xdec8eacliph

สวัสดีการเดินป่า

ห่างหายจากการเดินป่าไปนาน ตอนนี้พวกเรากลับมาแล้ว รอบนี้เราจะพาไปเที่ยวดอยขุนตาล อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล แต่ก่อนที่จะออกเดินทางเรามาทำความรู้จักกับดอยขุนตาล พอเป็นน้ำจิ้มกันก่อนแล้วกัน


อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ 2 จังหวัด นั่นก็คือ อ. แม่ทา จ. ลำพูน และอ. ห้างฉัตร จ. ลำปาง เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีรถไฟผ่าน ทำให้เราสามารถนั่งรถไฟไปลงที่สถานีรถไฟขุนตาน แล้วก็เดินขึ้นไปยังอุทยานได้เลย นอกจากนั้นที่สถานีรถไฟยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์ก็คือ " อุโมงค์ขุนตาน " ซึ่งเป็นอุโมงค์รถไฟที่มีความยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 1.3 กิโลเมตร 
นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาพักค้างแรมได้ ซึ่งมีทั้งบ้านพัก และลานกางเต็นท์ไว้บริการ ส่วนใครที่เป็นสายเดิน สายลุยหน่อยก็จะมีเส้นทางเดินศึกษา ย. 1 - ย. 4 ซึ่งเราสามารถเดินขึ้นไปตั้งแคมป์กันที่ ย. 2 แล้วเดินขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ย. 4 ได้ด้วย ( ย. ที่พูดถึงเนี่ย ย่อมาจาก จุดยุทธศาสตร์ ในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 ซึ่งดอยขุนตาลถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ และมีการใช้พื้นที่ตามจุดเหล่านี้ในการปฏิบัติการทางทหาร )

วิธีการเดินทางมายังขุนตาล ก็มี 2 แบบ
  • รถไฟ : อย่างที่เราเกริ่นไปข้างบนว่าที่นี่สามารถนั่งรถไฟมาได้ โดยที่จองตั๋วมาลงปลายทาง " สถานีรถไฟขุนตาน " สามารถเข้าไปเช็คเที่ยวรถไฟ และสำรองที่นั่งได้ที่ thairailwayticket.com 

    ** แนะนำสำหรับคนมีเวลาน้อยให้นั่งขบวนที่ไปถึงสถานีรถไฟขุนตานในตอนเช้า ถึงแล้วก็เดินขึ้นยอดได้เลย
  • รถยนต์ : จะมี 2 เส้นทาง
  1. จากแยกทางหลวงหมายเลข 11 ลำปาง - เชียงใหม่ บริเวณกิโลเมตรที่ 15 - 16 ข้างสภ. ห้างฉัตร จ. ลำปาง ให้เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 28 กิโลเมตรก็จะถึงที่ทำการอุทยาน
  2. จากจ. เชียงใหม่ เดินทางตามทางหลวงหมายเลข 11 แยกขวาระหว่างทางกิโลเมตรที่ 46 - 47 บริเวณอ. แม่ทา จ. ลำพูน ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตรก็จะถึงที่ทำการอุทยาน

รู้จักดอยขุนตาลกันคร่าวๆ กันไปแล้ว ต่อไปก็ออกเดินทางไปพร้อมกับพวกเรา เริ่มกันที่เราต้องจองตั๋วรถไฟกันก่อน ซึ่งในกลุ่มมีพี่ที่เรายกให้พี่เค้าเป็นนายแห่งการรถไฟ ก็มาจากที่พี่เค้าชื่นชอบทุกอย่างที่เป็นรถไฟ เรียกว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ได้เลย ถ้าเรามีคำถามอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับรถไฟพี่เค้าจะทำตาโต พร้อมกับพรั่งพรูคำตอบมาให้พวกเรา พี่เค้าเลยอาสาที่จะจองตั๋วรถไฟให้พวกเรา ต้องขอบคุณมากเพราะตั๋วหมดเร็วมาก

เราเดินทางไปกับรถไฟขบวนพิเศษอุตรวิถีที่ 9 ออกจากหัวลำโพงตอน 18.10 น. ที่พวกเราเลือกขบวนนี้เพราะอยากนั่งรถไฟใหม่ เดินทางช่วงเย็น และถึงที่สถานีรถไฟขุนตานตอนเช้าพอดี เราจองเป็นเตียงบน-ล่างซึ่งค่าใช้จ่าย เตียงบน 918 บาท เตียงล่าง 1,018 บาท

เราเลิกงานก่อนเวลา 3 ชั่วโมง กลับบ้านอาบน้ำ เตรียมกระเป๋า แพคของ แล้วนั่งแท็กซี่ตรงไปที่หัวลำโพง

eiv345d0kf4g

ถึงหัวลำโพงก็เอากระเป๋าไปวางไว้บนรถไฟก่อน แล้วออกไปหาของกินไว้กินบนรถไฟ เพราะช่วงนี้ทางรถไฟไม่มีตู้เสบียงไว้บริการ เดินออกมาหน้าหัวลำโพงมีทั้งอาหารตามสั่ง รถเข็น 7-11 เราจัดได้ข้าวเหนียวไก่ทอด และขนมกรุบๆ ใน 7-11 ซื้อของกันเสร็จก็เดินกลับมาที่ขบวน ทำพิธีถ่ายรูปหมู่กันก่อนแล้วค่อยขึ้นรถ ครั้งนี้ไปด้วยกัน 12 ชีวิต

nxq66w6097va
09viju3wf88j
qrnnxlsfkqcr
x1rdqj5s73g1
skjyxwbyc2nq

บนรถไฟมีน้ำดื่มแจกคนละขวดนะ

9j69xegjq2ax

18.10 น. รถไฟก็เริ่มเคลื่อนขบวนออกจากหัวลำโพง พวกเราก็นั่งเล่นเม้ามอยกันมาเรื่อยๆ จนประมาณ 19.30 น. เราเลยขอให้พี่เค้าปูเตียงให้เลย พร้อมนอน

dtm9vjuxt7if
75pggjcpwgxq

แต่จริงๆ มันยังไม่มีท่าทีว่าจะง่วงเลย หลังจากที่พี่เค้าปูเตียงให้เสร็จ เราก็นั่งเม้ามอยกันต่อจนดึก หลังจากนั้นก็เตียงย้ายเตียงใครเตียงมัน นอนเอาแรง ตัดไปเจอกันอีกทีตอนเช้าเลยนะ 😴 

( ** ปล. สำหรับใครที่นอนหลับยากแนะนำให้เอาที่ปิดตาไปด้วยนะ เพราะรถไฟจะไม่ปิดไฟตอนเรานอน เรียกได้ว่านอนสว่างทั้งคืนถึงแม้ว่าจะมีผ้าม่านกั้น )


เช้านี้ก่อนถึงขุนตาน เราทำการปลุกตัวเองกันขึ้นมาตอนตี 4 กว่าๆ ล้างหน้าแปรงฟัน ทำธุระส่วนตัว ระหว่างนี้พี่เจ้าหน้าที่ก็จะมาเก็บเตียงปรับเป็นเบาะนั่งเหมือนเดิม ส่วนห้องน้ำบนรถไฟก็จะเป็นประมาณนี้

p9idcu55vsuh
mr2jgqfvel99

ที่นี่ " สถานีรถไฟขุนตาน "

ตามกำหนดเราจะถึงที่สถานีรถไฟขุนตานตอน 06.00 น. แต่เรามาถึงก่อนเวลานะ เย่ !! เก็บของลงจากรถไฟ แล้วโบกมือลารถไฟกันแล้ว 

7vmundurpzam
y7097qvx9mbi
uf0rnru8n0li

ลงจากรถไฟปุ๊บ ก็จะมีแม่ค้าถืออาหารมาขายปั๊บ หอมมาก

qmpg3u1ybklw

เราถ่ายรูปที่สถานีกันเสร็จฟ้าก็เริ่มสว่าง เลยย้ายไปถ่ายรูปกันต่อที่หน้าอุโมงค์ขุนตาน ใช้เวลาอยู่ที่นี่นานมาก แถมถ่ายรูปกันแบบบ้าคลั่งมากด้วย ( ถ้าไม่เชื่อภาพเหล่านี้จะเป็นเครื่องยืนยัน )

df1gc1n9ssd5
1tuxcmc4uj5n
wxt3zi2wduwq
ezsnlxycldqu
rk4iymmb30p2
c6u9oy91bhem
kzxe8koz0odo

พักจากการถ่ายรูปหน้าอุโมงค์ไปกินข้าวกันต่อ เราเดินกลับมาร้านข้าวตรงสถานีรถไฟนั่นแหละ มีข้าวมันไก่ ข้าวตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ติดกันมีกาแฟสด ขนม เครื่องดื่ม แต่บริเวณนี้ก็มีหลายร้านอยู่ลองเลือกเอากันนะ

456rq8hzo182

กินข้าวกันเสร็จก็ยังไม่ได้เริ่มเดิน ยังคงวนเวียนอยู่กันที่เดิม เราว่าจะขอถ่ายรูปรถไฟตอนออกจากอุโมงค์กันก่อน

4ll69dhvh8r2
c3k0ey1v3a19
zxnhzgov9w7p
egk1u34ihoux
725p2df62kyg

เมื่อทำภารกิจสำเร็จก็พร้อมออกเดินกันแล้ว พวกเราเริ่มเดินกันตอนเกือบ 9 โมง โดยที่เราเอากระเป๋าฝากรถขึ้นไป แล้วก็เดินตัวปลิว ( สามารถติดต่อได้ตรงข้ามกับอาคารสถานีนะ ส่วนค่าใช้จ่ายก็เที่ยวละ 400 บาท แล้วไปรับกระเป๋าได้ที่จุดเริ่มเดินด้านบนได้เลย )

ทางเดินในช่วงแรกก็ไม่เหนื่อยมาก ( มั้ยนะ ) ทางก็มีชันบ้างเบาๆ จะมีทั้งทางบันได ทางปูน ทางดิน ปนๆ กันไป จากสถานีรถไฟเราต้องเดินขึ้นไปยังที่ทำการอุทยาน ระยะทางก็ประมาณ 1,300 เมตร เป็นเส้นทางเดินในป่าช่วงแรก แล้วตัดไปเดินบนถนน

6k8bbd02kp7g

เดินตัดถนนขึ้นมาแปปนึงจะเห็นต้นไม้ต้นนี้อยู่กลางถนนเลย แวะถ่ายรูปกันหน่อย

quanz88v2n0z

เดินต่อมาอีกนิดก็เห็นป้ายอุทยานแล้ว เห็นทางโค้งข้างหน้ามั้ย พันโค้งขึ้นเนินยาวๆ ก็จะถึงแล้ว

9pq0lhmmivxk
vkng34kg6bbp

แล้วก็มาถึงอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ตรงนี้ก็ทำการชำระค่าเข้าอุทยาน ค่าเข้าอุทยานก็คนละ 20 บาท ค่ากางเต็นท์อีกคนละ 30 บาท แต่ถ้าใครนำรถมาเองก็ต้องเสียค่ารถอีกต่างหากนะ

cjltxp50u4as

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ดอยขุนตาลคร๊าบบบ ... คืนนี้เราจะนอนกันที่นี่ " ลานชมดาว " ( ฮ่าๆ ล้อเล่น )

addsm52jxlk1

จุดนี้เรียกว่า " ลานชมดาว " ซึ่งเป็นลานกางเต็นท์ สำหรับใครที่อยากเข้าแคมป์ชิวๆ ก็สามารถกางตรงนี้ได้เลย ส่วนใครไม่อยากนอนเต็นท์จะจองเป็นบ้านพักมาก็ได้

2hlorowuh5yg
dxkrfbp404qy

พักเหนื่อยกันแล้วก็ออกเดินต่อ เส้นทางหลังจากนี้เราสามารถเลือกได้ว่าจะเดินตามถนนไปเรื่อยๆ หรือเดินตัดขึ้นทางลัดก็ได้ เราเลือกเป็นเดินตามถนนไปเรื่อยๆ ไปกัน 3 คน นอกนั้นเดินไปทางลัดกัน ระยะทางจากที่ทำการอุทยานไปจนถึงจุดเริ่มเดินก็ประมาณ 1,600 เมตร

nirebxusrmcw
ia5cbyl41wbh

เดินเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักถ่ายรูป ระหว่างทางมีจุดชมวิวด้วยนะ

xqws3tz7yobg
682n0wqiejw4

ถ่ายเสร็จก็เดินต่อจนมาถึงจุดเริ่มเดินที่แท้จริงกันแล้ว เราเห็นเพื่อนๆ รออยู่ข้างหน้าแล้ว

8jtfnzizpge3

จุดเริ่มเดิน " ทางเดินศึกษาธรรมชาติ ย.1 - ย. 4 " ( ถามว่าแล้วที่เดินกันมาก่อนหน้านี้คืออะไร 555 ) ตรงจุดนี้เราต้องลงทะเบียนกับพี่เจ้าหน้าที่กันก่อน พร้อมกับจ่ายมัดจำขยะกลุ่มละ 100 บาท

และตรงนี้เราสามารถจ้างพี่เจ้าหน้าที่แบกของขึ้นไปยัง ย. 2 ได้ด้วยนะ ส่วนค่าใช้จ่ายก็กิโลกรัมละ 15 บาท ใครไม่อยากแบกของเองก็ใช้บริการพี่เค้าได้

พร้อมแล้วก็ลุยกันต่อเลย

fd8zrgapmk5u
8xrxi6gkgdk6

เริ่มกันด้วยขั้นบันไดยาวไป ทางเดินที่นี่มีการทำไว้อย่างดี ให้อารมณ์เหมือนเดินอยู่ที่ญี่ปุ่น ( ดูในยูทูปมา ยังไม่เคยไปเหมือนกัน อิอิ )

gpe7ofnz3tpv
sojzx61974pi
olvpj0uqpeis
hcga3vrpm94h
0um6n8cpulqi

จากจุดเริ่มเดินเมื่อกี้ขึ้นมาสักแปปนึงก็ถึงแล้ว " ย. 1 " จะเห็นบ้านพักสีเหลืองอยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งในอดีตเป็นพลับพลาที่ประทับของกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ก่อนสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2460

pihfkike20t6

เดินต่อจากบ้านมานิด ก็จะเจอกับลานโล่งๆ เราไม่แน่ใจว่าตรงนี้สามารถให้นักท่องเที่ยวมาพักได้มั้ย แต่ถ้าได้ก็ถือเป็นจุดกางเต็นท์ที่ดีอยู่นะ

9ktwrti749l3
8t8tu78qogi4
5cxhfqxx91a2

พักดื่มน้ำแปปนึงนะ เห็นบันไดข้างหน้าแล้วเป็นท้อ

7hta8vq3emsc
31q9d55oo9f0
qbaqj3xutn1t

เสร็จแล้วก็เดินตามพี่มาไอ้น้อง 555 ( ผู้ซึ่งสถาปนาตัวเองว่าเป็นพราน เรียกเค้าว่า พรานโบ้ )

ระยะทางจาก ย. 1 ไปถึง ย. 2 ประมาณ 1,000 เมตร

c0x4hvixpugi

ทางตรงนี้ก็จะเป็นขั้นบันไดแบบนี้ไปเรื่อยๆ

rfxs9bw8278q
odh3wgz872dm

สักระยะนึงก็สิ้นสุดทางที่เป็นบันได ต่อจากนี้ไปก็จะเป็นทางดินล้วนๆ แต่ก็ยังดีที่เป็นทางราบให้เดินสบายๆ หน่อย

v5ggltc9v2tc
776u4yc0nrcf
fdaorloj6q48

ระหว่างทางก็จะมีจุดที่สามารถมองมองไปเห็นวิวภูเขาที่ไกลออกไป

8jjimb97oud6
baxoh06no2zx

แล้วเราก็เจอกับพี่เจ้าหน้าที่ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ขนของขึ้นมา

fz2f001z9m0c

ถ้าเราสังเกตข้างทางจะมีป้ายบอกระยะด้วยนะ เอาไว้เป็นกำลังใจว่าใกล้จะถึงแล้ว

kj52haz67khj

เราเดินทางราบมาเรื่อยๆ ก็เจอมาเจอกับขั้นบันไดอีกแล้ว อันนี้ใครไคร่เดินบันไดเดิน ไคร่เดินทางดินเดิน เราว่าทางดินเหนื่อยน้อยกว่า เหมือนได้มีก้าวเป็นของตัวเอง

ucc2aq9ycjir

มีคนเอาลูกมาด้วยนะ

ixz3da8nhije

มีที่นั่งอยู่ข้างทางด้วยนะ

487kh56bflht
ovh9of6g2jol

เดินพ้นบันไดไปเจอบันได ทางข้างหน้ามันช่างสูงชันซะเหลือเกิน แต่เหมือนที่อ่านรีวิวมาตรงนี้ยังไม่ใช่ที่สุดของที่สุด

rky7kfehjhw3

เดินพ้นบันไดที่ 2 มาก็จะเจอกับ " ย. 2 " แต่เราไม่ได้นอนกันตรงนี้ เราจะต้องเดินต่อไปอีกนิดนึงเพื่อขึ้นไปยังลานสน ( จากที่สอบถามเจ้าหน้าที่มา เราสามารถกางเต็นท์บริเวณนี้ได้ด้วย )

uw6s2ktuv1rp
ittgefsjtmvo
t9g8jgg8il8x

เดินต่อจากย. 2 ก็จะเจอกับไฮไลต์ลานสน ที่สุดของที่สุด คือ 50 เมตรก่อนขึ้นลานสน มองทางแล้วนับ 1 2 3 สูดหายใจเข้าแล้วก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป

n701uc07428m
2k2tapysi5w3
uh7vc6zblkjo
vtsgfhsnzpwk
v5zqfyujeo8r

ถึงแล้ว ลานกางเต็นท์ของเรา ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยง และนั่นก็คือเต็นท์ของเพื่อนๆ วางกระเป๋าแล้วก็ไปกางเต็นท์กันต่อ

5awjpbxpqrrg

และนี่ก็คือหมู่บ้านของเรา

5py0cf8tukcp

เราเอาทาร์ปมากางไว้นั่งกัน ในระหว่างนี้เพื่อนๆ ก็คุยกันว่าจะเดินไปที่น้ำตกตาดเหมย ซึ่งอยู่ห่างจากแคมป์ไป 1,500 เมตร ดูจากระยะทางแล้วขอนั่งทำกาแฟอยู่ที่แคมป์ดีกว่า 555 นั่งเล่น คุยเล่น ทำกาแฟกิน อากาศดี ไม่ร้อน มีลมพัดเป็นช่วงๆ ถือว่านอนสบาย เลยหลับไปหนึ่งตื่น

bj81rzs2qvok
alvb8077edcg

ตื่นมาก็เริ่มเย็น พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง อากาศก็เริ่มเย็นลงอีก เราทยอยไปอาบน้ำกันก่อน ห้องน้ำที่แคมป์มีอยู่ 4 ห้อง มีส้วมทั้ง 4 ห้อง เป็นแบบนั่งยอง และมี 2 ห้องที่มีฝักบัวอาบน้ำด้วย น้ำที่นี่เย็นมากคิดถูกแล้วที่รีบมาอาบน้ำก่อน ส่วนน้ำดื่มข้างบนนี้ก็จะมีน้ำประปาภูเขา เราสามารถนำมาใช้ได้ ให้ดีก็เอาไปต้มก่อน

อาบน้ำเสร็จแล้วก็มาเตรียมของทำมื้อเย็นกัน เพื่อนๆ ที่ไปน้ำตกก็กลับมาถึงพอดี มื้อเย็นของเราวันนี้ส่วนใหญ่เป็นอาหารสำเร็จรูป โดยที่แบ่งๆ กันเอามา แต่พอเอามากองรวมกันมันเยอะเหมือนกันนะเนี่ย

ns80y077cpz4

เรารับหน้าที่หุงข้าวไป

540pafa0m583
sus3zymlqmp1

เพื่อนๆ ก็ช่วยกันทอดกุนเชียง ไส้กรอก ปลากระป๋องผัดไข่ แล้วก็อุ่นอาหารสำเร็จรูป

6rfbvtequxgn
ug06zr3bkam7
m9crnrhordgo
0xg31oycxo6q

กับข้าวเสร็จแล้ว ก็ลงมือกันได้เลย เป็นการกินข้าวที่เร็วมาก กินเสร็จพระอาทิตย์ก็กำลังจะตกพอดี เลยย้ายไปนั่งดูแสงเย็นกันต่อ

akubvwpeqvyt
vr69r81uap0b
v1594ef93mm2
3q1dveygzx9z
xb78f0v32yw2

พอแสงหมด ทุกอย่างก็เข้าสู่ความมืด มีแค่แสงไฟจากเต็นท์ของแต่ละกลุ่ม เรานั่งเล่นกันก่อนเพราะถ้าให้เข้านอนตอนนี้คงจะนอนไม่หลับ แล้วก็ลองเปิดแอพดูดาว ก็เห็นว่าทางช้างเผือกกำลังพาดอยู่บนหัวเรา เลยอดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย แต่ด้วยความที่มันเป็นหางๆ เลยดูจะลางๆ ไปหน่อย

42v2k1xhz1qt
li8y0odaxxpq

คืนนี้มีพอแค่นี้ แยกย้ายกันพักผ่อน เจอกันพรุ่งนี้


ตี 4 ก็มีเสียงนาฬิกาปลุกจากเต็นท์รอบๆ ส่วนใหญ่เริ่มตื่นกันเพราะจะต้องเดินขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันที่ ย. 4 จากแคมป์ไปถึง ย. 3 ระยะทาง 3,000 เมตร แล้วเดินต่อไป ย. 4 อีก 1,000 เมตร เราก็ตื่นมาส่งเพื่อนๆ แล้วนอนต่อ เจอกันอีกทีตอนมีแสงแดดนะ ส่วนบรรยากาศตอนเช้าที่ย. 4 เดี๋ยวตอนท้ายเอารูปจากเพื่อนๆ มารวมให้ดู

แสงเริ่มมาแล้วเราก็ตื่นออกไปถ่ายรูปรอบๆ แคมป์ คึกคักเหมือนกันนะเนี่ย

1ykt01zox06b
nydnqmi2x721
54wk21sgcgx8
0mhgidd42j60
uxshxcaw98z3

แล้วก็ได้เวลาอาหารเช้า เราก็มีของที่เหลือจากมื้อเย็นที่ยังทำกินไม่หมด มื้อเช้าก็มีข้าวต้ม พอดีเราหุงข้าวเผื่อไว้เลยเอามาทำเป็นข้าวต้ม กินกับกุนเชียง หมูหวาน ไข่เจียว แล้วก็มีไข่เค็มของพรานโบ้

ic1h7v3buh98

พวกเรากินเสร็จเพื่อนก็กลับมาถึงพอดี ก็แปะมือกันผลัดกันกินข้าวต่อ พวกที่กินอิ่มแล้วก็แยกกันไปเก็บเต็นท์ เตรียมตัวเดินลง เช้านี้เราไม่ได้อาบน้ำกันเลย เดี๋ยวค่อยไปอาบทีเดียวข้างล่าง

เก็บของ ขึ้นเป้ อย่าลืมเก็บขยะลงไปทิ้งข้างล่างกันด้วยนะทุกคน ก่อนออกเดินขอเก็บรูปก่อน สภาพนี้แหละดีที่สุดแล้ว

68ho9fp1ikfl

เสร็จแล้วก็เริ่มเดินกันเลย เส้นทางก็เป็นเส้นทางเดิมนะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาก็ขอแปะรูปรัวๆ เลยแล้วกัน

vxa91q2ngvzt
3mc8hvf321c6
tjbrywc0b0hw
1xzvzx7o0cnc
uqmnyezz625w
y0p3rgsir6ng
pycwfvbjks0h

เราใช้ทางเดินตามถนนเหมือนเดิม เดินไปเรื่อยๆ จนใกล้จะถึงที่ทำการอุทยานมีรถไอศครีมผ่านมา รีบโบกพี่เค้าให้จอดโดยเร็ว เดินมาเหนื่อยๆ ได้ไอศครีมเย็นๆ .... ชื่นใจจัง

ylnljp7s1o80
05f8aqhw3hn8

เดินไปถือไอศครีมกินไป แล้วก็ถึงที่ทำการสักที ก่อนที่เราจะไปอาบน้ำ ขอไปถ่ายรูปกับถนนแลนด์มาร์คอีกจุดก่อน

2d2yx22z33hr
5my7xbst5puw
vfswfgw7rllh

แล้วก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำอาบท่า ห้องน้ำที่นี่มีหลายจุดมาก อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ติดต่อพี่เจ้าหน้าที่เพื่อเหมารถลงไปข้างล่าง รถ 1 คันนั่งได้ 6 คน ราคาก็คันละ 300 บาท ( ก็อาบน้ำแล้ว จะให้เดินลงไปเหงื่อออกอีกก็ยังไงอยู่ อิอิ ) แล้วเราก็ไปหาข้าวกินข้างล่างตรงสถานีรถไฟเหมือนเดิม เตรียมตัวขึ้นรถไฟเพื่อไปเที่ยวเชียงใหม่กันต่อ ( ที่รีวิวนี้ กางเต็นท์ริมนา ให้ธรรมชาติและขุนเขาโอบกอด ณ " แม่กลางหลวง " | เชียงใหม่ )


ถือว่าเป็นอันจบทริป " ดอยขุนตาล " ของพวกเราทั้ง 12 คนอย่างเป็นทางการ เราว่าดอยขุนตาลก็เหมาะกับคนที่อยากจะเริ่มมาสายเดินป่านะ เดินไม่ไกลมากเท่าไร ทางก็มีชันบ้างพอปวดขา สำหรับเราทริปนี้ที่ดอยขุนตาลถือว่าผ่าน แต่เราอาจจะไม่ได้เดินไปเก็บยอดครบ ไม่เป็นไรมาอีกได้ 555

เราติดค้างบรรยากาศน้ำตกตาดเหมย และยอด ย. 4 ขออนุญาตแปะรูปของเพื่อนๆ ในกลุ่มไว้ให้ดูนะ 

gb6gx362vd4z
vgoh8bpa6o5e
1sx21uwxbjhr
t9c8c8jjil3w
4mba8wwj6y7w
c25xlxe3et5y


สรุปค่าใช้จ่าย

  • ค่ารถไฟจากหัวลำโพง - ขุนตาน เตียงบน 918 บาท เตียงล่าง 1,018 บาท
  • ค่าเข้าอุทยาน คนละ 20 บาท
  • ค่ากางเต็นท์ คนละ 30 บาท
  • ค่าขนกระเป๋าจากสถานีรถไฟไปจุดเริ่มเดิน เที่ยวละ 400 บาท ( คนละ 34 บาท )
  • ค่าเหมารถจากที่ทำการอุทยานลงมาสถานีรถไฟ เที่ยวละ 300 บาท ( คนละ 50 บาท )
  • ค่ามัดจำขยะ 100 บาท/กลุ่ม
  • ค่าอาหาร ( อันนี้ตามสะดวกเลย )

สรุปในสรุปอีกทีนะ

- ระยะทางในการเดิน

  • สถานีรถไฟ - ที่ทำการอุทยาน ( 1,300 เมตร )
  • ที่ทำการอุทยาน - จุดเริ่มเดิน ( ย. 1 ) ( 1,600 เมตร )
  • ย.1 - ย. 2 ( 1,000 เมตร )
  • ย. 2 - ย. 3 ( 3,000 เมตร )
  • ย. 3 - ย. 4 ( 1,000 เมตร )
  • ย. 2 - น้ำตกตาดเหมย ( 1,500 เมตร )

- บริการ

  • ขึ้นรถจากสถานีรถไฟ - ที่ทำการอุทยาน คนละ 50 บาท หรือจะไปถึงจุดเริ่มเดิน คนละ 100 บาท
  • ขนกระเป๋าอย่างเดียวจากสถานีรถไฟ - จุดเริ่มเดิน เที่ยวละ 400 บาท
  • ขนของจากจุดเริ่มเดิน - ย. 2 ราคากิโลกรัมละ 15 บาท ( ขนโดยมอเตอร์ไซค์ )

- ห้องน้ำ

ห้องน้ำที่ทำการอุทยานมีหลายจุด ส่วนห้องน้ำที่ย. 2 มี 4 ห้อง ส้วมนั่งยองทั้ง 4 ห้อง และห้องที่สามารถอาบน้ำได้ 2 ห้อง

- อาหาร

ต้องเตรียมอาหารมาทำเอง

- น้ำ

มีประปาภูเขาสามารถนำมาใช้ได้

- เรื่องลี้ลับ

กลุ่มเราไม่มีใครเจออะไรนะ

ความคิดเห็น