สำหรับมนุษย์ทำงานอย่างเรา การจะได้ไปเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตา กับทุกคนในบ้าน ช่างเป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่งนัก

แต่ต้องขอบคุณวันหยุดยาวๆในช่วงปีใหม่ และ ตั๋วโปรโมชั่นดีๆ ที่ออกมาให้เรา สามารถกัดฟันซื้อ สำหรับทุกคนในครอบครัวได้สำเร็จ

เมื่อทุกคนในบ้าน say yes!

และแม่ ที่ไม่ค่อยจะยอมไปเที่ยวต่างแดนกับเรา ก็ say yes เช่นเดียวกัน

ทริปธรรมดาๆ ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของคนในครอบครัว และรอยยิ้มของแม่ ในอากาศอันหนาวเหน็บของประเทศญี่ปุ่น จึงได้เกิดขึ้น...

รอยยิ้มที่ 1 Nagoya
รอยยิ้มที่ 2 Osaka
https://th.readme.me/p/2836

รอยยิ้มที่ 3 Kyoto
https://th.readme.me/p/3043

รอยยิ้มที่ 4
Kurashiki

Kurashiki เป็นเมืองเล็กๆ ในเขตบริเวณจังหวัด Okayama

สำหรับเรา การได้ไปเหยียบเมืองนี้ น่าจะเป็นความสดชื่นที่สุดของทริปนี้ก็เป็นได้ เพราะเมืองเล็กๆเมืองนี้ มีเสน่ห์ความสวยงามมากๆเมืองหนึ่ง ที่เราเชื่อว่าไม่ว่าใครที่ได้ไปเมืองนี้เหมือนเรา ก็คงมีความรู้สึกไม่ต่างกัน

การเดินทางจาก Osaka ไปยัง Kurashiki นี้ เราสามารถนั่ง Shinkansen ตรงไปยัง Okayama และต่อรถไฟภายในเมืองไม่กี่สถานี ก็ถึง Kurashiki แล้ว

เมื่อถึงสถานี Kurashiki ภาพบรรยากาศเมืองที่เรามองเห็น มีผู้คนไม่มาก เมืองค่อนข้างเงียบ และไม่วุ่นวาย เราเดินจากสถานี Kurashiki ลัดเลาะผ่านตลาดเล็กๆ ที่ร้านค้ายังไม่ได้เปิดมากนัก เนื่องจากเป็นวันธรรมดา เพื่อไปถึงเป้าหมายคือ Bikan Historical Quarter

เมื่อเราเข้ามาถึงบริเวณ Bikan Historical Quarter เราก็จะรู้ได้เองเลยว่า เราเข้ามาถึงเขตนี้แล้ว เพราะหน้าตาบ้านเรือนรอบๆ ทำให้เรารู้สึกเหมือนเราได้ย้อนเข้าสู่ยุคโบราณยังไงอย่างงั้น รถล้อลากที่ใช้คนลากจูง ยังคงมีให้บริการนักท่องเที่ยวคล้ายๆกับในเกียวโต แต่สิ่งที่ทำให้สะดุดตาคือโทนสีของบริเวณนี้ ที่เลือกใช้สีขาวทาตัวอาคาร และมีหลังคาสีน้ำตาลเกือบทั้งบริเวณ ทำให้ภาพบรรยากาศรวม มีความสว่างจากสีขาวของอาคาร และมีความสวยงามของบ้านเรือน อัดแน่นเต็มบริเวณ

ร้านอาหารข้าวแกงกะหรี่ สไตล์ญี่ปุ่น ผสมอินเดีย ของคุณป้าร้านเล็กๆร้านนี้ ทำให้แม่เราที่เกลียดการกินแกงกะหรี่เข้าไส้ ต้องสั่งซ้ำเพิ่มอีกชาม

บริเวณที่เป็นจุดที่สวยงามที่สุดของย่านนี้ ก็คือบริเวณริมแม่น้ำ Takahashi River โดยบ้านเรือนในบริเวณนี้ จะตั้งอยู่เลียบ2ฝั่งแม่น้ำ ขนานยาวคดเคี้ยวไปกับตัวแม่น้ำ

สิ่งที่คนญี่ปุ่นเค้าสามารถทำได้เป็นอย่างดี นั่นคือความสะอาดสะอ้านของบ้านเมือง ที่ส่งให้เกิดความสดชื่นแก่ผู้คนที่เดินผ่านไปมา จากความใสของน้ำในแม่น้ำ ความร่มรื่นของต้นไม้ที่อยู่เรียงตลอดทาง และที่สำคัญคือความสวยงามของบรรยากาศเมืองเก่า ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี

ตอนแรกเรากะว่าจะใช้เวลาแค่ครึ่งวันที่เมืองนี้ แต่ปรากฏว่าเราใช้เวลาเกือบ1วันเต็ม กับเมืองเล็กๆเมืองนี้
และเราเชื่อว่า ขนาดคนญี่ปุ่นเอง ยังเลือกที่จะมาเที่ยวที่นี่ คนไทยอย่างเรา ทำไมจะไม่ลองไปสูดอากาศกันดูซักครั้งล่ะ

ขอปิดท้ายวัน ด้วยภาพหมู่คณะ ที่ไม่สำเร็จ เนื่องจากคนกด shutter วิ่งไม่ทัน..

---

รอยยิ้มต่อๆไป...
รอยยิ้มที่ 5 Tokyo