หนึ่งในเรื่องราวการเดินทางที่ประทับใจอีกบทหนึ่งของการไปญี่ปุ่นของเราคือ การได้ขับรถเที่ยวในเขตอะโสะ ในวันที่ท้องฟ้าสดใส และอากาศเย็นสบาย Road trip ครั้งนั้นเราขับรถจากเมืองคุมาโมโตะมาที่อะโสะเพื่อมุ่งไปคุโรคาวะออนเซน ซึ่งเป็นเมืองออนเซนลับๆที่รายล้อมไปด้วยป่าเขา และเราไม่ลืมที่จะเตรียมวัตถุดิบสำหรับไปทำอาหารทานมื้อค่ำกันในบ้านพักตากอากาศหลังเล็กๆกลางป่าด้วย วิวระหว่างทางในวันนั้นเราจำได้ดี ทุ่งหญ้าสีทองกับท้องฟ้าสีน้ำเงินแสนสวย ^^ ถ้าใครยังไม่เคยรู้จัก ASO เดี๋ยวเราเล่าให้ฟังค่ะ
เมืองอะโสะเป็นเมืองที่อยู่ในจังหวัดคุมะโมโตะ แห่งภูมิภาคคิวชู(Kyushu) ที่นี่จะรายล้อมไปด้วยภูเขามากมาย และมีภูเขาไฟที่ยังไม่ดับขนาดใหญ่ชื่อว่า ภูเขาไฟ ASO มีเมืองชนบทเล็กๆและนาข้าวกระจายตัวกันอยู่ตามรอบนอก ทางตอนเหนือของภูเขาไฟขึ้นไป มีเมืองออนเซ็นเล็กๆชื่อว่า คุโรคาวะ (Kurokawa Onsen) เมืองออนเซนที่มีเสน่ห์ที่ยังคงรักษาความเก่าแก่ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งบ้านเรือน โรงอาบน้ำ ที่พัก เรียวกัง ล้วนยังคงเน้นความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ถ้าใครอยากสัมผัสบรรยากาศออนเซนสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเลยนะคะ
เริ่มออกเดินทาง
จากการที่เราศึกษาหาข้อมูลตอนทำแพลนอย่างบ้าคลั่งนั้น วิธีที่จะไปเที่ยวเมืองอะโสะได้สะดวกที่สุด ก็คือการเช่ารถขับจากเมืองคุมาโมโตะค่ะ ซึ่งเราได้จองเช่ารถไว้ก่อนมาญี่ปุ่น โดยเราจองผ่าน Agent “TOCOO” ผ่านเว็บไซต์ https://www2.tocoo.jp/en/ ช่วงที่เราจองจะมี Promotion ลดราคาด้วย โดยสังเกตจาก Banner ที่แสดงผ่านหน้าเว็บไซต์ได้เลย แต่ละช่วงก็มี Promotion ต่างกันไปค่ะ
ส่วนวิธีการจองนั้น รายละเอียดตามกระทู้นี้ได้เลยค่ะ จขกท อธิบายไว้ละเอียดมากๆ ^^ ต้องขอบคุณ จขกท มากๆเลยค่ะ https://pantip.com/topic/37695810
เมื่อได้รถที่จองไว้แล้ว แวะทานมื้อเช้าเพิ่มพลังกันก่อน เป็นอุด้งร้อนๆ แถวสถานีคุมาโมโตะ จากนั้นไปแวะซื้อของที่ Max Value Kokubu สำหรับไปทำอาหารทานกันที่บ้านพักที่เราจองกันไว้ที่คุโรคาวะ
ที่ Max Value ของกินเยอะมากเลยค่ะ ราคาไม่แพง มีให้เลือกหลากหลาย ที่เราแวะสาขานี้เนื่องจากเป็นทางผ่านที่กำลังจะไป ASO พอดีค่ะ
GPS Max Value Kokubu : https://goo.gl/maps/QLDye6S2WRz8q62X6
ของกินพร้อมแล้ว มุ่งสู่ ASO กันเลยยยย
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่า พระเอกของที่นี่ก็คือ ภูเขาไฟอะโสะ ภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ซึ่งวันที่เรามา เป็นช่วงที่มีการปะทุโดยจะเห็นควันที่เห็นลอยออกมาจากภูเขาไฟ ซึ่งควันเหล่านั้นเป็นแก๊สพิษ ปริมาณแก๊สมีมากจนเป็นอันตราย ทำให้จุดขึ้นกระเช้าและเส้นทางเดินปิด ไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนปากปล่อง (ดังนั้นถ้าตั้งใจมาเที่ยวปากปล่องภูเขาไฟอะโสะ ลองเช็คสถานการณ์ก่อนมานะคะ) แต่อย่างไรก็ตาม ถึงจะปิดไม่ให้ขึ้นไปชมปากปล่อง แต่ก็ยังสามารถเที่ยวชมและถ่ายรูปวิวรอบๆ สถานี Aso-san Nishi ที่อยู่ด้านล่างได้ค่ะ
เส้นทางขับรถเที่ยวที่ ASO นี้ ถ้ามาจากคุมาโมโตะ แนะนำว่าให้ปักเริ่มต้นไปที่ “Milk Rd”
GPS : https://goo.gl/maps/KNm89Xui4aHdJE1V8
ถนนมิลค์โรด (Milk Road) จะนำเราไปยังจุดชมวิวต่างๆใน ASO เป็นถนนที่สวยงาม รู้สึกสบายใจเวลาได้ชมวิวทุ่งหญ้าสีทองระหว่างทาง ขับรถไปเรื่อยๆ ก็จะพบว่าเส้นทางที่ขับอยู่ตอนนี้ เป็นทางที่อยู่ขอบแอ่งของภูเขาไฟอะโสะ มีเมืองอะโสะอยู่ตรงกลาง เราเซอไพร์สมาก ตื่นเต้นสุดๆเลยค่ะ เพราะไม่ได้ดูรีวิวตรงนี้มาก่อน
จากจุดที่ปัก Milk Road เรามุ่งหน้าไปต่อที่ Kurokawa onsen
GPS : https://goo.gl/maps/i53cry5W8Cpr5KsE8
ที่นี่เป็นเมืองออนเซนที่ได้กลิ่นอายของความเก่าแก่ของญี่ปุ่นมากๆ ค่ะ ตั้งแต่อาคารบ้านเรือน ร้านอาหาร โรงอาบน้ำ ที่พัก เรียวกัง ล้วนยังคงเน้นความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ทำให้เรารับรู้ได้ถึงความร่วมมือของทุกคนที่ต้องการอนุรักษ์ความดั้งเดิมนี้ไว้
บรรยากาศคุโรคาวะออนเซน
เมื่อเราเดินเล่นรอบๆหมู่บ้าน ก็จะเจอเจ้าถิ่นหลายตัวเลยล่ะ ^_^
แวะทานไอศกรีมและข้าวหน้าเนื้ออร่อยๆ ^///^
ร้านค้าต่างๆก็มีให้ช็อปเพลินเลยล่ะ
สำหรับที่พักคืนนี้ เราจะขับรถออกไปอีกหน่อยค่ะ ที่นี่ก็คือ Kurasako Onsen Sakura เป็นที่พักที่เราตั้งตารอมากที่สุดในทริปนี้เลยล่ะ เพราะเราจะได้ไปนอนบ้านเล็กๆกลางป่า ที่มีออนเซ็น Outdoor ส่วนตัวให้ด้วย *O*
GPS : https://goo.gl/maps/RdFFnpUtYeSUrcMr8
ที่พักนี้จองง่ายมาก มีให้จองทั้งใน Agoda และ Booking ราคา/หลังตอนนั้น = 5108 บาท เราไป 4 คนหารกันถือว่าโอเคเลย ส่วนเส้นทางที่ขับมายังที่พักค่อนข้างลาดชันพอสมควร ต้องระมัดระหว่างอย่างมากนะคะ
เมื่อมาถึงให้ลงไปคุยที่ Reception ก่อน ตามรูปค่ะเข้าไปได้เลย จะมีคุณป้ากับคุณลุงเฝ้าอยู่ จากนั้นคุณป้าจะพามาส่งที่บ้านพักค่ะ Reception ก็อยู่แถวๆบ้านนะคะไม่ไกลกัน สามารถเอารถจอดหน้าบ้านพักได้เลยตามรูปก่อนหน้า
เอาล่ะมาดูข้างในบ้านกันนนนน
เข้ามาก็จะเจอกับโต๊ะโคทัตสึตัวใหญ่อยู่กลางบ้าน
จากรูปแรกขวามือเป็นประตูห้องครัว ส่วนประตูตรงบันไดขึ้นไปชั้น 2 จะเป็นโซนอาบน้ำแบบเปิดโล่งที่มีบ่อออนเซนจากธรรมชาติ ฮื้อออดีย์
ชั้น 2 ของบ้านมีที่นอนแสนนุ่มสำหรับ 4 คน ผ้าห่มคืออุ่นมากกก ชอบมาก หลับสบายมากๆค่ะ
โต๊ะโคทัตสึ อยากเล่นมานานแล้วววว ครั้งแรกเลยย อุ่นสบายดีจริงๆ >////<
(สำหรับเพื่อนๆที่ไม่รู้จักโต๊ะโคทัตสึ มันคือโต๊ะสี่เหลี่ยมที่มีผ้าห่มคลุมอยู่ มีเครื่องทำความร้อนแบบไฟฟ้าติดอยู่ใต้โต๊ะ ชาวญี่ปุ่นใช้สำหรับให้ความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว)
เก็บของเสร็จแล้วออกมาเดินเล่นชมวิวบริเวณรอบๆบ้านพักกัน.....
อ่ะ ถึงคนไม่สวย แต่ที่นี่ถ่ายรูปยังไงก็ออกมาสวยยย 555+
แล้วเราก็เจอเรื่องเซอไพร์สอีก 1 อย่าง นั่นคือ “วิว” ค่ะทุกคนนน
เราไม่รู้มาก่อนว่าที่พักที่นี่มีวิวสวยเว่อร์วังแบบนี้ แล้วคือเดินเล่นเพลินมากเดินดูวิวได้รอบด้านเลยค่ะ ป่ะ เดี๋ยวพาไปดู
มุมถ่ายรูปเก๋ๆเพียบบบบ
วิวนี้ไม่ใช่ภาพวาดสีน้ำแต่อย่างใดนะคะ ^_^
มีจุดให้นั่งชมพระอาทิตย์ตกไปอีก เอาจริงตอนจองไม่รู้เลยว่ามีแบบนี้ 5555+ ปลื้มใจมากก
พระอาทิตย์กำลังจะตกแล้ว ตามแนวเขาก็จะเป็นสีทองชมพูๆ
เดินเล่นรอบๆเรื่อยๆ ก็มาเจอว่า ที่นี่เขามีจุดบริการให้ตั้งแคมป์ด้วยยย วันที่เราไปก็คือมีหลายเต็นท์เหมือนกัน
มาช่วงฤดูหนาวค่ะตอนตั้นปีที่ผ่านมา เลยทำให้หันไปทางไหนก็เจอแต่ต้นไม้แบบไม่มีใบ 555
พอดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า จู่ๆท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีทองในไม่กี่นาที พวกเรานั่งดูอยู่อย่างนั้นกันซักพัก เป็นความสุขสบายใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ
และแล้วก็ได้เวลาอาหารค่ำกันแล้ว เข้าครัวกันเลย อุปกรณ์เครื่องครัวที่พักคือครบ เมนูน้าเราที่ไปด้วยเป็นคนคิดและทำให้เป็นหลัก ส่วนเราขอเป็นผู้ช่วยก็พอ แฮ่ๆ
แท่นแท๊น... เมนูง่ายๆสไตล์หน้าหนาว ซุปผัก เนื้อย่าง ปลาย่าง ผัดหมี่ ไข่ตุ๋นร้อนๆ จะทานแล้วนะคะ อิตาดาคิมัส......
อิ่มแล้วก็ได้เวลาแช่ออนเซนก่อนนอนกัน อากาศตอนนั้นคือหนาวมากกกก ร่างกายก็ล้า แต่พอลงบ่อออนเซนแล้วดีสุดๆไปเลยยยยย หายเหนื่อยเลยค่ะ
สำหรับวันนี้ก็จบวันอย่างแฮปปี้อีกวัน หลับสบายสุดๆ ส่วนพรุ่งนี้เรามีแพลนจะไปเดินเล่นในเมือง ASO กันค่ะ
เช้าแล้วเราเช็คเอ้าท์กันช่วงสาย แล้วขับรถมายังตัวเมือง ASO เพื่อสำรวจว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง ตรงนี้คือไม่มีแพลนค่ะ อะไรน่าสนใจก็ค่อยแวะ ^_^
เดินไปเดินมา นี่ก็เที่ยงแล้ว เจอสิ่งน่าสนใจแล้วหนึ่ง ร้านข้าวหน้าเนื้อที่คนแน่นร้าน คนเยอะแบบนี้จะพลาดได้ไง พวกเราไม่รอช้ารีบเข้าไปในร้านกันทันที
ฮ้า… คนเยอะแค่ไหนก็สมกับการรอคอย อิ่มและอร่อยมากค่า มีส้มสดให้ทานฟรีอีกต่างหาก หลังทานร่างกายอุ่นขึ้นเยอะเลยย
ร้านเค้ก Miyuki จัดเค้กไปอีก 1 กรุบ กินให้ตัวแตก
ตรงนี้น่าจะเป็นโปสเตอร์ภาพยนตร์ย้อนยุคหรือเปล่านะคะ ถ่ายรูปคู่ซะเลยเก๋ๆ
และแล้วก็ได้เวลาไปเที่ยวจุดอื่นใน ASO กันต่อ เมื่อมาถึงรถที่จอดไว้ เราก็เจอกับเจ้าแมวอ้วนตัวหนึ่งนั่งอยู่ฝากระโปรงรถคันข้างๆ และยังร้องเสียงดังไม่หยุดอีกด้วย 5555 น่ารักมากกก อยากเก็บกลับบ้านด้วยเลย
ออกจากตัวเมือง ASO เราจะไปเที่ยวต่อที่ Saga
ระหว่างทางออกจาก ASO พวกเราขับรถมาเรื่อยๆก็จะเจอจุดให้ชมวิวอยู่หลายจุดเลยนะคะ เพื่อนๆสามารถแวะได้เลยตามทางที่ขับผ่าน (หรือถ้าใครมีเวลาจะตั้งใจขับไปจุดชมวิวตามที่ขึ้นใน Google map เลยก็ได้ ก็จะได้เห็น Aso ในหลายๆมุมมองเลยค่ะ)
จุดตรงนี้ก็คือขับผ่านแล้วแวะจอดถ่ายรูปค่ะ จำพิกัดไม่ได้เลยไม่ได้เก็บข้อมูลไว้ แต่ทางสวยจังเลยเน้อะ
สำหรับ ASO ก็ขอเล่าจบเท่านี้ค่ะ ที่จริงใน ASO ยังมีอีกหลายที่มากที่เราพลาดไป หากเพื่อนๆแพลนจะมาเที่ยวอย่าลืมหาดูรีวิวที่เที่ยวเพิ่มเติมเอาไว้เป็นตัวเลือกเพิ่มนะคะ ^^ แต่สำหรับเรา เท่านี้ก็ดีมากแล้วค่ะ เอาไว้ถ้ามีโอกาส เราจะมาใหม่นะ “อะโสะ”
ติดตามเราในช่องทางเพิ่มเติมได้ที่เพจด้านล่างนี้นะคะ
GoHolic : ชีวิตติดเที่ยว
วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 00.09 น.