พอออกจากดอยขุนตาล ( ที่รีวิวนี้ นั่งรถไฟไป " ดอยขุนตาล " งบ 2,500 บาท (2 วัน 1 คืน) | ลำพูนลำปาง เข้าไปตามอ่านกันได้นะ )
เราก็ลงมารอรถไฟที่สถานีเพื่อจะเดินทางต่อไปที่เชียงใหม่ รอบรถไฟที่เราจะขึ้นเป็นรอบ 13.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ก็มาถึงที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ ส่วนค่าโดยสารนั้นก็คนละ 15 บาทจ้า
นั่งรถไฟร้อนแบบนี้ก็ชิวดีเหมือนกันนะ นึกถึงตอนที่นั่งรถไฟฟรีมาเที่ยวเชียงใหม่ อากาศไม่ได้ร้อนมาก มองข้างทางไปเรื่อยๆ มีลมปะทะตลอดเวลา ทำให้เราเคลิ้มหลับไปได้นิดนึง แล้วก็มาถึงที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ พอลงจากรถไฟเราก็ได้แยกกันกับเพื่อนๆ กลุ่มนึงเที่ยวกันในเมือง ส่วนกลุ่มเราจะไปกางเต็นท์กันต่อที่บ้านแม่กลางหลวง ดอยอินทนนท์
เราได้เช่ารถกันไว้แล้ว หลังจากที่รับรถเรียบร้อยก็เดินทางต่อกันเลย แต่ก็ขอแวะตุนเสบียงกันที่โลตัสก่อน มากางเต็นท์นอนชิวๆ ทั้งทีจะขาดหมูกระทะไปได้ยังไง
ซื้อของเสร็จเราก็มุ่งหน้าสู่ อ.จอมทอง แล้วเข้าไปทางดอยอินทนนท์ บ้านแม่กลางหลวงจะต้องผ่านด่านเก็บเงินของดอยอินทนนท์ด่านทีี่ 1 มาก่อน ค่าใช้จ่ายก็คนละ 50 บาท + ค่ารถยนต์คันละ 30 บาท ขับตรงขึ้นมาเรื่อยๆ บ้านแม่กลางหลวงจะอยู่ทางซ้ายมือ ต้องสังเกตป้ายดีๆ นะเราก็เกือบเลย แนะนำให้เปิด google maps แม่กลางหลวงวิลล่า ไว้เลย จะได้เห็นเส้นทางคร่าวๆ พอเลี้ยวเข้ามาก็จะเห็นเป็นนาขั้นบันได อาจจะไม่ได้ใหญ่และเป็นขั้นสูงเท่าป่าบงเปียง ( แอบโฆษณารีวิวเก่า อิอิ) แต่ก็สวยไม่แพ้กันเลย
เรามาถึงกันก็ 6 โมงเย็นแล้ว หาที่จอดรถ ขนของลงจากรถเสร็จแสงอาทิตย์ก็กำลังจะลับ รีบหยิบกล้องมาถ่ายรูปกันก่อนเลย ส่วนกางเต็นท์เอาไว้ก่อน
พอหมดแสงก็หันกลับมากางเต็นท์กันต่อ เสร็จแล้วทางที่พักก็เอาหมูกระทะที่เราสั่งไว้มาส่ง ลืมบอกไปเราสั่งหมูกระทะของที่พักด้วย 1 ชุด แล้วก็ซื้อของมาเพิ่มกันอีก หมูกระทะที่นี่ชุดละ 500 บาท ( ปริมาณก็สัก 3 คนกำลังดี แต่เค้ามีให้สั่งหมูเพิ่มได้ด้วยนะ แพงนิดคิดซะว่าค่าวิว )
บรรยากาศคืนนี้โคตรชิว อากาศเย็นๆ ซดน้ำซุบร้อนๆ ฟิตสุดแต่น้ำค้างที่นี่แรงมาก โชคดีที่เอาทาร์ปมาด้วย
กินเสร็จก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำอาบท่า ห้องน้ำที่นี่มี 2 ห้องเป็นห้องส้วม กับอาบน้ำฝักบัวในตัว มีเครื่องทำน้ำอุ่นอยู่ 1 ห้อง อาบน้ำเสร็จก็มานั่งคุยกันต่อสักแปปก่อนที่จะแยกกันไปนอน เจอกันอีกทีตอนเช้านะ
อรุณสวัสดิ์ เช้านี้ไม่มีอะไรมากนั่งมองวิว ดื่มด่ำบรรยากาศ รอแสงเช้าสวยๆ ตกกระทบกับทุ่งนาสีเขียว
ดื่มด่ำกับบรรยากาศได้ที่แล้ว แดดก็เริ่มแรงขึ้น ไปนั่งกินมื้อเช้าดีกว่า เช้านี้กินอะไรง่ายๆ มาม่านั่นเอง
หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จก็นั่งรอให้เต็นท์แห้งก่อนแล้วทยอยเก็บของ เก็บของเสร็จแล้วค่อยอาบน้ำ ก่อนออกจากที่นี่ก็ไปเคลียร์ค่าใช้จ่าย สำหรับค่ากางเต็นท์ที่นี่ คิดเป็นหลัง หลังละ 200 บาท ในที่พักมีของเล็กๆ น้อยๆ ขายด้วยนะ ใครขาดเหลืออะไรลองมาถามได้
ระหว่างที่เคลียร์ค่าใช้จ่ายพี่ที่ดูแลที่พักเค้าก็แนะนำให้เราเข้าไปกินกาแฟข้างในหมู่บ้าน ชื่อว่า โก่บิเบ กาแฟสมศักดิ์
เป็นบ้านที่เค้าทำกาแฟแบบโบราณ มีกาแฟ ชาเปลือกกาแฟ ให้เราได้ชิมฟรี ถ้าใครชอบก็สามารถซื้อผลิตภัณฑ์กลับไปได้
ชิมกาแฟเสร็จเราก็ต้องบอกลาที่นี่ แล้วก็ขับรถกลับเข้าไปในเมือง ไปกินมื้อเที่ยงที่ร้านครัวเพชรดอยงาม เป็นอาหารเหนือพื้นเมือง แล้วไปต่อกันที่ร้านกาแฟที่ Graph café เป็นสาขาดัั้งเดิมที่อยู่ในคูเมือง ร้านเล็กๆ แต่อบอุ่น เมนูกาแฟน่าชิมทั้งนั้นเลย
กินกาแฟเสร็จก็ไปต่อของหวานกันที่ ทับทิมกรอบเจ๊อ้วน
เสร็จจากของหวานก็ไปเดินย่อยกันที่ตลาดวโรรส เดินซื้อของฝากกันสักหน่อย ก็เลยนัดคืนรถเช่าที่ตลาดเลย หลังจากเดินซื้อของฝากกันเสร็จเราก็ต้องนั่งรถไปที่ขนส่งอาเขตเพื่อรอขึ้นรถกลับกรุงเทพ เราเรียก grab รถแดง เป็นบริการที่กรุงเทพไม่มีเลยลองของใหม่ดู จากตลาดวโรรสไปขนส่งอาเขตก็ 110 บาท หารกัน 5 คน โอเคอยู่นะ จริงๆเขาบอกรับได้ถึง 10 คน โคตรคุ้ม
ถึงอาเขตก็หาที่นั่งรอ รถเรามาตอน 20.30 น. ถ้าอยากอาบน้ำก่อน จะมีให้ไปอาบที่ hostel ใกล้ๆ ลองถามคนแถวนั้นดูอีกที
ก็เป็นอันจบทริปอย่างสมบูรณ์ สำหรับทริปดอยขุนตาล ต่อด้วยทริปเชียงใหม่ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าจร้า
สรุปค่าใช้จ่าย
- ค่ารถไฟจากขุนตาน - เชียงใหม่ คนละ 15 บาท
- ค่าเช่ารถ 1,100 บาท
- ค่าเข้าอุทยานคนละ 50 บาท รถยนต์คันละ 30 บาท
- ค่าหมูกะทะ ชุดละ 500 บาท
- ค่ากางเต็นท์ หลังละ 200 บาท
- ค่า grab รถแดง 110 บาท
เที่ยวแบบเรา : Once-a-month
วันพฤหัสที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 15.29 น.