Death Valley
ทริปนี้เป็น one day trip จาก Los Angeles มุ่งสู่ Death Valley ระยะทางประมาณ 237 ไมล์ (เดินทางด้วยรถยนต์ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 55 นาที ตาม google map)
Death Valley เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่งของประเทศอเมริกา รัฐแคลิฟอเนีย เป็นอุทยานที่ไม่คิดว่าจะมาเยือน เพราะชื่อที่ฟังดูน่ากลัว ต้นไม้ก็ไม่ค่อยจะมี และมันคงจะต้องร้อนมากๆๆๆ แต่พอได้ไปสัมผัสเข้าจริงๆ (เพราะวันหยุดไม่รู้จะไปไหน) จึงได้เจอคำตอบว่า Death Valley มีอะไรดีกว่าที่คิด
เดินทางวันที่ 25 มีนาคม 2018
ก่อนเดินทางเราก็ได้มีการหาข้อมูลเกี่ยวกับ Attraction Point in Death Valley มาบ้างซึ่งแต่ละจุดมีระยะทางห่างกันมากพอดู เลยอยากจะแชร์จุดถ่ายรูปที่เราสามารถเก็บมาได้ใน 1 วันให้เพื่อนๆที่อาจจะสนใจมาเที่ยวแต่มีเวลาไม่เยอะ มาตามรอยกันค่ะ (เรียงตามลำดับสถานที่ที่เราแวะเลยค่ะ)
- Hightway 190, the West
- Stovepipe wells
- Mesquite Flat Sand Dunes
- Zabriskie Point
- Death Valley National Park Sign
- Artist Pallette (A Pallette of Color)
1. Hightway 190, the West
เราขอ Mark ถนน Hightway 190, the West มุ่งสู่ Death Valley เป็น Attraction Point จุดแรกของการเดินทาง เพราะวิวของถนนที่ทอดยาวมุ่งสู่เนินเขานั้นสวยมาก มีคนจอดรถถ่ายรูปพอสมควรเลย
วิวริมถนนข้างทาง
2. Stovepipe wells
จุดนี้เหมือนเป็นจุดแวะพักรถ มีปั้มน้ำมัน, ห้องน้ำ, ร้านขายของที่ระลึก, ร้านอาหาร, โรงแรม, ที่จอดรถบ้าน แต่แนะนำว่าถ้าจะเติมน้ำมันควรเติมให้เต็มถังจากด้านนอกอุทยานจะดีกว่า เพราะน้ำมันที่นี่แพงเอาเรื่องเลย
3. Mesquite Flat Sand Dunes
เป็นจุดที่แปลกมาก ที่อยู่ดีๆก็มีทะเลทรายมาอยู่กลางหุบเขา ที่นี่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง Star Wars ด้วยนะ ทะเลทรายคือใกล้ที่จอดรถมาก แต่ยิ่งใกล้ที่จอดรถรอยเท้าก็จะเยอะ รวมถึงมีต้นไม้ต้นเล็กๆแซมอยู่ในทราย เลยต้องเดินเข้าไปข้างในเพื่อหามุมถ่ายและหลบคน ตอนเดินเข้าไปถ่ายรูปคือเพลินมาก แต่ตอนเดินกลับเล่นเอาหอบเลยทีเดียว
เวลาที่เหมาะต่อการถ่ายรูปที่สุดจะเป็นช่วงพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกค่ะ เพราะจะทรายจะมีแสงและเงาที่สวยงามมากขึ้น (แต่เราไปถึงตอนเกือบเที่ยงเลยค่ะ ^_^)
4. Zabriskie Point
เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงมากอีกจุดนึงของอุทยาน Death Valley เราจะได้เห็นวิวแบบ panorama ที่มีลวดลายและสีสันแปลกตา ภูมิทัศน์ของ Zabriskie Point จะมีลักษณะเป็นลูกคลื่น เนื่องจากบริเวณนี้เมื่อหลายล้านปีก่อนนั้นมีทะเลสาบโบราณปกคลุมอยู่ ก่อนที่น้ำจะระเหยจนหมดไป ทิ้งไว้ซึ่งลวดลายและสีสันจากตะกอนและดินโคลนต่างๆก้นทะเลสาบ ธรรมชาติช่างมหัศจรรย์มากๆค่ะ
นอกจากจะขึ้นไปชื่นชมวิวสวยๆบนจุดชมวิวแล้ว ยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นท่ามกลางเนินทราย รวมถึงปีนเขาเพื่อเก็บภาพในมุมที่แตกต่างกันไปค่ะ
ทางเดินจากลานจอดรถไปยังจุดชมวิว Zabriskie Point
มองย้อนกลับไปยังลานจอดรถด้านล่าง ดูเหมือนจะไม่ไกลมาก แต่ทางเดินเป็นเนินขึ้นไป ค่อนข้างเหนื่อยเลย
5. Death Valley National Park Sign
จุดนี้คือพลาดไม่ได้ (เพราะคนไทยต้องถ่ายกับป้าย ^^) ป้าย Death Valley จะมีอยู่ 2 ป้าย ป้ายนึงคืออยู่ในรัฐ Nevada อีกป้ายจะอยู่ในรัฐ California โดยเราแวะถ่ายจากป้ายในรัฐ California เพราะอยู่ไม่ไกลจาก Zabriskie Point (9 ไมล์)
6. Artists Palette (A Pallette of Color)
พูดตามตรงเราไม่ค่อยอินกับจุดนี้เท่าไหร่ (เพราะศิลปะเรายังไม่ถึง 55+) จุดชมวิวนี้เรียกว่า Artists Palette หรือ A Pallette of Color ซึ่งตั้งชื่อจากการที่มีสีสันปรากฎอยู่ที่ตรงกลางของภูเขาราวกับมีคนมาป้ายสีไว้ ซึ่งที่เราเห็นเหมือนมีสีนั้น แท้จริงแล้วเป็นแร่ธาตุต่างๆที่ปนอยู่ในดินบนภูเขาค่ะ
ถัดจาก Artists Pallet จะมีถนนชื่อว่า Artists Drive เป็นถนนแคบๆ โค้งเยอะๆ ขับสนุกมาก แนะนำให้ลองขับเข้าไปดูค่ะ ระหว่างทางก็จะมีภูเขาที่มีสีสันแต่งแต้มอยู่ แปลกตาดี
หลังจากขับรถออกจาก Artists Drive ฟ้าก็เริ่มจะมืด เราก็ขับรถกลับ Los Angeles เพราะไม่อยากออกจาก Death Valley ค่ำเกินไป
แนะนำว่าใครมาเที่ยวที่นี่ควรจะโหลดแผนที่ google offline map เก็บไว้ในมือถือก่อนนะคะ เพราะว่าสัญญาณโทรศัพท์ไม่ค่อยมี หลงทางอยู่ในนี้หล่ะแย่เลย การโหลดแผนที่เก็บไว้ช่วยเราได้เยอะจริงๆ อีกอย่างนึงคือ ควรเตรียมอาหาร น้ำ ขนม ข้าวกล่องมาให้พร้อม เพราะร้านอาหารมีน้อย ข้อดีของการพกข้าวกล่องคือเราก็จะไม่ต้องเสียเวลาหาร้านอาหารด้วยค่ะ ทริปนี้ลากันไปก่อนน๊าาาาาา.....
Facebook Page : https://m.facebook.com/TJSeeWorld
#TJเยี่ยวรอบโลก
TJเยี่ยวรอบโลก
วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 22.12 น.