ทริปสั้นๆ ที่จะทำให้รูปในโซเชียล ไลก์สนั่นหวั่นไหว เตรียมปะทานาคา...แล้วตามไปหลงเสน่ห์ เมียนมา
4 วัน 3 คืน ที่วันลาไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องสะสมแต้มบุญใดๆ ทั้งสิ้น อยากเที่ยวได้บ่อยๆ แบบประหยัด ก็ต้องชวนเพื่อนไปหารนะจ๊ะ (มีเพื่อนเที่ยว = มีตัวหาร) ทริปนี้จะพาไป เยือนมนต์เสน่ห์แห่งวัฒนธรรม มัณฑะเลย์ – พุกาม ประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ นี่เอง...ภาพบอลลูนลอยเหนือทะเลเจดีย์นับพันองค์เป็น Dream Destination หลักของเรา แต่เดี๋ยวก่อน ใจเย็นๆ ช่วงที่เราไปยังไม่มีบอลลูนนะ แต่เราจะไป ก็ใจมันเรียกร้องนี่หน่า ยิ่งการันตีด้วย World Heritage Sites 2019 ใหม่ล่าสุด จาก UNESCO ไม่ไปตอนนี้จะไปตอนไหน (ช่วงเวลาที่เหมาะกับการไปขึ้นบอลลูนคือช่วงระหว่างเดือน ตุลาคม-มีนาคม ซึ่งก็ใกล้เข้ามาแล้ว และอีกหนึ่ง IG Spots สุดฮิตที่จะพลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนมัณฑะเลย์ ก็คือ เจดีย์ชินพิวเม ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิระวดี เจดีย์สีขาวอลังการ แนะนำว่าชุดต้องสีจัดๆ แบบว่าปลัดร้องว้าวไปเลย รับรองได้ว่ารูปปังแน่นอน อย่ารอช้า ชวนเพื่อน ฟอร์มทีม กดจองตั๋วด่วนๆ ไปเลยจ้า

✈️ การเดินทาง จากกรุงเทพฯ - มัณฑะเลย์ ก็มีสายการบินให้บริการอยู่หลายสายการบินเลย ใช้เวลาบินแค่ 1.45 ชั่วโมง ราคาตั๋วแค่พันนิดๆ

มิงกะลาบา มัณฑะเลย์
ทักทายกันอย่างเป็นทางการสักหน่อยสำหรับทริป มัณฑะเลย์ – พุกาม 4 วัน 3 คืน ที่จะพาไปหลงเสน่ห์วัฒนธรรม ดินแดนแห่งศรัทธา ที่โคตรจะเรียล

🌡 สภาพภูมิอากาศของเมืองมัณฑะเลย์ เป็นแบบเขตร้อน อากาศจะค่อนข้างร้อนตลอดทั้งปี
- ฤดูร้อน : มีนาคม - พฤษภาคม
- ฤดูฝน : มิถุนายน - ตุลาคม
- ฤดูหนาว : พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์

ฤดูกาลที่เหมาะสมที่สุดในการไปเยือน พุกาม-มัณฑะเลย์ คือช่วงพฤศจิกายน ถึงกุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงเวลาที่อุณหภูมิและสภาพอากาศเหมาะสมที่สุด

⌚ เวลาท้องถิ่นที่ประเทศพม่าช้ากว่าประเทศไทย 30 นาที
💵 ค่าเงิน จ๊าดพม่า [1฿ = 50.3 Ks] แลกเป็นเงินดอลลาร์ (USD) ไปก่อนนะ
จำขึ้นใจไว้เลย เงินดอลลาร์ที่จะนำไปแลกต้องเป็นแบงค์ใหม่ๆ ห้ามมีรอยยับ หรือรอยสกปรกใดๆ ทั้งสิ้น ที่นี่จะค่อนข้างซีเรียสเรื่องการรับธนบัตรดอลลาร์เอามากๆ ก่อนไปแลกเงินดอลลาร์จากที่ไทยบอกร้านที่แลกเลยว่าจะไปเมียนมา เค้าจะได้เอาแบงค์ใหม่ๆ ให้

💬 เมียนมา ฟรีวีซ่า แถมไม่ต้องกรอกใบ ตม. ด้วยนะ
📱 ซิมการ์ดสามารถซื้อ Local SIM ได้ที่สนามบินเลย
🔌 ปลั๊กไฟ เมียนมาใช้ไฟฟ้าที่ใช้ 220 โวลต์, AC 50Hz ปลั๊กเป็นแบบสามขา
แต่พกยูนิเวอร์แซลอแดปเตอร์ ไปด้วยก็ดี
📷 กล้องถ่ายรูป เมโมรี่การ์ด แบตเตอรี่ พาวเวอร์แบงค์ สายชาร์จ
.
🚐 การเดินทาง (มัณฑะเลย์ – พุกาม)
แนะนำให้เช่ารถพร้อมคนขับดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา แถมยังสะดวกอีกด้วย มารับตั้งแต่ลงสนามบิน พาเที่ยวตามแพลน และมาส่งกลับที่สนามบินวันกลับ เราไปกัน 4 คน หารกันมาแล้วคุ้มมาก (*ค่ารถเค้าจะประเมิณตามแพลนที่เราส่งไปให้นะว่ากี่วันไปเมืองไหนบ้าง) แพลนของเรา มัณฑะเลย์ – พุกาม 4 วัน 3 คืน ค่ารถพร้อมคนขับ รวมค่าน้ำมันแล้ว 8,600฿ (หาร 4 คน ตกคนละ 2,150฿) รถอัลพาร์ทคันใหญ่ แอร์เย็นๆ นั่งสบายมาก บริการดีมาก
➖➖➖➖➖➖➖➖
แพลนเที่ยว มัณฑะเลย์ – พุกาม 4 วัน 3 คืน
➖➖➖➖➖➖➖➖
🗓️ DAY 1
📍 มัณฑะเลย์ - พุกาม (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง)
📍 เช็คอินโรงแรม (Hotel Temple View Bagan) วิวเจดีย์
📍 ชมวิวพระอาทิตย์ตก ดินแดนแห่งเจดีย์เมืองพุกาม
📍 มื้อค่ำ บุฟเฟ่ต์อาหารพื้นเมือง (คนละ 135฿ อิ่มกันแบบจุกๆ)
🏠 ที่พัก : Hotel Temple View Bagan คืนละ 700฿ (หาร 2 ตกคนละ 350฿)
➖➖➖➖➖➖➖➖
🗓️ DAY 2
📍 ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ Bagan Viewing Tower
📍 กลับมาทานมื้อเช้าที่โรงแรม – เช็คเอาท์
📍 เจดีย์สัพพัญญู หรือ วัดถัดบินยู (Thatbyinnyu Pagoda)
📍 เก็บตกเที่ยวชมเจดีย์ระหว่างทาง
📍 พุกาม – มัณฑะเลย์
📍 วัดกุโสดอร์ (Kuthodaw Pagoda)
📍 จุดชมวิว มัณฑะเลย์ฮิลล์ (Mandalay Hill)
📍 สตรีทฟู้ดเมืองมัณฑะเลย์
🏠 ที่พัก : The Hotel Nova คืนละ 900฿ (หาร 2 ตกคนละ 450฿)
➖➖➖➖➖➖➖➖
🗓️ DAY 3
📍 พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace)
📍 พระตำหนักไม้สักชเวนาดอร์ (Shwenandaw Monastery)
📍 เจดีย์ชินพิวเม (Hsinbyume Pagoda)
📍 เจดีย์มินกุน (Mingun Pahtodawgi)
📍 สะพานไม้อูเบ็ง (U Bein Bridge) สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก
🏠 ที่พัก : The Hotel Nova คืนละ 900฿ (หาร 2 ตกคนละ 450฿)
➖➖➖➖➖➖➖➖
🗓️ DAY 4
📍 สัมผัสวิถีชีวิตชาวมัณฑะเลย์ยามเช้า
📍 เดินทางกลับกรุงเทพฯ
➖➖➖➖➖➖➖➖

เริ่มกันที่วันแรก มากันแบบสบายๆ เพราะอากาศไม่ต่างจากบ้านเราเท่าไหร่ ถึงสนามบินมัณฑะเลย์ ผ่านจุดตรวจคนเข้าเมือง รอรับกระเป๋า เดินออกมาคนขับรถก็มายืนถือป้ายรออย่างตรงเวลา กล่าวทักทายแนะนำตัวเป็นที่เรียบร้อยก็มุ่งตรงไปแลกเงินกันก่อนเลย เอ้า!! ดูรวยขึ้นมาทันทีมีเงินเป็นฟ่อน เรียบร้อยก็ไปซื้อ Sim Card กันต่อ มีแพ็กเกจให้เลือกเยอะเลย เราเลือกแบบ 6 GB ราคา 8,000Ks

ขึ้นรถมาแอร์เย็นฉ่ำ นั่งสบายมาก สำหรับการเดินทางจากสนามบินมัณฑะเลย์ ไปยังเมืองพุกาม จะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ระหว่างทางคนขับก็จะแวะเติมน้ำมัน ให้เราได้แวะเข้าห้องน้ำยืดเส้นยืดสายกันซะหน่อย นั่งเม้าท์มอยกันบนรถแปบๆ ก็ถึงๆ พุกามแล้ว

แวะเข้าโรงแรมเช็คอิน ล้างหน้าล้างตากันซะหน่อย แล้วก็ไปตะลุย ชมเจดีย์ และปราสาทต่างๆ กันต่อเลย แต่แอบบอกไว้ก่อนนะ ถ้าใครที่ดูรูปมาจากใน Google แล้วเห็นคนปีนขึ้นไปบนเจดีย์ยืนแอคท่าสวยๆ ต้องกล่าวคำว่าเสียใจด้วย เพราะตั้งแต่หลังจากที่มีแผ่นดินไหวเมื่อปี 2016 ทางการพุกามประกาศห้ามขึ้นเจดีย์เพื่อถ่ายภาพมุมสูงแล้วนะ อันนี้คนขับรถก็ย้ำแล้วย้ำอีกว่าขึ้นไม่ได้นะ แต่ไม่เป็นไรได้เห็น ได้ชื่นชมแค่นี้ก็สวยจนตะลึงแล้ว เราใช้เวลากันสักพักใหญ่ๆ เลยสำหรับถ่ายรูป ตอนแรกในรูปในอินเตอร์เน็ตก็แบบคิดว่าเห้ยเจดีย์มันจะเยอะอะไรขนาดนั้น แต่พอได้มาจริงๆ โอ้ยเยอะมาก เยอะจริงๆ มีทุกหย่อมหญ้าไปเลยจ้า

เรียกได้ว่าถ่ายรูปกันไปจุกๆ เลย โหลดรูปลงมือถือ แล้วอัพโซเชียลอวดเพื่อนแปบ เดี๋ยวไม่รู้ว่ามาถึงพุกกามแล้ว

มื้อเย็นขอมาลองอาหารแบบคนพื้นเมืองกันซะหน่อย เอาจริงๆ ไม่ได้หาข้อมูลมาหรอกว่าร้านไหน แต่ขับผ่านมาเห็นเออ ร้านนี้แหละดูดีคนเยอะเชียว ก็จอดมันร้านนี้เลยละกัน เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารพื้นเมืองที่จัดมาให้เป็นเซ็ต มาเติมให้แบบไม่อั้นด้วยนะ อร่อยทุกอันเลย ราคาถูกจนน่าตกใจ มื้อนี้หมดไปคนละ 135฿ เอง เข้าที่พักดื่มกันพอหอมปากหอมคอ แยกย้าย เพราะพรุ่งนี้เราจะยอมตื่นเช้าเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ตั้งนาฬิกากาปลุกกันด้วยนะทุกคน ตี 5 เจอกันนะ คืนนี้ฝันดีเด้อจ้า...

อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าทางการพุกามประกาศห้ามขึ้นเจดีย์เพื่อถ่ายภาพมุมสูงแล้ว แต่ถ้าอยากเห็นทะเลเจดีย์แบบสุดลูกหูลูกตา แนะนำให้ขึ้นมาดูที่จุดชมวิว Bagan Viewing Tower นี้เลย ค่าขึ้นคนละ 5 USD ถือว่าคุ้มค่ามาก กับวิวว้าวๆ ของทะเลเจดีย์นับพันๆ องค์

ดื่มด่ำความงดงามของวิวหลักล้าน ระดับเวิลด์คลาส ดีกรี World Heritage Sites 2019 กันไปแล้วก็ได้เวลากลับโรงแรม เติมพลังด้วยมื้อเช้ากันซะหน่อย แนะนำเลย ที่พัก Hotel Temple View Bagan คืนละ 700฿ ที่วิวอลังการสุด กินมื้อเข้าไปพร้อมกับชมวิวเจดีย์ ฟินมั้ยหล่ะ

อาบน้ำ เก็บกระเป๋า พร้อมโบกมือลาเมืองพุกาม

ระหว่างนั่งรถเดินทางกลับจาก พุกาม เพื่อไปยังมัณฑะเลย์ คนขับรถก็แวะตามสถานที่ต่างๆ ให้เราได้ลงไปถ่ายรูป เจอฝูงแกะก็จอดวิ่งลงกันไปถ่ายรูปจ้า เอ้าสิ ถ่ายได้ทุกมุม ทุกโลเคชั่นกันไปเลย

เจดีย์สัพพัญญู หรือ วัดถัดบินยู (Thatbyinnyu Pagoda) สูงสมคำล่ำลือจริงๆ เป็นเจดีย์ที่มีความสูงที่สุดในเมืองพุกาม ความสูงอยู่ที่ ประมาณ 61 เมตร ถือเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมเมียนมาเลยก็ว่าได้

ถึงเวลาต้องโบกมือลาพุกามแล้วจริงๆ เป็นอีกเมืองที่เกินคาดมากจริงๆ ประทับใจ และสัญญาว่าจะต้องกลับมาอีกครั้งแน่นอน

นั่งรถหลับไปไม่ทันไร ก็เข้าสู่เมืองมัณฑะเลย์แล้ว ถือว่าค่อนข้างสะอาดสะอ้านทันสมัยใช้ได้เลย รู้สึกตื่นตาตื่นใจพอสมควรเพราะนี่คือครั้งแรกสำหรับมัณฑะเลย์ โลเคชั่นแรก ที่คนขับรถพาเราไปก็คือ วัดกุโสดอร์ (Kuthodaw Pagoda)

วัดกุโสดอร์ (Kuthodaw Pagoda)
เป็นวัดที่สร้างขึ้นพร้อมๆ กับการสร้างเมืองในปี พ.ศ. 2400 สร้างขึ้นเพื่อการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 4 ในสมัยพระเจ้ามินดง มีส่วนของเจดีย์ทองคำ “พระเจดีย์มหาโลกมารชิน” สูง 30 เมตร ที่ได้จำลองแบบมาจากพระมหาธาตุเจดีย์ชเวซีโกน (Shwezigon Pagoda) แห่งเมืองพุกาม และบริเวณรอบวัดยังมีสถูปสีขาวเรียงรายมากมาย เป็นวัดที่มีการจารึกพระไตรปิฎกไว้บนหินอ่อนถึง 729 แผ่น จำนวนร่วม 84,000 พระธรรมขันธ์ และยังถือว่าเป็นที่เก็บยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดของโลก

ไม่ไกลจาก วัดกุโสดอร์ เท่าไหร่ มัณฑะเลย์ฮิลล์ (Mandalay Hill) เป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นที่ห้ามพลาด ในการมาชมพระอาทิตย์ตก พร้อมกับวิวเมืองมัณฑะเลย์จากมุมสูง

มัณฑะเลย์ฮิลล์ (Mandalay Hill)
ถ้ามามัณฑะเลย์ ต้องมา มัณฑะเลย์ฮิลล์ เป็นจุดชมทิวทัศน์อันสวยงามที่สุด และสามรถมองเห็นเมืองมัณฑะเลย์ ได้เกือบทั้งหมด และสามารถมองเห็นแม่น้ำอิระวดี พระบรมมหาราชวัง วัดกุโสดอว์ ด้วย ค่าเข้า 1,000Ks เราร่ำลาพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ากันที่นี่

ขอไปเช็คอินที่โรงแรม The Hotel Nova กันก่อน แล้วค่อยออกไปหาอะไรกินกัน ใกล้ๆ ที่พักของเราก็มีร้านอาหารสตรีทฟู้ดข้างทางค่อนข้างเยอะใช้ได้เลยทีเดียว ถูกจริตร้านไหนก็แวะเลยจ้า แต่มาสะดุดที่ร้านปิ้งย่างหม่าล่าร้านนี้แหล่ะ อร่อยใช้ได้เลย กินกันหน่ำใจพร้อมเบียร์เย็นๆ ที่จะเยียวยาเราให้หลับฝันดี โอ้โหแป๊บๆ หมดวันที่ 2 แล้วววว

มอร์นิ่งงงงง มัณฑะเลย์....
มื้อเช้าเราเรียบร้อยกันที่โรงแรม พร้อมลุยแล้วววววววว

พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace)
สถานที่แรกสำหรับวันที่ 3 ในเมืองมัณฑะเลย์
พระราชวังหลวงในอดีตที่ถูกสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง ซึ่งได้ถูกทำลายจนสิ้นในช่วงสงครามโลก ปัจจุบันได้มีการบูรณะพระราชวังขึ้นมาใหม่เป็นบางส่วน แต่ก็ไม่ได้สวยงามเท่าของเดิม เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การไปเยือน เพราะเป็นพระราชวังแห่งสุดท้ายของมัณฑะเลย์ ค่าเข้าชม 10,000Ks

พระตำหนักไม้สักชเวนาดอร์ (Shwenandaw Monastery)
แต่เดิมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังมัณฑะเลย์ สร้างขึ้นด้วยไม้สักทองที่มีความอ่อนช้อยงดงามที่สุด จากการสลักเสลาลวดลายด้วยความวิจิตรบรรจงที่มีความสมบูรณ์ที่สุด

อีกไฮไลท์สำคัญในทริปนี้ของเรา เจดีย์ชินพิวเม (Hsinbyume Pagoda) เจดีย์สีขาวสุดอลังการที่จะทำให้ IG ต้องร้อนระอุลุกเป็นไฟ

เจดีย์ชินพิวเม (Hsinbyume Pagoda)
ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลเจดีย์มิงกุน สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2359 โดยพระเจ้าบากะยีดอว์เพื่อเป็นที่รำลึกถึงพระมเหสีชินพิวมินอันเป็นที่รักยิ่ง เจดีย์แห่งนี้มีความสวยงามและสร้างขึ้นตามหลักภูมิจักรวาลและไตรภูมิ ได้รับสมญานามว่าเป็น ทัชมาฮาลแห่งลุ่มน้ำอิรวดี ค่าเข้าชม 5,000Ks

***แนะนำว่าต้องเตรียมชุดสีจัดๆ มาถ่ายรูป เพราะมันจะตัดกับสีขาวได้เป็นอย่างดี รับรองว่าได้รูปปังแน่นอน
ถ้าชุดยังฟาดไม่พอ ให้เช่าร่มที่ร้านค้าด้านหน้ามาเป็นพร๊อพได้เลย ไม่ต้องซื้อก็ได้เช่าเอา ถ่ายเสร็จแล้วค่อยเอาไปคืน

ระหว่างทางกลับก็มีสถานที่อีกมายมายให้เราได้แวะ อย่างเช่น เจดีย์มินกุน (Mingun Pahtodawgi) ความใหญ่โตที่สร้างไม่เสร็จ ทั้งหมดเหลือเพียงซากกองอิฐอันยิ่งใหญ่มโหฬาร ไว้ให้ชื่นชม แม้ว่าจะสร้างไม่แล้วเสร็จ แต่เจดีย์แห่งนี้ก็กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างด้วยอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกหนึ่งความใหญ่โตอลังกาลงานสร้างในเมืองมัณฑะเลย์

สะพานไม้สักอูเบ็ง (U Bein Bridge) สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก
อยู่ริมเขามัณฑะเลย์ ใกล้กับเขตหมู่บ้านมิงกุน เป็นสะพานไม้เก่าแก่ที่สร้างจากไม้สักชั้นดีที่รื้อถอนมาจากพระราชวังเก่ามีความยาว 2 กิโลเมตร ทอดข้ามทะเลสาบตองตะมานของเมืองอมรปุระ และยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามทั้งยามอาทิตย์ขึ้นและอาทิตย์ตกดินอีกด้วย เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปดุง และยังสามารถใช้การได้จนถึงปัจจุบัน

เราใช้เวลากันที่สะพานไม้อูเบ็ง กันค่อนข้างนานพอสมควร ตั้งแต่ช่วงเย็นจนพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไป ถือว่าเป็นโลเคชั่นในดวงใจ ที่เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของคนมัณฑะเลย์ได้อย่างแท้จริง

เที่ยวมาแล้วทั้งวัน เริ่มหิวแล้วจ้า นั่งรถมุ่งหน้ากลับไปที่ตัวเมืองหาร้านนั่งเติมพลังกันดีกว่า จบทริปวันที่ 3 ไปได้อย่างสวยงาม เห้ย!! รู้สึกหลงรักมัณฑะเลย์ขึ้นมาอีกเยอะเลย ดีจนจะต้องไปบอกต่อเพื่อนๆ ว่าพวกแกควรจะต้องมาเที่ยวนะเว้ย!! ถ้าไม่มาถือว่าพลาดมาก ขณะที่พูดไปก็ส่งรูปไปอวดในไลน์ เป็นยั่วเบาๆ

คืนนี้ขอชิลล์ๆ นั่งดื่มกันที่ Roof top ของโรงแรมแล้วกัน ก่อนจะแยกย้ายเข้านอน

สวัสดีวันสุดท้ายของทริปแล้ว ก่อนที่รถจะมารับไปส่งที่สนามบิน ก็ขอเดินออกไปสัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นกันที่ตลาดใกล้ๆ กับโรงแรมของเรานี่แหล่ะ ถ้าใครที่ชอบถ่ายรูปแบบสตรีทต้องชอบแน่ๆ เพราะยังมีความดิบๆ เรียลๆ ที่โคตรจะเข้าถึง เดินถ่ายรูปกันได้เพลินมาก

มองดูนาฬิกาเกือบถึงเวลาที่รถจะมารับแล้ว

พร้อมกล่าวคำลามัณฑะเลย์อย่างเป็นทางการ และสัญญาว่าจะต้องกลับมาใหม่อีกแน่นอน เป็นเมืองที่เที่ยวง่าย แถมประหยัดอีกต่างหาก เป็นอีกทริปที่โคตรจะประทับใจเลย ถ้าเพื่อนๆ มีโอกาสต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วจะหลงรัก มัณฑะเลย์ - พุกาม แบบเรา

Go See It ไปให้รู้ ออกไปดูให้เห็น

 วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 19.17 น.

ความคิดเห็น