เดินป่าครั้งแรกที่ 'เขาสันหนอกวัว'

'เขาสันหนอกวัว อุทยานเเห่งชาติเขาเเหลม กาญจนบุรี'
ยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี ระดับความสูง 1,767 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ระยะทางเดินไป-กลับประมาณ 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 6-7 ชั่วโมง จะต้องขึ้นไปพักค้างคืนบนเขา
เป็นทริปสั้นๆ 2วัน1คืน สามารถใช้เวลาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ได้
เอาจริงๆ ไม่เคยได้ยินชื่อเขานี้เลย รู้เเค่ว่าจะขึ้นเขาได้ต้องจองคิวล่วงหน้ากับทางอุทยานฯก่อน
ทริปเดินป่าแรกพิชิต 1,767 เมตร เอาไงเอากัน ฮึบ!!

แฟนเพจ https://www.facebook.com/c8jvpkdvvdwx/ ครับ



ทริป 2 วัน 1 คืน
30-31 มค. 2559


การเดินทางชิพิตเขาสันหนอกวัว

ค้างแรมจุดชมวิวป้อมปี่(คืนวันศุกร์) - รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯจุดนัดพบบริเวณลานรอดรถจุดชมวิวฯ 09.00น.
เดินทางด้วยรถโฟวิลของเจ้าหน้าที่ - จุดเริ่มเดินเชิงเขาหัวโล้น (ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที)
จุดเริ่มเดินเชิงเขาหัวโล้น - จุดกางเต้นท์ (ใช้เวลาเดินประมาณ 6-7 ชั่วโมง)
จุดกางเต้นท์ - เขาสันหนอกเล็ก (ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที)
เขาสันหนอกเล็ก - เขาสันหนอกใหญ่ ระดับความสูง 1,767 เมตร จากระดับน้ำทะเล (ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที)
เขาสันหนอกใหญ่ - จุดกางเต้นท์ (ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที)
จุดกางเต้นท์ - จุดเริ่มเดินเชิงเขาหัวโล้น (ใช้เวลาเดินประมาณ 5 ชั่วโมง)
จุดเริ่มเดินเชิงเขาหัวโล้น - จุดชมวิวป้อมปี่ (ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที)

(เช้าตรู่ก่อนเริ่มการเดินทาง อาบน้ำเผื่อไว้สองวัน ขึ้นไปบนเขาไม่มีห้องอาบน้ำนะครับ ^^)


รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ(ตามรายชื่อที่ติดต่อจองไว้) เรามากัน 8 คน รวมได้เป็น 1 กลุ่ม ในหนึ่งกลุ่มจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล 1 คนเป็นอย่างน้อย ติดต่อลูกหาบไว้ 2 คน ( ต้องติดต่อจองไว้พร้อมกันเลย) พร้อมแล้วก็ขึ้นรถที่เจ้าหน้าที่เขาเตรียมไว้ให้ จากจุดนี้ไปยังจุดเริ่มเดินเชิงเขาหัวโล้น ประมาณ 10 นาที ออกเดินเวลา 09.30น.เห็นจะได้ บริเวณจุดเริ่มเดิน จะมีไม้เท้าค้ำยันให้หยิบยืม เห็นเพื่อนหยิบไปคนละอัน เราไม่เคยเดินเพื่อนทำอะไร เราก็ทำตามแหละคับ มันน่าจะมีประโยชน์แหละ มั้ง...



ช่วงแรกที่เริมเดินก็เป็นทางเดินลงเลย มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุม อากาศเย็นลงกว่าข้างนอกเยอะเลย
เพลินเพลินชมนกชมไม้ มีจุดพักตลอดทาง เราเก็บทุกจุดเลยไม่ยอมปล่อยให้มันผ่านไป



ผ่านไปไม่นาน สภาพป่าเปลี่ยนเป็นป่าไผ่ สลับไปสลับมา



ผ่านราวๆ 3 ชั่วโมงถึงจุดพักทานข้าว เราพกข้าวห่อมาคนละห่อ น้ำคนละขวด(สามารถสั่งข้าวเที่ยงได้จากร้านค้าในจุดชมวิวป้อมปี่ได้เลยนะ)



หยุดพักนั่งทอดขา พักไปเล่นไป หันไปเห็นพี่เจ้าหน้าที่ที่มากับเราเกิดสงสัย เลยถามไปว่าทำไมต้องพกปืนด้วยครับ
ได้คำตอบกลับมาว่า "ที่นี่มีเสือครับ มีเจ้าหน้าที่เคยเจอ เลยต้องพกมาเอาไว้ยิงใช้เสียงไล่มันครับ" เอิ่มมมม ไม่น่าถามเลยว่าไหม 555 ออกเดินไปที่ความสูงมากขึ้น ความชันก็มากขึ้นเช่นกัน มีจุดพีคจุดนึง ชันมากจนต้องมีเชือกให้ไต่ขึ้นไป เขาเรียกว่า 'เนินหมาถอย' (ไม่มีภาพนะมือไม่ว่างเลย)




ช่วงนี้เปลี่ยนเป็นทุ่งโล่ง มองออกไปเห็นเขาอีกลูกนึง พี่เขาบอกว่านั่น 'เขาเรดาห์' เป็นเขตทหาร




เดินขึ้นแล้วก็เดินขึ้นมาเรื่อยๆ ในที่สุดก็มาถึงลานกางเต้นท์ครับ มาถึงก็ปาเข้าไป 16.30น. แล้ว
เพื่อนๆ มาถึงกันก่อนแล้วด้วย ถึงลานไม่ได้กางเต้นท์เลย ลูกหาบกางเต้นท์เสร็จไปรองน้ำมาให้ จัดการก่อไฟรอเรียบร้อยเลย



มองออกจากจุดกางเต้นท์ ไม่สิเรียกว่ามองจากเต้นท์เลย ก็จะเห็นแบบนี้หายเหนื่อยเลย(จริงๆ ไม่หายนะ555) เดินๆพักๆมา 7 ชั่วโมง หันหลังกลับมาเข้าเต้นท์ สลบแพ้พพพพ



เเดดร้อนเริ่มหุบ ไว้เวลาออกจากเต้นท์ มองออกไปทางซ้ายเห็นเขาสันหนอกวัว
เลยนึกขึ้นได้ว่าเรายังไม่ได้เดินไปจนถึงจุดยอดสุด ยังไม่ได้พิชิตเขาสันหนอกวัวเลย



ตอนนี้ 17.30น.แล้ว ต้องรีบเดินด่วนๆ เลย เทียบสเกลกันแล้วเหลือตัวจิ๋วๆ เลย พี่เจ้าหน้าที่ดูเเลดีมากมายเลย ตามติดตลอดเลยครับ




เดินขึ้นมาเจอป้ายพิชิตแล้ว 'ผู้พิชิต ยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี สันหนอกวัว สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,767 เมตร อุทยานแห่งชาติเขาแหลม' ดีใจใหญ่เลย แต่เอ๊ะเหมือนเดจาวูลลลล เราเดินขึ้นเขาสันหนอกวัวมาเเล้วนิ ทำไมเรายังเห็นสันหนอกวัวอยู่หลังป้ายนี่ละ 555
ปรากฏว่าที่เราเห็นเบื้องหลังป้ายนั่นเป็นจุด 1,767 เมตร 'เขาสันหนอกใหญ่' ที่เห็นจากจุดกางเต้นท์และที่เรายืนอยู่นี่ 'เขาสันหนอกเล็ก' มันเป็นสองหนอกซ้อนกันอยู่




สีท้องฟ้าเริ่มสวย



มองจากสันหนอกเล็ก ตรงหน้าเป็น 'ทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ์'



เวลานัดหมายกับแสงสุดท้าย เริ่มไล่หลังมาเต็มที รีบจ้ำอ้าวขึ้นไปสันหนอกใหญ่อย่างไว



ถึงจุดสูงสุดสันหนอกใหญ่ ความสูง 1,767 เมตร มองออกไปไกลสุดตาจริมๆ



มองลงไปสันหนอกเล็ก ลองสังเกตสเกลคนนะครับ ตัวจิ๋วๆ เลย



มาทันก่อนเวลานัดเล็กน้อย แสงสุดท้ายสาดแสงลงกระทบผิวน้ำทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ์ แล้วค่อยๆ ลับขอบเขาไป



เผลอแปปเดียวฟ้ามืด สีฟ้าตอนนี้สวยใสเชียว แต่ต้องรีบเดินลงไปจุดกางเต้นท์ก่อนจะมืดสนิท แล้วจะมองทางไม่เห็นเอา



ฮือออออ ยังอยากอยู่ต่อ



พี่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ อยู่ดูแลตลอดจริมๆ



กลับมาถึงเต้นท์ เพื่อนคนอื่นกำลังตั้งวงทานอาหารกันแล้ว ฮืออ ไม่ได้ช่วยเลย ขอโทษษษษ
กับข้าวคืนนี้อร่อยมากเลย เอ๊ะหรือเราเหนื่อยมากกันแน่



ฟ้าหมดแสงมืดสนิท ดวงดาวเต็มท้องฟ้า จุดกางเต้นท์ลมแรงมาก อุณหภูมิราวๆ 18 ํ แต่ด้วยลม ทำให้หนาวเย็นขึ้นทวีคูณ



ถ่ายรูปคู่กับดาว



ฟ้ามืดมาก ดาวเต็มฟ้า แต่เสียดายช่วงนี้ช้างเผือกยังไม่มาให้เจอ ฮืออออ
ต้องรีบบอกลาดวงดาว ตอนนี้หนาวมาก รีบวิ่งเข้าเต้นท์ ฝันดีดวงดาว



เป็นเหมือนกันไหม วันที่ต้องไปทำงานเนี่ย แทบไม่อยากจะลุกจากที่นอนเลย แต่วันที่มาเที่ยวเนี่ย แทบไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุกเลย เราตื่นขึ้นมารอต้อนรับแสงแรกโดยอัตโนมัติ 555



แสงแดดอุ่นๆ สลับกับภูเขาลูกแล้วลูกเล่า



แอบมีทะเลหมอกเบาๆ นี่เป็นวิวแปรงฟันเช้านี้เลย



ตื่นมาข้าวสวยพร้อม ลูกหาบจัดให้ น่ารักที่สุด
จัดมื้อเช้ากันบนเขามื้อสุดท้ายของทริป แล้วจัดเตรียมข้าวห่อสำหรับตอนเที่ยงด้วย
พร้อมกับเอ่ยลาเขาสันหนอกวัว



แวะบอกลาเขาเรดาห์กับทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ์



ค่อยๆ เดินลง หยุดถ่ายรูปเป็นระยะๆ จริงๆแล้วหยุดพักเหนื่อยด้วย 555



ลูกหาบจัดการเก็บเต้นท์ให้ เคลียพื้นที่ เคลียขยะแล้วเก็บใส่ถุงลงมา แล้วก็เดินแซงเราเหมือนขาขึ้น



นี่นี่ 'เนินหมาถอย' ขาลงเดินสบายถ่ายรูปได้




สมาชิกทั้ง 7 และพี่ชูชีพเจ้าหน้าที่อุทยานฯ

เริ่มเดินลง 09.30น โดยประมาณ ถึงจุดเริ่มเดินเชิงเขาหัวโล้น ประมาณ 14.00น
ขาลงเดินสบายๆ เลยครับ แต่ขาลงมันก็มีเนินต้องเดินขึ้น 555 เลยต้องเเวะถ่ายรูปบ่อยนิดนึง
ลงมาเจอรถเจ้าหน้าที่รออยู่ น่าจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ลงจากเขาเลย
กลับมาจุดชมวิวป้อมปี่ ทางอุทยานมอบเกียรติบัตรพิชิตให้ด้วยนะ
ป่าแรกสนุกมาก โหดมาก เหนื่อยมาก ชอบมากด้วย



สรุปค่าใช้จ่าย

ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 1 คน = 1,000 บาท
ค่าลูกหาบ 2 คน = 2,800 บาท
ค่ารถ(รับส่งจากป้อมปี่ไปจุดเริ่มเดินเชิงเขาหัวโล้น) = 1,000 บาท
ค่าอาหาร(ข้าวเช้าและกลางวันขาขึ้น) = 720 บาท
รวม 5,520 บาท
หาร 8 = 690 บาท ต่อ 1 คน



ไม่รวมค่า
ที่พักจุดชมวิวป้อมปี่
ค่าอาหารที่เตรียมขึ้นไปปรุงบนเขา
ค่ารถเดินทางจากกทม.-ป้อมปี่



ฝากติดตามด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/c8jvpkdvvdwx/

ความคิดเห็น