วันที่5 เราจะไปลุยกันต่อที่เมืองแห่งไอน้ำ Beppu โดยเป้าหมายของเราในวันนี้คือ จะไปลุยบ่อนรกทั้ง8 ให้ครบกันครับ
![](/f/33531/5f298ad22b48886a68bcd104.jpg)
![](https://img.youtube.com/vi/J_QUTmAafsY/0.jpg)
เช้านี้ก่อนที่จะเดินทางไปเมืองต่อไป ก้อมาพบกับ set อาหารเช้าจากเรียวกัง Hasuwa กันก่อน มาแบบเรียบๆง่ายๆเช้านี้ ไม่อลังการเหมือนเมื่อคืน แต่ก้ออร่อยเหมือนเดิม
![](/f/33531/5f298ad32b48886a68bcd107.jpg)
วันที่ 5 นี้ เราจะไปเที่ยวที่เมือง Beppu กัน ซึ่งห่างจากเมือง Yufuin แค่ 24km เท่านั้น ทั้งเมือง Beppu และเมือง Yufuin นั้นอยู่ในจังหวัด Oita เหมือนกัน แป๊ปเดียวก้อถึงล่ะ
![](/f/33531/5f298add2b48886a68bcd114.jpg)
วันนี้ต้องหอบหิ้วกระเป๋ากันอีกแล้ว โดยเราพักกันที่เรียวกัง Bokai ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับ Landmark ของเมือง Beppu นั่นคือ Beppu Tower มี logo Asahi ตัวเบ้อเร่งอยู่ด้านบน แต่ไม่ได้ขึ้นไปนะ แค่เดินผ่าน 555555555
![](/f/33531/5f298ad42b48886a68bcd108.jpg)
Beppu Tower มีความสูง 55 เมตร บนชั้น 17 จะเป็นจุดชมวิว โดยจะมองได้รอบ 360 องศาเลยทีเดียว ซึ่งจะเห็นวิวทั้งในเมือง อ่าวBeppu และรีสอร์ทออนเซ็นต่างๆ อ้อ เมือง Beppu เป็นเมืองที่ดังมากๆในเรื่องของน้ำพุร้อน ออนเซ็น จึงมีรีสอร์ทเยอะแยะเลยทีเดียว ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ชอบมีกิมมิคเล็กๆน้อยๆให้ยิ้มกันนะ ดูเค้าตกแต่งหอคอยมีรูปตากะปากยิ้มด้วย ดูแล้วก้ออดยิ้มตามไม่ได้
![](/f/33531/5f298ad42b48886a68bcd10b.jpg)
เมื่อจัดการเรื่องที่พักเรียบร้อย ได้เวลาเที่ยวกันล่ะ โดยวันนี้เราจะเที่ยวบ่อนรกทั้ง 8 แห่งเมือง Beppu ซึ่งเป็นน้ำพุร้อน 8 แห่งที่มีชื่อของเมือง Beppu โดยเราจะขึ้นรสบัสสีเขียวหน้าตาน่ารักสาย 26 บ่อนรกทั้ง 8 บ่อห่างออกจากใจกลางเมืองเหมือนกัน นั่งไปเกือบชั่วโมงแหนะ ส่วนด้านหลังจะเห็นปล่องไฟมีควันสีขาวๆพุ่งขึ้นมา เมืองนี้แทบจะเรียกอีกชื่อได้ว่าเป็นเมืองแห่งควัน เนื่องจากด้านใต้มีธารน้ำแร่เยอะ จึงมีควันจากน้ำพุร้อนพวยพุ่งขึ้นมาทั่วเมืองเลยทีเดียว
![](/f/33531/5f298ad42b48886a68bcd109.jpg)
นั่งรถมาสักพัก เราก้อมาถึงบ่อนรกหมายเลข 7 กัน เป็นบ่อที่มีชื่อว่า Chinoike-Jigoku หรือบ่อนรกสระเลือด มาถึงก้อจะเจอเจ้ายักษ์สีแดงๆเนี่ย รอต้อนรับเราอยู่
![](/f/33531/5f298ad92b48886a68bcd110.jpg)
เดินเข้ามาข้างใน บ่อ Chinoike-Jigoku หรือบ่อนรกสระเลือด เราจะเห็นบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่ที่น้ำในบ่อเป็นสีแดงสด ซึ่งเป็นที่มาของชื่อบ่อนั่นเอง ดูแล้วก้อน่ากลัวใช่เล่นเลยนะเนี่ย
![](/f/33531/5f298ad92b48886a68bcd111.jpg)
ลองเข้ามาดูน้ำในบ่อ Chinoike-Jigoku หรือบ่อนรกสระเลือด กันใกล้ๆครับ สีแดงในบ่อก้อเกิดจากแร่ธาตุที่มีอยู่ในดินผสมกับน้ำแร่ น้ำดูนิ่งๆแต่ควันขโมงเลยนะครับ น่าจะร้อนน่าดู
![](/f/33531/5f298ad32b48886a68bcd105.jpg)
ถ่ายรูป บ่อ Chinoike-Jigoku หรือบ่อนรกสระเลือด แล้วอย่าเพิ่งรีบกลับนะ เดินอ้อมบ่อเข้าไปทางด้านขวา มีทางเดินขึ้นไปด้านบนเขา เดินขึ้นไปไม่ไกลมาก จะเป็นจุดชมวิวมุมสูงของบ่อนรกสระเลือด สวยทีเดียวเลยแหละมุมนี้
![](/f/33531/5f298add2b48886a68bcd116.jpg)
หลังจากชม บ่อ Chinoike-Jigoku หรือบ่อนรกสระเลือด เสร็จ จะมีมุมให้แช่เท้ากับน้ำแร่ด้วยครับ ฟรีไม่เสียเงิน แต่จะมีผ้าเช็ดเท้าผืนเล็กๆขายอยู่ ด้านนอกมีเก้าอี้ให้นั่งเล่น ทำเป็นรูปยักษ์ น่ารักเชียว
![](/f/33531/5f298ae62b48886a68bcd11f.jpg)
บ่อถัดไปคือบ่อนรกหมายเลข8 Tatsumaki Jigoku หรือบ่อนรกพวยพุ่ง เดินจากบ่อหมายเลข 8 มาได้เลย อยู่ข้างๆกัน บ่อนรกพวยพุ่งเป็นบ่อเล็กๆ เล็กมากจริงๆจนดูเหมือนไม่มีอะไร แต่เดี๋ยวก่อน ชื่อบ่อนรกพวยพุ่งไม่ได้ตั้งไว้เล่นๆนะ ทุกๆ 30 นาที บ่อนี้จะมีน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมาเพราะแรงดันใต้ดินจากธรรมชาติ พุ่งขึ้นมาครั้งหนึ่งจะพุ่งอยู่ประมาณ 5-10 นาที คอยดูเวลาให้ดี อย่าได้พลาดเชียว มันเป็นธรรมชาติที่อัศจรรย์มากๆ
![](/f/33531/5f298ae72b48886a68bcd121.jpg)
ด้านนอกบ่อ Tatsumaki Jigoku หรือบ่อนรกพวยพุ่ง จะมีไฟบอกด้วยว่าน้ำพุร้อนกำลังพุ่งขึ้นมาอยู่หรือเปล่า แต่แนะนำให้เดินเข้าไปถามเวลาที่แน่นอนก่อน แล้วเดินไปเที่ยวบ่อนีกสระเลือดรอครับ
![](/f/33531/5f298ae72b48886a68bcd120.jpg)
บ่อหมายเลข 7 กับ 8 จะอยู่แยกออกจากบ่ออื่นๆ ส่วนบ่อหมายเลข 1-6 จะอยู่ใกล้ๆกัน โดยเราสามารถเดินเที่ยวต่อๆกันได้เลย แต่จากบ่อหมายเลข 7 กับ 8 นั่งรถคันเดิมไปได้เลย เดินไปอีกนิดหน่อยก้อจะเจอกับบ่อหมายเลข 6 บ่อ Shiraike-Jigoku หรือ บ่อนรกสีขาว ทางเข้าทำซะสวยเลย
![](/f/33531/5f298ae52b48886a68bcd11d.jpg)
บ่อ Shiraike-Jigoku หรือ บ่อนรกสีขาว น้ำในบ่อจะเป็นสีเขียวๆออกขาวๆหน่อยๆ สวยมากๆ ยิ่งเวลาแดดส่องลงมานะ สวยสุดๆเลย เราสามารถเดินชมได้โดยรอบ มีต้นไม้ปลูกไว้สวยๆ หามุมถ่ายรูปกันได้เลย
![](/f/33531/5f298ae92b48886a68bcd122.jpg)
ด้านในบ่อ Shiraike-Jigoku หรือ บ่อนรกสีขาว มีเป็นเหมือน aquarium เล็กๆ โดยมีการโชว์พวกปลาในเขตร้อน เช่นปลา arapaimas (ตัวในรูป แบบตัวเป็นๆก้อมี) และปลาพิรันย่าจากลุ่มน้ำอเมซอนด้วย
![](/f/33531/5f298ae52b48886a68bcd11e.jpg)
เดินไปอีกสักพักก้อจะเจอบ่อนรกหมายเลข5 บ่อOniyama Jigoku หรือ บ่อนรกยักษ์ภูเขา
![](/f/33531/5f298aec2b48886a68bcd126.jpg)
ด้านในบ่อ Oniyama Jigoku หรือ บ่อนรกยักษ์ภูเขา ก้อจะเจอยักษ์ภูเขาตัวแดงๆใหญ่เชียว นั่งเฝ้าบ่ออยู่ เอ๊ะ ทำไมบ่อมันควันคลุ้งขนาดนั้นล่ะ ไม่เหมือนบ่อที่ผ่านๆมาเลย ลองเข้าไปดูใกล้ๆดีกว่า
![](/f/33531/5f298aea2b48886a68bcd123.jpg)
สาเหตุที่บ่อ Oniyama Jigoku หรือ บ่อนรกยักษ์ภูเขา มีควันเยอะมากๆก้อเพราะน้ำในบ่อนี้มีอุณหภูมิสูงถึง 99.1 องศาเซลเซียสเลย เรียกได้ว่าตกลงไปนี่ สุกกันพอดี ควันเลยขโมงซะขนาดนี้ ร้อนที่สุดในบรรดาบ่อนรกทั้ง 8 บ่อเลย
![](/f/33531/5f298aec2b48886a68bcd127.jpg)
ผิวน้ำของบ่อ Oniyama Jigoku หรือ บ่อนรกยักษ์ภูเขา เหมือนเป็นคลื่นๆเลย เพราะอุณหภูมิที่สูงถึง 99.1 องศาเซลเซียสนี่แหละ เห็นกันชัดเลยว่าน้ำกำลังเดือดปุดๆอยู่ ดูแล้วก้อน่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย
![](/f/33531/5f298af12b48886a68bcd12b.jpg)
บ่อ Oniyama Jigoku หรือ บ่อนรกยักษ์ภูเขาควันเยอะแยะมากมาย หันไปมองย้อนแสงอาทิตย์เป็นวิวที่แปลกตาดีเหมือนกัน สวยใช่เล่นนะเนี่ย
![](/f/33531/5f298af32b48886a68bcd12e.jpg)
ด้านหลังของบ่อ Oniyama Jigoku หรือ บ่อนรกยักษ์ภูเขา จะมีบ่อจรเข้อยู่หลายบ่อเหมือนกัน แต่บ้านเราเห็นมาเยอะกับพวกฟาร์มจรเข้ล่ะ เลยเดินดูผ่านๆแล้วก้อไป
![](/f/33531/5f298af82b48886a68bcd133.jpg)
บ่อที่นรกบ่อที่4 Kamado Jigoku หรือ บ่อนรกหม้อไฟ บ่อนี้เป็นบ่อใหญ่เลย ท่าทางจะเป็นที่นิยมที่สุดในบรรดาบ่อนรกทั้ง 8 บ่อ เพราะว่ามีทัวร์มาลงด้วย ตอนที่ไปถึงเจอทัวร์เกาหลีมาลง ไม่ต่างจากทัวร์จีนเลย เซ็งมากมาย โชคดีที่ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ มีช่วงที่ทัวร์ไปกันหมดแล้ว
![](/f/33531/5f298af52b48886a68bcd12f.jpg)
เดินเข้ามาด้านใน บ่อ Kamado Jigoku หรือ บ่อนรกหม้อไฟ จะเจอเจ้ายักษ์สีแดงยืนอยู่บนหม้อไฟยักษ์ ด้านล่างมีควันขโมงพร้อมป้ายเตือนว่า น้ำร้อนถึง 100องศาเซลเซียสเลยนะ ห๊ะ!!!! นี่ร้อนกว่าบ่อนรกยักษ์ภูเขาอีกเหรอ
![](/f/33531/5f298af92b48886a68bcd135.jpg)
ตรงหินนี่แหละ ที่เค้าเตือนอุณหภูมิ 100 องศาที่ บ่อ Kamado Jigoku หรือ บ่อนรกหม้อไฟ เป็นเหมือนช่องเปิดออกมาจากหิน โดยมีควันจากสายน้ำแร่ที่ไหลอยู่ข้างใต้ขึ้นมา
![](/f/33531/5f298af92b48886a68bcd134.jpg)
บ่อ Kamado Jigoku หรือ บ่อนรกหม้อไฟ จะมีบ่อน้ำแร่ที่มีสีฟ้าสวยงามอยู่สองบ่อ เราจะเจอบ่อเล็กนี่ก่อน ซึ่งมีอุณหภูมิถึง 85 องศาเซลเซียสเลย ปล เห็นทัวร์เกาหลีด้านหลังไหมครับ
![](/f/33531/5f298afb2b48886a68bcd136.jpg)
ตรงส่วนนี้จะเป็นคล้ายๆบ่อโคลนภายใน บ่อ Kamado Jigoku หรือ บ่อนรกหม้อไฟ จะมีความพิเศษอยู่ตรงที่ ถ้าเราจุดบุหรี่แล้วพ่นควันบุหรี่ไปทางบ่อโคลน ควันบุหรี่และความร้อน จะทำปฎิกิริยากับสารที่ระเหยขึ้นมากับน้ำแร่ ทำให้เกิดเป็นควันโขมงขึ้นมา แปลกๆดี
![](/f/33531/5f298af62b48886a68bcd130.jpg)
บ่อสีฟ้า บ่อหลักของ บ่อ Kamado Jigoku หรือ บ่อนรกหม้อไฟ น้ำสีฟ้าๆกระทบแสงแดดสวยมากๆ แถมกลางบ่อยังมีหินอยู่ก้อนที่ไปอยู่ได้พอเหมาะพอเจาะดีจริงๆ
![](/f/33531/5f298af72b48886a68bcd132.jpg)
บ่อสีฟ้า บ่อหลักของ บ่อ Kamado Jigoku หรือ บ่อนรกหม้อไฟ ดูกันชัดๆอีกรูป กับน้ำสีฟ้าๆ
![](/f/33531/5f298af62b48886a68bcd131.jpg)
บ่อนรกบ่อที่ 6 Umi Jigoku บ่อนรกทะเล ด้านหน้าดูเรียบๆไม่มีอะไรแบบนี้ แต่ข้างในมีทีเด็ด
![](/f/33531/5f298afb2b48886a68bcd137.jpg)
ข้างใน Umi Jigoku บ่อนรกทะเล กว้างมากๆ เดินเข้าไปลึกพอสมควร ด้านหน้ามีบ่อโคลนขนาดย่อยๆตั้งอยู่ แต่บ่อหลักยังต่อเดินเข้าไปอีกหน่อย
![](/f/33531/5f298aff2b48886a68bcd13b.jpg)
บ่อหลักของ Umi Jigoku บ่อนรกทะเล น้ำเป็นสีฟ้าๆ แต่ไม่ได้ฟ้าใสเหมือนบ่อหม้อไฟ ด้านซ้ายของบ่อจะมีทางเดินขึ้นไปข้างบนอีกนิด ให้เดินขึ้นไปทางนั้น จะเจอมุมที่สวยที่สุด
![](/f/33531/5f298afd2b48886a68bcd138.jpg)
เดินขึ้นมาด้านบนเขาแล้วมองกลับไปที่ Umi Jigoku บ่อนรกทะเล หลบมุมต้นไม้ดีๆ จะเห็นบ่อสีฟ้าควันพุ่งๆ พร้อมด้วยโทริอิสีแดงตั้งอยู่ กับฉากหลังเป็นภูเขา มุมนี้แหละครับ สวยสุดๆเลย อยากมาที่นี่ก้อเพราะเห็นภาพนี้แหละ
![](/f/33531/5f298b062b48886a68bcd144.jpg)
ที่ Umi Jigoku บ่อนรกทะเล มีโทริอิตั้งไว้ และเราสามารถเดินไปตรงนั้นได้ด้วย ก้อจะเจอสะพานญี่ปุ่นสีแดงๆ ด้านในจะมีศาลเจ้าเล็กๆอยู่ครับ
![](/f/33531/5f298b062b48886a68bcd145.jpg)
ศาลเจ้าภายใน Umi Jigoku บ่อนรกทะเล เดินเข้ามาขอพรได้เลย มาช่วงเย็นๆ แดดส่องเข้ามาสวยสุดๆ
![](/f/33531/5f298b062b48886a68bcd143.jpg)
ป้ายชื่อบ่อ Umi Jigoku บ่อนรกทะเล รอจังหวะให้แสงแดดช่วงเย็นๆส่องมากระทบไอน้ำที่ระเหยขึ้นจากบ่อ จะทำให้เห็นควันเป็นสีเหลืองๆอ่อนๆ สวยไปอีกแบบ
![](/f/33531/5f298b012b48886a68bcd13d.jpg)
หน้าบ่อหลักของ Umi Jigoku บ่อนรกทะเล จะมีอาคารขายของที่ระลึกอยู่ ซึ่งสามารถเดินขึ้นบันไดขึ้นไประเบียงที่ชั้นสองได้ ก้อจะได้รูปจากมุมสูงแบบนี้ครับ
![](/f/33531/5f298b052b48886a68bcd142.jpg)
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> มีต่อด้านล่างนะครับ <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
บ่อที่ 7 บ่อ Onishi Bozu Jigoku บ่อนรกยักษ์เล็ก บริเวณนี้จะเป็นบ่อหิน แต่ด้านใต้มีสายน้ำแร่อยู่ ทำให้เกิดควันพวยพุ่งขึ้นมาจากกลุ่มก้อนหิน เค้าตั้งชื่อบริเวณนี้ไว้ว่า ที่นอนของเหล่ายักษ์
![](/f/33531/5f298b0a2b48886a68bcd147.jpg)
บ่อ Onishi Bozu บ่อนรกยักษ์เล็ก จะประกอบไปด้วยบ่อโคลน แล้วมีน้ำแร่พุ่งขึ้นมานิดๆ ทำให้เห็นรอยโคลนเป็นวงๆแบบนี้ ทั้งบริเวณจะมีอยู่ประมาณ 3-4 บ่อเล็กๆ โดยบ่อนี้จะเป็นบ่อที่ใหญ่ที่สุด สำหรับบ่อนรกบ่อที่8 เมื่อเดินไปถึงหน้าบ่อ มีป้ายติดไว้ว่า เค้าขอถอนตัวออกจากบ่อนรกทั้ง8 ทั้งให้ One Day Pass ที่ซื้อมาใช้ไม่ได้ แต่เห็นว่าเป็นบ่อเล็กๆ กับสวนสัตว์ ไม่น่าสนใจ เลยไม่ได้เข้าไปชม
![](/f/33531/5f298b102b48886a68bcd14b.jpg)
ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นอย่าลืมสังเกตุท่อน้ำตามถนนนะครับ ของญี่ปุ่นเค้าทำท่อน้ำซะสวยเชียว แต่ละที่ก้อจะมีรูปร่างลวดลายแตกต่างกันไป ของ Beppu เป็นแบบในรูปนี่แหละ
![](/f/33531/5f298b122b48886a68bcd14e.jpg)
ได้เวลากลับไปพักแช่น้ำแร่ที่เรียงกังสุดหรูในคืนนี้แล้ว โดยเราพักกันที่เรียวกังชื่อ Bokai ราคาคนละ 18,000 เยน ก้อตกคนละ 5,400 บาท พักกัน 5 คนได้ห้องใหญ่มาเลย สรุปแล้วคืนนี้เราเสียตังค์ค่าห้องทั้งหมด 27,000 บาทเลยทีเดียว แต่ขอบอกเลยว่าคุ้มค่าสุดๆ และไม่แพงเลย ห้องพักเดินเข้ามาจะมีระเบียงทางเดิน ตรงไปสู่ห้องกว้างๆห้องนี้ โดยใช้เป็นห้องนั่งเล่น ทานข้าว และห้องนอน ผนังด้านนึงเป็นกระจกขนาดใหญ่ทั้งหมด เห็นวิวทะเล บรรยากาศสุดยอดมากๆ
![](/f/33531/5f298b102b48886a68bcd14c.jpg)
นอกจากห้องใหญ่แล้ว ยังมีห้องนอน 2 เตียงอีกห้อง และห้องน้ำ กับห้องอาบน้ำ มีบ่อน้ำแร่อยู่บนดาดฟ้า ซึ่งเค้าดูดน้ำแร่ขึ้นไปป น้ำแร่ที่นี่เหมือนจะคุณภาพดี เข้มข้นกว่าที่ Yufuin เยอะเลย ลงไปแช่แล้วรู้สึกเลยว่ามีแร่ธาตุในน้ำอยู่อย่างเข้มข้น มันจะลื่นๆยังไงไม่รู้ สบายตัวสุดๆ
![](/f/33531/5f298b152b48886a68bcd151.jpg)
วิวที่เห็นจากในห้องใหญ่ คือแบบดีงามสุดๆ เห็นทั้งเมือง ชายหาด และภูเขา
![](/f/33531/5f298b182b48886a68bcd152.jpg)
ลองมองวิวจากห้องพักกันเต็มๆ ข้างๆโรงแรมBokai เป็นสวนสาธารณะ ซึ่งติดกับชายหาด ตอนเช้าๆสามารถไปเดินเล่นได้ บรรยากาศดีมากๆเลย ส่วนตึกเหลืองๆทางซ้ายเป็นที่เล่นตู้ปาจิงโกะทั้งตึกเลย
![](/f/33531/5f298b182b48886a68bcd153.jpg)
ไฮไลท์ของเรียวกัง Bokai นอกจากห้องพักแล้ว ก้อจะเป็นอาหารนี่แหละ อลังการ อร่อยสุดๆ และปริมาณเยอะมากๆ เยอะแค่ไหนเหรอ ก้อประมาณว่า กินๆไปบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า เคี้ยวจนเมื่อยปากแล้วก้อยังกินไม่หมดเลย อาหารจะมีอะไรบ้าง มาดูกัน
![](/f/33531/5f298b192b48886a68bcd155.jpg)
![](/f/33531/5f298b1d2b48886a68bcd158.jpg)
ชุดอาหารเย็นของเรียวกัง Bokai จานนี้จะเป็นอาหารตามฤดูกาล 5 อย่าง จัดใส่จานรูปกลีบซากุระอย่างสวยงาม
![](/f/33531/5f298b1b2b48886a68bcd156.jpg)
ชุดอาหารเย็นของเรียวกัง Bokai จานนี้จะเป็นซุปกุ้งมังกร จะเป็นกุ้งมังกรครึ่งตัว ใส่มาในซุปใสรสชาติเข้มข้น อร่อยสุดๆ
![](/f/33531/5f298b1e2b48886a68bcd15a.jpg)
ชุดอาหารเย็นของเรียวกัง Bokai จานนี้จะเป็นซาซิมิปลาอาจิ ปลาขึ้นชื่อในบริเวณนี้ พร้อมด้วยซาซิมิปลากระพงขาว และหนวดปลาหมึก
![](/f/33531/5f298b202b48886a68bcd15b.jpg)
ชุดอาหารเย็นของเรียวกัง Bokai จานนี้จะเป็นทีเด็ดเลย ซาซิมิกุ้งมังกร คนละ 1 ตัวเต็มๆ สด อร่อย เนื้อเด้งมากมาย
![](/f/33531/5f298b242b48886a68bcd15f.jpg)
ชุดอาหารเย็นของเรียวกัง Bokai จานนี้จะเป็นหม้อไฟปลาปักเป้า เพิ่งเคยได้กินนี่แหละ รสชาติอร่อยดี เนื้อจะแน่นๆหน่อย ไม่ค่อยเหมือนเนื้อปลา ความรู้สึกจะคล้ายๆเนื้อไก่อย่างงั้นแหละ
![](/f/33531/5f298b252b48886a68bcd163.jpg)
ชุดอาหารเย็นของเรียวกัง Bokai จานนี้จะเป็นไข่ตุ๋น เสริฟมาในถ้วยรูปส้ม กับเหล้าบ๊วย เสริฟมาในถ้วยกระบอกไม้ไผ่ จานกะถ้วยน่ารักซะจนอยากขอเก็บกลับบ้านเลย
![](/f/33531/5f298b242b48886a68bcd162.jpg)
ชุดอาหารเย็นของเรียวกัง Bokai จานนี้จะเป็นซุปแบบฝรั่ง ที่คลุมถ้วยอยู่จะเป็นขนมปังอบกรอบๆ ด้านในมีซุปเข้มข้น วิธีกินคือ จิ้มขนมปังให้มันหล่นลงไปในซุปแล้วกิน หอมกลมกล่อมสุดๆ
![](/f/33531/5f298b292b48886a68bcd166.jpg)
ชุดอาหารเย็นของเรียวกัง Bokai จานนี้จะเป็น ข้าวอบอะไรสักอย่าง ใส่มาในหม้อญี่ปุ่นแบบ classic ทางพนักงานจะเข้ามาจุดไฟให้ พอไฟดับ ก้อเปิดฝากินได้เลย แบบว่าอร่อย หอมมากๆ อาหารที่นี่เค้าทำจากวัตถุดิบคุณภาพดีมากๆ แถมอร่อยทุกอย่าง เห็นอาหารมื้อนี้แล้วรู้สึกเลยว่าค่าห้องไม่แพงเลยจริงๆ
![](/f/33531/5f298b282b48886a68bcd165.jpg)
![](/f/33531/5f298b2a2b48886a68bcd168.jpg)
ชุดอาหารเย็นของเรียวกัง Bokai ตบท้ายด้วยของหวานน่ารักๆถ้วยนี้
![](/f/33531/5f298b2d2b48886a68bcd16b.jpg)
ตอนแรกไม่คิดว่าชุดอาหารเย็นของเรียวกัง Bokai จะอลังการขนาดนี้ เลยสั่งซาซิมิปลาปั๊กเป้าจานใหญ่จานนี้มา ราคา 3,000 เยน ก้อ 900 บาท ปลาปั๊กเป้าสดๆจะถูกแล่บางๆมาในจาน พร้อมเครื่องเคียง ให้เอาปลาปั๊กเป้าห่อเครื่องเคียงแล้วกิน ปลาปั๊กเป้าดิบๆก้อยังคงรู้สึกถึงความแน่นของเนื้ออยู่เช่นเคย อร่อยจริงๆ
![](/f/33531/5f298b2f2b48886a68bcd16e.jpg)
หลังจากกินอิ่มกันแล้ว พนักงานของโรงแรม Bokai ก้อมาเก็บจานชาม เก็บโต๊ะ แล้วนำฟูกฟูตง หรือฟูกแบบญี่ปุ่นมาปูให้นอน ปูเสร็จพนักงานทั้งสองคนนั่งคุกเข่ากับพื้น แล้วคำนับเราอย่างงาม หน้าผากแทบจะจรดพื้นเลยทีเดียว พอมาดูที่หมอน เอ๊ะ มีกระดาษอะไรวางอยู่ เค้าเขียนไว้ประมาณว่า “วันนี้ไปเที่ยวเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ขอเชิญพักผ่อนในห้องพักของเราให้สบายนะ” อื้อหือ การบริการนี่ให้ไปเลย 5 ดาวเต็มๆ ทั้งบริการดี ทั้งใส่ใจในรายละเอียด ประทับใจมากๆ
![](/f/33531/5f298b2c2b48886a68bcd169.jpg)
วันนี้เดินเหนื่อยมาทั้งวันล่ะ หลังจากขึ้นไปแช่ออนเซ็นแบบ outdoor บนชั้นดาดฟ้าแล้ว ก้อขอตัวไปนอนก่อนครับ ก่อนจะลุยกันต่อในวันที่6
ติดตามกันต่อได้ที่
https://www.facebook.com/TravelofSalaryMan/
https://www.facebook.com/voravuds
Voravud Santiraveewan
วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 09.36 น.