ทริปนี้ต่อเนื่องจากการมาชมงาน "เชียงรายดอกไม้งาม ครั้งที่ 16" และ "มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2019" การเดินทางไปภูชี้ฟ้ามีรถตู้บริการที่ท่ารถเก่าวันละ 1 รอบ เวลา 13:30 (บางวันอาจจะไม่มีบริการ) สอบถามหรือจองรถตามเบอร์ได้เลย ค่าโดยสารขาละ 200 บาท

วันที่เราไปรถเต็ม 14 ที่นั่งพอดี มารอบนี้รถตู้ไม่ได้วิ่งเส้นเชียงคำผ่านน้ำตกภูซางอีกแล้ว วิ่งเข้าเทิงแล้วขึ้นดอยเลย พี่คนขับน่ารักมากมีจอดให้ถ่ายรูปที่จุดชมวิวด้วย 

พอเปลี่ยนเส้นทางวิ่ง รถตู้มาถึงตั้งแต่ 4 โมงกว่า มีเวลาได้ขึ้นดูอาทิตย์ตกบนยอดภูชี้ฟ้าดอย รอบนี้เราพักที่เดิมที่เราเคยพักรอบก่อน ภูชี้ฟ้านิวรีสอร์ท เราชอบที่นี่ที่สะอาด ปลอดภัย ผ้าไม่มีกลิ่นอับ ห้องกันความหนาวเย็นจากด้านนอกได้ดี อาหารอร่อยไม่แพง และที่สำคัญพี่ชัตแกเป็นธุระให้หลายเรื่องทั้งหารถไปดอยผาตั้งในราคาว้าวมากรีบกระโดดงับทันที รอบนี้เราเลือกหลังที่ 5 ชอบบันไดขึ้นมาก

 เราบอกพี่ชัตว่าจะขึ้นไปดูอาทิตย์ตก แกเลยพาเราซ้อนมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปส่ง รีบจนลืมทุกอย่างทั้งไฟฉาย และเสื้อกันหนาว ระหว่างซ้อนมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปมีช่วงที่มอเตอร์ไซค์ขึ้นไม่ไหวเราก็เลยขอลงแล้วเดินขึ้นเอง คันอื่นๆ ก็ขึ้นได้นะ หรือเราตัวหนักเกิน ฝั่งนี้ระยะเดิน 760 เมตร ทางเดินไม่ยาก 

ระหว่างทางดอกพญาเสือโคร่งบานแล้ว

เดินขึ้นมาถึงคนน้อยมาก ชอบ ลมดี บรรยากาศดีงาม 

เดินเก็บภาพไปเรื่อยๆ อาทิตย์กำลังสวยพอดี

มารอบนี้ได้รูปที่มุมมหาชนและป้ายสักที รอบก่อนคนเยอะจนถ่ายได้แต่วิว ขอบคุณน้องๆ ที่ถ่ายรูปให้

อาทิตย์กำลังจะลับแล้ว แสงสวยมาก

ถึงเวลาเดินลงแล้ว หนาวแล้ว พอลงมาถึงพี่ชัตก็รออยู่แล้ว ขาลงแกก็คุยเรื่องนัดรถไปดอยผาตั้งวันรุ่งขึ้นให้ มื้อเย็นเราฝากท้องที่ครัวของที่พักเลย ราคาอาหารถูกกว่าร้านอื่นที่เราเคยกินเมื่อรอบก่อนอีก พออิ่มก็ออกมาเดินถนนคนเดิน แต่มันเงียบเหงามาก 

เช้าวันที่ 2 ของทริป (4 มกราคม 2563) วันนี้เราลงมาที่คิวรถขึ้นภูชี้ฟ้าตรงบริเวณจุดจอดรถตู้

ขึ้นตอนเช้ามืดแบบนี้สิ่งที่ห้ามลืมคือไฟฉาย แต่ถ้าไม่มีเขามีขาย ทางเดินเช้ามืดแบบนี้ลื่นนิดหน่อย ชื้นน้ำค้าง พอเดินขึ้นมาถึงคนล้นหลามมาก อึกทึกตรงป้ายสุดๆ เราเดินเลยลงมาอีกด้าน จุดนี้มารอบก่อนเราว่าถ่ายรูปสวยกว่าก็เลยลงมานั่งรอที่จุดเดิม ตรงนี้เป็นช่องลม ลมพัดแรงมาก หนาวสุดๆ แต่ตรงนี้มืดเงียบสงบมาก รอเกือบชั่วโมงแสงเริ่มมากแล้ว

 แสงเริ่มมาก็เริ่มมีคนลงมา เราตั้งเลนส์มือถือเสร็จก็ถอยออกมาให้ทุกคนถ่าย เพราะเวลาช่วงอาทิตย์ขึ้นสวยๆ จะมีแค่ไม่นาน เราก็ได้รูปจากคนที่มาถ่ายจุดนี้เหมือนกัน 

พอคนเริ่มลงมาเยอะขึ้น ช่องเล็กๆ นี้ก็แน่นจนเราควรขยับขยายไปที่อื่น เดินหามุมต่างๆ แล้วก็ได้คนใจดีถ่ายรูปให้อีก

ก่อนลงภูชี้ฟ้าอาทิตย์หลบเข้าหลังเมฆอีกรอบ ปล่อยออกมาแค่ลำแสง

ลงมาขึ้นรถคิวที่จอดรอได้เลย จ่ายค่ารถขาละ 30 บาท/คน พอลงมาที่พักมื้อเช้าเป็นข้าวต้มเห็ดหอม 

9 โมงรถมารอรับแล้ว ออกจากที่พักตอนแรกจะแวะภูชี้เดือนกับภูชี้ดาว แต่พอได้ยินค่ารถที่ต้องจ่ายภูละ 500 บาท และไม่มีคนหารด้วยก็เลยเปลี่ยนใจไม่ขึ้นแล้ว ตรงไปที่ดอยผาตั้งกันเลย จุดแรกที่น้องคนขับพามาคือ โรงเรียนบรรพตวิทยา มาชมดอกพญาเสือโคร่งบานสะพรั่ง สวยงามทั้งโรงเรียน ช่วงนักท่องเที่ยวเยอะจะต้องเปลี่ยนขึ้นรถบริการขึ้น-ลง 20 บาท (2 ขา) 

หลังจากเดินชมดอกพญาเสือโคร่งจนฉ่ำใจก็มาต่อกันที่จุดชมวิวดอยผาตั้ง เริ่มต้นทริปเดินที่สนุกมาก อากาศกำลังดี แดดก็ดีมาก ขึ้นบันได้มาจะเจอซุ้มประตู "ผาบ่องประตูรักแห่งขุนเขา" 

เดินขึ้นมาตรงจุดที่มีพระพุทธรูปอยู่ ก็เริ่มมีวิวสวยแล้ว

เดินต่อมาที่ป่าหิน มีหินเหมือนสวนหิน จุดที่นั่งหินก้อนนั้นโยกได้ และไม่มีที่เหยียบด้วย นั่งเกร็งมาก

ลงจากป่าหินจะเห็นผู้คนมหาศาลบนเนิน 102 เราก็เลยเลือกเดินไปที่เนิน 103 ก่อน ระหว่างทางมีเส้นทางเดินชัดเจน

พอมาถึงเนิน 103 ไม่มีคนเลยแล้วมันดีมาก สงบ ลมเย็นมาก ชอบเนิน 103 สุดๆ วิวก็ดีงามมาก

ลงจากเนิน 103 มาต่อที่เนิน 102 และเหมือนยังคงมีแต้มบุญบ้าง คนหายหมดแล้ว 

ลงมาที่ช่องเขาขาด

เดินย้อนลงมาที่ผาบ่อง ประตูรักแห่งขุนเขา

คนเริ่มขึ้นมาอีกระลอกแล้ว เราเลยลงมานั่งจิบกาแฟ เราชอบร้านนี้ที่หาเมล็ดกาแฟเอง คั่วเอง บดเอง ขายเอง คนขายน่ารักเล่าเรื่องกาแฟให้ฟังด้วย

ออกจากร้านกาแฟมากินมื้อเที่ยงยามบ่ายเป็นบะหมี่ยูนนาน 

เดินเล่นจนอิ่มเอมแล้วก็ให้น้องคนขับพาเราไปส่งที่พัก กลับถึงที่พักบ่าย 3 กว่าแล้ว เดินออกมาจิบกาแฟที่ร้านหอมนวล กาแฟดีเลยนะ 

นั่งคุยกับน้องร้านกาแฟอยู่นานมาก ใครไปเที่ยวแวะอุดหนุนน้องหน่อย กลัวน้องถอดใจเลิกขาย ออกจากร้านกาแฟก็มาประทับตรา Passport อุทยานแห่งชาติ

ความตั้งใจจะเดินขึ้นยอดภูชี้ฟ้าเอง มีเวลาพอสมควรยังไงก็ทันแน่นอน ระหว่างทางก็เก็บภาพดอกนางพญาเสือโคร่งที่บานระหว่างทางขึ้นภูชี้ฟ้า

เดินมาจนเหลืออีก 500 เมตรถึงจุดจอดรถก่อนเดินขึ้น แบตมือถือที่ออกไปตั้งแต่เช้าเตือนแบตเหลือ 18% ขึ้นไปก็ไม่ได้ถ่ายรูปก็เลยตัดสินใจเดินลง มาเก็บภาพที่บริเวณรถตู้จอด

เป็นอีกวันที่ออกมาเดินถนนคนเดิน วันนี้คนเยอะหน่อย เราได้ของกินมาอีกหลายขนานทั้งหมาล่า โรตี มันเผา ข้าวโพดเผา อุดหนุนร้านละอย่าง

เช้าวันที่ 3 ของทริปเราขึ้นยอดภูชี้ฟ้าอีกครั้ง ไปจุดเดิมอีกเช่นเคย นั่งคนเดียวเหมือนเดิม วันนี้หนาวมากกว่าเดิมมาก คนก็เยอะกว่าเมื่อวานมาก แสงมาแล้ว เราได้แค่ไม่กี่รูป หลังจากนั้นมีเสียงตะโกนว่า ตรงนี้สวยกว่าข้างบนอีก ไม่มีคน ไม่มีอะไรบัง และไม่นานคลื่นมหาชนก็ไหลลงมาเต็มแน่น แล้วจุดนี้ก็ถูกตีแตก เราก็ขยับไปจุดอื่น 

วันนี้เราอยู่ได้ไม่นาน รถที่รีสอร์ทรอรับตอน 7 โมงกว่าๆ 

สรุปเมื่อวานรถตู้โดยสารไม่ได้ขึ้นมา วันนี้คนลง 6 คน พี่ชัตโทรคุยกับคนขับรถตู้ให้และเป็นคนลงมาส่งพวกเราทั้ง 6 คน เราลงที่เทิงต่อรถเมล์เข้าเมืองเชียงราย รถแน่นมาก อบอุ่นสุดๆ มาถึงตัวเมืองเราก็กลับกรุงเทพฯ ด้วยรถรอบค่ำ จบทริปแรกของปีด้วยความอิ่มเอมทั้งดอกไม้และหมอก

ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

 วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2563 เวลา 05.28 น.

ความคิดเห็น