ที่เที่ยวที่ไปได้ไปดี ไปแทบทุกปีก็คือเขาค้อนี่แหละค่ะคุณและหน้าที่โปรดมากที่สุดเห็นจะเป็นหน้าฝน ที่ชอบเที่ยวหน้านี้เพราะมันเขียวสดชื่นดี มองไปทางไหนก็สวย หมอกเยอะกว่าหน้าหนาวอีก เที่ยวไปลุ้นไปอันนี้ตื่นเต้นดีเวลาเห็นเมฆดำๆ ลอยต่ำลงมา คำภาวนาให้เมฆหายวับจะผุดมาทันที แต่ยิ่งเมฆดำลอยต่ำเท่าไหร่มุมการถ่ายรูปก็ยิ่งสวย มันดูเป็นมุมที่แปลกดี 

เมื่อเข้าหน้าฝนล้อรถก็พร้อมจะหมุนมุ่งตรงไปเขาค้อตามสโลแกน "มีฝนก็ต้องมีเราที่เขาค้อ" ขับรถไปประมาณ 4 ชั่วโมงก็ถึง เห็ววิวงามๆ ข้างทางก็ขอแวะถ่ายซะหน่อยก่อนจะขึ้นไปเสพกาแฟที่วิวแสนจะดีที่ฟิโน่ลาเต้

จากนั้นก็สตาร์ทรถขับเอื่อยๆ ชมวิวข้างทางไปเรื่อยๆ เห็นทางเลี้ยวเข้าทุ่งกังหันลมมาแต่ไกล ตอนแรกว่าจะขับเลยไปเลยเพราะขี้เกียจเสียค่าจอดรถ (ฮ่าๆๆ ก็คนมันงก) แต่ก็ทนกับใบพัดที่โบกเหมือนเชิญชวน ราวกับพนักงานที่โบกขายของตามข้างทางแบบนั้น ไอ่เราก็ทนไม่ไหวต้องหักพวงมาลัยเข้าไปจนได้ อานุภาพของการพัดโบกนี่รุนแรงยิ่งนัก

ถ่ายรูปที่นี่ในช่วงเวลาที่ฝนใกล้ตกก็ได้มุมที่สวยแปลกตาไปอีกแบบ
ภาพมุมไกลที่ถ่ายจากทุ่งนาที่เขาเรียกว่าข้าวไร่ ข้าวที่ปลูกบนเขาต้องการน้ำน้อยแต่ข้าวกลับนุ่มไม่แข็งนะจ๊ะ

ฝนเอยฝนจะมาขึ้นรถกันดีกว่า ตอนนี้คงไม่แวะไหนแล้วน่าจะถึงร้านกาแฟร้านโปรดซะทีอยากไปชมวิวงามๆ จิบกาแฟชิวๆ ชมวิวสวยๆ ซะทีแล้ว จะว่าไปที่เขาค้อนี้จอดรถชมวิวตรงไหนก็สวย

ร้านกาแฟที่ตอนนี้น่าจะกลายเป็นซิกเนเจอร์ของเขาค้อไปแล้ว
ชอบดอกดาวกระจายเป็นพิเศษ อันนี้ความชอบส่วนตัวนะคะ

มาถึงฟิโน่แล้วจะไม่แวะไหว้พระที่วัดผาซ่อนแก้วก็กระไรอยู่ ที่วัดนี้คนเยอะมากหามุมถ่ายรูปที่ไม่ติดคนยากมาก แต่ที่แปลกคือคนเยอะน่าจะวุ่นวายเสียงดัง ไม่ใช่เลยค่ะทุกคนที่ไปอยู่ในระเบียบกติกา ไม่คุยกันเสียงดัง ยิ้มทักทาย สมกับที่มาวัดกันจริงๆ ที่ชอบอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือแจกผ้าถุงให้ใส่สำหรับคนที่นุ่งสั้นนี่แหละ ยังไงซะวัดเราก็ยังอยากให้มีความเป็นวัดอยู่ดี

ถ่ายภาพวัดผาซ่อนแก้วจากมุมฟิโน่ลาเต้

แล้วก็หมดไปหนึ่งวันที่เขาค้อ ที่เหลือก็มารอลุ้นว่าพรุ่งนี้จะลาเขาค้อไปด้วยการตื่นมาเจอทะเลหมอกหรือไม่ (ตามประสาคนชอบตื่นเช้าคาดว่าคงตื่นไม่ทันหมอก ฮ่าๆๆ)

Titi goaround

 วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 16.19 น.

ความคิดเห็น