วันนี้พามาเที่ยวที่เมืองสุพรรณ ที่เที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพนัก กับ อุทยานมังกรสวรรค์ ครับ
ภายในอุทยานมังกรสวรรค์ แบ่งสัดส่วนต่างๆออกได้เป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ
1. หมู่บ้านมังกรสวรรค์ (ซ้ายล่าง)
2. ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง (ข้างๆหมู่บ้าน)
3. พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร (ขวาบน)
![](/f/33506/5f2989c8b2f21d6a71035018.jpg)
การเดินทาง สู่อุทยานมังกรสวรรค์
รถยนตร์ส่วนตัว
มีเส้นทางที่สะดวกที่สุดคือใ้ถนนรัตนาธิเบศร์ ที่เชื่อมกับวงแหวนรอบนอก (ถนนกาญจนาภิเษก) ไปทางอำเภอบางบัวทอง จากนั้นเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 340 ผ่านจังหวัด พระนครศรีอยุธยา เข้าสู่เขตจังหวัดสุพรรณบุรีที่อำเภอบางปลาม้า ถนนเข้าเมืองสุพรรณบุรี เป็นถนนสี่เลนกว้างขวางและสะอาดตา
รถโดยสารประจำทาง
สามารถใช้บริการของรถโดยสารประจำทาง ซึ่งออกจากสถานีขนส่งหมอชิต (ถนนกำแพงเพชร) และสภานีขนส่งสายใต้ (ถนนบรมราชชนนี) ทุกวัน
อยู่ข้างศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรีรถไฟ
ถ้าต้องการบรรยากาศการท่องเที่ยวโดยรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทยก็มีขบวนรถไฟไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี รถออกเวลา16.40 น. ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3ชั่วโทง
รถสองแถว (บริการเแพาะภายในตัวเมืองสุพรรณ)
การเดินทางในตัวเมืองสุพรรณมีรถสองแถวให้บริการ โดยขึ้นบริเวณสี่แยกนางพิม หากต้องการเดินทางออกนอกตัวเมือง ติดต่อสอบถามที่คิวรถยริเวณสี่แยกนางพิมได้เลย
ก่อเกิดจากความสัมพันธ์ไทย-จีนที่แนบแน่น สัมพันธ์ไทย-จีน นานยาวหลายศตวรรษ ชาวจีนใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารต่างแซ่ซ้องสดุดี แสดงความกตัญญูต่อแผ่นดินไทยในทุกโอกาส... อาคารหลังนี้ สร้างขึ้นโดยแรงบันดาลใจของนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี ร่วมกับพ่อค้า ประชาชน ที่สนใจประวัติศาสตร์วัฒนธรรมสัมพันธ์ไทย-จีน และเพื่อฉลองความสัมพันธ์ทางการฑูตไทย-จีน ที่มีอายุครบ 20 ปี ในพ.ศ. 2538 จึงได้ริเริ่มรวบรวมเงินจากผู้ศรัทธามาออกแบบก่อสร้าง จัดแสดงนิทรรศการถาวร ลำดับประวัติศาสตร์วัฒนธรรมจีนที่ยาวนานกว่า 5พันปี ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา... ทบทวน เพื่อสานต่อ... สัมพันธ์อันน่ายดย่อง... ระหว่างไทย-จีน ให้รุ่งเรืองตลอดไป
![](/f/33506/5f2989c8b2f21d6a71035019.jpg)
เมื่อเข้ามาถึงบริเวณอุทยานมังกรสวรรค์ สิ่งแรกที่สะดุดตาที่สุดคงไม่พ้นมังกรตัวใหญ่ยักษ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า
![](/f/33506/5f2989ccb2f21d6a71035024.jpg)
โดยมังกรที่เราเห็นนั้น จริงๆแล้วคือ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธ์ุมังกร เป็นอาคารทรงมังกร ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ความยาว 135 เมตร สูง 35 เมตร กว้าง 18 เมตร ภายในเป็นห้องจัดแสดง ประวัติศาสตร์อารยธรรม ของชาวจีนย้อนหลังไปถึง 5,000 ปี ภายใน พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธ์ุมังกร จัดแบ่งเป็นห้องๆ ทั้งหมด 21 ห้อง จัดแสดงด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และ จะทำให้คุณต้องตื่นเต้นตลอดการเข้าชม
![](/f/33506/5f2989c9b2f21d6a7103501c.jpg)
รายละเอียดด้านในของ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธ์ุมังกร เดี๋ยวจะแยกรีวิวไปอีกกระทู้นะครับ เพราะด้านในมีรายละเอียดสวยงามมากมายเลยทีเดียว
![](/f/33506/5f2989cab2f21d6a7103501d.jpg)
จริงๆแล้ว จากที่จอดรถ เมื่อเดินเข้ามา เราจะผ่านหมู่บ้านมังกรสวรรค์กันก่อน
![](/f/33506/5f2989c8b2f21d6a71035016.jpg)
![](/f/33506/5f2989cbb2f21d6a71035021.jpg)
โดยหมู่บ้านมังกรสวรรค์นั้น ได้สร้างโดยจำลอง "เมืองลีเจียง" ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่โบราณอายุนับพันปี ที่มีรูปแบบที่สวยงามจนได้รับแต่งตั้งให้เป็นเมืองมรดกโลก
![](/f/33506/5f2989c9b2f21d6a7103501a.jpg)
![](/f/33506/5f2989c9b2f21d6a7103501b.jpg)
โดยอาคารทรงจีนทั้งหลายนั้น ได้ถูกจัดเป็น ร้านค้า ร้านอาหาร และโรงหนัง ให้เดินเที่ยวเดินซื้อของกันเพลินเลยครับ
![](/f/33506/5f2989cab2f21d6a7103501e.jpg)
ด้านหน้าของหมู่บ้าน จะมีหอชมวิวตั้งอยู่ โดยจะเดินขึ้นบันได หรือจะต่อคิดรอขึ้นลิฟท์ก้อได้ครับ เดินขึ้นบันไดก้อไม่ได้เหนื่อยอะไรมากมาย เร็วกว่ารอต่อคิวขึ้นลิฟท์มาก เพราะคนเยอะเหลือเกิน
![](/f/33506/5f2989cab2f21d6a7103501f.jpg)
เมื่อขึ้นมาบนหอชมวิวแล้ว มองลงมาก้อจะได้วิวประมาณนี้ครับ
![](/f/33506/5f2989cbb2f21d6a71035020.jpg)
มาถึงส่วนสุดท้าย ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง โดยส่วนตัวแล้วทางบ้าน จขกท ค่อนข้างนับถือมากทีเดียว จขกท เคยมาไหว้ขอพรตั้งแต่ ยังไม่มีพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธ์ุมังกร หรือ หมู่บ้านมังกรสวรรค์ มีเพียงศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเท่านั้น
![](/f/33506/5f2989cbb2f21d6a71035022.jpg)
ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เป็นพุทธปฎิมากรรมสลักบนแผ่นหินแบบนูนต่ำ (Relief) ในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ซึ่งเป็นศาสนาที่ชาวจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ทิเบต ญวน เขมร นับถือ เป็นศิลปะแบบขอมเป็นรูปพระวิษณุกรรมสวมหมวกแขก ในศิลปะไพรกเม็ง อายุประมาณ 1300-1400 ปีมาแล้ว มีพระนามว่าพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือ พระนารายณ์สี่กร มีหน้าที่ช่วยเหลือมนุษย์ และเหล่าสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ ประสพแต่ความสุขความเจริญ เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์ เจ้าแม่กวนอิม
![](/f/33506/5f2989ccb2f21d6a71035023.jpg)
ตามคำบอกเล่าต่อๆกันมา เมื่อประมาณ 150 ปีมาแล้ว มีผู้พบพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร จมดินอยู่ตรงริมศาลเจ้าพ่อ ชาวบ้านจึงช่วยกันอัญเชิญขึ้นข้างบน พร้อมกับสร้างศาลใหม่ให้เป็นที่ประทับ มีคนจีนชื่อ เฮียกงเป็นผู้ดูแลรักษาเรื่อยมา
![](/f/33506/5f2989ccb2f21d6a71035025.jpg)
เมื่อครั้งโบราณมีคำกล่าวว่า " ห้ามเจ้าไปเมืองสุพรรณจะทำให้มีอันเป็นไป "
![](/f/33506/5f2989cdb2f21d6a71035026.jpg)
เมื่อ พ.ศ. 2435 สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการเมืองสุพรรณ ได้ทรงสักการะเจ้าพ่อหลักเมือง ได้ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างศาลเพิ่มขึ้น พร้อมวางแผนให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมืองสุพรรณ
![](/f/33506/5f2989ceb2f21d6a7103502a.jpg)
พระพุทธเจ้าหลวงทรงพระดำรัสว่า "เข้าทีดีหนักหนา แต่เขาไม่ให้เจ้าไปเมืองสุพรรณ ว่าถ้าขืนไปจะเป็นบ้าไม่ใช่หรือ" สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพจึงกราบบังคมทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าไปมาแล้วไม่เห็นเป็นอะไร ยังรับราชการมาจนบัดนี้ พระพุทธเจ้าหลวงทรงตรัสสั้นๆว่า "ไปซิ" จากนั้นพระองค์จึงเสด็จมาเมืองสุพรรณ ในคราวเสด็จประพาสต้นเมื่อ พ.ศ. 2447 และทรงกระทำพลีกรรมเจ้าพ่อหลักเมือง และพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ก่อสร้างเขื่อนรอบเนินศาล ทำชานไว้สำหรับคนที่บูชา สร้างกำแพงแก้ว ต่อตัวศาลเพิ่มเติมออกมา ข้างหน้าเป็นแบบเก๋งจีน
![](/f/33506/5f2989cdb2f21d6a71035028.jpg)
โดยทั่วไปศาลหลักเมืองนั้นจะทำด้วยไม้ บนยอดจะเป็นหัวเม็ด แต่หลักเมืองของ สุพรรณนี้พิเศษกว่าหลักเมืองทั่วไปคือ จะเป็นหินและมีพุทธปฎิมากรอยู่ด้วย
![](/f/33506/5f2989cdb2f21d6a71035027.jpg)
ในช่วงปีใหม่ จะมีการแก้ปีชงด้วยการเอาโคมเล็กๆ เขียนชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด และนำไปห้อยไว้รอบๆบริเวณเต็มไปหมด
![](/f/33506/5f2989ceb2f21d6a71035029.jpg)
จริงๆแล้วด้านหน้าพิพิฑภัณฑ์ หรือด้านข้างของศาล ยังมีจุดที่น่าสนใจให้เดินเข้าไปอีก โดยเมื่อเดินเข้าไป จะพบกับ หอระฆังมหามงคล ตั้งอยู่ตรงกลางลานหน้าอาคาร เทียนอันหมิน (เป็นอาคาร ๓ ชั้น) ระฆังลูกนี้มีชื่อว่าระฆังมหามงคล เป็นระฆังใหญ่มีน้ำหนักมากเกือบ ๓,๐๐๐ กิโล ประชาชนที่เข้ามาที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองนี้ มักจะมาเคาะระฆังใบนี้เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัวด้วย
![](/f/33506/5f2989ceb2f21d6a7103502b.jpg)
ช่วงปีใหม่ จะมีแผ่นป้ายให้ทำบุญกัน เข้าใจว่าเหมือนเราทำบุญกระเบื้องที่วัดไทย โดยจะมีให้ทำบุญซื้อกระเบื้อง และให้เราเชียนชื่อนามสกุลลงไปเพื่อเป็นศิริมงคล จากนั้นก้อจะนำกระเบื้องดังกล่าวไปทำการก่อสร้างอาคารต่อไป
![](/f/33506/5f2989ceb2f21d6a7103502c.jpg)
ด้านในสุดจะเป็นศาลากลางน้ำ มีความสูง 7 ชั้น โดยในแต่ละชั้นจะมีรูปปั้นเทพเจ้าต่างๆอยู่ ที่ศาลานี้ไม่มีลิฟท์เหมือนหอชมวิวด้านหน้านะครับ เดินขึ้นไปชั้นบนสุดก้อเหนื่อยพอดูเหมือนกัน
![](/f/33506/5f2989cfb2f21d6a7103502e.jpg)
![](/f/33506/5f2989cfb2f21d6a7103502d.jpg)
พอขึ้นไปถึงชั้น 7 แล้ว สามารถมองเห็นหอบรรหารที่อยู่ลิบๆได้ด้วยครับ
![](/f/33506/5f2989cfb2f21d6a7103502f.jpg)
-----------------------------------------------------------------------
ติดตามกันต่อได้ที่
https://www.facebook.com/TravelofSalaryMan/
https://www.facebook.com/voravuds
Voravud Santiraveewan
วันพฤหัสที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564 เวลา 09.49 น.