ไปแบบไม่มีทางเลือก จริงๆเราสามารถจ่าย 10RM ได้เช่นกันนะครับแต่บอกเค้านิดนึงครับ
ตรงจุดนี้จริงๆมี MRT นะครับเดินไปได้ข้อมูลตามภาพครับ ไม่ต้องนั่งรถเมล์ก็ได้ พอถึง MRT ทุกอย่างก็สบายครับ (สายรถไฟฟ้าแนบไว้ตอนต้น)
เมื่อถึง MRT สิ่งแรกที่ผมหาคือซิมการ์ดเพื่อทำให้สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ครับ หลังจากนั้นก็คือหาซื้อ Tourist Pass หรือบัตรเดินทางสาธารณะสำหรับนักท่องเที่ยวที่บอกไว้ตอนต้น ถ้ามาเครื่องบินทุกอย่างจะง่ายครับ แต่ถ้ามาจากมาเล คุณต้องหาซื้อที่สถานที่รถไฟฟ้าแต่มันไม่ได้มีทุกสถานีครับ มีแค่บางสถานีเท่านั้นและเปิดต่างเวลากัน ผมซื้อได้ที่ China Town ครับ ถ้าไม่ชัวสอบถาม Ticket Counterก็ได้ ว่าต้องการซื้อบัตร Tourist Pass สามารถซื้อได้ที่ไหน เค้าก็จะแนะนำให้ครับ
ผมตัดสินใจเข้าที่พักก่อนเพราะมาถึงช่วงเย็น เข้าไปเก็บของ ยิ้มทักทายเพื่อนใหม่ใน Dorm นอนพักร่าง พอตอนเย็นก็ตัดสินใจออกไป Marina Bay เพื่อถ่ายภาพครับ ส่วนใหญ่ผมเดินทางด้วยสายสีฟ้า ลงที่ Bay Front นะครับ ถ้าจะไปรอบๆ Marina Bay
๐The Night of Marina Bay :: Day 7
ผมขึ้นที่ BayFront และเดินย้อนไปทาง Garden by the bay สวนต้นไม้ยักษ์ที่ถูกสร้างด้วยฝีมือมนุษย์(รึเปล่า) ผมไม่ได้เข้าไปข้างใน สำหรับวันแรก แต่ยืนอยู่ตรงชั้นลอยที่เชื่อมกับตึก Marina bay sand แล้วถ่ายรูปออกไปครับ
เสร็จแล้วผมเดินเข้าทาง Marina Bay Sand จากด้านหลัง เพื่อออกไปที่ลานน้ำพุตรงจุดที่มีการแสดง Wonder Full Light ภาพด้านล่างถ่ายจาก Sky walk เดินจาก Garden by the bay ครับโดยทางขึ้นเป็นบันไดเลื่อน การเดินทางนี้จะทำให้เราเดินไปดูการแสดงที่ Marina Bay เร็วที่สุดครับ
เวลาในการแสดงโชว์ Wonder Full – Light & Water Spectacular
วันอาทิตย์ – พฤหัสบดี : 20:00 น., 21:30 น.
วันศุกร์, เสาร์ : 20:00 น., 21:30 น., 23:00 น.
เดินตามทางจะทะลุตึก โรงแรมเรือ(Marina Bay Sand) ออกมาที่ลานข้างนอกครับ
๐ Helix Bridge of Marina Bay..
ปกติแล้วคนที่มาเที่ยว Singapore เค้าจะเลือกอยู่ฝั่ง Marina Bay Sand 1คืนเพื่อดูการแสดงฉายภาพจากน้ำพุ แล้วไปอยู่ฝั่ง Merlion 1คืนเพื่อรับชมการฉายไฟจากตึก Marina Bay Sandครับ แต่ของผมเลือกชมการแสดงจาก Helix Bridge 1คืน และดูการฉายไฟของตึก Marina Bay Sand จากฝั่ง Merlion อีก 1คืน เป็นสองคืนสุขสันต์ ดังนั้นผมจะไม่มีภาพการแสดงน้ำพุครับ
เดินขึ้นไปจากปาก marina Bay จะเจอสะพานที่เค้าว่ากันว่า สร้างโดยออกแบบจาก DNAมนุษย์ครับ ชื่อว่า Helix Bridge ครับ จากจุดนี้สามารถมองเห็นสิ่งสวยๆงามๆเพียบเลย 555+ ต้องมากลางคืนนะครับ ถึงจะสวยงาม
ผมยืนรอจนมีการแสดงที่เวลา 9.30ครับ ก็จะได้วิวสวยๆแนวนี้มาครับ แต่จะไม่ได้ดูการแสดงที่น้ำพุ
จบการผจญภัยในค่ำคืนแรก การท่องเที่ยวในสิงคโปร์ หากเป็นรอบๆ Marina Bay ค่อนข้างจะต้องเดินหน่อยนะครับ 555+ กลับห้องนอน
๐Day8 Singapore
ผมตื่นตอนตอน 7โมงเช้า (6โมงเช้าไทย) เพื่อไปเดินเล่นรอบๆ Marina Bayครับ ลงที่เดิมครับ Bay Front เพราะว่าที่พักของผมสะดวกที่จะเดินทางไป Bay Frontครับ อากาศตอนเช้าในช่วงที่ผมไปไม่เย็นไม่ร้อนครับ แต่เดินๆแล้วเหงื่อก็ออกเหมือนกัน ผมเดินวนทั้งอ่าว 1 รอบแล้วกลับมาลงรถไฟฟ้าที่เดิม เพื่อนอนต่อ 555+
แรกพบสบตา Merlion ครับ ผมไม่เข้าใจจริงๆทำไมคนต้องเห่อมาถ่ายรูปกับสิงโตพ่นน้ำที่นี่
๐ Fort Canning Park ...
การเดินทางไปที่นี่ผมขอ Ref. จากกระทู้ของคุณ Komushiru นะครับ Link ::
http://pantip.com/topic/34886451 เขียนอธิบายทางไปได้อย่างชัดเจนมากๆ จริงๆที่นี่ไม่มีอะไรเลย แต่ผมไปก็เจอกลุ่มคนไทยมาถ่ายรูปกันแล้วมันสวย คือที่นี่มีแต่คนไทยมานะครับ 555+
๐ China Town & Sri Mariamman Temple & Buddha Tooth Relic Temple
อยู่ใกล้กับที่พักย่าน China Town ผมมีเวลาก็ออกไปเดินเล่นครับ ตัวโซน China Town เหมือนโซนตลาดช๊อปปิ้งบ้านเรา แต่ขายสินค้าจีนๆหน่อยครับ ส่วนวัดก็สวยงามดีครับ แต่คนเยอะมาก ผมเดินวนๆแล้วก็กลับ เก็บภาพมานิดนึง
๐ข้าวมันไก่เจ้าดัง
คนเข้าแถวเยอะมาก หาพิกัดก็ชื่อตามป้ายเลยครับ แต่อาจจะต้องมีเวลา 1-2ชั่วโมงเพื่อจะกินมัน - -" เท่าที่ผมไปยืนดมและชิมๆดู รสชาติไม่ได้ต่างจากข้าวมันไก่ไทยมากครับ แค่น้ำที่ราดมารสชาติมันอร่อยดี (เหมือนซีอิ๋วหวาน)
๐Marina Barrage
หลังจากอ้อร้อมาทั้งวันช่วงเย็นผมตัดสินใจ ไปถ่ายแสงเย็นที่ Marina Barrageครับ โดยการเดินทางไปที่นี่ จำเป็นต้องนั่งรถเมล์ไปครับ หรือจะเดินไปก็ได้ครับ เดินผ่านไปทาง Garden by the bay หากจะไปโดยรถเมล์การเดินทางไม่ยากเพียงแต่ข้อมูลใน Pantip เก่าๆไม่สามารถใช้ได้ เนื่องจากถนนมีการปรับใหม่ครับทำให้ต้องหาจุดขึ้นรถใหม่ แต่ไม่ยากเดี๋ยวผมจะปักจุดขึ้นรถเมล์ไว้ให้ จุดขึ้นรถตามภาพด้านล่างนะครับ MRT bayfontเลย แต่จำเลขทางออกไม่ได้ 555+ จุดสีฟ้านะครับจุดรอรถ สายรถผมจำเลขไม่ได้จริงๆ แต่จะมีป้ายเขียนไว้อยู่ครับ หาเลย "Marina Barrage"
ถ้าคุณมาที่นี่จะพบคำตอบว่าทำไมประเทศ สิงคโปร์เป็นประเทศที่น่าอยู่ Marrina Barrage เป็นจุดที่อยู่ติดทะเล ลมจะพัดแรงตลอดเวลา มองออกไปทางขวาจะเป็นทะเลที่มีชายหาดให้เดินเล่น มองไปทางซ้ายจะเป็นมุม Marina Bay ยอดนิยมครับ ตอนเย็นจะมีคนมานั่งเป็นครอบครัวแคมป์ปิ้งฟรุ้งฟริ้งกันเพียบ ชอบมากๆเลยบรรยากาศแบบนี้
ผมยืนรอแสงให้มืดค่ำ ภาวนาให้ฝนไม่ตกครับ เพื่อเก็บภาพแสงเย็นที่นี่
ผมเจอคนสิงคโปร์คนนึงมาตั้งกล้อง เลยถามเค้าว่ามาถ่ายภาพมุมนี้เลย เค้าเลยบอกผมว่า วันนี้ประมาณ 2ทุ่มจะมีการยิงพลุครับ ผมเลยอ้าวหรอยืนรอเล่นดูเลยแล้วกันเผื่อจะได้เห็นอะไรสวยๆ แต่พอถ่ายเสร็จ ผมต้องรีบเก็บของดิ่งตรงกลับไป Marina Bay ฝั่ง Merlion ภายใน1ชั่วโมง!! 55+
๐ Wonderfull Light From merlion side...
พอผมถ่ายที่ Marina Barrage เสร็จสิ้นเวลาประมาณ 20.15pm ผมต้องเดินทางไปที่ Merlion ให้ทันก่อน 21.30pmครับเพื่อไปดูการแสดงให้ทัน โดยผมใช้การเดินและลัดเลาะผ่านเส้นทาง Garden by the bay ครับแวะถ่ายภาพมานิดนึง 555+
ผมเร่งฝีเท้าเดินทะลุ Garden by the bay ด้วยเส้นทางเดิมผ่าน Marina Bay Sand แล้วเดินวนรอบมาที่ Merlion ทันเวลาพอดีครับ
ถ่ายอยู่มุมเดียวเลยครับ ต้องไปดูด้วยตาตัวเอง มีเสียงและแสง
หลังจากเสร็จกิจที่นี่ผมก็กลับห้องนอน เพราะว่าแถวบริเวณ Merlion คนเยอะมากครับ ตอนแรกคิดว่าจะไปเดินถ่ายรูปเล่นแต่คนเยอะจนหามุมถ่ายรูปไม่ได้เลยครับ มากันแบบฟรุ้งฟริ้งเป็นคู่ๆ อากาศเย็นฝนตก ผมก็หนาวขึ้นมาทันที 555+
๐Day9 Singapore Last day in Trip
วันนี้ผมตื่นเช้ามาเดินวนรอบ Marina Bay อีกรอบแต่ตื่นเช้ากว่าเดิมครับหวังจะเก็บแสงเช้า แต่สุดผิดหวัง เนื่องจากไม่ได้ดูแลกล้องให้ดีเกิดไอน้ำหน้าเลนส์ตลอดช่วง 15นาทีที่มาถึง พออาการหาย แสงก็สว่างซะแล้วครับ น้ำตาไหลพราก555+ ไว้มาแก้มือ
ภาพสวยๆมากมายรอบๆอ่าว Marina bay ช่วงเช้าแต่ช่วงเดือนที่ผมมา อาจจะเป็นช่วงหน้าฝนอากาศไม่ค่อยจะเป็นใจเท่าไหร่ ตอนเช้าฟ้าจะใสอยู่ได้แค่แปปเดียวเท่านั้น เมฆดำก็จะขยับเข้ามาปกคลุม
ใจจริงผมอยากมาที่นี่ช่วงค่ำมากกว่า แต่ดัน Manage เวลาไม่ได้ครับเลยต้องมาวันสุดท้ายช่วงกลางวันแทน การเดินทางไม่ยากครับ นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Esplanade CC3 แล้วเดินผ่านทางเดิน City Link Mall ที่ใต้ดิน จะมีป้ายชี้ไป Fountain of Wealthครับ ห้างไฮโซมากๆ 55+
มีเวลาเปิดให้เข้าด้วยครับ ถ้านอกเวลา น้ำพุจะเปิดปกติแล้วประตูจะปิดเข้าไม่ได้ครับ
เวลาจะเป็นดังนี้ครับ 9.00-12.00 น, 14.00-18.00 น, 19.00-19.50 น, 21.30-22.00 น. ครับ
๐ Clarke Quay
ที่นี่เหมาะกับการนั่งจิบเบียร์ ดื่มเหล้ายามค่ำคืนมากๆ แต่ผมไม่มีเวลาเลยแวะมาช่วงกลางวัน การเดินทางก็รถไฟฟ้าเลยครับลงตามชื่อสถานที่เลยตรงกับชื่อสถานี ผมเดินวนสองสามรอบแวะเก็บภาพทั่วๆไปมาฝากครับ
บรรยากาศเหมือนแหล่งช๊อปปิ้ง Outdoor ทั่วๆไปในตอนกลางวัน แต่ถ้ากลางคืนละก็... เหล้าเบียร์ชิคๆเพียบ บรรยากาศดีริมน้ำ
หลังจากเสร็จจากที่นี่ ผมก็เก็บของไปสนามบินเพื่อรอขึ้นเครื่องเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดครับ - -" ประเทศไทย โดยปกติแล้วหากเรา Check-Out เราจะยังสามารถฝากกระเป๋าไว้ได้นะครับ เที่ยวเสร็จค่อยกลับไปเอา
ที่พักของผม Beary Best Hostel ผมชอบมากๆเลยครับ แนะนำๆ
End of Main Episode การเดินทาง...
รวมเด็ดเกร็ดย่านน้ำ และสิ่งที่อยากจะบอกเล่าเก้าสิบ ...
๐ของกินในประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย ผมไม่ได้ระบุไว้ แนะนำให้ List ร้านที่อยากจะไป(ถ้ามี)ซึ่งข้อมูลก็มีคนแนะนำเยอะม๊าก หากเราListไว้จะได้ลงแปลนได้ครับ ว่ามันใกล้แหล่งใดและควรจะแวะตอนไหนเพื่อความสะดวก ส่วนนี้ทำไม่ยากครับ คิดว่าเพื่อนทำกันได้อยู่แล้ว ผมมองว่าแต่ละคนอาจจะชอบไม่เหมือนกันเลยไม่ได้บอกว่ากินอะไร ส่วนผมก็จะมีแซมๆร้านดังบ้าง แต่มื้อเย็นส่วนใหญ่จะเน้นสะดวกครับ
๐ เรื่องของ Universal ที่สิงคโปร์ (ความคิดเห็นส่วนตัว)
หากเราเดินทางเพื่อไปเที่ยวสิงคโปร์ และมีเวลาเหลือ หรือมีความชอบที่จะเข้า ก็น่าสนใจครับ แต่หากเป็นคนสายเดินทาง เวลาไม่มาก ผมอยากให้ลองมองที่เที่ยวอื่นๆ ที่มันยังมีสิ่งดีๆให้เราไปพิชิตก่อนที่จะเอา 1 วัน กับเงิน1ก้อนเพื่อไปเที่ยวที่ Universalครับ 555+ แต่ถ้าวันเยอะก็โอเคร
๐ว่าด้วยเรื่องของน้ำดื่ม
ผมแนะนำให้มองดูในที่พักก่อนครับ ว่ามีให้เติมมั้ย ถ้าเป็น Hostel 50%จะมีให้เติมครับ แต่ถ้าไม่มีก็จะมีขายซึ่งราคาถ้าเทียบกับข้างนอกแล้วเกือบ 100% ราคาถูกกว่า
๐Hostel
- 80%ของที่ไปพักมีอาหารเช้าเป็นบุฟเฟ่ต์ครับ และทุกที่มีขนมปังปิ้ง ทาเนยกับเนยถั่วครับ ซึ่งอร่อยมาก ==
- พกแม่กุญแจ (กับลูก)ไปด้วย เพราะการนอน Hostel เค้าจะมี Lockerให้แต่ไม่มีที่ล็อคให้
- เวลานอน เอากระเป๋าสำคัญไว้ข้างหมอน หรือใส่ไว้ใน Locker ก็ดีครับ แต่ของผมเอาเป้ที่ใส่ของสำคัญไว้เตียงด้านใน
๐ Airport
ถ้าต้องรอขึ้นเครื่องนานที่สนามบิน มีที่เติมน้ำดื่ม ทั้งร้อนและเย็นนะครับ
ที่นี่มีไวไฟฟรีด้วยครับ
ควรศึกษาคำศัพท์เฉพาะมานิดนึงด้วยนะครับ พวก กระเป๋าชิ้นนี้โหลดกระเป๋า หรือ เอาขึ้นเครื่อง ทำนองนี้ครับ
๐ Tourist Pass
ค่าใช้จ่ายในสิงคโปร์ หากเราหาซื้อเจ้านี่ได้ไว ก็จะประหยัดงบไปเยอะ ของผมปิดบ้าง ไม่มีที่สถานีนี้บ้าง เสียไปเยอะครับกว่าจะเจอ
๐อยากจะบอก
1. ฝรั่งสายเที่ยวส่วนใหญ่ที่เราเจอ ชื่นชมประเทศไทย เวลาบอกว่ามาจากไทย ส่วนใหญ่จะตาเป็นประกายแล้วพูดถึงสิ่งดีๆที่เมืองไทยให้เราฟัง
2. ฝรั่งที่เที่ยวโซนเอเชีย เราว่าส่วนใหญ่อยากไปประเทศไทย ที่เราเจอมีเยอะมาก ที่เพิ่งมาประเทศไทย หรือกำลังจะบินมาประเทศไทย
3. แปลกมาก ที่เรารู้สึกสบายใจ "เวลาพูดภาษาอังกฤษกับฝรั่งหลายคนโดย ไม่มีคนไทยฟังอยู่" มากกว่า "การพูดกับฝรั่งที่มีคนไทยฟังอยู่ด้วย"
4. เราย้ายเมืองทุกวัน ย้ายที่พักแทบจะทุกคืน เจอผู้คนหน้าใหม่ในทุกวัน ตื่นเต้นเสมอ เวลาเปิดประตูห้องพัก แล้วมีชาวต่างชาติหันมามอง
5. แต่ถ้าคุณคล่องภาษาอังกฤษ คุณจะได้เพื่อนโคตรเยอะ เพราะชาวต่างชาติที่ชอบเที่ยวส่วนใหญ่ เปิดตัวเอง และอยากพูดคุยกับเพือนใหม่
6. เราเอ่ยคำว่า "ขอโทษนะ สำหรับทักษะภาษาอังกฤษที่ไม่ดีของฉัน" บ่อยมาก แต่ทุกครั้ง กลับได้รอยยิ้มและเสียงขำเบาๆกลับมา พร้อมบอกอย่างเฮฮาว่า "เห้ย ไม่เป็นไรสบายมาก"
7. บางวันเวลาเจอเรื่องแย่ๆ แม่มก็แย่รัวๆเลย แย่ที่1 แย่ที่2 แย่ที่3 แล้วก็แย่ที่4 แต่จงมุ่งมั่นทำสิ่งที่วางแผนไว้ให้สำเร็จ เช่น ยังไงก็ต้องเที่ยวที่นี่ให้ได้ หรือต้องทำในสิ่งที่วางแผนไว้ให้ได้
8. วันแรกเราใบ้มาก เรากลัวที่จะสปีก ฝรั่งนอนโฮสส่วนใหญ่ก็พูดมากอยู่แล้ว แต่สามวันหลังสุด เราหน้าด้านมาก แต่กลับสนุกซะงั้น คือก็คุยรู้เรื่องนะ ถ้าพูดสิ่งใดแล้วเค้างง ก็แค่เรียบเรียงคำใหม่ดีๆ เดวก็ฟังออก
9. เห็นคนไทยแล้วอบอุ่น - -.
10. ได้อะไรเยอะ ถ้าเราไปกับเพื่อน เราจะใช้เวลาเกือบทั้งหมดกับเพื่อนของเรา แต่ถ้าไปคนเดียว เราจะใช้เวลาเกือบทั้งหมด กับทุกคนรอบๆตัวเรา
สรุปค่าใช้จ่าย
1. ที่พัก 1 คืนที่ ปีนัง = 260 บาทไทย
2. ที่พัก 1 คืนที่ KL = 600 บาทไทย
3. ที่พัก 1 คืนที่ Meleka = 633 บาท
4. ที่พัก 2 คืนที่ Cameron = 600 บาท (ราคาประมาณ)
5. ค่าเดินทาง ตั๋วบินสิงคโปร์ไทย = 1100บาท
6. รถไฟบัตเตอร์เวิธ = 1200บาท
รวมค่าใช้จ่ายที่จ่ายก่อนเดินทาง = 4,400 บาท (จ่ายไปก่อนเดินทาง)
ค่าใช้จ่ายในมาเลเซีย
7. รถทัวร์ Penang --> Cameron = 43 RM
8. รถทัวร์ CH to KL = 35RM (ถ้าจองผ่านเว็บรู้สึกจะถูกกว่า 320บาท น่าจะคิดตามเรทเงิน)
9. รถทัวร์ KL --> Malacca = 13.5 RM
10. รถทัวร์ Malacca --> Singapore = 27RM
11. ค่าซิมอินเตอร์เน็ต = 20RM
12. ค่าทัวร์ที่ Cameron ตีไป 50RM ครับ เผื่อๆ
รวมค่าใช้จ่ายหลักที่มาเลเซีย = 188.5 RM ตีเป็นเงินไทย 1,700บาท โดยประมาณ
ค่าใช้จ่ายในสิงค์โปร์
12. ค่าอินเตอร์เน็ต = 8$
13. Tourist Pass = 16$ (+Deposit 10$ = 26)
14. ที่พัก 2คืนที่สิงคโปร์ Beary Best Hostel 2คืน SGD 64.60 (+Deposit 15$ = 79.6)
รวมค่าใช้จ่ายหลักที่สิงคโปร์ = 88.6 RM ตีเป็นเงินไทย 2,215บาท โดยประมาณ
** รวมค่าใช้จ่าย 8,800 บาท เฉพาะค่าใช้จ่ายหลัก
สรุป!!
รวมค่าใช้จ่ายที่จ่ายก่อนเดินทาง = 4,400 บาท
เงินที่ผมแลกไป ผมแลกไปมาเลเซีย 5,500บาท (สำหรับจ่ายอย่างเดียว ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่พักที่จ่ายไปก่อนแล้ว)
ผมแลกไปสิงคโปร์ 4,500บาท (รวมค่าที่พัก 64.6$ 2 คืนที่ต้องไปจ่ายตอน Check-in)
เงินที่เหลือกลับมา 500 บาท ครับ 5555+
รวมเงินที่จ่ายไป 13,900บาท
** ถ้าไปสองคนจะประหยัดไปเยอะครับ แล้วผมกินเยอะด้วย เปลืองกับน้ำและของกินใน 7-11 เยอะมาก555+
ติดตามการเดินทางของหมี :
https://www.facebook.com/bearalone/
A Bear & Alone
วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 14.32 น.