ตุรัดตุเรงตะเรงกันไป... จอร์เจีย 15วัน 4หมื่นสอง รวมทุกอย่าง

เมื่อบรรดาก๊วนต่างวัยหัวใจหลากสี มารวมตัวกันที่เทือกเขาคอเคซัส....สุดขอบเอเซีย

รีวิวทริปนี้ รูป95%อีหล้าถ่ายด้วยกล้องมือถือแบบแม่บ้านค่ะ

ช่วงเดือนมิถุนายน อากาศก็จะร้อนๆหน่อย ประเทศจอร์เจีย … คือดินแดนที่จะไปปักหมุด สนุกเฮฮาตามประสาวัยใสๆและวัยสายๆ ขอบอกว่าทริปนี้เรามีตั้งแต่ 18 ถึง 50อัพอัพอัพ

แผนการเดินทาง ขอแบบลุยนิดๆ คุณนายหน่อยๆ แถมเสบียงเล็กน้อย เผื่อกระหายอาหารไทย รวมเวลาแล้ว 15 วัน 2 ประเทศหลักคือจอร์เจียกับอาร์เมเนีย แถมวันเดย์ทริปที่ดูไบ เมืองแห่งความร่ำรวยน้ำมัน

ในความเป็นจริง... ตามอีหล้ามาเลยคะ. หนังเรื่องเดียวกันแต่ไดเร็กเตอร์คัทให้อีกแบบ

มี Vlog ให้ดูด้วยนะ จิ้มเข้าไปดูได้เลย!

ลิงก์ EP.2

https://pantip.com/topic/39151726

การเดินทางของเราเริ่มที่สุวรรณภูมิ โดย Emirate Airline เราต้องบินไปฮ่องกงก่อน เรื่องราวของการท่องเที่ยวเริ่มจากตรงนี้แหละ

เครื่องบินพร้อมนักเดินทางทั้ง 9 ชีวิตมีความโคตรพร้อมและตื่นเต้นที่จะได้เห็นเทือกเขาคอเคซัส แต่พระพิรุณท่านไม่พร้อมมั๊กมาก... ท่านจัดพายุชุดใหญ่ไปลงที่เกาะฮ่องกงทำให้พวกเรานั่งรอบนเครื่องกว่า 2 ชั่วโมง ถึงตอนนั้นเพื่อนบางคนก็เอ่ยออกมาแบบบางๆเบาๆว่า ไฟลท์เราจากฮ่องกงไปดูไบไม่น่าจะทันแล้วแหละ

การรอคือความหวัง … ช่วงแรกพลังงานยังเต็มขีดทุกคนต่างงัดเรื่องเด็ดเรื่องดังสมัยเก่ามาขุดมาเขี่ยมาฟาดมาฟัน ให้มีเสียงหัวเราะความสุขและรอยยิ้มที่สดใส

หลังจากพระพิรุณท่านจัดพายุชุดใหญ่กระหน่ำบนเกาะฮ่องกง ทำให้ผู้ประท้วงได้แตกทัพไปแล้วเครื่องเราก็พร้อมทะยานบินสู่เกาะฮ่องกงกันซะที (ช่วงอีหล้าเดินทางเป็นช่วงที่ชาวฮ่องกงประท้วงเรื่องการร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน) นี่ถ้ามีเวลาจะขอแวะเข้าไปสอดส่องจัดแถวกับเขาซะหน่อย

เมื่อเครื่องมาถึงฮ่องกง ไฟลท์ที่เราจองก็ได้เดินทางออกไปแล้วเรียบร้อย ทาง Emirate airline ก็ให้เรารอและรอจนกว่าจะหาไฟลท์ใหม่มาแทนที่ได้ถึงตอนนี้เราเริ่มรู้ชะตากรรมว่า… อีหล้าและผองเพื่อนเป็นผู้ประสบภัยทางการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ

พวกเรารอประมาณ 4 ชั่วโมงทางเจ้าหน้าที่ก็มาบอกเราว่าเราต้องเดินทางไปดูไบและหลังจากนั้นไปตุรกี ต่อจากตุรกีเราถึงไปจอร์เจีย โอ้วแม่เจ้า……ฟังแล้วทำไมมันดูเยอะแยะขนาดนี้ พระพิรุณจัดเราหนักมากแถมให้อีกหนึ่งประเทศคือตุรกี และการเดินทางที่ยาวนานมากกว่า 38 ชั่วโมง แถมถ้าดูนาฬิกาไทยพวกเราใช้เวลาข้ามวันข้ามเวลารวมแล้ว 54 ชั่วโมง 2 วันกว่าแล้วค่ะ

ในที่สุดอีหล้าและผองเพื่อนก็มาถึงมา Tbilisi : The city that love you ประเทศจอร์เจีย ประมาณ 4 ทุ่มของอีกวัน โชคดีที่เราทำแผนท่องเที่ยวไว้หลวมๆคืนนี้เรานอนที่ Tbilisi guest house ห้องพักที่นี่อยู่กลางใจเมืองใกล้ Freedom square แถมราคาต่อเตียงก็ตกประมาณ 250 บาท คืนนี้ไม่มีอะไรจะเล่าขอนอนเอาแรงก่อนค่ะ

เกร็ดความรู้ เบาๆ ที่อีหล้าอยากบอกต่อ

1. เงินจอร์เจียเรียกว่า ลารี หรือ gel ตอนที่อีหล้าไป 1 ลารี = 11.5 บาท

2. ชาวจอร์เจียนเริ่มทำงานกันประมาณ 9 -10โมงเช้าพระอาทิตย์ตกประมาณ 3 ทุ่ม

3. อย่าลืมซื้อซิมอินเตอร์เน็ตที่สนามบินราคา 20 gel ใช้ได้ 20 GB

4. ชาวจอร์เจียนนับถือศาศาสนาคริสต์ นิกายออร์โธด็อกซ์ ค่อนข้างเคร่งหากจะเข้าไปชมความงามภายในโบสถ์ ผู้ชายต้องใส่กางเกงขายาว ส่วนผู้หญิงกระโปรงหรือกางเกงยาว มีผ้าคลุมผม หากไม่มีหน้าโบสถ์จะมีผ้าให้ยืมใช้ )

ทริปนี้ เราติดต่อรถเช่าพร้อมคนขับ เหมารวมทั้งทริป 14 วัน

ราคา 150-400 ลารีต่อวัน ขึ้นอยู่กับระยะทาง

FB : Levan Dvali

What's APP : David +995592560303

แผนการเดินทางวันแรกของเรา คือ

DAY 1. Tbilisi ไป Kazbegi ระหว่างทางแวะ

- Ananuri Fortress

- Gudari กูเดาริ เมืองสกี + Georgia Friendship Monument

ถึง คาซเบกิ นั่งรถ ไป Gergeti Trinity Church

คืนนี้นอนที่ Kazbegi พักที่ Kazbegi Guest House

เช้าวันแรกที่ทบิลิซี่ เราเดินออกมาดื่มกาแฟมองดูวิถีชีวิตชาวจอร์เจียที่เรียบง่ายและดูไม่วุ่นวาย ณ Freedom square ซึ่งเป็นรูปปั้นทองคำของพระเจ้า St. George

ล้อหมุน 10 โมงเช้า รถมารับพวกเราให้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยัง Kazbegi National Park ภาคเหนือของจอร์เจีย ระหว่างทางเราจะเห็นแผงผลไม้ตั้งข้างทาง เหมือนต่างจังหวัดบ้านเรา ขาช้อปไม่รอช้า

รถจอดเราจัด เชอรี่แอ๊ปเปิ้ล ลูกแพร์น้ำผึ้ง ถั่วสารพัดอย่าง แถมมะเขือเทศสดส้ดสดสีแดงอ่องต่อง คิดดูสิคะเชอรี่กิโลละ 6-8 Lari ลารี ( 69-92 บาท) ไม่ซื้อไม่ได้แล้ว เหล่าแม่บ้านจัดเต็มมากจนคนขายต้องแถมผลไม้กวนเป็นแผ่นบางๆให้มาฉีกกินตอนนั่งรถ การกระจายรายได้ครั้งนี้คนขายก็มีความสุขที่ได้เงินส่วนคนช้อปมีความสนุกที่ได้กิน วิน..วิน ทั้งคู่ค่ะ

ระหว่างทางไปเมือง kazbegi เราแวะ Ananuri Complex (อะนานูริ คอมเพล็กซ์)สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อศตวรรษที่ 13 เป็นสถานที่สำคัญเมื่อครั้น 800 ปีที่แล้ว ผ่านศึกสงครามมาก็เยอะ ด้านในมีทั้งป้อม ปราสาท และโบสถ์ แถมติดแม่น้ำ Aragvi เรียกว่าตรงตามหลักชัยภูมิสุดๆ วันที่เราไปตรงกับวันหยุดบรรดาพ่อแม่ต่างพาลูกหลานมาเที่ยวเรียนรู้ประวัติศาตร์ของบ้านเมืองช่างเป็นภาพที่น่ารัก

ด้านหน้าของอะนานูริ คอมเพล็กซ์ยังมีดอกไม้สีม่วงบานสะพรั่ง คอยส่งกลิ่นยั่วยวนให้นักท่องเที่ยวได้มาดอมดมและชื่นชมอีกด้วย อีหล้าและผองเพื่อนไม่รอช้าจัดภาพความเฟี๊ยวซักเซ็ท อ้าว 2,3 ชีสสสส

ไปต่อ ไม่รอแล้วนะ ห่างจาก ทบิลิซีประมาณ 120 กิโลเมตร เรากำลังเข้าเขตกูร์ดอริ Gudauri เมืองแห่งสาวกคนรักสกี อีหล้าไม่ได้แวะไปปั้นหิมะให้เป็นตัวหรอกจ๊ะ บอกเลยไม่ถนัด ถนัดปั้นน้ำให้เป็นตัวมากกว่า อิอิอิพวกเราเลยต้องปาดซ้ายแวะไปชมวิวหลักล้านที่ Memorial of Friendship หรือ Russia -Georgia Friendship Monument สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1983 เพื่อเป็นอนุสรณ์ความสัมพันธ์และความทรงจำอันงดงามระหว่างรัสเซียกับจอร์เจีย

ที่นี่นอกจากใหญ่โตมโหฬารยังมีภาพวาดอันวิจิตรบนกำแพง ด้านหลังก็เป็นเทือกเขาเขียวขจี ยิงภาพรัวๆกันเลยค่ะ

ต่อจากข้างบนนะคะ

ได้รูปถูกใจกันแล้วก็เคลื่อนขบวนไปยังเมือง Kazbegi เพื่อเปลี่ยนรถใหม่ เป็นรถ 4w ราคาประมาณ 70-100 ลารีเพื่อขึ้นเขาไปยัง Gergeti Trinity Church (โบสถ์เกอร์เกอตี้ ทรินิตี้ ) โบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่บน Kazbegi Mount มีความเก่าแก่และโบราณแถมมีชื่อเสียง ถ้าไม่มาเช็คอินเป็นอันว่ามาไม่ถึงจอร์เจีย ภายในโบสถ์ผู้คนประกอบพิธีกรรมดูมุ่งมั่น ส่วนนอกโบสถ์ อีหล้าและผองเพื่อน หัวไม่วางหางไม่เว้น กับการถ่ายภาพที่แสนจะจริงจังและเพลิดเพลินกับมุมแปลกตาที่แสนสุขใจ

กลับลงมาจากโบสถ์ เราก็ขับรถเข้าที่พักที่ Kazbegi guesthouse ซึ่งเราได้จองไว้ล่วงหน้าผ่าน booking.com

วันนี้ตุรัดตุเรงตะเรงกันทั้งวันถึงจะเหนื่อยแต่ก็สนุกแถมบ้านเมืองที่จอร์เจียก็สวยสมใจปราถนาไม่เสียแรงที่ฟันฝ่าพายุมาเที่ยว คืนนี้หลับฝันดี เจอกับ EP 2 เร็วๆนี้ค่ะ