ได้ยินมานานล่ะครับ สำหรับร้านของสายเนื้อ Arno's แต่ก่อนร้านอยูาในเมือง เข้าถึงยากนิดนึง หลังจากได้ยินว่ามาเปิดสาขาที่ใกล้ๆบ้าน The Circle ราชพฤกษ์ เลยไม่ต้องรั้งรอ ขอไปลองชิมบ้างครับ
![](/f/33526/5f298a872b48886a68bcd08d.jpg)
ร้านอยู่ด้านหน้าของ The Circle เป็นสถานที่ตั้งเก่าของร้านปิ้งย่างเกาหลี Kimju ครับ ไปถึงบ่ายโมงแล้ว คนกำลังแน่นร้านเลย นั่งรอคิวอยู่ประมาณ 20 นาที
![](/f/33526/5f298a8a2b48886a68bcd093.jpg)
![](/f/33526/5f298a8c2b48886a68bcd099.jpg)
ร้านนี้ Arno's เกิดจาก Arnaud Carre เชฟชาวฝรั่งเศส กับ คุณ ศุภนิจ จัยวัฒน์ ร่วมมือกันเปิดร้าน Steak คุณภาพดีที่ราคาไม่แพงขึ้นมา
โดยสาขาเริ่มแรกเปิดที่ ย่านนราธิวาสราชนครินทร์ ซอย20 และต่อมาได้มีการขยายสาขา ขยายรูปแบบของร้านออกมาเรื่อยๆ ร้านดังจนเป็นกระแสดังอยู่พักใหญ่ๆเลยทีเดียว สำหรับเนื้อ ที่นี่จะใช้เนื้อไทย แล้วทางร้านนำมา Dry Age หรือ บ่มเนื้อเอง
การบ่มเนื้อ คือการเปลี่ยนสภาพเนื้อให้มีรสชาติลึกซึ้งมากขึ้น โดยวิธีการในยุคแรกนั้นคือ Dry-Aged หรือการบ่มแห้งด้วยการนำเนื้อสัตว์ที่ผ่านการชำแหละแล้วมาแขวนห้อยไว้ในที่ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำประมาณ 1-5 องศาเซลเซียส ความชื้นประมาณ 70-80% ภายในระยะเวลาที่กำหนด ส่วนใหญ่มักนาน 30-45 วัน ไม่ต้องปรุงแต่ง แต้มเกลือ หรือหมักกับของดองใดๆ ทั้งสิ้น ห้อยทิ้งไว้เฉยๆ ให้เอ็นไซม์ในเนื้อย่อยสลายเยื่อหุ้มมัดกล้ามที่แทรกตัวอยู่ตามเนื้อแดงด้วยตัวของมันเอง กระทำการเปลี่ยนโครงสร้างเนื้อที่แข็งกระด้างให้นุ่มขึ้น เมื่อกาลเวลาผ่านไป จากสถานที่บ่มทั่วไปในหน้าหนาวก็เปลี่ยนสู่ห้องบ่มแบบมิดชิด และพัฒนาสู่ตู้แช่ชนิดพิเศษที่ควบคุมได้ทั้งอุณหภูมิ ความชื้น และความสะอาด
ลักษณะของเนื้อที่บ่มจะค่อยๆ แห้งจากรอบนอกสู่ด้านใน น้ำที่แทรกอยู่ตามผิวเนื้อจะระเหยออก ส่งผลให้สีเนื้อเข้มกว่าปกติ มีความนิ่มเพิ่มขึ้น กลิ่นหอมเข้มข้น และมีรสอร่อยลุ่มลึก แต่ใช้ว่าจะมีข้อดีเพียงอย่างเดียว การบ่มแบบ Dry-Aged มีข้อเสียใหญ่ตรงที่เนื้อที่ผ่านกระบวนการนี้จะสูญเสียส่วนที่กินได้ถึง 70% เป็นผิวเนื้อด้านนอกที่ถูกบ่มเพาะจนแห้งแข็ง บริโภคไม่ได้ ต้องใช้มีดแงะ แซะ หรือตัดทิ้งเพียงอย่างเดียว สุดท้ายก็จะเหลือเนื้อส่วนข้างในที่เป็น ‘เนื้อคุณภาพสูง’ เพียง 30% เท่านั้น นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเนื้อแบบ Dry-Aged ที่เราเห็นตามร้านอาหารหรือซูเปอร์มาร์เก็ตจึงแพงหูฉี่
อย่างที่บอกว่า ปกติเค้าจะ Dry Age กัน 30-45 วัน แต่ร้าน Arno's เค้ามีเนื้อ Dry Age ไปถึง 45, 72, 90 วันกันเลยทีเดียว
ภายในร้านจะมีเนื้อแต่ละประเภทและราคาวางอยู่ในตู้ เราสามารถเดินไปเลือกและสั่งได้ที่ตู้เลย นอกจากเนื้อแล้ว ทางร้านยังมีเนื้อแกะ และอาหารทะเลอื่นๆให้สั่งอีกด้วย
![](/f/33526/5f298a8a2b48886a68bcd094.jpg)
![](/f/33526/5f298a882b48886a68bcd08f.jpg)
![](/f/33526/5f298a882b48886a68bcd090.jpg)
![](/f/33526/5f298a872b48886a68bcd08c.jpg)
มาถึงโต๊ะกันแล้ว จะได้รับเมนูอาหารทำเป็นรูปแผ่นไม้รองเนื้อ เก๋ไก๋ทีเดียว
![](/f/33526/5f298a872b48886a68bcd08e.jpg)
![](/f/33526/5f298a882b48886a68bcd091.jpg)
นอกจากเสต๊กเนื้อแล้ว Burger ก้ออร่อยไม่แพ้กัน ครับ มาดูเบอร์เกอร์กันรอเนื้อที่จะมาเสริฟดีกว่า
Set Traditional Burger เนื้อขนาด 200g เสริฟพร้อม เฟรนซ์ฟรายที่ทำเป็นเกลียวและทอด ผมชอบแบบนี้มากกว่าแบบปกตินะ มันกรอบอร่อยดี ราคา 220 บาท ในชุดนี้รวมน้ำอัดลม 1 กระป๋องด้วย ราคาดีมากๆ สามารถเลือกซอสได้ครับ มีแบบ Spicy กับ Blue Cheese
![](/f/33526/5f298a892b48886a68bcd092.jpg)
ถ้าใครกลัวไม่อิ่ม นี่ จัดชุดนี้เลย Set Carnivore แปลว่า Set สำหรับสัตว์กินเนื้อ มาพร้อมเนื้อขนาด 300g กินกันสะใจเลย รายละเอียดอื่นๆเหมือนกับชุด Traditional ครับ ราคา 330 บาท
![](/f/33526/5f298a8b2b48886a68bcd098.jpg)
พอดีคุณแม่ไม่ทานเนื้อ เลยจัด Set Vegetarian ให้ เป็นเบอร์เกอร์ที่มีไส้เป็นเนื้อผักชนิดต่างๆ ราคา 280 บาท เห็นคุณแม่บอกว่า อร่อยดีเหมือนกัน
![](/f/33526/5f298a8b2b48886a68bcd097.jpg)
พระเอกของอาหารมื้อนี้มาแล้ว เนื้อ Ribeye ที่ Dri-Aged ไว้ 75วัน ราคา กิโลละ 1,900 บาท ชิ้นนี้ที่สั่งน้ำหนัก 0.425g ราคา 870.5 บาท เนื้อใหญ่เกินจานไปนิด แล้วโดนสมาชิกเร่งให้รีบๆถ่าย เพราะอยากกินแล้ว ภาพเลยไม่ค่อยสวยนะครับ
![](/f/33526/5f298a8b2b48886a68bcd096.jpg)
สำหรับเนื้อที่นี่ เค้าจะมีให้เลือกแค่ Rare กับ Medium Rare ครับ โดยเนื้อทุกเมนูจะเสริฟ์มากับจานร้อน กว่าจะกินเนื้อก้อจะออกประมาณ Medium แล้วแหละ หรือใครอยากได้สุกกว่านั้น สามารถเอาเนื้อปิ้งกับจานต่อได้เลย ส่วนรสชาตินั้น เนื้อนุ่มมากกกกกกก นุ่มแบบ นุ่มๆเลย อร่อยดีทีเดียว ยิ่งเทียบกับราคาแล้ว ถือว่าราคาถูกเลยทีเดียว เคยไปเจอเนื้อ Dry Age ที่อื่น ปริมาณแบบนี้ น่าจะหลักพันขึ้น
สำหรับราคาของมื้อนี้ ก้อตามนี้เลยครับ
![](/f/33526/5f298a8b2b48886a68bcd095.jpg)
คุณภาพและราคาถือว่าใช้ได้เลย คนเยอะไปนิด โดยเฉพาะเบอร์เกอร์ ถือว่าถูกเลยทีเดียว เอาเป็นว่าติดใจครับ เดี๋ยวคงต้องหาโอกาสไปซ้ำอีกหลายๆครั้งครับ
ติดตามกันต่อได้ที่
https://www.facebook.com/TravelofSalaryMan/
https://www.facebook.com/voravuds
Voravud Santiraveewan
วันพฤหัสที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 09.39 น.