สวัสดีทู๊กคนนนนน~

วันนี้จะพาทุกคนไปเที่ยวกันที่จังหวัด กระบี่ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวไทยกันนะคะ

แน่นอนแหละว่า เรามีการใช้โครงการ #เราเที่ยวด้วยกัน ด้วยนะ ซึ่งทางโครงการ ได้สนับสนุนทั้งค่าที่พัก และค่าอาหารถึง 40% เลยล่ะ เรียกได้ว่าคุ้มค่ามากๆ

ขอสารภาพว่า ทริปนี้แทบไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลย แค่คิดว่าอยากเที่ยวทะเลเฉยๆ 

มาเริ่มกันเลย~

วันแรก ออกเดินทาง ชมพระอาทิตย์ตก

ครั้งนี้เราบินไปกับสายการบิน Thai VietJet ซึ่งต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) และไปลงที่สนามบินกระบี่ (KBV) 

เราจองเที่ยวแรกของวัน ออกเดินทางเวลาประมาณ 7.10 น. ก็เกิดเหตุการณ์ที่ว่า เกือบทำการเช็คอินไม่ทัน เพราะว่า ตื่นสายอ้ะ.. อีก 5 นาทีเคาน์เตอร์ปิด T^T  เป็นต้นแบบที่ไม่ดีเลยนะเด็กๆ อย่าทำตาม

วิ่งสิรอไร!!

เช้าๆ ที่กรุงเทพ ท้องฟ้าออกจะหม่นๆ หน่อย มีฝนตกบ้างเล็กน้อย

แต่พอขึ้นเหนือเมฆเท่านั้นแหละ!! แดดเปรี้ยง มันจ้าซะเหลือเกิน

ใกล้ๆ ตอนที่เครื่องบินจะลง ท้องฟ้าปลอดโปร่งมาก เป็นช็อตที่สวยมากตอนอยู่บนเครื่อง

เมื่อถึงกระบี่แล้ว ก็ต้องเข้าเช็คอินที่โรงแรมกันก่อน เพราะจะได้รับคูปองส่วนลดค่าอาหาร 40% สูงสุด 900 บาท จากโครงการ #เราเที่ยวด้วยกัน และใช้ได้หลังจากเวลา 17.00 น. ของวันที่เช็คอินเท่านั้นนะ

ทริปนี้ เราเข้าพักที่ อ่าวนาง ฟีโอเร่ รีสอร์ต ห้องพักอยู่บนเขา และเงียบสงบมาก ใครต้องการความ Private แนะนำมากๆ ภายในห้องมีการตกแต่งสวยงาม พนักงานบริการดีมาก

เวลาจะเข้าห้องพักจะต้องรอรถของรีสอร์ตพาขึ้นไปนะคะ เนื่องจากห้องพักอยู่บนภูเขาและเส้นทางชันมาก เวลาจะเข้าๆ ออกๆ อาจจะต้องโทรเรียกรถของโรงแรมล่วงหน้า

เมื่อวางของในห้องพักเสร็จก็...

..zzZZ หลับ

ตื่นมาอีกทีก็ประมาณ 16.00 น. รีบอาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวไปทานข้าวเย็นกัน เปิด Google หาข้อมูล ก็พบที่ที่คนอื่นเขาว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวย..  สวยก็ไปสิ!!

สุดท้ายก็มาถึง The Hilltop Aonang

จะบอกว่า ทางขึ้นไปบนร้านค่อนข้างชันมาก แต่ถ้าแลกกับวิวสวยๆ ก็ยอมแหละ

ระยะทางจากถนนขึ้นไปที่ร้านก็ไม่ไกลมากนัก รถเล็กก็พอจะขึ้นได้อยู่

ช่วงเวลาที่จะได้ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดิน จะเป็นช่วงประมาณ 18.00 น. ถึง 18.30 น. ต้องเผื่อเวลากันหน่อยนะ เพราะบางเดือนพระอาทิตย์อาจจะตกเร็ว ระวังจะมาไม่ทัน อีกอย่างก็คือ ท้องฟ้าต้องปลอดโปร่งด้วยนะจ๊ะ

หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จ ก็ได้เวลากลับที่พัก ไปพักผ่อนเอาแรงไว้ใช้พรุ่งนี้ต่อ

วันที่สอง ดำน้ำ ชมหาดทรายขาวน้ำใส

วันนี้เราจองทัวร์ดำน้ำหมู่เกาะพีพี เป็นแพ็คเกจ One Day Trip กับบริษัทเกาะพีพีทัวร์ ในราคา 1000 บาท/คน ทางทัวร์มีรถรับ-ส่งจากที่พักไปยังท่าเรือให้บริการอยู่แล้วนะคะ

ช่วงนี้น่าจองทริปไปเที่ยวเกาะมาก เพราะคนไม่เยอะ ค่อนข้างโล่งเลยทีเดียว 

แนะนำเลยค่ะ ไกด์บริการดีมากๆ เลย ทั้งถ่ายรูปให้ บริการเครื่องดื่ม รวมถึงคำแนะนำจุดถ่ายรูปสวยๆ คนไม่วุ่นวายให้อีกด้วย หลังจบทริป เลยให้ทิปไกด์ไปเล็กน้อย

ออกเรือ!!

เริ่มแรก เรือจะไปวนรับเพื่อนร่วมทางจากไร่เลย์ก่อนนะคะ เพราะฉะนั้น ใครที่พักที่ไร่เลย์ ไม่ต้องห่วงเลย

ไฮไลท์ของทริปนี้น่าจะเป็น เกาะไม้ไผ่ ที่มีหาดสวยและน้ำใสมาก คือดีย์

ทำไมได้ชื่อว่าเกาะไม้ไผ่ ทั้งที่เดินเข้าไปแล้วไม่เจอต้นไผ่เลย ซึ่งไกด์ก็ให้คำตอบว่า แต่ก่อนเป็นเกาะที่มีต้นไผ่เยอะ แต่หลังจากเกิดสึนามิเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ก็ทำให้ต้นไผ่หายไปกับคลื่นจนเกือบหมดเลย

ปิเล๊ะ ลากูน น้ำใสจนมองเห็นพื้นด้านล่างเลยค่ะ มาได้เฉพาะตอนน้ำขึ้น เพราะว่าบางจุดจะตื้นมากจนเรือไม่สามารถเข้าได้

ต่อมาเป็นอ่าวมาหยา ไกด์บอกว่าช่วงนี้ปิดหาดมาหยาจ้า อดลงไปถ่ายรูปเล่น ได้ถ่ายแต่ไกลๆ เท่านั้น

เกาะลิง ตอนไป เรือไม่จอดเทียบนะคะ เพราะกลัวว่าลิงจะขโมยของของนักท่องเที่ยวบนเรือ เราเลยเจอเจ้าถิ่นแค่สองตัวเท่านั้น

บางช่วงไม่ได้ถ่ายมานะคะ เพราะว่าทางไกด์ปล่อยให้เราลงไปดำน้ำดูปะการังและเหล่าปลาน้อย

จบทริปก็ผิวไหม้แดดไปตามระเบียบ คงเป็นเพราะเราโบกครีมกันแดดไม่มากพอ ฮ่าๆๆ


วันสุดท้าย นั่งเล่นคาเฟ่ เที่ยวธรรมชาติ

หลังจากเหนื่อยมาเมื่อวาน ก็ไปเที่ยวคาเฟ่บ้าง ค้นไปเจอบ้านต้นไม้ คาเฟ่ เขาว่ากันว่าบรรยากาศดี ซึ่งก็ดีจริงค่ะ

กว่าเราจะขับไปถึงคาเฟ่ ก็สักช่วงเที่ยงแล้ว อากาศร้อนมาก แต่พอเข้ามาด้านใน อากาศเย็นกว่า เพราะว่ามันล้อมรอบไปด้วยต้นไม้

คาเฟ่มีค่าเข้าคนละ 40 บาท สามารถเก็บบัตรเป็นคูปองแทนเงินสด ซื้ออาหารในคาเฟ่ได้จ้า

ที่นี่มีสระว่ายน้ำด้วยนะ ค่าเข้าคนละ 20 บาทเท่านั้นเอง

สถานที่ต่อไป ท่าปอมคลองสองน้ำ จุดชมธรรมชาติในจังหวัดกระบี่

มีค่าเข้าบำรุงสถานที่ 20 บาท/คน เท่านั้น

ที่นี่มีขายทัวร์พายเรือคายัคด้วยน้า แต่เราไม่ได้ซื้อ เพราะตอนนั้นอากาศร้อนมาก ไม่ไหวจริงๆ

หลังจากออกมาจากท่าปอม ก็ขับรถยาวๆ ไปที่ น้ำตกร้อน คลองท่อม ที่นี่จะเป็นบ่อน้ำร้อนไว้แช่เท้าให้ผ่อนคลาย สามารถขึ้นไปด้านบนเพื่อชมน้ำตก และเล่นน้ำได้จ้า

จะมีค่าบำรุงสถานที่คนละ 20 บาท และหากน้ำรถยนตร์มาด้วย ก็คันละ 30 บาทจ้า


จบแล้วสำหรับทริปกระบี่ 3 วัน 2 คืน ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะคะ บ๊ายบายย~

ฝากติดตามเพจ Facebook ของเราด้วยน้า

https://www.facebook.com/travelbymyselff/

Travel by Myself

 วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 14.30 น.

ความคิดเห็น