หลังจากรัฐบาลได้ผ่อนปรนให้สามารถเดินทางเที่ยวได้ ทางเราก็วางแผนไว้ในใจแล้วว่าจะนั่งรถไฟยาวๆ เพื่อไปนอนฟังเสียงคลื่นที่อุทยานแห่งชาติหาดวนกร เป็นการไปเยือนครั้งที่ 4 ของเรา ซึ่งเราชอบเป็นการส่วนตัวเพราะใช้งบน้อยมากนั่นเป็นคอนเซ็ปต์ของทางเราค่ะ ฮ่าๆ เป็นหาดที่เงียบสงบแม้ในช่วงที่คนไปเยอะก็ยังคงความสงบ และยังมีดาวเยอะด้วยนะสำหรับใครที่ชอบดูดาว (มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายอยู่ช่วงท้ายนะคะ)
มาที่สาระกันสักนิด อุทยานแห่งชาติหาดวนกร มีที่ทำการอยู่ริมทะเลห่างจากตัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ประมาณ 22 กิโลเมตร ระหว่างกิโลเมตรที่ 345 - 346 ถนนเพชรเกษม แยกจากถนนเพชรเกษม ตามถนนลาดยางเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร มีทางรถไฟสายใต้ผ่าน เราจึงเลือกเดินทางโดยรถไฟ โดยใช้เวลาเดินทาง 7 ชั่วโมงโดยประมาณค่ะ ถ้าไม่รีบและหากต้องการดื่มด่ำกับบรรยากาศระหว่างทางและมีงบที่จำกัดแนะนำให้นั่งรถไฟนะคะ วิวสวยมากค่ะ หรือใครใคร่ขับรถส่วนตัวไปก็สะดวกดีค่ะ จะมากับเพื่อน กับแฟน หรือกับครอบครัวลูกเด็กเล็กแดงได้หมดเลย ที่อุทยานฯ มีบ้านพักไว้รับรองด้วยนะคะ ติดหาดเลย บรรยากาศดีสุดๆ ติดต่อสอบถามที่ทำการอุทยานฯ ได้เลยค่ะ เบอร์ 063 142 1121 หรือที่ https://www.facebook.com/hatwanakorn/ เจ้าหน้าที่อัพเดทข่าวสารตลอดค่ะ
เราเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้าโดยรถไฟไทยชั้น 3 ขึ้นที่สถานีรถไฟธนบุรี(สถานีรถไฟบางกอกน้อย) เวลา 7.30 น. ค่ารถไฟ 60 บาท ซึ่งการเที่ยวแบบ New normal ทางเจ้าหน้าที่การรถไฟก็ทำตามมาตรการความปลอดภัยหให้เช็คอินไทยชนะ และวัดไข้ก่อนใช้บริการค่ะ
นั่งมายาวๆ อ่านหนังสือ ดูวิว ฟังเพลง ถึงสถานีราชบุรี ต้องกินก๋วยเตี๋ยวแห้งนะคะ อร่อยมาก 10 บาทเอง เมื่อก่อนจะเป็นแบบห่อๆ มีข้าวแกงที่เป็นกระทง และมีของกินขึ้นมาขายบนรถไฟตลอดทาง แต่ช่วงที่มีโควิด-19 เข้ามา ไม่มีของขายบนรถไฟแล้วนะคะ มีขายบางสถานีใหญ่ๆเท่านั้น
นั่งดูวิวกันต่อไปอีกหลายชั่วโมงเลยจ้า อากาศเริ่มร้อนแต่วิวระหว่างทางเย็นสบายตามากเลยค่ะ :)
รูปนี้ถ่ายระหว่างช่วงเขาสามร้อยยอดค่ะ
รูปนี้น่าจะเป็นช่วงก่อนเข้าประจวบคีรีขันต์ค่ะ
นั่งมา 7 ชั่วโมงโดยประมาณในที่สุดเราก็ถึงแล้ว สถานีห้วยยาง เป็นการเดินทางที่ยาวนานมาก จากนั้นก็โทรหาลุงเทือง ซึ่งเป็นมอเตอร์โซค์รับจ้างเจ้าประจำของเราค่ะ เพื่อเข้าไปที่อุทยานฯ ค่ารถคนละ 80 บาทค่ะ และถ้าจะกลับก็ให้นัดแนะกับลุงเขาไว้เลยนะคะ เบอร์โทรลุงเทืองค่ะ 062-3389272 ลุงแกน่ารักมากค่ะ ชอบตรงที่ลุงแกชอบเรียก ไอ้หนูๆ สำเนียงใต้หน่อยๆ น่ารักดี :)
มาถึงก็ติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยาน แสดงหลักฐานการจองผ่านแอพ QueQ ให้เจ้าหน้าที่ดู ชำระเงินค่าเข้าและค่าอื่นๆ เรียบร้อยแล้วก็มากางเต็นท์ค่ะ เลือกพื้นที่ได้เลยคนไม่ค่อยเยอะ อยากนอนตรงไหนก็ได้ค่ะ ตามสะดวก ฮ่าๆ เริ่มหิวแล้วหาอะไรทานกันเถอะค่ะ
เรื่องอาหารการกินไม่ต้องกลัวอดนะคะ มีร้านค้าสวัสดิการค่ะ มีทุกอย่างจริงๆ ค่ะ อาหารอร่อย และราคาถูกมาก 50-60 บาท จนถึงราคาหลักร้อยก็มีค่ะ และนี่คือความดีงามอีกอย่างนึงของหาดวนกรค่ะ อาหารอร่อย อิ่มท้องแล้วไปเดินเล่นให้ย่อยกันดีกว่า :)
ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำเยอะเลยนะคะ เล่นนำ้ทะเล หรือจะดำน้ำก็มีค่ะ แต่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อน ส่วนช่วงนี้ยังไม่ได้มีบริการพาออกไปดำนำ้ค่ะ เพราะเจ้าโควิด-19 ตัวเดียวเลยค่ะ T^T
เดินไปเรื่อยๆ เจอเจ้าถิ่นซะงั้น น้องน่ารักมาก
ท้องฟ้าตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกเนี่ยน่ารักมากเลยนะคะ มีคนบอกว่ามันคือหลุมรักค่ะ :)
สำหรับวันนี้ก็พอเท่านี้ก่อนค่ะ อาบน้ำนอนพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์กัน ราตรีสวัสดิ์ . . .
ตื่นตีห้าครึ่ง ตื่นเพราะได้ยินเสียงเต็นท์ข้างๆ ฮ่าๆ เปิดเต็นท์ออกดู ว้าวววว คือมันดีต่อใจมาก มาทีไรก็อาการนี้แหละ ตื่นเต้นตลอด ฮ่าๆๆๆ
ออกไปเดินเล่นกันตอนตีห้าครึ่งนี่แหละ หาดทรายมันร้องเรียกเดินมาหาฉันสิ มาสิ มาสิ ฮ่าๆ
ของจริงที่มองด้วยตาสวยกว่านี้มาก ภาพทั้งหมดไม่ได้ใส่ filter หรือแต่งสีภาพเลยค่ะ
เดินเล่นอยู่สักพักก็ได้เวลากลับแล้วค่ะ ต้องออกมารอรถไฟกลับกรุงเทพฯ ตอน 9.30 น. ไว้เจอกันใหม่นะ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดดังนี้ค่ะ
-ค่าแท็กซี่จากบ้านมาสถานีรถไฟ 120 บาท
-ค่าตั๋วรถไฟ ไป-กลับ 120 บาท
-ค่ามอเตอร์ไซด์เข้าไปอุทยานฯ ไป-กลับ 160 บาท
-ค่าเข้าอุทยาน 20 บาท ค่ากางเต็นท์ 30 บาท ค่าแผ่นรองนอน 20 ค่าเสื่อ 40 บาท
-ค่าอาหารประมาณ 250 บาท
-ค่ารถเมล์กลับบ้าน 46 บาท
รวมทั้งสิ้น 806 บาท
เงิน 1,000 ยังเหลือกลับบ้านเด้อ
จบการรีวิวไว้แต่เพียงเท่านี้ค่ะ เป็นรีวิวแรกของเราผิดพลาดอย่างไรก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ
#ลองเป็นโสดแล้วจะเป็นสุข
รัก :)
ลองเป็นโสดแล้วจะเป็นสุข
วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.56 น.