สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ นักเดินทางทุกท่าน วันนี้ส้มจะมาชวนทุกคนไปเที่ยวจังหวัดนึงในภาคใต้ของประเทศไทย เป็นจังหวัดที่เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของไทย นั่นคือ "จังหวัดภูเก็ต" เนื่องด้วยการที่เป็นคนชอบเล่นเกมส์แจกห้องพักฟรีมากกก วันดีคืนดี ดวงเป็นของเรา ก็เลยได้ห้องพักฟรี 3 วัน 2 คืนพร้อมอาหารเช้า ที่ The Beach Heights Resort ที่ภูเก็ตมา โดยการเข้าไปเล่นเกมส์ที่เพจ Paksabuy ค่ะ เอาล่ะ !!! เมื่อได้รางวัลมาแล้ว เราก็เริ่มทำการวางแผนการท่องเที่ยวกันเลย เนื่องจากส้มเป็นคนโคราช การขับรถไปถึงภูเก็ต ก็ดูจะเป็นเรื่องโหดไปหน่อย ระยะทางพันกว่ากิโล ก็เลยขอเลือกการเดินทางทริปนี้ด้วยเครื่องบิน หาไปหามา มาลงตัวที่ Thaismile เพราะเดินทางจากดอนเมืองได้เลย ราคาดูแล้วก็สูสีกันกับเจ้าอื่นๆ และมีบริการโหลดกระเป๋า / ของว่างบนเครื่อง / เลือกที่นั่งได้ เมื่อได้วันเวลาในการเดินทางแน่นอนแล้ว ก็จัดไปค่ะ จอง 2 ที่นั่งใน ในราคา 6,320 บาท อาจดูราคาสูง แต่ส้มเทียบราคากับเจ้าอื่นๆ แล้ว ราคาไม่แตกต่างกันมากค่ะ ส้มจะเริ่มเล่าทริปนี้ตั้งแต่ตอนจองตั๋วเลยเนาะ ปล. ส้มไม่มีรูปตั้งแต่ตอนจองนะคะ ไม่ได้ถ่ายไว้ แต่จะเล่าให้ฟังแทนเนอะ
ตอนจองตั๋วกับ Thaismile เที่ยวบินดอนเมือง – ภูเก็ต จะมี 3 เที่ยวบิน ต่อวันค่ะ ไฟลท์แรกประมาณ 9 .25 น. ใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชม. 10 น. ถึงสนามบินก็ประมาณ 10.45 น. ส้มเลือกรอบแรกค่ะ เพราะอยากไปถึงเร็วๆ หาเที่ยวก่อนแล้วค่อยเข้าที่พัก ขั้นตอนการจอง ก็เลือกเที่ยวบินที่เราต้องการ จากนั้นระบบก็จะให้เรากรอกข้อมูลผู้โดยสาร กรอกให้ถูกนะคะ ตรวจสอบให้ดี เมื่อเรียบร้อยแล้ว ระบบก็จะให้เลือกที่นั่ง ส้มเลือกแถว A 50 B 50 ทั้งไป-กลับค่ะ เห็นวิวชัดเจน ดี เมื่อเลือกที่นั่งได้แล้ว ระบบก็จะให้ปริ้นท์ใบไปจ่ายเงินค่ะ มีให้เลือกว่าจะจ่ายที่ไหน ส้มเลือกจ่ายที่ 7-11 ค่ะ ระยะเวลาในการจ่ายไม่ถึง 24 ชม. แต่ก็ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะเราจองไว้แล้ว ก็ไปจ่ายเงินตามเวลาที่กำหนด จากนั้นจะมีเมล์คอนเฟิร์มกลับมาหาเรา ตามอีเมล์ที่เรากรอกไว้ค่ะ เป็นอันเรียบร้อย อ่อ !! ลืมบอกไป ทริปนี้ส้มเดินทางวันที่ 26-28 เมษายน 2559 ค่ะ
เมื่อจัดการเรื่องยานพาหนะที่จะพาเราไปภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว ก็มาคิดกันต่อค่ะว่า ระหว่างที่เราถึงสนามบินแล้ว และต้องการเที่ยวในเมืองภูเก็ต ในเวลา 3 วัน 2 คืน เราต้องทำยังไง ลงตัวกันที่การเช่ารถขับค่ะ หาข้อมูลจากในเว็บ ในเฟซบุ๊ค มาเจอที่ เพจ รถเช่าภูเก็ต ราคาถูก Pro carrent Phuket ค่ะ ติดต่อพี่เอ๋ บริการดีมาก ทั้งส้มและคุณสามีประทับใจมากค่ะ พี่เอ๋เป็นกันเอง และที่สำคัญ ถ้าเรามีไฟลท์ไป-กลับที่แน่นอน ไม่ต้องมีค่ามัดจำค่ะ ส้มได้ราคามาที่ วันละ 950 บาท เช่าทั้งหมด 3 วันค่ะ วันที่ไปถึงสนามบิน พี่เอ๋แจ้งให้ส้มโทรหาหลังจากได้กระเป๋าแล้ว จะขับรถมารับ เพื่อไปเซ็นเอกสาร พี่เอ๋จะขอถ่ายบัตรประชาชน + ใบขับขี่ของเราไว้ และก็ให้แผนที่ท่องเที่ยวภูเก็ตเรามา คุยข้อตกลงเบื้องต้น พาเราดูรถว่ารถมีตำหนิอะไรบ้าง ทิ้งท้ายว่าถ้าหลงทาง โทรหาได้ รถที่ส้มได้เป็น Mazda 2 ค่ะ รถใหม่ สะอาด พี่เอ๋เติมน้ำมันเต็มถังค่ะ ตอนคืนรถก็เติมกลับให้เต็มถัง แต่เนื่องจากส้มวางแผนพลาดไปหน่อย ก็เลยไม่ค่อยได้ใช้รถไปไหนมากนัก สรุปแล้ว เติมน้ำมันกลับคืนประมาณ 400 ค่ะ
เมื่อเรื่องยานพาหนะเราเรียบร้อยหมดแล้ว ก็วางโปรแกรมเที่ยวค่ะ ตั้งใจว่าอยากไปเกาะสักเกาะ เลือกเป็น one day trip ไปได้ที่เกาะไม้ท่อนของเลิฟ อันดามันค่ะ จัดแจงจองผ่าน inbox ของเพจเลิฟ อันดามัน และชำระเงินเรียบร้อยค่ะ ส่งเป็นภาพใบเสร็จรับเงินกลับมาให้เรา ให้เราใช้ยื่นให้ จนท.ดูวันเดินทางได้เลย
เริ่มต้นทริปของส้ม ออกเดินทางจาก บขส.ใหม่ โคราช ประมาณ ตี 2 ค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม. ตี 5 นิดๆ ก็มาลงที่หน้าดอนเมือง เดินเข้ามาในอาคาร 2 บินภายในประเทศได้เลย ไฟลท์บินเราคือ 9.25 แต่ไม่อยากพลาดอะไรค่ะ มารอก่อนจะดีกว่า เรามารอเค้า ดีกว่าให้เค้ารอเราเนอะ มาถึงสนามบิน คนยังไม่เยอะมากค่ะ นั่งคุย นั่งเล่น กัน 2 คน รอเวลา ประมาณ 7.25 น. เค้าน์เตอร์เช็คอิน ก็เปิดให้บริการ อ่อ ๆๆ ส้มเช็คอินมาจากบ้านแล้วนะคะ ปริ้นท์เอกสารมาเรียบร้อย ติดต่อเค้าน์เตอร์เพื่อโหลดกระเป๋า 1 ใบ Thaismile ให้กระเป๋าฟรี 20 กิโล นะคะ แต่ไปกัน 2 คน ส้มใช้กระเป๋าแค่ใบเดียวก็พอค่ะ ให้คุณสามีจัดการโหลดกระเป๋า เราก็มายืนรอดูค่ะ ว่ากระเป๋าเราผ่านเรียบร้อยมั้ย ยืนรอประมาณ 5 นาทีก็เดินเข้าเกทได้ค่ะ ผ่านเรียบร้อยดี ก็เดินเข้ามาในเกทได้เลย หาซื้อขนมรองท้องนิดหน่อย แล้วเดินไปรอที่เกทเลยค่ะ เดินไกลพอสมควรเลย เลขเกทที่ออกคือ 52 นั่งเล่นสักพัก ก็เรียกขึ้นเครื่องค่ะ
โฉมหน้าคุณอ่างทอง ที่พาเราไปเที่ยวกันวันนี้ค่ะ
ไปค่ะ ไปขึ้นเครื่องกัน เจ้าหน้าที่ประกาศขึ้นเครื่อง เราก็ต่อคิวเดินขึ้นเครื่องกันค่ะ โชคดีที่วันนี้ไม่ล่าช้าค่ะ คนมารอกันครบ ขึ้นเครื่องสักพักก็เหินฟ้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตกันค่ะ
เมื่อเครื่องรักษาระดับได้แล้ว แอร์โฮสเตสก็เริ่มบริการอาหารว่างค่ะ ไม่รู้เมนูแต่อร่อยค่ะ ในถุงที่ให้มาจะมีของว่าง น้ำเปล่า 1 ขวดค่ะ และอีกสักครู่จะมีบริการเครื่องดื่ม พวกน้ำผลไม้ น้ำอัดลมค่ะ ขอน้ำส้มไป 2 แก้ว ชื่นใจ ^^
ถึงภูเก็ตประมาณ 10.45 น. เมื่อถึงสนามบิน รับกระเป๋าเรียบร้อย ก็โทรหาพี่เอ๋ค่ะ พี่เอ๋มารับเราที่ชั้น 1 ไปค่ะ เริ่มออกเดินทางเที่ยวเมืองภูเก็ตกัน ...
ส้มวางแพลนไว้คือ เที่ยวหาดแต่ละหาดของภูเก็ตค่ะ เริ่มตั้งแต่ไม้ขาวยาวลงมาเรื่อยๆ จนถึงที่พัก The Beach Heights Resort ที่หาดกะตะ ค่ะ วางแผนไว้ว่าจะไปหาดไม้ขาว หาดในยาง หาดสุรินทร์ หาดป่าตอง หาดกมลา หาดกะตะ หาดกะรน และอีกหลายหาด แต่ความจริงคือ หาดไม้ขาว หาดในยาง หาดสุรินทร์ กินข้าว และเข้าที่พักค่ะ ด้วยการเดินทางที่ยาวนานตั้งแต่เมื่อคืน ทำให้เรา เหนื่อย !! ค่ะ คุณสามีบอกว่าเอาน่า ปรับตามหน้างาน ไม่จำเป็นต้องเป๊ะอะไรมากมาย หาดแรกที่แวะคือหาดไม้ขาว ด้วยความหวังว่าจะไปรอดูเครื่องบินแลนดิ้ง หาแอพมาเรียบร้อย แต่เปล่าจ้ะ ไม่รู้ว่ามาถูกหาดหรือเปล่า ไม่เห็นเลย ฮ่าฮ่า หาดเงียบมากกก มีแค่เราสองคนกับท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ฟ้าสวยๆ ทะเลแจ่มๆ ดีมาก
เดินเล่นถ่ายรูปสักพัก ก็เดินทางไปต่อที่หาดในยางค่ะ หาดในยาง เข้าทางอุทยานแห่งชาติสิรินาถ มีค่าเข้า 20 บาทค่ะ หาดนี้คนเริ่มพลุกพล่านขึ้นมาหน่อย แต่ค่อนข้างสกปรก ขยะเกลื่อนหน้าหาด แต่น้ำทะเลก็ยังล่อตาล่อใจให้เรากระโดดลงไปอยู่นะ
เดินเล่นสักพัก เราก็ออกเดินทางกันสู่หาดต่อไปค่ะ ขับมาเรื่อยๆ ตามทางจนถึงหาดบางเทา อยู่ในบริเวณโครงการลากูน่า ภูเก็ตค่ะ ทะเลสงบและสวยอีกเช่นเคย มีกิจกรรมให้ทำเยอะค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าหาดบางเทาเป็นหาดส่วนตัวของโครงการลากูน่า ภูเก็ตหรือเปล่านะคะ ที่พักที่นี่น่าสนใจมาก ติดหน้าหาดเลย
หาดต่อไปที่เราไปแวะคือ หาดสุรินทร์ค่ะ ที่นี่คลื่นค่อนข้างแรง เคยอ่านเจอมาว่าที่นี่เค้านิยมมาโต้คลื่นกันค่ะ มีชาวต่างชาติอาบแดดกันเยอะ น้ำทะเลที่นี่สวย หน้าหาดสวย แต่ทางเข้าหาดเหมือนกำลังจะก่อสร้างอะไรสักอย่าง กำลังทุบ กำลังรื้อกันอยู่ มองออกไปไกลๆ เห็นมีรีสอร์ทบนเขา แจ่มจริง !!!
เอาล่ะ เที่ยว 4 หาด กับการผจญภัยบนถนนภูเก็ต ที่ไม่เหมือนบ้านเรา กับทางขึ้นเขา ลงเขา แต่ก็ในระยะสั้นๆ ไม่ได้น่ากลัวมากค่ะ ขณะนั้นเวลาประมาณบ่ายโมงกว่าแล้ว กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้องแล้ว ตามแพลนที่วางไว้จะไปกินข้าวกลางวันที่ ร้านร่มไทรบ้านนาคาเลย์ค่ะ ไม่มีอะไรมาก ชอบวิว และร้านอาหารไม่ได้หรูหรามากนัก เราสองคนชอบค่ะ ไปถึงร้านมีแขกโต๊ะเดียว เราเลยได้เลือกมุมที่อยากนั่งดูวิวได้สบายๆ เมนูวันนั้นก็มี คอหมูย่าง ต้มยำกุ้ง กะเพราทะเล แต่เมนูที่ได้คือ คอหมูย่าง ต้มยำทะเล และกะเพรากุ้ง เอาล่ะ ไม่ซีเรียสค่ะ ไม่เรื่องมาก กินได้ นั่งกินข้าวไป ดูวิวไป ลมเย็นๆ สบายมาก ราคาอาหารวันนั้น มีข้าว 3 จาน และน้ำอัดลม 1 ขวดใหญ่ ราคา 570 บาทค่ะ
จะบ่ายสามแล้ว ความเห็นเรา 2 คนคือ เข้าที่พักดีกว่า อยากไปแช่น้ำแล้ว อากาศวันนั้นร้อนดีทีเดียวค่ะ หนีร้อนไปแช่น้ำที่ห้องกันดีกว่า อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรกค่ะ ส้มได้รางวัลห้องพัก 3 วัน 2 คืน ที่ The Beach Heights Resort มา และห้องที่ได้ เป็น Pool access ค่ะ ส้มทำการจองผ่านอีเมล์ของโรงแรม และได้รับการคอนเฟิร์มมาเรียบร้อย ที่โรงแรมมีค่าประกันตอนเข้าพัก 3,000 บาทนะคะ รับเงินสดค่ะ แต่ตอนโทรคอนเฟิร์มก่อนวันเข้าพัก 1 วัน พนักงานแจ้งส้มว่า ถ้าเป็น voucher มา ไม่ต้องชำระค่าประกัน สบายไป ^^
หน้าโรงแรมและล็อบบี้ค่ะ
ตึกข้างๆ จะเป็นส่วนของ The Beach Group เหมือนกัน แต่เป็น The Beach Boutique
ก่อนเข้าที่พัก ส้มพาไปดูส่วนของสระว่ายน้ำหลักของโรงแรมก่อนค่ะ
ส่วนของ Pool Access อีกตึกค่ะ โชคดีไปที่ส้มไม่ได้พักฝั่งนี้ คนคงพลุกพล่านน่าดูเลย
เมื่อเช็คอินเรียบร้อยแล้ว พนักงานจะพาเราไปยังห้องพักค่ะ ห้องที่ส้มได้วันนี้อยู่ด้านหลัง ตึก 1 ค่ะ เลขที่ออก 3103 เป็นห้อง pool access ค่ะ ค่อนข้างเป็นส่วนตัว โชคดีไปที่ส้มได้ฝั่งนี้ เพราะถ้าเป็นอีกฝั่งนึงจะติดกับสระใหญ่และห้องอาหารของโรงแรม ฝั่งที่ส้มได้ เกือบเป็น private pool แล้ว เพราะไม่มีใครมาเล่นเลย ห้องทั้งแถบเหมือนมีแค่ห้องส้มห้องเดียว
ไปดูห้องน้ำกันค่ะ ในห้องน้ำ เป็น ฝักบัวนะคะ ไม่มีอ่าง สามารถเปิดม่านในห้องน้ำ มองออกไปด้านนอกได้เลย แต่ก็ไม่ได้ลองนะ ต่อให้เป็นสามี ภรรยากันก็เนอะ ^^ ในห้องน้ำมีผ้าเช็ดตัวให้ 2 ผืนค่ะ แต่ไม่มีผ้าเช็ดหน้ากับผ้าเช็ดเท้า พนักงานนำมาให้ภายหลังค่ะ
เอาล่ะ ไปดูจุดไคลแม็กซ์ของเราวันนี้กันค่ะ Pool Access ที่เป็น Private Pool ของเรา
ตามโปรแกรมที่วางไว้คือ จะไปดูพระอาทิตย์ตกที่จุดชมวิวกังหันลม ไปหาของกินที่ราไวย์ แต่อย่างที่บอกค่ะ เหนื่อยและเพลียมาก โปรแกรมนี้จึงถูกยุบค่ะ เปลี่ยนเป็นแช่น้ำในห้องพัก จนค่ำ ก็ออกไปหาของกินกันค่ะ ชอบภูเก็ตตรงที่เดินไปหาของกินได้ตลอดทาง ชาวต่างชาติเยอะมาก จนเราสงสัยว่าเรามาเที่ยงเมืองนอกเลย ^^ เดินไปๆๆ จนเกือบถึงหาดกะตะ ยังไม่เจอร้านถูกใจ สุดท้าย กลับมากินอาหารตามสั่งแถวโรงแรม ราคาแรงตามจังหวัดหรือยังไงก็ไม่ทราบค่ะ อาหารตามสั่ง 2 กล่อง 240 บาท ไม่มีรูปนะคะ ลืมถ่าย หิวมากก
เช้าวันใหม่ สดใสและพร้อมมากค่ะ เพราะวันนี้เรามีนัดกับเลิฟ อันดามัน เพื่อไปเที่ยวเกาะไม้ท่อน เมื่อวานช่วงบ่ายๆ มีจนท.โทรมานัดหมายเวลาที่รถตู้จะมารับค่ะ รีบตื่นแต่เช้าเพื่อมาทานอาหารเช้า โรงแรมแจ้งว่า ห้องอาหารเปิดตั้งแต่ 6.30 น. เกือบ 7 โมง เราก็พร้อมมาจัดการมื้อเช้าค่ะ ที่ห้องอาหารยานัดค่ะ ยังเช้าอยู่ คนยังไม่เยอะ เลยมีโอกาสเก็บภาพมาฝากค่ะ
หลังจากมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเล่นในโรงแรมค่ะ รอเวลารถตู้มารับ เวลาประมาณ 08.36 น. รถตู้ก็มารับค่ะ มีนักท่องเที่ยวที่จะไปเกาะไม้ท่อนเหมือนเรา ขึ้นมาแล้ว และรถตู้ก็แวะรับอีกประมาณ 3 จุด จนครบ ก็ออกเดินทางสู่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตค่ะ ระยะเวลาประมาณ 45 นาทีค่ะ
มาถึงก็จะมีจุดให้ลงทะเบียน ค่ะ มีนักท่องเที่ยวอยู่เยอะพอสมควร ไม่ค่อยมีฝรั่ง ส่วนมากเป็นคนไทยและเอเชียค่ะ ตรงจุดนี้มีบริการอาหารว่างและน้ำดื่มค่ะ จัดไป ตรงที่นั่งรออาจไม่เพียงพอ และกลิ่นห้องน้ำแรงค่ะ นั่งรอสักพัก ไกด์ของเลิฟ ก็มาแนะนำตัวและแนะนำการเดินทางคร่าวๆ ค่ะ ไกด์ของวันนี้ คือไกด์อู๋ เอ็นเตอร์เทนได้ดีค่ะ
สักพักเรือก็พร้อมออกเดินทางค่ะ ทางไกด์แจ้งว่าเป็นเรือลำใหญ่ นั่งได้ 40-50 คนนี่แหละค่ะ ส้มไม่แน่ใจ เพราะฉะนั้นวันนี้ที่นั่งเหลือๆค่ะ เพราะวันนี้นักท่องเที่ยว 38 คนค่ะ ก่อนลงเรือไกด์จะให้ถอดรองเท้านะคะ รวมใส่ถุงไว้ คืนให้ตอนถึงเกาะ ทั้งขาไป-กลับนะคะ
ใช้เวลาเดินทางไม่นานค่ะ ประมาณ 10 นาที ก็ถึงเกาะไม้ท่อนค่ะ เห็นน้ำทะเลสวยๆ ใสๆ มาแต่ไกล เสียดายที่เราไม่ได้เห็นน้องโลมา เหมือนบางทริปที่ได้มาเจอ ก่อนลงเรือไกด์จะถามก่อนค่ะ ว่าใครจะไปดำน้ำ หรือจะขึ้นเกาะเลย ถ้าใครขึ้นเกาะเลย ก็สามารถขึ้นไปพักผ่อนได้เลยค่ะ จะจอดให้ที่ท่าเรือ ส่วนใครที่ดำน้ำ ไกด์จะพาไปดำน้ำที่จุดดำน้ำค่ะ
ส้มกับคุณสามีเลือกขึ้นเกาะค่ะ เพราะส้มว่ายน้ำไม่เป็น และไม่คิดจะดำน้ำอยู่แล้ว แค่อยากมานั่งผ่อนคลาย มาเที่ยวเกาะเท่านั้น ที่ขึ้นเกาะเลย มีไม่กี่คนค่ะ ขึ้นเกาะมาแล้ว ก็นั่งเล่นสักพัก พนักงานของเลิฟ อันดามัน ก็พร้อมบริการเครื่องดื่มค่ะ ตั้งแต่ลงเรือมา คือชอบที่นี่มาก ทะเลสวย ฟ้าใส แต่วันนี้ไม่ค่อยมีเมฆค่ะ แดดแรงใช้ได้เลย ครีมกันแดดก็เอาไม่อยู่ แต่มาเที่ยวทะเลเนอะ ถ้ากลัวดำ ก็คงไม่ใช่เรื่อง เกาะไม้ท่อน มีผู้ให้บริการหลายบริษัทค่ะ ของเลิฟอันดามัน จะอยู่ด้านในสุด มีที่นั่งในร่ม นั่งพักได้สบายๆ ตอนที่ส้มไป ทางปลายๆ หาด จะมีปรับปรุง กั้นป้ายไว้ เลยไม่ได้เดินไป แค่เดินๆ เล่น ใกล้ๆ แถวตจุดที่จัดไว้ ที่นี่มีสระว่ายน้ำด้วยนะคะ เผื่อใครไม่อยากลงทะเล ก็มาว่ายน้ำในสระได้
ไปค่ะ ได้เวลาไปกระโดดลงทะเล กับน้ำใสๆ ของเกาะไม้ท่อนกันดีกว่า ส้มให้ดูภาพไปเรื่อยๆ เลยนะคะ
ช่วงประมาณเที่ยง ทางพนักงานของเลิฟ อันดามัน ก็เตรียมมื้อเที่ยงพร้อมค่ะ มื้อเที่ยงจัดเต็มอย่างที่บอกค่ะ วันนี้มีน่องไก่ทอด ต้มจืดผักกาดขาว สปาเก๊ตตี้ น้ำพริกกุ้งเสียบ ทะเลเผา เครื่องดื่ม ของว่าง เสิร์ฟไม่อั้นค่ะ ท้องร้องแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ
ช่วงประมาณ บ่ายโมงกว่าๆ ไกด์อู๋ก็เรียกรวมพล สำหรับคนที่ต้องการขึ้นไปชมวิวด้านบนค่ะ ทางขึ้นชันพอสมควรค่ะ ส้มเกือบไม่รอด เหนื่อยมากกก แตาิวแจ่มมากนะ
หลังจากลงจากจุดชมวิว ทางเลิฟ มีบริการขนมหวานอย่าง โอ้เอ๋วค่ะ เป็นขนมพื้นเมืองของภูเก็ตค่ะ มีวุ้นๆ เป็นเมือกๆ ถั่วแดง น้ำหวาน เย็นชื่นใจดีค่ะ
ประมาณ 15.30 น. ก็ได้เวลากลับกันค่ะ เป็นการมาพักผ่อนที่ส้มประทับใจมากค่ะ ที่นี่ไม่ได้มีกิจกรรมมากมายอะไร แต่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมาพักผ่อน เล่นน้ำ หรือนั่งดูคนอื่นๆ มีความสุข การท่องเที่ยวของเราก็เต็มอิ่มได้เหมือนกันค่ะ
ใช้เวลากลับประมาณ 15 นาทีค่ะ ทริปที่ไปไม่มีคนเมาเรือค่ะ อาจเป็นเพราะใช้เวลาน้อยในการเดินทาง แต่ถ้าใครเมาเรือ ก็อาจต้องเตรียมกินยาเผื่อด้วยนะคะ จะได้เที่ยวสนุก การนั่งเรือไม่เหมาะสำหรับคนตั้งครรภ์ มีปัญหาเรื่องหัวใจนะคะ เพราะกระแทกพอสมควรทีเดียว เมื่อถึงฝั่งแล้ว เราก็กลับโรงแรมด้วยรถตู้ที่มาส่งเราตอนเช้าค่ะ รอบริการอยู่แล้ว
มื้อค่ำของวันนี้ตั้งใจจะไปแก้ตัวที่ราไวย์ หลังจากที่เมื่อวานตั้งใจว่าจะไปแต่ไม่ได้ไป ที่จะบอกก็คือวันนี้ก็ยังอดค่ะ เพราะเหนื่อยและขี้เกียจ ฮ่าฮ่า กะว่าอยากจะแช่น้ำเย็นๆที่ห้องดีกว่า ก็เลยสรุปเป็นมื้อค่ำคือเดินไปหาของกินเหมือนเมื่อวานค่ะ แต่วันนี้เราจะเลี้ยวขวาเมื่อออกจากโรงแรมค่ะ เดินไปเรื่อยๆ จนได้ร้านอาหารของวันนี้คือที่ร้าน Benya ค่ะ เป็นร้านอาหารซีฟู้ด ซึ่งมีอยู่เยอะมาก เลือกร้านนี้เพราะเดินผ่านแล้วร้านน่านั่ง เหตุผลแค่นี้แหละ มื้อนี้เราสั่งต้มยำกุ้ง หมึกนึ่งมะนาวและยำทะเลค่ะ มื้อนี้หมดไป 1 พันบาทถ้วนค่ะ สำหรับเราสองคนให้ผ่านที่ต้มยำกุ้งค่ะ ที่เหลือเฉยๆค่ะ
ระหว่างทางเดินกลับที่พัก จะมีร้านรวงเยอะมาก ทั้งร้านมินิมาร์ท ร้านอาหาร บาร์ ร้านพิซซ่า ร้านไอติม เลือกกันได้เลยค่ะ ว่าเงินในกระเป๋าเรารองรับอะไรได้ ส้มกับคุณสามีรู้สึกว่าอาจจะไม่อิ่ม ก็แวะซื้อของกินเล่นที่ร้านมินิมาร์ทปากทางเข้าโรงแรมกันไว้ด้วยค่ะ หาเครื่องดื่มเย็นๆ นั่งชิลล์ริมสระ ผ่อนคลายดีนะคะ ^^
มาถึงวันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว แอบเศร้านะ ยังไม่อยากกลับเล้ยย วันนี้ส้มบินไฟลท์สุดท้ายเลยค่ะ คือ 21.35 น. เพราะฉะนั้นก็ยังมีเวลาเที่ยวได้เกือบทั้งวันแหละเนาะ วันนี้แพลนคือเที่ยววัดและเดินเที่ยวในย่านเมืองเก่าภูเก็ตค่ะ หลังจากจัดการมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการเช็คเอ้าท์ค่ะ แล้วก็ออกเดินทางกันไปที่จุดหมายแรกเลย คือที่ ร้านกาแฟ Coffee Talk ค่ะ อยู่ที่หาดกะรน ร้านมองเห็นทะเล เป็นร้านกาแฟที่น่านั่งอีกหนึ่งร้านของภูเก็ตค่ะ อาจจะเช้ามาก ส้มไปยังไม่มีลูกค้าเลย พนักงานบริการดีค่ะ เครื่องดื่มอร่อยมากกก ส้มสั่ง Strawberry Delight ค่ะ ของคุณสามีเป็น Ice Chocolate ค่ะ ขนมเป็นบราวนี่ค่ะ
วัดพระพุทธมิ่งมงคล (พระใหญ่) หรือเห็นชาวต่างชาติเรียกกันว่า Big Buddha ทางขึ้นเป็นเขานะคะ ขับไม่ยากค่ะ ขึ้นดอยเชียงใหม่ ยากกว่าเยอะ ระหว่างทางก็มีรถสวนกันบ้างประปรายค่ะ
ที่วัดพระพุทธมิ่งมงคล หรือ พระใหญ่ คนเยอะค่ะ แดดกำลังดีเลย วันที่ส้มไปกำลังมีการบูรณะกันอยู่ค่ะ แต่ก็สามารถขึ้นไปถึงด้านบนได้ตามปกติค่ะ เพียงแต่อาศัยความระมัดระวังกันหน่อย
ออกจากวัดพระพุทธมิ่งมงคลแล้ว ที่ต่อไปคือวัดไชยธาราราม หรือวัดฉลอง ไปสักการะหลวงพ่อแช่มกันค่ะ
จบทริปทัวร์วัด เราก็มุุ่งหน้าเข้าเมืองกันค่ะ ไปเดินชมเมืองย่าน Phuket old town กันค่ะ เป็นช่วงถนนดีบุก ถลาง เดินๆไป จะเป็นตึกเก่า ตึกที่ปรับปรุงให้เข้ากับยุคเก่า สวยดีค่ะ ส้มชอบ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ภาพอาร์ตๆ ที่กำลังจะถูกลบ นักท่องเที่ยวเยอะพอสมควรค่ะ ตึกที่นี่สีสันแปลกตาดีค่ะ เล่นสีสลับไปมา สวยแปลกตาดีค่ะ
เดินๆไป ไปเจอร้านกาแฟน่านั่งค่ะ แอบดูรีวิวมาบ้างแล้ว ที่ร้าน Eleven Two & Co. เป็นร้านกาแฟที่อาร์ตมากสำหรับส้ม ร้านน่านั่ง พนักงานน่ารักทุกคน ชวนคุย แนะนำเมนูเด่นของทางร้านให้ส้ม เป็นเมนู Hot Summer ปั่นๆกับมะนาวมั้งคะ รสเปรี้ยวๆ ชื่นใจดี แต่ถ้าคนไม่ชอบผักอาจต้องผ่านเมนูนี้ไป ตรงที่เค้าปั่นใบมิ้นท์ลงไปด้วย แต่น้ำรสชาติดีเลยค่ะ
ออกจากร้าน Eleven Two & Co แล้ว เป้าหมายสุดท้ายของเราวันนี้คือ มาชิมแกงปูใบชะพลูที่ร้านวันจันทร์ เดินออกจากร้านไปอีก 1 แยกค่ะ ก็จะเจอร้านวันจันทร์ เป็นร้านอาหารพื้นเมืองภูเก็ต ตกแต่งร้านเน้นโทนย้อนยุค ด้วยการเอาของเก่าพวกวิทยุ นาฬิกามาตกแต่งค่ะ คนไม่เยอะตอนที่ส้มไปค่ะ ชอบบ เมนูที่สั่งคือ แกงปูใบชะพลู หมูฮ้อง เนื้อปูผัดมะนาว ให้ผ่านเต็มที่ที่ 2 เมนูแรกค่ะ เนื้อปูผัดมะนาว ส้มเฉยๆ ข้าวเปล่าจะเสิร์ฟมาในโถข้าว ซึ่งน่ารักมากก ไปเหอะๆๆๆ ไปกินข้าวกันเนอะ
*มื้อนี้ 810 บาทค่ะ
หลังจากอิ่มหนำสำราญดีแล้ว เวลาตอนนั้นประมาณเกือบๆ 5 โมงแล้วค่ะ ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปอีกวัดคือวัดพระทอง แต่รถติดเชียวแหละ เลยเปลี่ยนแผนเป็นไปสนามบินเลยดีกว่า อย่างที่บอกตั้งแต่แรกคือ รอเค้า ดีกว่าให้เค้ารอเราค่ะ เพราะฉะนั้นไปรอก่อนเวลาคือดีที่สุด โทรแจ้งพี่เอ๋ ว่าจะคืนรถ พี่เอ๋มารับรถคืนที่สนามบิน เป็นอันเรียบร้อยค่ะ สนามบินภูเก็ตในเวลาเกือบๆ 6 โมงคนเยอะ และที่นั่งไม่เพียงพอเลยจริงๆค่ะ ไม่รู้ว่าที่นั่งตรงอื่นมั้ยนะคะ แต่ส้มอยู่ตรงเค้าน์เตอร์สนามบิน คือที่นั่งมันไม่พอจริงๆ สำหรับจำนวนคน ยืนค่ะยืนเกือบ 1 ชม. ได้เวลาเช็คอิน เพราะเค้าน์เตอร์สำหรับเที่ยวบินในประเทศจะเปิดก่อน 2 ชม. ค่ะ หลังจากเช็คอิน โหลดกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าเกทกันค่ะ คนเยอะมากกก แต่ที่นั่งในเกทเพียงพอสำหรับวันนี้นะคะ ไม่รู้ว่าถ้าแน่นกว่านี้ จะพอมั้ย ใกล้เวลาบิน พนักงานก็ประกาศเรียกขึ้นเครื่องค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 10 นาทีเหมือนเดิม ส้มและคุณสามีก็เดินทางถึงสนามบินดอนเมือง จากสนามบินก็ไปต่อแถวขึ้นแท๊กซี่กันค่ะ ต่อหมอชิต กลับโคราชและถึงบ้านโดยสวัสดิภาพค่ะ
ส้มสรุปค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้ให้ค่ะ แต่จะไม่รวมค่าอาหารนะคะ เพราะแล้วแต่เพื่อนๆ จะเลือกอาหารสำหรับทริปของเพื่อนๆ เองค่ะ
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ สายการบินไทยสไมล์ ชั้นประหยัด 2 ที่นั่ง 6,320 บาท
ค่าเช่ารถยนต์ 3 วัน วันละ 950 2,850 บาท
ค่าทริปเกาะไม้ท่อน 2 คน 4,798 บาท
ค่ารถทัวร์ ไป-กลับ 2 คน 764 บาท
ค่าเข้าอุทยานสิรินาถ 20 บาท
ค่าน้ำมันสำหรับเติมคืนรถยนต์ 400 บาท
ค่าแท๊กซี่จากดอนเมือง ไปหมอชิต 190 บาท
ค่าแท๊กซี่จากบ้านส้ม-บขส.ใหม่ 2 เที่ยว 440 บาท
หมดแล้วค่ะ -- หวังว่าทริปนี้ของเราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวภูเก็ตได้สนุกเหมือนที่เราไปมาค่ะ เรื่องร้านอาหารหรือความประทับใจในสถานที่และบริการ เป็นความเห็นส่วนบุคคลนะคะ ส้มพอใจก็บอกว่าพอใจค่ะ ไม่มีอวยเกินเหตุ โดยรวมๆคือพอใจ เพราะวางแผนทริปมาแล้ว มีตกหล่นบ้าง แต่ไม่เป็นไรค่ะ เอาหน้างานที่สะดวก ทริป 3 วัน 2 คืนนี่เป็นทริปที่มีความสุขมาก ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาในพื้นที่ใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ หวังว่าทริปของเราจะทำให้เพื่อนๆ อยากเก็บกระเป๋าและออกเดินทางไปเที่ยวกันนะคะ
** ทริปนี้มีข้อผิดพลาดประการใด้ ต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ **
I am Kamon
วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.28 น.