One day trip : ชิวๆที่เกาะแสมสาร
**ขอเกริ่นก่อนว่า ทางเราต้องขออภัยเป็นอย่างมากที่ทางเราไม่ได้ถ่ายภาพบรรยากาศหรือกิจกรรมบนเกาะได้เห็นภาพอย่างชัดเจน แต่ทางเราก็อยากจะแชร์ และแนะนำเกาะแสมสาร ให้เพื่อนๆได้ไปสัมผัสกันนะคะ**
ทริปนี้เพื่อนๆได้ฟังครั้งแรกจากการบ่นของป่านว่าเอ้ยย แม่งอยากไปวะ แต่ไม่ได้ไปสักที เลยลองชวนเล่นๆ เพราะคิดไว้ว่าไม่น่าจะมีใครไปหรอกกก มันเปลืองตังค์มากกก ในช่วงแรกๆ เพื่อนก็เหมือนจะไม่อยากไป แต่พอเรา psycho เข้าไปเรื่อยๆ นางรำคาญมั้งง เลยตกลงยอมไป 555555 เราเลยตกลงว่าไปวันที่ 12 ธ.ค.
เราเริ่มเดินทางจากหนองมน อีกเช่นเดิม โดยรถตู้อีกเช่นเคย ทางเราหลับกันตั้งแต่หนองมน รู้ตัวอีกทีคุณพี่คนขับก็มาบอกว่า "เดี๋ยวลงที่กม.1 นะแล้วต่อ 2 แถวเข้าไปที่ท่าเรือเขาหมาจอ"
******ท่าเรือเขาหมาจอ คือท่าเรือที่สามารถเดินทางไปเกาะแสมสารและเกาะขาม การไปเกาะแสมสารสามารถซื้อตั๋วที่ท่าเรือได้เลย แต่ถ้าไปเกาะขาม จะต้องไปซื้อตั๋วอีกที่นึง ซึ่งบอกคนขับรถสองแถวได้เลยว่าจะไปที่ไหน เดี๋ยวเค้าพาไปเอง******
3 ชะนีก็ทำตามที่พี่เค้าบอก สารภาพเลยว่าตอนนั้นระหว่างทางคือหยุดยิ้มไม่ได้เลย ดีใจ แบบทุกอย่างสดชื่นมาก มีความสุขมากๆ แฮปปรี้ และพอไปถึงก็ไปซื้อตั๋ว ไปซื้อตั๋วเสร็จก็ไปนั่งกินข้าวกัน ซึ่งด้านหน้าท่าเรือจะมีร้านอาหารราคาย่อมเยาบริการอยู่จ้า
เราใช้เวลาเดินทางไปยังเกาะประมาน 15 นาที พอไปถึงก็จะมีวิทยากร/เจ้าหน้าที่ดูแลเกาะเค้าจะอธิบาย ส่วนต่างๆของเกาะ กิจกรรมต่างๆข้อห้ามและกฎระเบียบภายในเกาะ ใช้เวลาในการนั่งฟังในส่วนนี้ประมาน 5 นาที หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถรับส่งของเกาะที่หน้าตาเป็นรถสีขาว เหมือนรถในสวนสัตว์ เพื่อนั่งไปฝั่งหาดลูกลม ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดอยู่ที่ฝั่งนั้น กิจกรรมบนเกาะก็จะมี ดำน้ำตื้น ล่องเรือท้องกระจก พายเรือคายัค เดินขึ้นไปยังจุดชมวิว ซึ่ง 3 อย่างแรกจะมีการเสียค่าธรรมเนียมเล็กน้อย พอกรุบๆ แต่สิ่งที่ดีมากๆของที่นี่คือ หาดที่ขาวสะอาดมากกกกก ประกอบกับน้ำสีฟ้าๆเขียวๆที่โคตรใส ประทับใจมาก
แต่สิ่งแรกที่เราเลือกทำก็คือการขึ้นไปที่จุดชมวิว ในในที่คิดคือเดินไกล ปรากฏว่าความจริงคือแค่ 5 นาทีก็ถึง ไม่ทันได้รู้สึกเหนื่อยอะไร แต่วิวก็สวยงามตามท้องเรื่องเนอะ
เสร็จปุปก็ลงมานั่งชิวๆกัน เรียนดำน้ำกับครูฝึกเป็นการส่วนตัว เพราะวันนั้นที่ไปคือแทบไม่มีคน แต่เสียดายวันนั้นที่ไปน้ำค่อนข้างขุ่น + ปริมาณน้ำค่อนข้างเยอะ เลยไม่สามารถเห็นความสวยงามของปะการังได้เต็มที่ แต่ปลาเยอะมากกก ยังจำได้ติดตานางน่ารักมาก แบบฟินสุดๆตอนว่ายไปกับฝูงปลาในทะเล เจ้าหน้าที่ที่ดูแลก็ใจดีและเป็นมิตร คอยสอนคอยดูแล สนุกประทับใจ
หลังจากนั้นก็มานั่งเติมน้ำตาลในเลือดเพราะนี่รู้สึกปวดหัวคงเป็นเพราะนอนน้อยและทำกิจกรรมกลางแจ้งมั้ง55555 สักพักก็นั่งเรือรอบสุดท้ายกลับมาฝั่งท่าเรือ ซื้อชาเขียวที่ทางอุทยานเข้าเปิดขาย เป็นร้านเล็กๆ ซื้อเสร็จก็เดินออกมารอรถ และแม่งง ดวงยังดี คือรถรอบสุดท้ายมาพอดี แบบโอ้ยยย เกือบแล้วมั้ยละ ก็นั่งๆไป นี่ก็บอกคนขับแล้วนะว่าลง กม.1 แต่นางไม่จอดจ้า จนเลยไปที่กม.5 นางก็บอกว่าไปรอหน้าโลตัสดีกว่าตรงนี้มันเปลี่ยว เลยตดสินใจไปรอหน้าโลตัสกัน พร้อมสอนทริคที่ว่าโฐกทุกคันคันไหนจอดไปคันนั้น อีนี่โอเค แค่เห็นเป็นรถตู้ก็โบกไม่อ่านอะไรทั้งนั้นโบกอย่างเดียว วันนั้นมั่นใจว่าโบกไม่ต่ำกว่า 10 คันแน่นอน กว่าจะได้กลับก็เกือบ 6.30 ถึงหนองมนเกือบ 2 ทุ่มเพราะคุณพี่เค้าเล่นจอดทุกๆ 500 เมตร พอถึงหนองมนมันก็เริ่มหิวแล้วเลยหาไรกินกันที่หนองมนก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ เป็นทริปที่น่าจดจำในปี 2018
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่ารถไป-กลับบางแสน-สัตหีบ 220 บาท (+นางบวกเพิ่มโดนโก่งราคานั่นเอง)
ค่ารถสองแถวไป-กลับจากกม.1-ท่าเรือ 40 บาท
ค่าเรือไป-กลับข้ามเกาะ 300
ค่าของกินบนเกาะ 70 บาท
ค่าอุปกรณ์ดำน้ำ 50 บาท
เปลเก้าอี้ 20 บาท
รวม 700 / +-ไม่เกิน 200 ในกรณีการทำกิจกรรม และของทานเล่น
คะแนน 8.5/10
Wander Around
วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 00.30 น.