"เกาะสีชัง" 3 วัน 2 คืน จะฤดูกาลไหนก็ไม่มีพัง !!

ฉันเป็นทะเลไม่ใช่เขา ต่อให้ทำยังไงเธอคงจะไม่รักเรา

เพราะเขานั้นคือทุกสิ่ง ที่ทำให้เธอไม่เหงา

คงเป็นเขา ที่สุดท้ายได้หัวใจของเธอ

สำหรับใครที่มีเวลาหรือวันหยุดน้อย แต่อยากปลีกวิเวกไปพักกาย พักใจ หรือพักสมอง วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวทะเลใกล้ๆกรุงเทพที่ เกาะสีชัง อ. ศรีราชา จ. ชลบุรี เกาะแห่งรักสุดโรแมนติกที่เเสนเงียบสงบ ต้องบอกก่อนว่าเราเขียนรีวิวนี้ครั้งเเรกนะคะ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขอโทษขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วยจ้า

🌴🌴เกาะสีชัง 🌴🌴 เป็นเกาะเล็กๆ แต่เป็นเกาะที่มีความคลาสสิกอยู่ในตัวมาก เราไปมาถ้ารวมครั้งนี้ก็คือครั้งที่ 3 แล้ว ทุกครั้งที่ก้าวขาลงบนเกาะก็คือสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของเกาะที่นี่ และทุกครั้งที่กลับไป ความรู้สึกก็ไม่เคยเปลี่ยน มันดีทุกครั้งและมากขึ้นทุกๆครั้ง เหมาะกับคนที่ต้องการมาพักผ่อน เอาร่างกายมาชาร์จแบต และฟอกอากาศบริสุทธิ์ให้กับชีวิต

วันที่หนึ่ง 

เช็คอินที่หนึ่ง : ท้ายเกาะสีชัง

ที่ตรงนี้อยู่ท้ายเกาะสีชังเลยจะมีเรือเก่าจอดอยู่ ทางไปอาจจะน่ากลัวนิดนึงและคนก็แทบไม่มี แต่มันเงียบดีน้ำก็ใสด้วย เหมาะที่จะไปนั่งชิลรับลมเย็นๆ แต่อาจจะต้องระวังเศษแก้วนิดนึงนะคะ เพราะค่อนข้างเยอะอยู่พอสมควร แต่ถ้าเทียบกับความสวยก็ถือว่าคุ้มอยู่  ทั้งที่ตรงนี้สวยแต่คนก็ไม่ค่อยมาเท่าไหร่ คงเพราะไม่เป็นที่นิยมของเกาะ เราว่าความจริงแล้วโลกซ่อนสิ่งสวยงามไว้ตั้งเยอะ มันอยู่ที่ว่าเราจะเสพความสวยงามจากค่านิยมของคนอื่น หรือเลือกที่จะค้นหาความสวยงามเอง โดยไม่ต้องตามใคร

ยืนบนหาดทรายถ่ายคู่วิวสวยๆ แต่ห้ามถอดรองเท้าเดินนะ เศษแก้วเยอะ

ไปถ่ายรูปกับเรือเก่าอันนี้กันนะทุกคน

ไปนั่งชมวิวดูน้ำทะเลใสๆรับลมเย็นๆ

บอกแล้วน้ำใสมากแถมเป็นสีมรกตด้วยนะ

ไปต่อที่ท่ายายทิมกันเต๊อะ 

เช็คอินที่สอง : ท่ายายทิม

ไปถ่ายรูปคู่เปลือกหอย

อากาศเย็นสบายมาก วิวก็สวยด้วยน้า

มีชิงช้าสำหรับให้นั่งเล่น

เช็คอินที่สาม : ไปถ่ายรูปกับสะพานอัษฎางค์

สะพานอัษฎางค์ เป็น 1 ใน 4 จุดสำคัญ สถานที่ที่ไม่ว่าจะมากี่ครั้ง ก็ยังสวยและคลาสสิกมากขึ้นทุกครั้ง คงเหมือนกับว่าของบางอย่าง คนบางคน ดูมีคุณค่าและน่าจดจำ มากกว่าจะทำใจให้หลงลืมได้ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเวียนกลับมากี่ครั้ง ความรู้สึกก็ยังคงเดิมเสมอ😊

เช็คอินที่สี่ : ช่องเขาขาด หรือช่องอิศริยาภรณ์ เป็น 1 ใน 4 จุดสำคัญของเกาะสีชังเหมือนกัน เหมาะแก่การมานั่งดูพระอาทิตย์ตกดินมาก สวย เงียบ สงบ บอกเลย ดี ดี ดี และดี

เดินเลาะๆ ลงมาชมวิวข้างล่าง รับลม รับอายทะเล ฟิลดี แต่ผมก็จะเหนียวๆหน่อย

พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน และวันนี้กำลังจะจบลง ชีวิตของคนเราออกเดินทางตามหาความสุข จนเข้าสู่วงจรที่ซับซ้อน เพื่อสุดท้ายแล้วกลับพบว่า ความเงียบสงบนี่แหละคือคำตอบของทุกสิ่ง

วันที่สอง

เช็คอินที่ห้า : รอยพระพุทธบาท ณ เกาะสีชัง 🙏  สำหรับใครที่พอมีเวลา เราเเนะนำให้ไปที่นี่ด้วยนะคะ ขึ้นไปรับลมเย็นๆ มองเห็นวิวทิวทัศน์ของเกาะสีชังเเบบพาราโนมาเลยเเหละ

เช็คอินที่หก : สะพานถนนคนเดิน ณ เกาะสีชัง บรรยากาศดีมากกกกกกก อยากจะลาก ก. ยาว ไปถึงนอกโลกไปซักประมาณ 4 -5 โมงก็กำลังดีเลย ถ้าเราเดินลงไปตามสะพาน ฝั่งซ้ายมือของเราจะมองเห็นวิวศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่กับรอยพระพุทธบาท เดินไปจนสุดจะมีลานกว้างสำหรับชมวิวอยู่ อย่าลืมถือมาม่าและโจ๊กมากินด้วยนะ ฟิลดีมากบอกเลยยย 😊

เเวะไปชิม ก๋วยเตี๋ยวร้านเจ๊อ๋อย หยุดบ่อย พร้อมชมวิวศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ 🍲

เช็คอินที่เจ็ด : เเวบไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ แหลมจักรพงษ์ กัน

วันที่สาม : บ๊ายบายนะเกาะสีชัง

ได้เวลากลับแล้ว สิ่งหนึ่งที่ตระหนักขึ้นได้หลังการออกเดินทาง คือ เราไม่ได้มีชีวิตเพียงเพื่อทำงาน และหาเงิน หรือมีชีวิตเพื่อใครมากมาย เราแค่มีชีวิตเป็นของเรา และเราแค่รู้สึกว่าชีวิตเป็นสิ่งที่ควรจะได้ใช้จริงๆ และควรได้ใช้อย่างคุ้มค่าด้วย

สำหรับการเดินทางก็ง่ายมากค่ะ ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพ ถ้าเดินทางตามสเต็ปนี้ รับรองไม่มีหลง เราเดินทางโดยไปขึ้นรถตู้ได้ที่คิวรถตู้หมอชิต อาคาร C บอกเขาว่าไปลงศรีราชา ราคาตั๋ว 120 บาท (อย่าลืมบอกคนขับว่า ไปลงโรบินสันศรีราชานะ) มีอีกที่ก็คือ บขส. เอกมัย ขึ้นได้เหมือนกัน (แต่ไม่รู้รายละเอียดเพราะไม่เคยไปขึ้น 5555555 ) ขับรถไปเอง หรือนั่งรถทัวร์ไปก็ได้ และเช่นกันอันนี้ไม่รู้รายละเอียด

- ถึงโรบินสันศรีราชา รถตู้จะจอดฝั่งตรงข้ามโรบินสัน มองไปทางซ้าย หรือทางขวา จะมีรถสามล้อจอดอยู่ บอกสามล้อว่าไปท่าเรือเกาะลอย ค่ารถ 80 บาท

- ถึงท่าเรือเกาะลอย ก็ซื้อตั๋วได้เลย ราคาอยู่ที่ 50 บาท

-  เมื่อไปถึงเกาะสีชัง ก็เลือกวิธีเดินทางได้ตามสไตล์ที่ชอบ แต่อย่าเดินนะ เหนื่อย 555555

- ชอบการเที่ยวแบบอิสระหน่อย ก็แนะนำให้เช่า มอไซต์ ชั่วโมงละ 80 บาท ถ้าเช่า 1 วัน แบบไม่ค้างคืน 250 บาท และค้างคืน 300 บาท อยากไปไหนก็ไป อยากขับลงทะเลยังได้เลย แต่ลงไปแล้วก็อาจจะไม่ได้ขึ้นมานะ หยอก ~~~~ ถ้าให้แนะนำก็แนะนำให้เช่ามอไซต์นะคะ เพราะมันสะดวกและอิสระดี

- ขับมอไซต์ไม่เป็นล่ะ ทำยังไง สามารถเหมาสกายแล็ปหรือสามล้อพาเที่ยวได้เลย ซึ่งจะพาเราเที่ยว 4 จุดสำคัญ คือ สะพานอัษฎางค์ ช่องเขาขาด หาดถ้ำพัง และ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่

- ขากลับก็บอกพี่สามล้อเลยว่าไปคิวรถตู้ที่โรบินสัน เดี๋ยวพี่สามล้อพาเเว้นเอง ค่ารถ 60 บาท ถูกกว่าขาไปอีก