มาถึงวันที่4 กันแล้ว วันนี้เราจะไปเที่ยวเมืองเล็กๆน่ารักๆในหุบเขาที่ชื่อ Yufuin กัน โดยถ้าขับรถไปใช้เวลาแค่ชั่วโมงครึ่ง นั่งรถไฟไปประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ แต่ทริปนี้เราเลือกนั่งรถไฟขบวนพิเศษที่ชื่อว่า Yufuin no Mori กัน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว มาดูกันว่ารถไฟขบวนนี้มีอะไรพิเศษยังไง
ขบวนรถไฟ Yufuin no Mori เรียกได้ว่าเป็นรถไฟท่องเที่ยว (Joyful Train) ที่ดังที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยความมีเสน่ห์ และลักษณะเฉพาะตัว ไม่เพียงแต่ขบนรถไฟ Yufuin no Mori แต่ยังมีรถไฟท่องเที่ยวขบวนอื่นๆในเกาะคิวชูที่มีชื่อเสียงอีกหลายขบวน ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยว Yufuin no Mori แปลว่า ป่าของยูฟุอิน รูปลักษณ์ภายนอกใช้สีเขียวมะกอก (Olive green) ตัดด้วยแถบสีทองที่สื่อถึงป่าลึกยามที่ต้องแสงแดดอ่อนๆ
ภายในตู้โดยสารใช้การตกแต่งที่หรูหรา พื้นขบวนทำจากไม้ และยกสูงขึ้นเป็นเพิเศษช่วยให้ผู้โดยสารชมทิวทัศน์ภายนอกได้ดีขึ้น กระจกจะทำเป็นบานขนาดใหญ่ที่เอียง 10 องศาให้มองทิวทัศน์ภายนอกได้แบบเต็มๆตา ระหว่างทางเมื่อรถไฟแล่นผ่านทิวทัศน์สำคัญจะลดความเร็วและประกาศแจ้งอีกด้วย
อีกขบวนหนึ่งของ Yufuin no Mori หรูหราน้อยลงมาหน่อย แต่ก้อยังสวยงามกว่าขบวนรถไฟทั่วๆไปอยู่ดี Yufuin no Mori เป็นรถไฟของบริษัท JR Kyushu อยู่บนเกาะใต้ของญี่ปุ่น นั่นคือเกาะ Kyushu วิ่งบนเส้นทาง สาย JR Kyudai Main Line ระหว่าง Hakata station (จังหวัด Fukuoka) กับ Yufuin Station (จังหวัด Oita)
ทุกตู้ขบวนของ Yufuin no Mori ตกแต่งอย่างหรูหรา ตู้นี้จะมีหนังสือ เอกสาร แผ่นพับต่างๆให้อ่าน และยืนชมวิวได้
มุมหนังสือของ Yufuin no Mori จัดวางไว้ได้อย่างลงตัว ดูสบายตา
มุมละลายทรัพย์ของ Yufuin no Mori มีการจัดจำหน่ายของที่ระลึกต่างๆเช่น พวงกุญแจ ผ้าขนหนู ปากกา เข็มกลัด เยอะแยะไปหมด ถ้าใจไม่แข็งนี่เงินปลิวแน่ๆ ผมก้อโดนไปหลายเหมือนกัน นอกจากนั้นยังมีอาหารขายอีกด้วย
เค้าว่ากันว่า ถ้ามานั่งขบวนรถ Yufuin no Mori แล้วไม่ได้กินไอติมถ้วยนี้ถือว่ามาไม่ถึง ไอติมของ Takashiho Farm มีสองรสคือ วนิลากับชาเขียว วนิลารสชาติกลมกล่อมกำลังดี ส่วนชาเขียวนี่ เข้มข้น หอมอร่อยมากๆครับ
ทางเดินในขบวนรถ Yufuin no Mori ดูหรูหราสวยงามมากๆ เดินเล่นในขบวนรถก้อเพลินแล้ว
Logo ของขบวนรถ Yufuin no Mori มีติดไว้ทั่วขบวนเลยครับ
เมื่อเดินสำรวจภายในขบวนรถ Yufuin no Moriเรียบร้อยแล้ว แนะนำให้ไปที่หัวขบวน หรือท้ายขบวน จะสามารถมองไปยังห้องคนขับรถไฟได้ โดยด้านหน้าจะเป็นกระจกขนาดใหญ่ เห็นวิวได้แบบสวยงามเต็มๆตาเลยทีเดียว
อีกสิ่งหนึ่งที่เพลิดเพลินเวลานั่งรถไฟไกลๆในญี่ปุ่นคือ อาหารกล่อง ซึ่งจะมีขายอยู่ตามสถานีใหญ่ๆ อาหารกล่องรถไฟของญี่ปุ่นนั้น ทำออกมาได้น่ารักน่ากินมากๆ แต่ละสถานีก้อไม่เหมือนกัน ที่สำคัญคือ อร่อยอีกด้วย แนะนำให้ลองสักครั้งครับ สำหรับขบวนรถ Yufuin no Mori จะมีโบกี้นึงทำเป็นตู้เสบียง โต๊ะจะพับออกมาเป็นโต๊ะขนาดใหญ่กว่าปกติให้มานั่งทางข้าวได้ครับ
ระหว่างรถไฟจอด เหลือบไปเห็นขบวนรถ Kamome ที่นั่งเมื่อวันก่อน เห็นสวยดีเลยถ่ายมาสักรูป
หลังจากที่สนุกสนานกันกับขบวนรถไฟ Yufuin no Mori เราก้อมาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว กับสถานีรถไฟ Yufuin ที่สวยงามใหญ่โต ร้านขายของที่ระลึกเพียบ ตัวสถานีสวยงามแบบเรียบๆคลาสสิคดี
ทริปนี้เราไปพักกันที่เรียวกังยอดนิยมของคนไทย นั่นคือ Hasuwa นั่นเอง คนเที่ยวนิยมไปพักที่นี่กันเยอะมากๆ ดูจากรีวิว ห้องพักจะเป็นห้องญี่ปุ่นเป็นห้องๆ แต่ surprise สุดๆเมื่อพนักงานเดินพาเราออกจากตัวเรียวกัง ไปยังบ้านหลังกระทัดรัดข้างๆ สรุปแล้วครอบครัวเรา 5 คนได้พักในบ้านแบบญี่ปุ่นทั้งหลังเลยทีเดียว ในบ้านมี 2 ห้องนอน 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำ 1 ห้องส้วม คือมันดีกว่าที่เห็นในรีวิวมากๆเลย ถ้าไปอีกจะได้แบบนี้อีกหรือเปล่าก้อไม่รู้
บรรยากาศห้องในเรียวกัง Hasuwa ห้องนี้เป็นห้องนอนครับ มีโต๊ะอุ่นขาแบบญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า โต๊ะโคทัตสึ กำลังหนาวๆ เข้าไปนั่งซุกนี่ ไม่อยากออกมาเลย พอถึงเวลานอน เค้าจะเก็บเจ้าโต๊ะนี้ แล้วเอาฟูกแบบญี่ปุ่นมาปูให้นอน
เมือง Yufuin เป็นเมืองท่องเที่ยว และเมืองออนเซ็นชื่อดังของญี่ปุ่น แน่นอน การมาพักในเรียวกังก้อจะต้องมีบ่อน้ำแร่ให้บริการ ที่ Hasuwa มีบ่อส่วนตัวให้ด้วยกัน 2 บ่อ บ่อนี้เป็นบ่อเล็กลงได้ 1-2 คน เวลาเข้าไปสามารถล๊อคประตูได้ เหมาะกับคนไทยที่ไม่ชินกับการอาบน้ำรวม
บ่อน้ำแร่เล็กใน Hasuwa ว่าสวยแล้ว มาเจอบ่อใหญ่นี่เลย กว้างขวางมากๆ และสวยงามสุดๆ ลงไปสัก 4-5 คนทีเดียวน่าจะได้ ขอบอกว่าฟินสุดๆกับการแช่น้ำแร่ การมาพักที่โรงแรม หรือออนเซ็นที่มีบ่อน้ำแร่นั้น เราจะต้องเสียค่าภาษีบ่อน้ำแร่เพิ่มด้วยนะครับ คนละ 150 เยน ไม่ว่าจะลงแช่หรือไม่
ไม่รู้เป็นโชคดีหรือโชคร้าย ที่พัก Hasuwa ห่างจากถนนคนเดินประมาณ 1กิโลเมตร แถมไม่มีรถประจำทางไปด้วย พวกเราไม่มีทางเลือกนอกจากเดิน!!!! แต่ที่โชคดีคือ บรรยากาศดีมากๆ ได้เดือนในเมืองชนบทเหมือนในการ์ตูนเลย นี่เดินข้างทุ่งนากันเลยทีเดียว ที่เห็นไกลๆใหญ่ๆนั่นคือ ภูเขา Yufu
แล้วเราก้อมาถึงสถานที่หลักที่คนที่มาเที่ยวยูฟูอินทุกคนมุ่งหน้ากันมา นั่นคือ Yufuin Main Walking Street นั่นเอง เรียกกันง่ายๆคือ ถนนคนเดินบ้านเรานั่นแหละ สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆมากมาย ทั้งร้านขายของที่ระลึก ของกิน คาเฟ่ อาหาร ตาลายไปหมด
Yufuin Main Walking Street เป็นถนนคนเดินที่บรรยากาศสุดยอดมากๆ อากาศเย็นๆเดินสบายๆ แถมมีวิวภูเขา Yufu อยู่ด้านหลัง แถมของต่างๆที่ขายก้อมีแต่ของแปลกๆทั้งนั้นเลย ที่ญี่ปุ่นจะไม่เหมือนเมืองไทยที่ไม่ว่าจะไปเดินตลาดไหน ก้อมีแต่ของคล้ายๆกันขายไปหมด ที่นี่เค้าจะมีเอกลักษณ์ของตลาดแต่ละแห่งไม่เหมือนกัน
เดินๆถนนคนเดินในยูฟูอินแล้ว เตรียมตัวเตรียมใจให้ดีๆนะครับ เงินจะลอยหายไปอย่างรวดเร็ว นี่มาเจอขนมแปลกๆ เป็นขนมโดรายากิ ใส้ตรงกลางเป็นพุดดิ้งนิ่มๆ หอมอร่อยสุดๆ แถมพุดดิ้งเย็นๆกินแล้วสดชื่นมากๆ ขามาซื้อชิ้นเดียวแบ่งกันชิมทั้งครอบครัว ขากลับเดินผ่านอีกรอบ แวะเข้าไปซื้อมาอีก 4 ชิ้น 555555555
Yufuin Floral Village เป็นหมู่บ้านจำลองบรรยากาศน่ารักๆ โดยจำลองหมู่บ้านชนบทในยุโรปมา พร้อมด้วยของเก๋ไก๋ ไอเดียดีๆวางขายไปหมด มีมุมถ่ายรูปสวยๆเต็มไปหมด
อีกหนึ่งร้านค้าสวยๆในถนนคนเดินยูฟูอิน ขายร่มโบราณแบบญี่ปุ่นสวยๆ แถมเอามาวางเรียงกันเยอะ หน้าบ้านทรงญี่ปุ่นโบราณ สวยสุดๆ
ในเมืองยูฟูอิน จะมีแม่น้ำที่ตัดผ่านถนนเส้นหลัก มีชื่อเรียกว่า แม่น้ำ โออิตะกาวะ (Oitakawa) ที่จะไหลไปสู่ทะเลสาบคิริน หรือ Kinrin-ko บรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีสวยมากๆ
จุดท่องเที่ยวอีกที่ของยูฟูอิน ทะเลสาบคิริน หรือ Kinrin-ko เป็นทะเลสาบเล็กๆ เดินแป๊ปเดียวก้อรอบล่ะ มีอาคารน่ารักๆตั้งเด่นอยู่ริมทะเลสาบ เวลาปกติน้ำจะนิ่งสะท้อนวิวสวยมาก เสียดายช่วงที่ไปหินมะตก แถมลมแรง เลยได้มาเท่านี้ ไว้วันหลังไปแก้มือ
หน้าหนาวที่ยูฟูอิน พระอาทิตย์ตกเร็วมากๆ 4โมงกว่าๆก้อได้เวลากลับกันแล้ว พร้อมกับฟินกับวิวเมืองชนบทของยูฟูอินในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน การเดินกลับที่พักเราเดินเลียบแม่น้ำโออิตะกาวะไปเรื่อยๆ
แม่น้ำโออิตะกาวะ ในเมืองยูฟูอิน ยามพระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า คือจริงๆทริปญี่ปุ่นนี่ ไม่กะว่าจะได้พบเจอวิวแบบนี้นะเนี่ย ถือเป็นความโชคดีในโชคร้าย ถึงแม้จะต้องเดินไกลหน่อยก้อเถอะ
วิวในเมืองชนบทของเมืองยูฟูอิน ถึงแม้วันนี้หิมะจะตกหนัก แต่ตอนเย็นๆฟ้าระเบิดแบบไม่คาดคิด เสียดายไม่มีเวลาละเลียดถ่ายภาพ ต้องรีบเดินกลับที่พักก่อนมืด ดูท่าทางวิวแบบนี้น่าจะมืดมากๆในตอนค่ำ
บรรยากาศทุ่งนาของเมืองยูฟูอินยามพระอาทิตย์ตกดิน หลังจากเดินไปกลับ 2โล เราก้อถึงที่พักกันสักที น้ำพุร้อนกำลังรอเราอยู่
Hasuwa เป็นที่พักประเภทที่เรียกว่า เรียวกัง มื้อเย็นก้อออกจะอลังการหน่อยๆ อาหารอร่อยสุดๆไปเลย
เรียวกัง (Ryokan)คือโรงแรมขนาดเล็ก หรือโรงเตี๊ยมในประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีต้นกำเนิดในสมัยยุคเอะโดะ (ค.ศ. 1603 - ค.ศ. 1868) ในปัจจุบันเป็นที่พักในสไตล์ญี่ปุ่น ห้องพักจะเป็นห้องพักในรูปแบบญี่ปุ่นสมัยก่อนและการตกแต่งแบบสไตล์ญี่ปุ่นรวมถึงการแต่งกายและลักษณะการให้บริการของเจ้าหน้าที่ในเรียวกังด้วย การให้บริการของเรียวกังนั้นไม่ใช่เพียงแค่ห้องพักสำหรับค้างคืนเท่านั้น แต่จะพร้อมด้วยบริการจากเจ้าหน้าในระดับที่เปรียบเสมือนการเชิญท่านเข้ามาพักในบ้านของตนเอง ซึ่งเป็นการบริการแบบการเลี้ยงรับรองแขกผู้มาเยือน
เมื่อทานกันอิ่มแล้ว ก้อขอตัวไปพัก เพื่อลุยในวันรุ่งขึ้นต่อล่ะครับ
ติดตามกันต่อได้ที่
https://www.facebook.com/TravelofSalaryMan/
https://www.facebook.com/voravuds
Voravud Santiraveewan
วันพฤหัสที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 09.00 น.