ขอเท้าความไปเมื่อคืน เราเพิ่งจะจองตั๋วรถไฟ renfe จากมาดริดไปToledo เอง 

ตอนแรกจองรถบัสผ่านเว็บนายหน้าราคา5ยูโร แต่พอเช็คตั๋วอีกทีแล้วมันไม่บอกเวลาขึ้นรถ 

เรากลัวว่าจะโดนเทเหมือนสนามฟุตบอลเมื่อวานอีกที่จองแล้วว่าจะเข้าชมวันที่1 มกรา แต่พอไปถึงกลับปิดซะงั้น เสียเงินฟรีเลย และไม่รู้สิ เค้าอาจจะเปลี่ยนตารางวิ่งรถแล้วไม่ได้อัพเดทลงเว็บก็ได้ เราเลยยอมยกเลิกตั๋วไป ได้รีฟันมา4ยูโร แล้วตัดสินใจให้พี่หนอนจองตั๋วรถไฟไป-กลับโทเลโด้ให้เพราะบัตรเดบิตเราต้องใส่otp แล้วเบอร์ที่ใช้อยู่เป็นเบอร์ของสเปน

วันสุดท้ายก่อนกลับไทยเราตัดสินใจเลือกไปเที่ยวเมืองโตเลโด เมืองเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลจากมาดริด นั่งบัสประมาณ1ชั่วโมงนิดๆ นั่งรถไฟประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว 

เมือง Toledo มีความพิเศษคือนอกจากจะเคยเป็นเป็นเมืองหลวงเก่าของสเปนแล้ว  โตเลโดยังได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อ ค.ศ.1986 โดยยูเนสโกอีกด้วย  เนื่องจากเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางแห่งศาสนาและวัฒนธรรม โตเลโดจึงเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีผู้คนไหลเข้ามาเที่ยวอย่างไม่ขาดสายไม่แพ้เมืองหลวงปัจจุบันอย่างมาดริด

เราก็อยากไปเห็นเหมือนกันว่าเมืองนี้มีความพิเศษอะไรอยู่บ้าง

jtaopc2djn25

รถไฟรอบ8.50 ที่atocha วันนี้ได้เห็นสวนข้างในสถานีรถไฟในตอนกลางวันแล้ว

tjomp8rcp043
8qfi23b6osfo
xsfup4dn5qh4
2zpc4rfpwx6c
iq6j3korp2ys

ที่นั่งข้างหน้าต่างวันนี้ไม่มีใครมานั่งข้างเรา เลยมีที่ว่าง เราหยิบแซนด์วิชขึ้นมากิน เสียบหูฟัง ฟังเพลง เวลาผ่านไปไม่นานเพียง30นาที ก็ถึงโทเลโด้ เร็วจัง กำลังนั่งมองทางเพลินๆ

moaha84xdjlk

เดินออกไปสัมผัสแรกคือ.....หนาวววมาก โอ้มายกอด

เราเดินไปเข้าห้องน้ำในสถานี ตอนล้างมือเสร็จ มือนี่เย็นเฉียบเลย ชาไปหมด

526k1vegkvv7
cqmryg4m5spx

ua8jxjnh6u7x

สถานีที่สวยงามล้ำค้าที่สุดในในสเปน ด้วยศิลปะแบบนีโอ-มูเดฆาร์ ของชาวมัวร์

pbsutai1n0ma

เอาตรงๆนะ สถานีนี้สวยและคลาสสิกมาก คืออาจจะไม่ได้ใหญ่โตมากมายแต่เป็นสถานีเล็กๆที่ดูโคตรมีอะไร

เมื่อมาถึงแล้วปกติถ้าขึ้นบัสมา บัสน่าจะพาไปลงในเมืองเลย แต่ถ้ามารถไฟ ต้องต่อบัสเข้าไปในเมืองอีกนิดหน่อย

เราเดินออกไปจากสถานี เจอรถcity bus ที่เปิดหลังคาข้างบนสำหรับให้คนนั่งเที่ยวชมเมืองแบบสูดบรรยากาศของเมืองนี้เข้าไปเต็มๆ

เจ้ารถ city bus มารอดักผู้โดยสารข้างหน้าสถานี

เราสนใจลองเข้าไปถามข้อมูลพนักงาน เค้าบอกว่ารถจะพา วนรอบเมือง

และจอดจุดที่สำคัญให้เราลงไปถ่ายรูปได้ แล้วจะไปส่งที่city center ตอนเที่ยง แล้วสามารถขึ้นรถกลับ รถจะมาส่งที่สถานีรถไฟ ตอนบ่ายสองสี่ห้า ส่วนราคาคือ25 ยูโร

เราเลยปฏิเสธไป อาจจะเพราะราคาด้วย และวันนี้วันสุดท้ายแล้ว

อาจจะเพราะเหนื่อยกับการวางแผนเที่ยวเมืองอื่นไปหมดแล้ว

เลยขอเดินแบบชิวๆไม่รีบร้อน เดินไปเรื่อยๆตามใจเราไม่ต้องมีแพลนอะไร ซักวันละกัน

5gcu1shp0scu

เดินไปรอบัสที่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ เดินแค่1นาทีก็ถึงที่รอรถบัส เรารอเกือบ20นาทีได้ เพราะวิ่งมาขึ้นคันก่อนหน้าไม่ทัน ตอนนั่งรถบัส รู้สึกวันนี้เงียบมาก รถไม่ค่อยวิ่งผ่านเลย บรรยากาศชวนเหงาสุดๆแต่แปลกจริงที่เราไม่รู้สึกเหงาเลย

เมืองนี้ไม่มีรถ ไม่มีรถไฟใต้ดิน มีแต่รถบัสสายหลักๆที่วิ่งรอบเมืองและผ่านจุดสำคัญๆเท่านั้น 

6w5abyrf4tab
b2zmit1voxmk
ระหว่างทางเห็นเมืองตั้งกระจุกกันอยู่บนเนินชัดๆกันแบบนี้

ตัวเมืองเก่าโทเลโด ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ มีแม่น้ำตาโฆไหลอ้อมผ่านเกือบทุกด้าน ซึ่งชาวโรมันผู้สร้างเมืองนี้ได้เลือกชัยภูมิที่ดีมาก

นั่งบัสไม่นานไปลงที่หน้าประตูทางเข้าเมืองและเริ่มลุยเดี่ยวเดินเที่ยวเองตั้งแต่ตรงนี้เลย

qosbpkzkdom3
4w09xyakxsnl

wheqnosqh1ek
mfpm2ipsow1h

9nf513xiyar8
h0y3ug25p4sl

1dlaonfm56ie


เมื่อได้เริ่มออกเดินเที่ยวจริงๆ วันนี้หนาวมากและเราดันใส่เสื้อที่บางที่สุดมาอีก เพราะเห็นว่าวันที่ผ่านมาไม่หนาวเกิน แต่ไหงวันนี้หนาวขนาดนี้ว้าาา เออและถุงมือก็ไม่ได้หยิบมา โอยคือวันอื่นแบกถุงมือมาแต่ไม่เคยได้ใส่ แต่วันนี้ควรจะใส่มากๆ แต่ตั้งใจไม่หยิบมา

.

.

แรงจะกดกล้องถ่ายรูปแทบจะไม่มี

เราเดินไปเรื่อยๆและพบว่าเริ่มจะต้านความหนาวไม่ไหว

เลยเดินเข้าไปซื้อถุงมือในร้านค้าเล็กๆที่อุตส่าห์เปิดในวันขึ้นปีใหม่ทั้งๆที่ร้านรวงส่วนใหญ่ปิดกันซะเกือบหมด

eciynqjexuuj

เข้าไปในร้าน คุณป้าคนขายตั้งใจขายอย่างดี หยิบมาให้เลือกหลายแบบ บางทีเราอาจจะเป็นลูกค้าคนแรกที่เดินเข้าไปซื้อของในร้านแกวันนี้ก็ได้55555

เราตัดสินใจซื้อถุงมือในราคา5ยูโรซึ่งดูพอจะกันหนาวได้บ้าง

ก่อนออกจากร้านคุณป้าก็บอก happy new year เราหันไปพูดhappy new year กับเธอเช่นกัน

เราปักหมุดGPSแบบไม่คิดอะไรไปที่ Alcazarพระราชวังของโทเลโดในอดีต

ระหว่างทางเดินขึ้นเนินชันนิดหน่อย

c6rdg9sn1z53



วันนี้หมอกลงหนามาก มองลงไปเห็นวิวเมืองที่มีหมอกปกคลุม

s8ovuef60sgt
opcbmutkygpg
43cb6wpcruu0
g4nh0cjcdb3q
drpz9ip6kzvu

เราไม่รู้ตรงนี้คืออะไรเลยเดินลงไป เป็นบันไดเลื่อน ลงไปต่ำมาก ตอนแรกนึกว่าพิพิธภัณฑ์อะไร จะเข้าไปหลบหนาวสักหน่อย เห็นทีว่าน่าจะเป็นที่จอดรถหละมั้ง

crjj1b7fhcwi
gzvapvc0pmrs
dnxh7nsmp53h

เมื่อมาถึงalcazar เราไม่ได้ตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่กลับดีใจที่ได้เห็นแสงแดดจากฝั่งตรงข้ามalcazar เราเลยเดินไปหาแสงแดดเพื่อให้คลายหนาวลงสักหน่อย เมื่อเดินตามแสงแดดไป ภาพที่เห็นคือวิวภูเขากว้างขวางใหญ่โต มีถนนเส้นเล็กๆวิ่งตัดผ่าน

Surprise!! ยิ่งกว่าเห็น alcazar เสียอีก

odbczze7c2f2
rwlfwd3eoupp
h6ezli5r8zx7
s14ykslp16y6
zzfo7jjbjd3t
r24ua7xy03me
7xtl66wpcf5o
เงียบเหงาจริงๆ
tz2ocq79lg55
nvgep9grw53v

ส่วน alcazar จริงๆก็ตั้งอยู่ตรงนี้แหละ ปราสาทอัลกาซาร์ สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่16 แต่ในตอนนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชัยชนะของนายพลฟรังโก เผด็จการในยุคสงครามการเมือง

owo7bbjhbxef

เราปักหมุด GPS ต่อไปที่ cathedral ระหว่างทางเป็นบ้านคน เงียบมากอีกเช่นเคย รู้สึกกลัวๆนิดๆละเพราะเปลี่ยวมาก แต่พอเดินไปสักพักเริ่มได้ยินเสียงนักท่องเที่ยวคุยกัน เริ่มอุ่นใจ คงมีคนเดินไปcathedral เหมือนกัน

hznsa357hkao
8hlkb94pafa6
la9f5xkgtnc1
ii4w43k1m52v
bua3k9min3ea

72se4ytbz1ay
vhep76jz9uh7

เราไม่ได้ถ่ายรูปมาก เพราะบางส่วนเค้าติดป้ายห้ามถ่ายรูปเอาไว้ เราไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเราเข้าโบสถ์ถูกทางไหมเพราะเข้าไปก็ไม่เห็นเก็บค่าเข้า แต่เข้าไปแล้วเดินได้นิดเดียว ไม่กล้าเดินเข้าไปข้างในมาก กลัวว่าเค้าจะไม่ให้เข้า เห็นว่าเค้ากำลังทำพิธีอยู่ เราเลยเดินออกมา สงสัยอาจจะเข้าผิดฝั่ง 

คือที่เราเคยหาข้อมูลมา โบสถ์นี้ต้องเสียค่าเข้าชม และข้างในโบสถ์ถือว่าเป็นไฮไลท์เลย เพราะรูปปั้นและรูปแกะสลักภายในโบสถ์ตกแต่งด้วยทองคำทีเดียว 

มหาวิหารโทเลโดที่มียอดโบสถ์แบบโกธิค สูงเสียดฟ้า มหาวิหารแห่งนี้สร้างตั้งแต่ปี1226 แต่มาเสร็จสมบูรณ์เมื่ออีก300ปีต่อมา

เดินออกมา เจอตลาดอ แวะซื้อขนม กับช็อกโกแลตร้อนกินคลายหนาว

0aop0uqb57bu

eqefummgbqh0
hmr2a5oqzxo0

plapkcmyq9qj
335zih00756j

hksnwqvzpxw7
3qggs0c7kkkk

ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว ระหว่างทางผ่าน mayor เห็นซุ้มบริษัท train vision มาเปิดคนต่อคิวพอประมาณ เป็นรถรางเล็กที่เราเห็นในคลิปยูทูปคุณลุงก็แนะนำมาว่านั่งรถนี้ขึ้นไปจุดชมวิวก็ได้นะ เราเลยเปลี่ยนแผน ไปนั่งรถรางแทนราคา7ยู รถออกทุกๆ30นาที คนขายแจกหูฟังให้ชุดหนึ่งและบอกว่าให้เดินตรงขึ้นไปทางนั้นนิดนึงจะเป็นที่ขึ้นรถ ซึ่งรถจะออกเวลา13.15

9978tj7vo7hf
458z93lymsox
158si0n22fi0
มีตอนนึงเดินถ่ายรูปอยู่ดีๆ ก็เห็นสองคนนี้เรียกเราให้ถ่ายรูปเค้าสิ พอถ่ายเสร็จเค้าก็เดินยิ้มกันไป ไม่ได้เอารูปจากเราด้วย น่ารักดี ฮ่าๆ

เราเดินไปใกล้นิดเดียวก็เห็นที่รอรถแล้ว

z9b792mlvhdr

เราเลือกนั่งริมฝั่งประตูเพราะคิดว่าถ้าเกิดเค้าจอดให้ลงไปถ่ายรูปจะได้ออกเร็วๆ รีบถ่ายรูปก่อนที่คนจะออกมาเยอะ

รถออกแล้วถ้าอยากฟังประวัติก็เสียบหูฟังแล้วเลือกภาษาได้เลย

แต่เราไม่ฟังเพราอยากจะตั้งใจถ่ายรูปมากกว่า

รถวิ่งผ่านทางที่เราเดินขึ้นมาเมื่อเช้านี้ พลางคิดว่าเรานี่ก็เดินไกลเหมือนกันนะ

j3c9k0clsu2y
x3nygta2gaab
po6khi9o73h5

ผ่านสะพานที่พี่หนอนแนะนำ มันก็คือทางเมื่อเช้าที่บัสผ่านแต่ตอนนั้นเราหันไปมองอีกฝั่งเลยไม่เห็นสะพาน ทางขึ้นไปจุดชมวิวค่อนข้างชันและไกล มีบางคนก็กำลังขึ้นไป บางคนก็โบกมือทักทาย

hefj8vrxd9mb

ถึงแล้ว วันนี้หมอกลงจัดๆ ภาพที่เห็นคือแตกต่างจากที่เห็นในเน็ตมาก แต่การที่หมอกลงแบบนี้มันดู มันก็ดูเข้ากับบรรยากาศวันนี้สุดๆ

บัสจอดให้ลงไปถ่ายรูปประมาณ20นาที

5gjd9u2o560g
xfn72sx1a0qj

cnk8n8y5t77r

เรียกว่าเราคิดถูกที่เลือกที่นั่งฝั่งติดประตูเพราะ วิวมันอยู่ฟังนี้หมดเลย แถมเค้าเว้าหลบไม่มีหน้าต่างให้สำหรับถ่ายรูปด้วยแต่ก็แอบสงสารคนที่นั่งอีกฝั่งนะ จะมองวิวก็ยาก จะถ่ายรูปนี่ยิ่งยากเข้าไปใหญ่

z9ivl8cx5i5k
v49of4onxa3s
q2htazf7a07q
775pmy100cq9
rgnsgmpzd6kb

ที่เนินเขานี้ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามหัวสะพานด้านนนอกเมืองมีป้อมปราการที่สร้างขึ้นโดยชาวโรมันเพื่อป้องกันตัวสะพานเรียกว่า Castillo de San Servando

hkxil2amjura

สภาพยังดูสมบูรณ์ทั้งตัวป้อมปราการและสะพานเลย

รถรางกลับมาส่งที่เดิมที่จุดเริ่มต้น 

หลังจากนี้เราว่าจะกลับเส้นทางเดิมให้บัสไปจอดตรงประตูเข้าเมืองเหมือนเดิมแล้วเดินย้อนกลับไปสถานีรถไฟเอง นี่เป็นครั้งแรกทที่เรารู้สึกจำเส้นทางได้เวลามาเที่ยวเมืองแบบนี้ เรารู้สึกเมืองนี้เที่ยวไม่ยาก เดินได้เรื่อยๆ ไม่เหมือนกับที่เคยอ่านรีวิวมาก่อนเลยบางคนบอกว่าเมืองนี้หลงง่าย ฮ่่าๆ

บัสจอด เราเดินไปเพื่อไปถ่ายรูปสะพาน Alcantara bridge ที่พี่หนอนนแนะนำ ถ่ายรูปริมถนน

โดยสะพานปูเอนเต เด อัลกานตารา นี้เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีร่องรอยความเป็นโรมันที่เด่นที่สุด

2wec6l0p48h4
feoobcc25agg

เรามองลงไปข้างเห็นว่ามีทางเดินลงไปไหนสักที่ เราเลยเออเดินตามทางนั้นไปแบบอโลนๆ

แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย เส้นทางเดินนี้พาให้เราไปเจอกับจุดถ่ายรูปที่สวยมากสำหรับเรา และบรรยากาศตอนนี้คือโคตรสงบ เงียบแค่ไหนลองดูจากภาพ

hb0w9xm9uanq
cag3l2diytsr
5zbm19yjj4wx
ez3kj1qgy609
603hfpda6rzq
weso3kvw0zsv
rg82by3slwvt
ff9ns2i2209o

7fr2weewtp15

5vdh24syg1fd
37ohkz1k0wil
ได้ยินเสียงเพลง มองไปข้างล่างเห็นคนมาปาร์ตี้เล็กๆกันด้วย
hfys14d9aq47
ไม่มีใครเลย ตั้งกล้องถ่ายรูปคนเดียว
yqqkvwtaie4i

และสุดท้ายก็เดินกลับไปที่สถานีรถไฟ คือมองจากตรงสะพานเราจะเห็นสถานีรถไฟเลย ไม่ต้องเปิดแมพแล้ว บอกแล้วเมืองนี้เดินง่ายไม่หลง

h5jm7bun0ctq
j0ho0ccfhrfo
styeowh8k9p0
sy8uih5wsic9
ggqpygl6fer3
z036t47adu7w
gke2irxk414v

ไปถึงสถานีรถไฟ ก็เข้าใจที่พี่หนอนบอกแล้วว่าขากลับค่อยมาถ่ายรูปสะพานเพราะมันเป็นทางเดินลงจะได้ไม่เหนื่อยและมันใกล้สถานีรถไฟด้วย



“เที่ยววันนี้ตอนแรกเรารู้สึกลำบากเพราะความหนาวนะแต่ไปๆมาๆ ก็รู้สึกหลงเสน่ห์เมืองนี้เข้าอย่างเต็ม แม้ว่าวันนี้จะหมอกลงก็ตาม น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นวิวเมืองชัดๆ แต่ไม่เสียใจเลยที่ได้เห็นเมืองนี้ปกคลุมไปด้วยหมอก มันมีความสวยและความรู้สึกที่พิเศษไปอีกแบบ”

จากการได้ชมเมืองโบราณโทเลโดแห่งนี้ ที่มีอายุเกือบสองพันปีแล้ว นอกจากจะได้เห็นความงามของโบสถ์วิหารชาวคริสต์แล้วก็ยังได้เห็นสุเหร่า สถาปัตยกรรมของชาวมุสลิมอยู่หลายแห่งเหมือนกัน เนื่องจากมีการเข้ามาของอาณาจักรมุสลิมเข้ามาที่สเปน ชาวมุสลิมเหล่านั้นก็คือชาวมัวร์นั่นเอง ซึ่งได้เข้ามายึดเอาเมืองโทเลโดเป็นศูนย์กลางของศาสนาในอดีต

นอกจากนี้ชาวยิวก็เคยเข้ามาทำค้าขายในเมืองนี้เช่นกัน โบสถ์ชาวยิวที่สำคัญตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของตัวเมือง ชื่อโบสถ์ Sinagoga de Santa Maria la Blanca
อาจกล่าวได่ว่าเมืองโทเลโดนี้เป็นเมืองที่หล่อหลอมวัฒนธรรมของคนทั้งสามศาสนาเข้าด้วยกัน 

แต่ต่อมากองทัพชาวคริสต์ได้เข้ามายึดเมืองโทเลโดจากชาวมุสลิม จึงได้สถาปนาเมืองนี้เป็นเมืองหลวงของสเปนในปี 1085 แต่ในปี 1492 เมืองที่มีบทบาทสำคัญทางด้านการปกครองกลายมาเป็นเมืองมาดริดแทน จึงมีการย้ายเมืองหลวงจากโทเลโดมาที่ กรุงมาดริดแทนตอนปี 1561 

และพอได้มาเห็นเมืองเล็กๆที่เงียบสงบในวันที่ 1 มกราที่แทบจะไม่เจอผู้คนแบบนี้ มันทำให้รู้สึกว่าเออบางครั้งชีวิตเราจะเร่งรีบไปทำไม เมื่อมาเห็นผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ก็รู้สึกว่า เออเค้าก็ใช้ชีวิตกันได้ และดูมีความสุขดีด้วย

ชีวิตเราจะต้องการอะไรมากอีกล่ะ

และที่ผ่านมาชีวิตเราต้องทำตามแผนตลอดเวลา พอได้มีเวลาให้ตัวเองได้ทำอะไรโดยที่ไม่ต้องมีแผนอะไรมากเหมือนกับวันนี้ที่เดินเที่ยวเองแบบชิลๆ  มันก็ทำให้เราได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง และได้ทบทวนตัวเอง มันก็เกิดความสุขขึ้นได้ง่ายๆ

รถไฟมารอบบ่ายสามครึ่งพอดี

b32znnsl5qmd
นั่งรถไฟกลับมาดริด และพรุ่งนี้จะกลับไทยแล้ว

ความคิดเห็น