ภาพเด็กผู้ชายตัวน้อยแบมือขอเหรียญสิบบาทจากแม่

นำไปหยอดตู้ให้กลไกประตูทำงานเพื่อเปิดผ่านเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการ

หลังบานประตูเด็กน้อยถึงกับนิ่งตะลึงงันเมื่อมาประจันหน้ากับหุ่นรบขนาดใหญ่ยักษ์ที่สูงราวๆ 4 เมตร

“นี่มันออฟติมัส ไพร์ม ผู้นำแห่งออโต้บอท" เด็กน้อยพึมพำกับตัวเอง



หากใครขับรถผ่านไปผ่านมาบริเวณกิโลเมตรที่ 55.5 บนถนนสายเอเชียฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ

จะเห็นเจ้าหุ่นวัวกระป๋องยืนเด่นอยู่ริมถนนบนหลักกิโลเมตรสีขาวขนาดใหญ่ คอยโบกไม้โบกมือเชิญชวนให้เข้ามาแวะชม

'บ้านหุ่นเหล็กอ่างทอง ศูนย์การเรียนรู้หัตถกรรมจากเศษเหล็ก' ของคุณไพโรจน์ ถนอมวงษ์

ผู้สร้างสรรค์ผลงานนำชิ้นส่วนอะไหล่เหลือใช้จากเครื่องยนต์เก่ามาทำเป็นหุ่นยนต์ซุปเปอร์ฮีโร่

จากภาพยนตร์และการ์ตูนชื่อดังต่างๆที่ทำออกมาได้เหมือนจนไม่อยากเชื่อว่าต้นกำเนิดมันจะมาจาก

เศษเหล็ก!



“ช้าๆ ก็ได้ลูก" ผู้เป็นแม่พูดไล่หลัง ขณะที่เด็กน้อยวิ่งรี่เข้าไปทักทายบัมเบิ้ลบี

หุ่นเหล็กสีเหลืองที่สามารถแปลงร่างเป็นรถเชฟโรเลตคาเมโร่รุ่นคลาสสิคตัวละครเด่นจากภาพยนตร์เรื่องทรานส์ฟอร์เมอร์

ก่อนหันไปเจอเจ้าฮัคยักษ์เขียวจอมพลังหนึ่งในฮีโร่ของมาเวล ข้างๆ ก็พี่กัปตันอเมริกา

ถัดมาคือหุ่นกระป๋องทศกัณฐ์ผลงานอนิเมชั่นของคนไทย


แล้วนั่นก็ไม่ใช่ใครเหล่าพรีเดเตอร์แยกเขี้ยวยิงฟันถืออาวุธครบมือเตรียมออกต่อสู้กับฝูงเอเลี่ยนวายร้ายแห่งห้วงจักรวาล

ที่มาพร้อมกับเหล่ามารกองทัพหุ่นรบดิเซ็ปติคอน นำโดยเมกาทรอนบ้าพลัง

แล้วยังมีก็อดซิล่าเหล็กเข้ามาแจม แถมด้วยชักกี้ตุ๊กตาผี น่าจะมีดาร์ทเวเดอร์อยู่เบื้องหลัง

กำลังรบอาจไม่เพียงพอคงต้องขอให้ธอร์เทพเจ้าสายฟ้ามาช่วย!!

อาร์ทูดีทูหุ่นแสนรู้จากสตาร์วอร์แกจะรออะไร! รีบๆ ไปเรียกไอรอนแมนกับซุปเปอร์แมนมาเสริมเซ่!!

เราจะต้องปกป้องโลกนี้ไว้ให้ได้!!



ผมเห็นแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้กับโลกของเด็กผู้ชายตัวน้อยที่กำลังมีความสุขอยู่กับจินตนาการ

จินตนาการที่ถูกปะติดปะต่อขึ้นมาจากเศษเหล็กชิ้นเล็กชิ้นน้อย วันนี้ได้มาปะติดปะต่อพื้นที่เล็กๆในวัยเด็กของผมขึ้นมาอีกครั้ง



ผมแอบคิดถึงไอ้มดแดง หน้ากากเสือ อุลตร้าแมน คินนิคุแมน ปาร์แมน เจ้าหนูอะตอม กันดั้ม

ดราก้อนบอล ขบวนการห้ายอดมนุษย์ ตำรวจเหล็กโรโบคอบ เซ็นต์เซย่า อาราเล่ เคนชิโร่ ซามูไรทรู้ปเปอร์ มือปราบจีบัน

ทันกันบ้างไม๊!?

นี่แหละเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ในยุคของผม

บ้านหุ่นเหล็กคล้ายสวนสนุกขนาดเล็กของเด็กๆ แต่หากมองมุมผู้ใหญ่ที่นี่ก็คล้ายกับการมาเดินชมงานศิลปะในแกลลอรี่

ซึ่งก็ต้องยอมรับในฝีมือของคุณไพโรจน์จริงๆ จากที่เคยทำเล่นๆ ตั้งโชว์ที่บ้าน พอมีคนมาเห็นก็ชอบขอซื้อต่อ

เลยทำขายกลายเป็นธุรกิจขนาดย่อม ตอนนี้ทำส่งออกขายต่างประเทศไปแล้ว



ผมมานั่งพักเหนื่อยสั่งเอสเพรสโซ่เย็นคลายร้อนภายในร้านกาแฟบ้านหุ่นเหล็กที่ตกแต่งได้อย่างกิ๊บเก๋

นั่งมองเด็กๆ วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานราวกับเจ้าหุ่นพวกนี้เคลื่อนไหวได้จริงๆ

ทำให้นึกย้อนไปถึงคำถามหนึ่งที่เคยมีคนถามว่าคุณชอบช่วงเวลาไหนของชีวิตมากที่สุด

ผมเชื่อว่าเกินครึ่งตอบว่าอยากกลับไปเป็นเด็ก ช่วงชีวิตที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย

ไม่ต้องเจอกับเรื่องกลุ้มเรื่องหนักใจอะไร ดูแล้วชีวิตสีชมพูมีแต่เสียงหัวเราะและความสนุกสนาน


แต่หากมองดีๆ ผมว่าวัยเด็กนี่แหละที่เราเสียน้ำตามากที่สุด

มันเป็นช่วงชีวิตที่ต้องหวังพึ่งพิงพ่อแม่ อยากได้อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจมีพ่อแม่คอยขัดไปซะหมด

เด็กก็มีเรื่องกลุ้มเรื่องทุกข์ใจของเด็กๆ เหมือนกันเพียงแต่เราอาจไม่ได้จดจำในช่วงเวลาเหล่านั้น


สำหรับผมแล้วผมชอบช่วงเวลานี้ของชีวิตมากที่สุด ช่วงวัยทำงานที่อยู่กับปัจจุบันมีความสุขไปกับมัน

เพราะอยากทำอะไรก็ทำ ไปไหนก็ไป อยากได้อะไรก็ซื้อเองสร้างเอง รับผิดชอบเองไม่ต้องหวังพึ่งใคร

ชีวิตที่ไม่ต้องไปอิงกับใครนี่แหละผมว่ามีความสุขที่สุด

แต่นานๆ ทีได้รู้สึกเหมือนย้อนกลับมาในพื้นที่เล็กๆที่เคยเป็นเด็กอีกครั้งมันก็มีความสุขดีเหมือนกัน

แค่อย่าไปยึดติดกับมัน เพราะความสุขในอดีตมันเทียบไม่ได้กับความสุขที่มีในปัจจุบันหรอกครับ


การเดินทางมาบ้านหุ่นเหล็กครั้งนี้หากเป็นสมัยก่อนผมคงต้องออดอ้อนขอให้แม่พามาเที่ยว วันนี้สิผมเป็นฝ่ายพาแม่มา

แต่ทำไมนะแม่ยังรู้สึกว่าเป็นคนพาผมมาซะเอง!



เส้นทางของไอฟายน้อยสู่บ้านหุ่นเหล็ก


ใกล้ๆ ไปง่ายมากครับ หากมาจากใจกลางกรุงเทพฯเส้นที่เร็วที่สุดผมว่าขึ้นทางด่วนมุ่งไปทางแจ้งวัฒนะลงสุดทางที่บางปะอินเลย

จากนั้นวิ่งเข้าถนนสาย 347 บางปะอิน-บางปะหัน เส้นนี้รถไม่เยอะขับสบาย

ขับไปจนทะลุเลี้ยวซ้ายออกสายเอเชีย(ทางหลวงหมายเลข 32) แล้วตรงต่อไปตามป้ายอ่างทอง สิงห์บุรี



ถึงแยกทางเข้าตัวเมืองอ่างทอง เลยไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตรจะเห็นบ้านหุ่นเหล็กตั้งอยู่ริมถนนทางขวามือ

เลยไปกลับรถอีกประมาณ 1 กิโลเมตร รวมระยะทางจากกรุงเทพฯประมาณ 109 กิโลเมตร

บ้านหุ่นเหล็กมีที่จอดรถด้านหน้าสะดวกสบาย การจะเข้าไปภายในต้องหยอดเหรียญเปิดประตูกลไก 20 บาท






ติดตามผลงานเรื่องอื่นๆ ของไอฟายน้อยได้ที่ http://bloggang.com/mainblog.php?id=ifind

I-FINDNOI

 วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 14.14 น.

ความคิดเห็น