🗻ในที่สุดความฝันก็เป็นจริงกับประเทศที่อยากไปโคตรๆสักครั้งในชีวิต หลังจากทำงานเก็บตัง ก็เที่ยวให้มันสุดๆไปเลย 📌

กับ 12 วันที่ญี่ปุ่น (2 วันไป-กลับสนามบิน)
มาเริ่มกันเลยดีกว่า กับ🏃‍♂️ "10 วัน รันเจแปน"
ไม่ได้รันวงการนะ วิ่งนี่แหล่ะ!! สับตีนแตกให้ ทันรถไฟ 🤣 เพราะไปหลายเหมือง พยายามเก็บหลายๆที่ ได้ที่ไหนบ้างไปดูกันเลย...💓
-----------------------------------------------
รอรับชมรูปแบบวีดีโอเร็วๆนี้นะจ๊ะ
ฝากติดตาม 👇
FB : Suaykod
IG : suaykod
www.suaykod.com
#ท่องเที่ยว #ญี่ปุ่น #สวยโคตร #suaykod
#samuraiwifi #globalwifi #pocketwifi #unlimitedinternet

ทริปนี้การเดินทางบนรถไฟค่อนข้างหนักอยู่พอสมควรเพราะอยากไปหลายๆที่หลายๆเมือง
แต่ถือว่าคุ้มค่ามากได้ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรมและความบันเทิง สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยจริงๆคือ WIFI เราเลือกใช้ของ Samuri-wifi บอกเลยว่าทริปนี้หลงทางบ่อยมาก โชคดีที่มี Wifi กับเน็ตอันลิมิต การเดินทางในญี่ปุ่นไม่ยากอย่างที่คิดเมื่อเราพอเข้าใจแล้ว Google map คือไกด์คนสำคัญของเราเพียงแค่เราต้องวิ่งไปให้ทันรอบรถไฟ 555 เอาหล่ะไปรับชม 10 วันแห่งการรันเจแปนกันได้เลย !!


เช้าวันแรกเดินทางจาก ชินจุกุ สู่เมืองเล็กๆที่เต็มไปมีทิวเขาที่สวยงามและบรรยากาศโคตรดีย์ เป็นมรดกโลก สถานที่ๆควรแวะที่สุด
1. ศาลเจ้านิกโกโทโชงู
2. ศาลเจ้านิกโกฟุตะระซัง
3. ทะเลสาบชูเซ็นจิโกะ
4. น้ำตกเคงง
5. หมู่บ้านนิกโกเอโดะ

สถานที่ๆเราเลือกไปก็มี กระเช้าลอยฟ้า
น้ำตก สะพานแดง เป็นฟิลธรรมชาติที่สวยโคตรแถมยังเป็ยสถานที่ทางประวัติศาสตร์
🚅 การเดินทางนั่งรถไฟจาก ชินจุกุ-นิกโก
🚌 เดินทางด้วยรถเมย์ไปยังสถานที่ต่างๆ
🚅 เดินทางกลับโตเกียวใช้เวลา 2 ชม.

ไปต่อกันที่วิวฟูจิ ฮาโกเน่ เดินทางง่ายไม่ไกลจากโตเกียว อากาศดี กินไข่ดำ ร่องเรือทะเลสาป ขึ้นกระเช้า ครบเครื่องเรื่องวิวธรรมชาต

- ฮาโกเน่ยุโมโตะ
- ศาลเจ้าฮาโกเน่
- ร่องเรือทะเลสาบอาชิ
- นั่งกระเช้าชมหุบเขาโอวาคุดานิ

สำหรับใครที่มีเวลาเหลือก็ยังมีที่น่าสนใจอีกมากมายอาทิเช่น มิชิมะ โอดาวาระ สวนอนชิฮาโกเน่ เป็นต้น ลองไปจัดดูของเราประมาณนี้หมดวันพอดี


นั่งกระเช้าชมหุบเขาโอวาคุดานิหรือหุบเขานรกใต้พื้นผิวยังมีไอร้อนที่พุ่งระเหยเป็นไอน้ำและเห็นวิวสวยๆของทะเลสาปกับลูกพี่ฟูจิ

🚅 การเดินทางนั่งรถไฟจาก ชินจุกุ-ฮาโกเน่
🚌 เดินทางด้วยรถเมย์ไปยังจุดแรก
🚢 นั่งเรืออีก 30 นาทีเพื่อไปนั่งกระเช้าต่อ
🚡 ขึ้นรถรางเพื่อกลับไปยังสถานีรถไฟ
🚅 เดินทางกลับโตเกียวใช้เวลา 1-2 ชม.

หลังจากอิ่มจากธรรมชาติมา 2 วันเต็ม มาต่อกันที่สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ ที่ว่ากันว่าเป็นสวนสนุกโคตรโหดของญี่ปุ่น ไม่เสียค่าเข้าแต่ถ้าใครอยากเล่นทุกเครื่องก็ควรซื้อ Pass จริงๆตั้งใจแวะ Fuji-michi เมืองฟูจิชิโยดะ กับถนนสตรีทสุดฮิตแต่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ไม่เห็นฟูจิก็ตรงมาที่สวนสนุกแห่งนี้เลย อีกอย่างเราเลือกพักแถวนี้เพื่อสะดวกแก่การเดินทางในวันต่อไป

ชอบโซนนารูโตะเพราะว่าชอบการ์ตูนเรื่องนี้ด้วยและมีโซนอื่นๆที่น่าเล่นอีกมากมายโดยเฉพาะรถไฟที่ติดอันดับกินเนสเวิลด์ เรคคอร์ด กับฉายา King of Coasters ขิงขนาดนี้ขอบอกเลยว่า ไม่กล้าเล่นจ้า !! ขอไปโซนม้าหมุนดีกว่า
🏠 เลือกพักผ่อนใกล้กับ ฟูจิคิวไฮแลนด์

เดินทางกันต่อกับ คาวากุจิโกะกับทะเลสาปขึ้นชื่อสวยติดอันดับในการถ่ายภาพวิวภูเขาไฟฟูจิ แต่ทว่าวันนี้ลูกพี่ฟูจิขี้อายไม่ค่อยได้เห็น แต่แค่ได้ชมวิวที่นี่ก็คุ้มสุดๆแล้ว สำหรับที่นี่ก็เลือกชมได้เลยกับการนั่งรถทัวร์โดยเราเลือกลงที่ สถานีสุดท้าย 22 > 17 แล้วเดินทางกลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้กับที่พักและเดินทางกลับโตเกียว เพื่อไปส่งเพื่อนๆที่อยู่แค่ 5 วัน
🚅 เดินทางด้วยรถไฟกลับโตเกียว

หลังจากส่งเพื่อนๆกลับประเทศไทย ผู้เหลือชีวิตรอดก็เที่ยวต่อโดยวันนี้พักเท้ากันซักหน่อย เดินเล่นในเมือง อย่าง สถานีรถไฟโตเกียว ชิบูย่า อากิฮาบาระ อาซากุสะ
โดยเรามี JR PASS เที่ยวเมืองในก็ได้ไปกลับสบายๆ ยกเว้น อาซากุสะที่ยอมเสียตังกับสถานีรถไฟ Ginza ราคาเพียง 180เยน เท่านั้น เพื่อไปเที่ยววัดวัดเซ็นโซ

ออกเดินทางต่อในวันที่ 6 มุ่งสู่ โอซาก้า!!
ครั้งนี้การเดินทางยาวนานหน่อย มาถึงก็มืดแล้วแวะเอากระเป๋าทิ้งไว้ที่โรงแรมและออกมาเดินเล่นที่ย่าน โดทงโบริ ก่อนแยกย้ายไปพักผ่อน

วันที่ 7 กับที่ๆอยากจะไปมากที่สุด!! Universal studio japan ไปรอตั้งแต่เช้าตรู่พอประตูเปิดรีบวิ่งไปที่โซนแฮรี่พอตเตอร์ก่อนเลย เครื่องเล่นดีจริงๆสมกับการรอคอย เที่ยวทั้งวันที่ Universal เก็บเครื่องเล่นต่างๆได้ครบถ้วนสำหรับที่อยากเล่น ใช้พลังงานไปเต็มสูบ

ชอบทุกเครื่องเล่นและการแสดงถึงแม้จะเคยดูใน youtube แล้วแต่การได้มาสัมผัสด้วยตาตัวเองยังไงมันก็ได้อารมณ์กว่าแน่นอน...

หลังจากสนุกกันเต็มที่แล้ว วันที่ 8 ต่อด้วยชมปราสาทอันเก่าแก่ของโอซาก้าซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองนี้และเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งเราชมแค่ไม่นานแค่ช่วงเช้า

มาต่อกันด้วยช่วงเย็นที่ตึกอูเมดะ ชมวิวเมืองโอซาก้าจากมุมสูงบนสวนลอยฟ้า โดยราคาตั๋วจะอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 1,500 เยน ชมวิวได้ถึง 360 องศา พร้อมชมพระอาทิตย์ตกดิน ที่นี่มี Heart lock หรือ รั้วแห่งคำสัญญา สามารถเขียนชื่อหรือวันครบรอบสำหรับคู่รัก แต่สำหรับเราก็ดูวิวเมืองกันต่อไป แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว...

มาต่อกันที่ นครเกียวโต อดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นเมืองแห่งศิลปะและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่างแท้จริงเต็มไปด้วยวัดและศาลเจ้าเก่าแก่ ที่จะมาขอพรก่อนเดินทางกลับโดยในวันนี้้เราไปกันที่ วัดฟูชิมิอินาริ > วัดไดโกจิ > กิออน และเดินทางกลับที่พักในเกียวโต

วันสุดท้ายที่วัด วัดคินคะคูจิและวัดคิโยะมิซ
วัดทองยอดฮิตและวัดน้ำใส 2 วัดนี้เป็นดังที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยการเดินทางในเกียวโตนั้นเน้นไปที่รถประจำทาง หลังจากเที่ยวเป็นอันเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางกลับโตเกียวและช็อปปิ้งก่อนกลับประเทศไทย

สถานที่ที่เราไปมีดังนี้
- สนามบินนาริตะ (นั่ง JR ไปชินจุกุ)
1. นิโกะ
2. ฮาโกเน่
3.ฟูจิคิวไฮแลนด์
4.คาวากูจิโกะ
5.โตเกียว
6.โอซาก้า+ ตลาดโดทงโบริ
7.ยูนิเวอร์แซล
8.ปราสาทโอซาก้า+ตึกอูเมดะ
9.เกียวโต : วัดฟูชิมิอินาริ+ไดโกจิ+กิออน
10.เกียวโต : วัดคินคะคูจิ+วัดคิโยะมิซุ
- กลับโตเกียว เตรียมพร้อมมสำหรับบินกลับ


* ทริปนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ JR PASS 14 วัน
และจองที่พักควรใกล้สถานีรถไฟ JR มากที่สุด
อ้อและก็กระเป๋าควรพกพาสะดวกมากๆด้วยจ้า


ความคิดเห็น