![](/f/34157/5f55b59c455ea31ed7a6055a.png)
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขออภัยเพื่อนๆที่ติดตามด้วยนะคะที่เราหายไปนานเนื่องจากมีความวุ่นวายกับงานหลักนิดหน่อย แต่ที่จริงเราเที่ยวอยู่เรื่อยๆเลยล่ะ มาเริ่มจากทริปตั้งแต่ต้นปีกันก่อนเลย ดองจนถึงวันนี้ก็ 7 เดือนแล้ว ฮ่าๆ ก่อนที่จะทับถมไปมากกว่านี้.ทริปนี้เราไปเที่ยวญี่ปุ่น (อีกแล้ว) รอบนี้ไปภูมิภาคที่เขาร่ำลือกันว่า เป็นดินแดนแห่งน้ำพุร้อน อีกทั้งบ้านเมืองก็น่ารัก เงียบสงบ ผู้คนเป็นมิตร ...ภูมิภาคคิวชู นั่นเองค่ะ ^^ รอบนี้ไปเก็บแถบภาคเหนือของคิวชู สถานที่เที่ยวธรรมชาติเยอะมากๆ นักท่องเที่ยวไม่เยอะด้วย เหมือนเรามาเที่ยวบ้านนอกของญี่ปุ่นเขาล่ะ ถ้าใครชอบเที่ยวแนวธรรมชาติ เรียบง่าย ไม่เน้นแสงสีเสียง ขอบอกเลยว่าต้องประทับใจแน่ๆ .ช่วงที่เราไป คือ 17-27 มกราคม 2563 ทั้งหมด 10 วัน 9 คืน ไม่นับวันเดินทาง (ก่อน COVID จะระบาดในคิวชูพอดิบพอดี) เป็นช่วงฤดูหนาว แต่จะหนาวแบบเที่ยวสนุก มีหิมะอ่อนๆบางพื้นที่ และสำหรับเราไม่ต้องลุ้นว่าจะป่วยเหมือนตอนไปเที่ยวแถบบนๆ
การท่องเที่ยวเราจะเที่ยวด้วยรถไฟ และมีเช่ารถขับเองด้วยค่ะ และด้วยความที่ทุกอย่างในคิวชู ดูน่ารักและผู้คนก็ดูใส่ใจกับทุกๆสิ่งไปซะหมด เราจึงขอตั้งชื่อทริปนี้ว่า North Khyshu (found the love all the way)
มาดูกันว่าทริปนี้เราไปที่ไหนมาบ้าง ^^
DAY 1 – เดินทางจาก กรุงเทพ – สนามบินฟุกุโอกะ
DAY 2 - YUFUIN (By YUFUIN NO MORI TRAIN)
DAY 3 - BEPPU (Beppu Jigoku Meguri ,โรงอาบน้ำ Takegawara,ร้านเทมปุระแสนอร่อย Toyotsune)
DAY 4 - KUMAMOTO (Kumamoto Castle, Josaien shopping arcade, Suizenji Jojuen Garden, Shimotori Shopping Arcade)
DAY 5 - KUROKAWA ONSEN (บ้านพักตากอากาศ Kurosako Onsen Sakura)
DAY 6 - ASO (ขับรถชมวิวภูเขาไฟ Aso ,พาไปกินข้าวหน้าเนื้อร้านเด็ด)
DAY 7 - SAGA : KARATSU (ตามรอยซีรี่ย์ Stay Saga)
DAY 8 - SAGA AND AROUND(Okawachiyama Village, Takeo Shrine, Yutoku Inari Shrine)
DAY 9 - FUKUOKA (พาไปฟาร์มสตอเบอร์รี่บุพเฟ่, Nanzoin temple)
DAY 10 - FUKUOKA (เที่ยวในเมืองฟุกุโอกะ, Ohori Park, Shopping)DAY 11
EP.1 YUFUIN
ที่เที่ยวที่แรกของทริปนี้ เราไปที่เมืองยูฟุอิน(Yufuin) จังหวัดโออิตะ(Oita) หมู่บ้านเล็กในหุบเขา เราจะไปโดยนั่งรถไฟสุดวินเทจซึ่งจะวิ่งผ่านป่า ภูเขา ได้ชมวิวสุดชิลตลอดทาง ที่หมู่บ้านมีถนนคนเดินมีวิวเป็นภูเขารอบด้าน ท้ายหมู่บ้านมีทะเลสาบเล็กๆ เมืองทั้งเมืองโคตรน่ารัก บ่งบอกถึงความเป็นญี่ปุ๊นน...ญี่ปุ่น และจะพาไปดูที่พักพร้อมออนเซนส่วนตัวในราคาที่คุ้มค่าแก่การไปพักมาก ปิดท้ายด้วยเนื้อย่างร้อนๆ กินกับวาซาบิใส่เกลือ แถมด้วยเนื้อม้าซาซิมิ บอกเลยว่างานดีมากกกกค่ะ พร้อมแล้วไปดูกัน!
การเที่ยวทั้งทริปเราใช้ทั้งรถไฟ และเช่ารถขับเองค่ะ ในส่วนของรถไฟ pass หลักเราใช้ JR North Kyushu Pass 3 วัน โดยจองผ่าน Klook เมื่อได้รับรหัส JR North Kyushu pass มาแล้วจึงค่อยนำรหัสมาสำรองที่นั่งรถไฟ Yufuin No Mori ไว้สำหรับเดินทางไป Yufuin เดี๋ยวครั้งหน้าจะมารีวิวการจองที่นั่งอีกทีนะคะ
![](/f/34157/5f55b725455ea31ed7a6055c.png)
เดินทางจากกรุงเทพถึงสนามบินฟุกุโอกะเวลา 7:25 นาที เราจะต้องเดินทางไป Hakata station กันต่อ เพื่อไปขึ้นรถไฟ Yufuin No Mori ที่จองไว้ การไป Hakata station มีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นทางรถไฟใต้ดิน รถบัส หรือแทกซี่ก็ได้ แต่เราเลือกไปโดยรถบัส City Bus (nishitetsu bus) เนื่องจากประหยัดที่สุด โดยใช้เวลาเพียง 15 นาทีและเสียค่าใช้จ่ายเพียง 260 เยนเท่านั้น เมื่อรับกระเป๋าแล้วเดินออกมาเราจะพบกับตู้ซื้อตั๋วรถบัสตามรูปข้างบนค่ะ
![](/f/34157/5f55b751455ea31ed7a60560.png)
ใกล้ๆกับตู้ซื้อ Bus Ticket จะมีป้ายใหญ่ๆบอกจุดที่ต้องไปรอรถ โดยของเราต้องไป Hakata Station จึงต้องไปรอรถบัสที่ป้ายหมายเลข 2
![](/f/34157/5f55b7cb5282213ffea9fc9f.png)
การซื้อตั๋ว ถ้าไป Hakata Station จะต้องซื้อที่ตู้ B ที่อยู่ฝั่งซ้าย ดูได้จากตารางเวลาข้างบนจะเห็นว่า Hakata station อยู่ในแถบของสีฟ้า (B) ส่วนเวลาที่รถมา เราต้องดูตามประเภทของวันที่ไปนะคะ
สีเขียว คือ Work day
สีส้ม คือ Saturday
สีชมพูคือ Sunday & Holiday
วิธีการดูเวลาคือ แถบสีดำจะบอกชั่วโมง และในช่องตามสีจะบอกนาที
ของเราไปวันเสาร์ จึงต้องดูเวลาที่สีส้ม เวลาที่คันต่อไปจะมาคือ 9.35
การกดซื้อ ให้กดเลือกภาษา English จากนั้นเลือกจำนวนคนที่แถบขวาบน แล้วค่อยเลือกราคา ถ้าไป Hakata station ให้กดที่ 270Y ค่ะ
![](/f/34157/5f55b7ce5282213ffea9fca0.png)
ได้ตั๋วมาแล้ว ไปรอรถกันที่ป้ายหมายเลข 2 กันเลย
![](/f/34157/5f55b7d15282213ffea9fca1.png)
รถบัสมาแล้ว คนจะเยอะหน่อยนะคะ และจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลที่ประตูทางขึ้น
![](/f/34157/5f55b7d45282213ffea9fca2.png)
เมื่อถึงสถานี Hakata เราต้องไปแลก JR Pass กันก่อน โดยนำเอกสารการจอง JR Pass ผ่าน Klook (ได้รับเอกสารทางเมลหลังจองสำเร็จ) มายื่นพร้อมกับ Passport ที่ Rail Pass Counter และต้องยื่นเอกสารการจองที่นั่ง Yufuin No mori ไปด้วยนะคะ ก็จะได้ตั๋วหน้าตาแบบนี้มา
นอกจากนี้ หากต้องการจองที่นั่งรถไฟขบวนอื่นๆสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตอนนี้เลยค่ะ (ส่วน การจองที่นั่ง Yufuin No mori ที่เราจองมาก่อนล่วงหน้าเนื่องจาก หากมาจองที่ Counter มีโอกาสที่นั่งเต็มได้ )
การอ่านตั๋วก็ไม่ยากค่ะ ในตั๋วจะบอกวันที่ไป คือ JAN 18 เวลารถออก 10:24 ถึง Yufuin 12.34 ต้องไปขึ้นโบกี้ที่ 4 ที่นั่ง 7C ส่วนจะรู้ได้ไงว่าต้องไปรอที่ชานชาลาไหน เราต้องดูจากป้ายไฟค่ะ จะมีบอกขบวนและเวลาออก พร้อมกับบอกว่าต้องไปรอที่ชานชาลาอะไร
![](/f/34157/5f55b7d75282213ffea9fca3.png)
เมื่อมาถึงชานชาลาแล้ว ระหว่างรอ ไปเห็นรถไฟ Seven star สุดหรู เลยถ่ายรูปเก็บไว้ อยากลองนั่งซักครั้งจังเลย ใครเคยนั่งมาเล่าแชร์ให้ฟังหน่อยนะคะ ^^
![](/f/34157/5f55b7da5282213ffea9fca4.png)
ในที่สุด Yufuin No Mori ก็มาแล้ว วินเทจสุดๆไปเลย
![](/f/34157/5f55b7dd5282213ffea9fca5.png)
จากตั๋วเราต้องขึ้น Car 4 สามารถดูเลขตรงข้างๆ ประตูได้เลยค่ะ
![](/f/34157/5f55b94f5282213ffea9fca6.png)
ด้านในจะมีโซนโบกี้ที่นั่งโดยสาร และโบกี้ที่ไว้สำหรับทานอาหาร โดยอาหารซื้อได้บนรถไฟเลยค่ะ
![](/f/34157/5f55b98d5282213ffea9fca9.png)
กินข้าวไปพร้อมกับดูวิวสวยๆตรงหน้า ฟินสุดๆไปเลย
![](/f/34157/5f55b96a455ea31ed7a60562.png)
และนี่คือท้ายขบวน
![](/f/34157/5f55ba09455ea31ed7a60563.png)
กินข้าวอิ่มแล้วกลับมานั่งที่นั่งชมวิวเพลินๆกันต่อ
![](/f/34157/5f55ba1f455ea31ed7a60564.png)
ที่นั่งจะมีโต๊ะพับอยู่ข้างๆ ต้องเปิดออกมาตามรูปนะคะ มันซ่อนอยู่ ^^
![](/f/34157/5f55ba39455ea31ed7a60565.png)
ข้างหลังที่นั่งจะมีเมนูอาหารเสียบอยู่ ไม่แน่ใจมีภาษาอังกฤษมั้ยนะคะ เราเจอแต่ที่เป็น ภาษาญี่ปุ่น
![](/f/34157/5f55ba67455ea31ed7a60566.png)
ซักพักจะมีพนักงานเดินมาให้ถือป้ายแล้วถ่ายรูปให้เป็นที่ระลึกค่ะ น่ารักและใส่ใจมากๆเลย
![](/f/34157/5f55ba7c455ea31ed7a60567.png)
มีชุดสำหรับให้เด็กๆ เปลี่ยนถ่ายรูปกันแบบฟรีๆ ด้วยนะคะ
![](/f/34157/5f55ba97455ea31ed7a60568.png)
ชมวิวข้างทางเพลินๆ
![](/f/34157/5f55bb1a455ea31ed7a60569.png)
ในที่สุดก็ถึงแล้วววว
จาก Hakata มา Yufuin ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
ทันทีที่ออกมาจากสถานี ก็จะพบกับวิวนี้เลยยย... น่ารัก คิ้วท์ๆ
![](/f/34157/5f55bb46455ea31ed7a6056a.png)
เราตรงไปที่พักก่อนเลย เพื่อเอาประเป๋าไปฝากไว้ก่อนค่ะ เนื่องจากเวลา Check-in คือ 15.00 น.
ที่พักของเราชื่อว่า Yufuin Lamp no Yado
พิกัด : https://goo.gl/maps/wdTKSCcYVRtFXHERA
ที่นี่เป็นที่พักสไตล์ญี่ปุ่น มีบ่อออนเซ็นให้แช่ฟรี ทั้งแบบ Indoor และ Outdoor มีส่วนกลางให้นั่งเล่น ทานชากาแฟ น้ำดื่มฟรี และยังมีจักรยานให้ขี่เที่ยวในเมืองฟรีอีกด้วย
เราจองผ่าน Traveloka ในราคา 3155 บาท/คืน พักได้ 2 คนค่ะ ราคานี้เราถือว่าคุ้มค่า
![](/f/34157/5f55bb675282213ffea9fcb1.png)
และนี่คือหนึ่งในพนักงานต้อนรับของที่พัก มีหลายตัวนะคะ อ้วนๆทั้งนั้น
![](/f/34157/5f55bb965282213ffea9fcb2.png)
บริเวณที่พักมีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆหลายมุมเลยค่ะ
![](/f/34157/5f55bbb0455ea31ed7a6056b.png)
ข้างใน Lobby และส่วนกลางให้นั่งเล่น
![](/f/34157/5f55bbbf455ea31ed7a6056c.png)
บ่อออนเซ็นแบบเปิดโล่ง ซึ่งเป็นแบบส่วนตัวด้วยล่ะค่ะ ตอนใช้ให้หมุนป้ายว่ากำลังใช้งานอยู่ ใช้เสร็จก็อย่าลืมกลับป้ายด้วยนะคะ ใครจะใช้ก็ต้องมารอต่อคิว ถ้าแนะนำคือรีบมาก่อนมืดหรือไม่ก็ดึกๆหน่อย
![](/f/34157/5f55bbd7455ea31ed7a6056d.png)
อีกจุดนึงคือออนเซนแบบ Indoor เป็นแบบส่วนตัวเช่นกัน แช่ได้แบบไม่ต้องเขินอายใคร เหมาะกับคนไทยมากๆ
![](/f/34157/5f55bbf55282213ffea9fcb3.png)
เปิดเข้ามาก็จะมีจุดแต่งตัว
![](/f/34157/5f55bc0e455ea31ed7a6056f.png)
และนี่คือในส่วนของบ่อออนเซน Indoor
เดี๋ยวไปเดินเล่นในเมืองกันก่อนแล้วค่อยกลับมาแช่ออนเซนก่อนนอนค่ะ
![](/f/34157/5f55bc3d455ea31ed7a60570.png)
ในส่วนของห้องพักบอกเลยว่าดีมากกกกก สะอาดน่านอน มีฮีตเตอร์และของใช้ที่จำเป็นครบครัน
![](/f/34157/5f55bc4e5282213ffea9fcb4.png)
ทางที่พักมีเขียนการ์ดต้อนรับวางไว้บนโต๊ะในห้องด้วยนะคะ ใส่ใจแขกดีมากๆ น่ารักมากๆ
![](/f/34157/5f55bc6d5282213ffea9fcb5.png)
เอาล่ะ ไปเดินเล่นในเมืองกัน ที่พักที่นี่จะมีจักรยานให้ยืมฟรีนะคะ แต่เราถนัดเดินมากกว่า เพราะจะได้แวะข้างทางได้สะดวก
![](/f/34157/5f55bc84455ea31ed7a60571.png)
ไม่ว่าจะหันไปทางไหน เราก็จะเจอกับแบล็กกราวน์เป็นภูเขาอยู่ทุกมุม น่ารักสุดๆไปเลยยย
![](/f/34157/5f55bc975282213ffea9fcb6.png)
![](/f/34157/5f55bccd5282213ffea9fcb7.png)
![](/f/34157/5f55bcd05282213ffea9fcb8.png)
![](/f/34157/5f55bcd35282213ffea9fcb9.png)
จากโซนรอบๆก็ค่อยๆเข้ามาในเมืองที่มีคนพลุกพล่าน แต่ก็ยังเห็นวิวภูเขาอยู่นะคะ
![](/f/34157/5f55bcf65282213ffea9fcba.png)
จะมีร้านรวงต่างๆขายของฝากน่ารักๆ เดินเล่นเพลินมาก
![](/f/34157/5f55bd0b455ea31ed7a60576.png)
มุมถนนตรงนี้สวยดีค่ะ
![](/f/34157/5f55bd24455ea31ed7a60577.png)
วิวสวยไปหมด ต้องเป็นวิวที่มีภูเขาอยู่ด้านหลังตลอด <3
![](/f/34157/5f55bd40455ea31ed7a60578.png)
มีตู้ขายข้าวสารอัตโนมัติด้วย 555 เพิ่งเคยเห็นล่ะ
![](/f/34157/5f55bd91455ea31ed7a60579.png)
ถึงจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ Super market ของกินเยอะมากนะคะ
![](/f/34157/5f55bda75282213ffea9fcbb.png)
และนี่คือร้านเค้กโรลชื่อดังของที่นี่ ร้าน B Speak คิดว่าคนจะเยอะแต่ตอนไปไม่ค่อยมีคนเลยได้มา 1 ชิ้นใหญ่ค่ะ
โรลชิ้นใหญ่ ราคา 1,420 เยน ขนาด 15 cm.
โรลชิ้นเล็ก ราคา 475 เยน ขนาด 1ใน 3 ของชิ้นใหญ่
Website: www.b-speak.net/index.html
เดี๋ยวเรามาชิมกันนนน
![](/f/34157/5f55bdc9455ea31ed7a6057a.png)
เนื้อเค้กเป็นแบบ sponge คือเนื้อจะไม่ใช่แบบแน่นๆ เลยทำให้รู้สึกว่าราคาแพงไปหน่อยค่ะ แต่มีความหอมกลิ่นนม เนย ไข่ และตัวครีมไม่หวานมาก ส่วนตัวเราคิดว่าอร่อย แต่ไม่ได้ว้าวมาก ถ้ามาแล้วลองดูกันนะคะ
![](/f/34157/5f55bdda5282213ffea9fcbc.png)
เดินเล่นมาเรื่อยๆก็จะเจอกับร้าน Totoro Ghibli House ที่ขายของเกือบทุกอย่างจากอนิเมะของ Ghibli Studio
![](/f/34157/5f55bdf85282213ffea9fcbd.png)
ข้างในร้าน ของน่ารักเต็มไปหมด ใครเป็นแฟนคลับต้องห้ามพลาดค่ะ
![](/f/34157/5f55be125282213ffea9fcbe.png)
หน้าร้านมีมุมให้ถ่ายรูปน่ารักๆ หลายมุมเลยค่ะ
![](/f/34157/5f55be32455ea31ed7a6057b.png)
บรรยากาศถนนคนเดิน ซึ่งจะมีร้านค้าเยอะแยะมากมาย ทั้งของกิน ของฝาก ขนม ไอศรีม ของจุกจิกเต็มไปหมด
![](/f/34157/5f55be49455ea31ed7a6057c.png)
สามารถเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้นะคะ แต่ถ้าอยากซึมซับบรรกาศให้เต็มที่ก็แนะนำให้ค้าง 1 คืนค่ะ จะได้ไม่ต้องรีบร้อนมาก
![](/f/34157/5f55be67455ea31ed7a6057d.png)
ร้านขนมที่ทำจากชาเขียว มีเจ้าสนู๊ปปี้เป็นพรีเซนเตอร์
![](/f/34157/5f55be79455ea31ed7a6057e.png)
ร้านของที่ระลึกเกี่ยวกับแมว ทาสแมวเห็นเป็นต้องแวะแน่นอน
![](/f/34157/5f55be91455ea31ed7a6057f.png)
![](/f/34157/5f55bea6455ea31ed7a60580.png)
![](/f/34157/5f55beba455ea31ed7a60581.png)
เดินมาเรื่อยๆจนมาเจอกับ Yufuin Floral Village เป็นส่วนของร้านค้าที่ตกแต่งสไตล์ยุโรป
![](/f/34157/5f55becf455ea31ed7a60582.png)
เมื่อเข้ามาก็จะพบกับร้านขายของเป็นเหมือนบ้านหลังเล็กๆ เรียงรายกัน น่ารักมากๆ เลยยย
![](/f/34157/5f55bee4455ea31ed7a60583.png)
ในโซนนี้จะมีเลี้ยงสัตว์เล็กๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวดูเล่นเพลินๆ
![](/f/34157/5f55bef9455ea31ed7a60584.png)
ออกจากโซนหมู่บ้านดอกไม้เรามุ่งตรงไปยังทะเลสาบคินริน ระหว่างทางจะมีร้านปลาหมึกย่างอยู่ร้านนึง เลยลองซื้อกินดู และค้นพบว่า....
![](/f/34157/5f55bf0d5282213ffea9fcc6.png)
มันอร่อยมากเลยค่ะ เนื้อปลาหมึกสด หวาน น้ำซอสที่ทาก็คือเข้ากันมาก ใครไปอยากให้ไปลองชิมกันดูนะคะ ของดีเลยล่ะ ราคาเราจำไม่ได้นะคะ แต่ไม่ได้แพงมาก
![](/f/34157/5f55bf2b455ea31ed7a60585.png)
กินเสร็จแล้วก็เดินต่อไปยังทะเลสาบคินริน (Kinrin Lake) กันเลย
![](/f/34157/5f55bf4a5282213ffea9fcc7.png)
![](/f/34157/5f55bf5b455ea31ed7a60587.png)
ถึงแล้วค่ะ Kinrin Lake เดินเพลินๆมาไม่ไกลมาก ตั้งอยู่สุดทางของการเดินมาจากในเมือง ที่นี่วิวสวยมากก ทะเลสาบผืนกว้าง กับภูเขาน้อยใหญ่สลับเรียงราย นั่งเล่นชมวิวชิลๆเรื่อยๆได้เลย
![](/f/34157/5f55bf6f455ea31ed7a60588.png)
ที่นี่มีห่านและปลาคาร์ฟว่ายน้ำเล่นกันแบบสบายใจสุดๆ ไม่กลัวนักท่องเที่ยวกันเลย น่ารักมากๆ
![](/f/34157/5f55bf845282213ffea9fcc8.png)
![](/f/34157/5f55bf91455ea31ed7a60589.png)
Portrait กันหน่อยยย
![](/f/34157/5f55bfa75282213ffea9fcc9.png)
ใครมากับแฟนก็จะโรแมนติกประมาณนี้ อิอิ
![](/f/34157/5f55bfb85282213ffea9fcca.png)
เดินเล่นจนเหนื่อยก็ได้เวลาดินเนอร์กันแล้ววว (จากรูปคือดูมืดแล้ว ที่ญี่ปุ่นจะมืดไวค่ะ ) ร้านที่เรามากินชื่อร้านว่า “WASAKU” เป็นร้านเนื้อย่างคุณภาพดีเลิศ ขอบอกว่า อร่อยฟินมากกก
![](/f/34157/5f55bfca455ea31ed7a6058a.png)
และนี่คือเมนู Beef set ที่เราสั่งค่ะ มีเนื้อวากิว 3 ชนิด พร้อมกับผักและเครื่องเคียงต่างๆ กำหนดให้สั่ง 1 คน ต่อ 1 set เราสั่งมาทั้ง BOSS Special I และ BOSS Special II
![](/f/34157/5f55bfdb455ea31ed7a6058b.png)
และนี่คือหน้าตาเซ็ทที่สั่ง เนื้อย่างทานกับเกลือและวาซาบิ ปกติอยู่ไทยไม่ค่อยทานเนื้อ แต่นี่คือฟินมากกกก ตั้งแต่กินเนื้อมาคืออันนี้อร่อยสุดสำหรับเราเลยยยย นึกแล้วก็อยากกลับไปกินอีกค่ะ
และก่อนมาเราได้อ่านรีวิวเกี่ยวกับเนื้อม้าซาซิมิ เห็นว่าที่นี่มีเมนูนี้เลยลองสั่งมาทานดู (รูปขวาบน) หน้าตาดูไม่น่าทานเท่าไร เหมือนเนื้อดิบๆ ไม่ค่อยกล้ากิน แต่ไหนๆก็สั่งมาแล้วเลยลองดู ...พอได้ลองเท่านั้นแหละ ติดตรึงใจเลย มันหวานอร่อยมากค่ะ ไม่คาวเลยซักนิด คล้ายๆกับแซลม่อนซาซิมิแต่หวานกว่า ฟินสิบกระโหลกกกกก ใครมาเที่ยวแถบๆนี้อย่าลืมลองสั่งทานกันนะคะ ต้องลองค่ะแล้วจะรู้ว่าลืมไม่ลงจริงๆ
![](/f/34157/5f55c01b455ea31ed7a6058c.png)
หมดเกลี้ยงไม่เหลือออออ เงินในกระเป๋าก็เช่นกัน 555+
![](/f/34157/5f55c02d455ea31ed7a6058d.png)
เมื่ออิ่มแล้วก็เดินกลับที่พักไปแช่ออนเซนต่อ ยังคงมีเจ้าเหมียวมาคอยต้อนรับอยู่เช่นเคย 555 วันนี้ประทับใจที่นี่มากๆค่ะ เมืองเล็กในหุบเขาที่น่ารัก ผู้คนเป็นมิตร เนื้ออร่อย ที่พักดี ออนเซนก็ฟินสุดๆ ใครมาเที่ยวคิวชูต้องมาที่ Yufuin กันนะคะ ความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเลยยยย
EP ต่อไป จาก Yufuin เราจะไปกันที่ Beppu เมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น เมืองหลวงออนเซ็นของญี่ปุ่น โด่งดังในเรื่องบ่อน้ำพุร้อนจากธรรมชาติ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ <3
ติดตามเราในช่องทางเพิ่มเติมได้ที่เพจด้านล่างนี้นะคะ
https://www.facebook.com/Gohol...
GoHolic : ชีวิตติดเที่ยว
วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 12.14 น.