ส่องนก ชมไพร 

ทั้งต๊าซ ทั้งจึ้ง อรุ่มเจ๊าะมากเลยพี่ ต้องที่ กระบี่เท่านั้น 

ทริปเขานอจู้จี้ คลองท่อม กระบี่ 

ตามอีหล้ามาค่ะ ทริปนี้อีหล้าเป็นสายส่อง จะพาเพื่อนๆเปลี่ยนบรรยากาศ ปลีกวิเวกมาฟังเสียงนกชมความต๊าซ..ซ..ของเขานอจู้จี้ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานเขาประ-บางคราม จ.กระบี่ แน่นอนว่าอีหล้าต้องพาไปชมสายธารน้ำอุ่นสระมรกต สุดยอดไฮไลท์ที่ต้องมาเช็คอิน            

อีหล้าพักที่ wareerak wellness & spa ที่เลือกพักที่นี่ เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจี ได้ฟังเสียงร้องเจื้อยแจ้วของนกจากพงไพร ทริปนี้ขอผ่อนคลาย ชาร์จแบตเข้าร่างและจิตใจอย่างเต็มที่จึ้งมั๊ก..มาก

 

( ภาพที่เห็นขนาดนี้ ตอนนี้หล้าถอดรูปแล้ว (ไม่ใช่คะ ขออนุญาติใช้ภาพน้องเขาดีกว่าดูแล้วสบายตาเยอะเลย อิอิอิ )

ยามเช้าอากาศสดชื่น ได้ยินเสียงนกร้อง ดุจดั่งวงหมอลำกลอน (ดนตรีพื้นเมืองแถวบ้านอีหล้า)ส่งเสียงจิ๊บ จิ๊บเหมือนร้องเรียก ทำให้เราคึกคัก ร่าเริง ยิ่งนัก 

เช้านี้อีหล้าได้เดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติในอุทยานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม แน่นอนหนึ่งในความฝันของอีหล้าต้องมีเรื่องนก+นก อยู่แล้ว เขาว่าแถวนี้มี “นกแต้วแร้วท้องดำ” ที่เชื่อว่าใกล้จะสูญพันธุ์และหายากมากอาศัยอยู่

ภายในเขตอุทยาน ระหว่างทางเดินเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวชะอุ่มทั้งสองข้างทาง มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ดูพรรณไม้ และมีสายธารน้ำอุ่นๆ ไหลมาจากสระมรกต 

ตรงทางเดินเข้าไปด้านใน จะมีป้ายบอกชื่อนกประจำท้องถิ่น นานาชนิดวันนี้อีหล้าเจอนกท้องถิ่นเข้ามาทัก อาทิ นกแซวสวรรค์ Asia paradise Flycatcher : เป็นนกขนาดเล็กคล้ายนกปรอดหัวโขน หางยาวกว่า ตัวผู้จะมีขนสีน้ำตาลและขาวโดดเด่นกว่าตัวเมียที่มีเพียงสีน้ำตาล 

นกกระเต็นหลังแดง Rufous-backed kingfisher: เป็นกระเต็นที่แตกต่างจากชนิดอื่น คือมีขนาดเล็กมากความยาวเพียงแค่ 14 ซม.ปากยาว 2.5 ซม สีแดงส้ม คล่องแคล่วว่องไว เล็กจิ๋วขนานแท้

นกบั้งรอกเล็กท้องเทา-นกบั้งรอกแดง maljohas :  นกน้อยตัวนี้พบมากในป่าดิบ ป่าพรุ เป็นนกใน “ตระกูลคัคคู “มีวงค์นกคัคคูทั้งหมดเกือบ 150 ชนิดทั่วโลก ถือว่านกบั้งรอกแดงมีญาติเยอะมาก 

นอกจากนี้อีหล้ายังได้เห็นนกกระเต็นท้องดำแต่เป็นรูปปั้นที่เขาจำลองมามีทั้งตัวผู้ตัวเมีย นกชนิดนี้ใกล้สูญพันธุ์แล้ว อีหล้าได้แต่อธิฐานสาธุอย่าให้มันหายไปจากโลกเลย

ไหนๆก็เสียค่าเข้ามาในเขตอุทยานแล้วต้องเอาให้คุ้ม อีหล้าเดินไปจนถึงต้นน้ำคือ สระน้ำผุด เป็นต้นกำเนิดของสระมรกต สระน้ำผุดเป็นบ่อน้ำสีฟ้าครามใส ต๊าซ..ซ..ตรงถ้าเราปรบมือน้ำจะผุดขึ้นมาตามจังหวะ  3 -4 ปรบมือกันรัวๆเลยค่ะ

(จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับรอยแยกของเปลือกโลกที่ทำให้น้ำผุดอยู่ตลอดเวลา )

ต่อจากนั้นเราก็ชมความงามของสระมรกตที่มีสีเขียวใส ความเข้มของสีจะเปลี่ยนไปตามแสงแดด

สนุกและตื่นเต้นตลอดวัน ทั้งกับนกและสายธารน้ำอุ่น เห็นที่ต้องกลับไปนอนพักผ่อนเอาแรงแล้วมาใหม่ 

ถ้าพูดถึงกระบี่หลายคนอาจจะนึกถึงท้องทะเล ภูเขา เกาะแก่ง วันนี้อีหล้าจึ้งมากกับความมหัศจรรย์ของสายธารน้ำอุ่นจากแร่ธาตุธรรมชาติ และบรรดาเหล่านก..นกที่ออกมาโผบินอวดความงามให้เหล่านักส่องได้สนุกสนานและเพลิดเพลินกับลีลาและท่าทางสง่ามาก 

กระบี่มีแหล่งดูนกที่จะทำให้นักส่องได้ตื่นเต้นหลายที่ อาทิเช่นน้ำตกห้วยโต้ ท่าปอมคลองสองน้ำ เขานอจู้จี้-คลองท่อม มาส่องนกกันค่ะ แล้วคุณจะหลงรักทั้งนกและเมืองกระบี่

ถ้าเพื่อนๆอยากมาเที่ยวกระบี่ ส่องนก อีหล้ามีทริป 3 วัน 2 คืน ให้เดินตามรอย รับรองสนุกแน่นอน

ทริป 3วัน2 คืน เมืองกระบี่

Day 1 : 

-เดินทางถึงจังหวัดกระบี่ ยามเช้า สามารถไปเดินส่องนกที่ ท่าปอมคลองสองน้ำ หรืออาจจะเลือกไปที่สระมรต หรือถ้าชอบน้ำตกก็สามารถไปที่น้ำตกห้วยโต้ เลือกได้ตามใจชอบ

-พักในเมืองหรือแถวอ่าวนาง 

-ทานอาหารพื้นเมือง ร้านตะโกลา 

-ตอนเย็นเดินชอป ชมวิถีชีวิตชาวกระบี่ที่ ตลาดปูดำ แล้วไปชิมอาหารสตรีทฟู๊ดอร่อยๆที่ตลาดเจ้าฟ้า

Day 2 

-เช้าตรู่ ส่องนกที่พื้นที่ชุ่มน้ำ ปากแม่น้ำกระบี่ เขาขนาบน้ำ อินกับนกป่าชายเลน สลับกับความงามของเขาขนาบน้ำ 

-ชิมติ่มซำยามเช้า มีให้เลือกหลากหลายร้าน 

-กลับที่พักเอาแรง

-บ่ายๆตระเวนชิมกาแฟร้านเท่ห์ๆมีหลากหลายสไตล์ให้เลือก

-ยามเย็นไปเล่นน้ำหรือชมพระอาทิตย์ตกดินที่อ่าวนาง แวะทานอาหารทะเลแถวนั้น 

Day 3

-เช้าตรู่ไปส่องนกที่โรงบำบัดน้ำเสียเทศบาลเมืองกระบี่ ชมนกท้องถิ่นหรือนกอพยพที่โฉบเฉี่ยวอยู่กลางเวหา 

-แวะตลาดมหาราช กินอาหารเช้าชมวิถีชีวิตชาวกระบี่ ช้อปสินค้าของฝาก อาทิ กุ้งแห้ง ปลาแห้ง น้ำพริก ไปเป็นของฝาก 

-เดินทางกลับสิคะ เดี๋ยวค่อยมาเที่ยวใหม่ 



แถมท้ายภาพบรรยากาศโรงแรมวารีรักษ์ 

       

Elahpalui

 วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 14.35 น.

ความคิดเห็น