- สวัสดีค่าาาาา เพื่อน ๆ ทุกคน -
วันนี้กลับมารีวิวอีกแล้ว รอบนี้เราจะมารีวิวท่องเที่ยวในไทยบ้าง และจังหวัดที่เราไปคราวนี้ก็คือ กรูเผ็ด เอ้ย!! ภูเก็ต
ทริปนี้เรามีแม่ติดสอยห้อยตามไปเที่ยวกับเราด้วย ดังนั้นในรูปก็จะมีรูปเจ๊คนหนึ่งติดมาตลอดนาจา กิกิ
เราเดินทางไปช่วงวันที่ 13-15 พฤษภาคม ค่ะ 3 วัน 2 คืน นอนเกาะเฮ 1 คืน นอนป่าตอง 1 คืน
พอดีทริปนี้เราไปซื้อ Package จากในงานท่องเที่ยวตอนเดือนมีนามา เห็นว่ามันน่าสนใจดี เลยจัดเลย!
ตอนแรกเราไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเกาะเฮเนี่ย มันอยู่ตรงไหน แต่เห็นรูปในแผ่นผับในงานเที่ยว
เออ สวยดีแหะ เอานี่แหละ ลองไปดู ค่อยไปหาข้อมูลเอาก่อนไป ฮ่า ๆ
ภูเก็ตรอบนี้ของเราทะเลใส๊ ใส แม่ก็แฮปปี้ เราก็แฮปปี้ เย้เย้
เอาล่ะ เกริ่นนานแระ ไปดูรีวิวกันดีกว่า
ปล.เดี๋ยวจะมีสรุปค่าใช้จ่ายให้ตอนท้ายนะคะ
ปล2. เรามีเพจแล้วน๊า เข้าไปคุยกันได้นะคะ
https://www.facebook.com/tidsoihoytam
ปล3. ฝากกระทู้เก่าๆด้วยนาจาาาาาา
http://pantip.com/topic/34506899
http://pantip.com/topic/34037669
http://pantip.com/topic/34779106
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายภาพในทริปนี้
- Fuji x-m1 Lens : Kit 16-50
- Gopro Hero3+เริ่มออกเดินทางกันเลยค่ะ !!
Day 1
เราเดินทางถึงสนามบินตอนประมาณ 05.30 น. รอบนี้ไปกับ Lion Air ค่ะ ไม่มีโปรอะไรทั้งสิ้น แต่ราคาน่าคบหาอยู่ สบายใจไป
ไฟล์ทเราคือ SL750 ตามจริงจะถึงสนามบินภูเก็ตตอน 08.00 น. แต่สภาพอากาศอะเนอะ มันก็ดีเลย์ไปหน่อย ถึงสนามบินภูเก็ตก็ตอน 08.20 น. แระ
แล้วจริงๆคือ เราต้องรีบไปขึ้นเรือ speed boat ไปเกาะเฮไง แล้วเรือออก 09.30 ไง แล้วท่าเรือกะสนามบินมันต้องใช้เวลาเกือบ ชม.อะ ถ้ารถไม่ติดนะ
ลุ้นมาก กลัวไม่ทันเรือ เพราะว่าเราจองมาเป็น Package มันลงรอบเรืออะไรไว้ให้หมดแล้ว
และด้วยจิตวิญญาณของโดมินิค โทเรตโต จากFast & Furious พี่โซเฟอร์ก็พาเราถึงที่หมายทันเวลา ฟิ้วววว
แต่เราไม่แนะนำให้ทำแบบเรานะ จริง ๆ ควรมานอนที่ภูเก็ตก่อน แล้วเช้า ๆ ค่อยออกไปเกาะแบบนั้นดีกว่า
ของเรามันมีความผิดพลาดเกิดขึ้นเพราะว่า agent ที่เราชื่อทริปมา เค้าไม่บอกเราเลย จัดทริปให้เราเสร็จสรรพ ตอนแรกนี่ก็แบบ เอ้อ ดี ๆ สบายดี
เป็นไงล่ะ เกือบตกเรือ พูดแล้วหงุดหงิดมาก แต่ต้องขอบคุณพี่คนขับรถที่ช่วยโทรแจ้งเรือให้เราและพาเราไปส่งทันเวลา
เอาล่ะ หลังจากลุ้นฉี่จะ- เราก็ได้ลงเรือ speed boat จากท่าเรืออ่าวฉลองไปเกาะเฮแล้ว เย้เย้
นั่งไปประมาณ 15 นาที ก็มาถึงเกาะเฮ หรือ coral island เป็นที่เรียบร้อย
เกาะเฮ เนี่ยเป็นเกาะเล็ก ๆ อยู่ห่างจากชายฝั่งภูเก็ตประมาณประมาณ 10 ก.ม.
สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้โดยง่าย มีทั้งเรือสปีดโบ๊ท และก็เรือหางยาว
เป็นเกาะที่ไม่ไกลจากฝั่งภูเก็ตมากนัก แต่ธรรมชาติบนเกาะยังคงสมบูรณ์มาก ถ้าไม่เชื่อรอดูได้เลย
พอมาถึง เราก็เดินแบกกระเป๋า ไป check-in ที่รีสอร์ท บนเกาะนี้มีรีสอร์ทเดียวนะคะ ชื่อ Coral Island Resort
อันนี้ห้องเราค่ะ เป็นห้อง บีช ดีลักซ์ (Beach Deluxe) เสริมเตียงเพราะไปกัน3คน
ที่รีสอร์ทปั่นไฟเอง ดังนั้นจะมีรอบที่เปิดให้ใช้ไฟฟ้านะคะ
เค้าจะปิดไฟช่วง 10.00-12.00 น. และ ปิดอีกรอบก็คือ 15.00-17.00 น. ค่ะ
ตอนเราไปไฟยังตัดอยู่ ก็เลยไปกินข้าวรอ กินที่รีสอร์ทนี่แหละค่ะ
สั่งกับมา 3 อย่าง กะข้าวอีก3 จาน โค้ก 1 น้ำเปล่า2 หมดเงินไปทั้งสิ้น 1230 บาท เฮ้ยยย โอเคนะ อยู่บนเกาะแต่ราคาไม่แพงมาก
เมนูก็มีปลาราดพริก อันนี้อร่อย ชอบๆ
อันนี้ผัด ไรนะ ลืม 55555 ผัดเปรี้ยวหวานป่ะ เออ ๆ นั่นแหละแก รสชาติโอเคอยู่
ต้มยำ เฉย ๆ หวานไปหน่อย
กินเสร็จก็ไปถ่ายรูปหน้าหาดที่พักเล่น สวยดีนา น้ำใส สีฟ้า ส๊วยสวยยย
แฮปปี้แค่ไหนถามใจ เจ๊แกดูได้ กิกิ
หลังจากนั้น ตรงที่พักเราไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไร เน้นนั่งกินลม ชมวิว ถ่ายรูปเก๋ไก๋ไปเรื่อย
พอดีเราดูข้อมูลมาว่า มันมีหาดอีกหาดหนึ่ง ที่จะมีกิจกรรมให้ทำเยอะหน่อย ชื่อ หาดกล้วย หรือว่า Banana Beach เราเลยตัดสินใจไป
อ่ะ แล้วไปทางไหน งงมาก เพราะเห็นหน้าหาดมันยาวสุดแค่รีสอร์ทเรา แล้วมันก็ไม่มีถนนไง เลยไปถามพนักงานรีสอร์ทดู
พนักงาาน : อ๋อ หาดกล้วยเหรอคะ เนี่ยคะ (ชี้มือ point ไปทางหินเยอะ ๆ ) เดินไปทางนั้นเลย
กวิ้น : ห๊ะ โขดหินนั้นเหรอคะ
พนักงาน : ใช่ค่ะ ตอนนี้น้ำมันขึ้น ต้องปืนหินไป แล้วมันจะมีทางเดินเล็ก ๆ เรียบริมทะเลไปค่ะ 15 นาทีก็ถึง
และนี่คือภาพที่เห็นตอนพนักงานเค้าชี้ให้ดู
อ่ะ ไหน ๆ มาแระ เดินก็เดิน นี่ยืนอยู่บนหินที่พนักงานชี้มาให้ดู
ส่วนนี่จากก้อนหินหันกลับไปมองที่พัก
นี่คือทางเดินจ้ะ แคบดีจริง ๆ พ่อคุณเอ้ยย
เดินไปประมาณ 15-20 นาทีก็ถึงแหละ หาดกล้วย Banana Beach ที่คนนิยมมาพักผ่อนกัน รู้สึกเป็นหน้าหาดส่วนตัวนะ คนไม่เยอะมาก
ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก มีจุดดำน้ำตื้น Snockllig ไปเช่า snockle ได้จากหน้าหาดค่ะ
มี banana boat รูปน้องเป็ดแบบนี้ด้วย แม่บอก ถ่ายรูปให้หน่อย
จริง ๆ มีหลายกิจกรรมมาก ทั้งsea walk ที่ต้องสวมหัว มนุษย์อวกาศลงไปเหยียบใต้ทะเล
มีพาราเซลลิ่งด้วย แต่ถ้าใครอยากจะมานั่งเล่นริมหาด เก้าอี้ชายหาดมีค่าบริการคนละ100 บาท รวมค่าเข้าห้องน้ำนะ
และที่เราชอบมาก นี่เลยยย คายัคแบบใส เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเหมือนกัน มันเป็นเหมือนไฮไลท์ของที่นี่เลยอะ
เวลาพายๆไปก็จะได้เห็นหินปะการัง กะเจ้าปลาว่ายเล่นกันอยู่ใต้ท้องเรือ เพลินนไปอีก
ลำนี้ค่าราคาอยู่ที่ 800 บาทต่อชั่วโมง ลงไปได้สองคนค่ะ แต่มีไม้พายสำหรับคนเดียว คนนั่งอย่างอิชั้นก็สบายยยย
รูปนี้ แม่ถ่ายว่ะแก ฝีมืออย่างคูล กิกิ
กลับฝั่งมา แม่ขอถ่ายรูปบ้าง
พายเรือเสร็จก็มานั่งชิลๆ ถ่ายรูป summer set ร่วมกับขุ่นแม่
แม่แฮปปี้ นี่ก็โอเคจ้าาา
อ่ะ ถ่ายรูปจนสะใจ เราก็ไปเล่นน้ำ ตอนเราไปน้ำขึ้น เดินนิดเดียวก็เกือบถึงอกแล้ว แต่น้ำที่นี่ใสมาก
แล้วยังมีปลาเยอะแยะไปหมด
สนุกกันจนได้เวลากลับ ที่หาดกล้วยเค้าให้บริการถึงแค่5โมงเย็นนะคะ เปิดให้เที่ยวแบบ day trip ไม่มีค้างคืน
อย่างที่บอกว่าที่พักบนเกาะนี้มีแค่ coral island resort นักท่องเที่ยวคนอื่นๆเค้าก็ทยอยลงเรือกลับฝั่งภูเก็ตกัน ส่วนเราเดินกลับที่พักจ้าาา
สำหรับ day trip ของที่นี่สามารถซื้อจากบนฝั่งภูเก็ต เค้าจะรวมค่าเรือมาเกาะ แล้วก็มีsnockle ให้ดำน้ำ, พายเรือคายัค, เก้าอี้ชายหาดฟรี และมีอาหารกลางวันด้วยนะ เราไปถามพนักงานมา ราคาลองเช็คดูนะคะ ลองค้นคำว่า Banana Beachดูก็ได้นะ
พอกลับมาถึงห้อง ไฟฟ้ารอบเย็นก็มาพอดี อาบน้ำแต่งตัวไปดินเนอร์กันจ้ะ ที่เดิมกะที่กินตอนกลางวันนั่นแหละ เพราะมันมีที่เดียวแล้ว ฮ่าๆ
บรรยากาศตอนเย็นดวงอาทิตย์กำลังจะลาท้องฟ้าไป นี่ดี๊ดี นะ สีท้องฟ้าก็สวย magic hour ของแท้
เมนูเย็นนี้เป็น seafood เผา เราก็ไปเลือกว่าจะเอาไรบ้าง เค้าจะมีราคาต่อกรัมบอก ไม่คิดค่าทำอาหาร คิดแค่น้ำหนักของ เราก็จัดเต็มเหมือนเคยค่ะ
กินๆ อยู่ เงยหน้าขึ้นมา เจอท้องฟ้าแบบนี้ โอ้โห้ววว ทิ้งกุ้งในมือ หยิบกล้องวิ่งไปถ่ายอย่างไว
สวยเนอะ แล้วบรรยากาศดีมาก คนก็น้อย เราชอบมากเลย เราว่าถ้าใครชอบไปพักผ่อนเงียบ ๆ ที่นี่เหมาะมากเลยนะ
อาหารอะไรก็ไม่แพงจนเกินไป อย่างมื้อเย็นรอบนี้หมดไป 1940 บาท (มีค่าเครื่องดื่มด้วย)
แต่กิจกรรมบนเกาะอาจจะไม่ได้เยอะมาก แต่อย่างว่าไปเที่ยวพักผ่อน แบบนี้ก็โอเคแล้วนะสำหรับเรา
กินข้าวเสร็จ ก็เข้าห้องไปนอนเก็บแรง เพราะพรุ่งนี้มีทริปดำน้ำรอเราอยู่ เย้เย้Day 2
ตื่นมาด้วยความสดใส เมื่อคืนฝนตก อากาศเย็นเลย แต่พอเช้ามา ฟ้าก็ใสกิ๊ง เหมาะแก่การไปดำน้ำมาก
เราตื่นเช้ากินอาหารที่รีสอร์ท เป็นบุฟเฟ่ต์ค่ะ ตอนกินเจอเรื่องเซอร์ไพรส์ หันไปเห็น นกเงือก!!
จะหยิบกล้องถ่าย ไม่ทัน เสียดายมาก คือเท่าที่รู้มาเกาะเฮยังคงสมบูรณ์มากมันเลยเป็นที่อาศัยของนกเงือก แล้วนกเงือกเนี่ยปกติหาดูไม่ได้ง่ายๆแล้วด้วย
แต่เสียดายไม่นาน น้องเงือกก็โผล่มาให้เห็นอีก ตอนที่นั่งรอ check out
พี่ที่รีสอร์ทบอกว่า ที่เกาะเฮมีนกเงือกเยอะมาก เกือบร้อยตัวเลยมั้ง วันๆนึงก็จะโผล่มาแบบนี้แหละ
เราตื่นเต้นมาก แบบ มากกกกกก เพราะไม่เคยเห็นนกเงือกตัวเป็น ๆ แบบไม่อยู่ในกรงแบบนี้ นี่ครั้งแรกเลยอะ
คือแฟนเราเคยไปถ่ายรายการที่ป่าฮาลาบาลา ที่เบตง พี่ ๆ ทหารบอกว่าที่นั้นมีนกเงือกเยอะที่สุดในไทย ตอนไปถ่ายยังไม่ได้เห็นเลยอะ
กริ๊ดเลยค่ะ ตอนเห็น ฮ่า ๆ
บอกลาน้องนกเงือกเสร็จแล้ว เราก็เดินไปรอขึ้นเรือเพื่อไปดำน้ำค่ะที่หน้าหาดอีกที่ ซึ่งเราจำชื่อหาดไม่ได้ แหะๆ
คือจริง ๆ แล้ว plan ของเรามันเป็นส่วนหนึ่งของ one day trip ของเรือ Raya Princess
โปรแกรมเต็ม ๆ ของเรือก็คือ ขึ้นเรือตอนเช้ามาปล่อยให้นักท่องเที่ยวพักผ่อนที่เกาะเฮ แล้วสาย ๆ ก็จะพาไปดำน้ำเกาะราชา
ระหว่างรอเรือออก เราก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย หน้าหาดนี้คนเยอะ ไม่เหมือนหาดกล้วยเมื่อวานเลยแหะ
ประมาณ11โมงครึ่ง ก็ถึงเวลาไปดำน้ำกันแล้วจ้า จากเกาะเฮไปเกาะราชา ใช้เวลาประมาณ15นาทีค่ะ ถ้าจำไม่ผิดนะ แฮร่
ถึงจุดดำน้ำแล้ว ทางเรือให้เวลาดำน้ำ 45 นาทีค่ะ
ปลาเยอะดีค่ะ แล้วก็ชอบที่ไกด์เคยย้ำนักท่องเที่ยวว่าห้ามเอาอะไรให้ไปปลากิน อันนี้ชื่นชมมาก
ส่วนแม่ก็ของอิชั้นก็แฮปปี้คร่าาาา
แต่เราว่าปะการังมันไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ มันเคยสวยกว่านี้
ตอนนั้นที่เคยไปดำคือหมู่เกาะสุรินทร์นะ เสียดายจังเลยเนอะ อยากให้ปะการังสวยเหมือนเดิม
ดำน้ำจนสะใจ ก็ถึงเวลาไปกินข้าวเที่ยวแล้วจ้าาาา เรือพาเราไปกินที่เกาะราชา แต่เป็นอีกฝั่งของหน้าหาดที่ไว้พักผ่อน
อาหารเป็นถาด ๆ ไว้ให้เราเลือกตักนะคะ ไม่ใช่ข้าวกล่อง รสชาติก็โอเคนะ ใช้ได้เลยล่ะ
วิวก็สวยงามตามท้องเรื่อง
ก่อนกลับขึ้นเรือ แวะแชะ ๆ ภาพหน่อย
จากนั้นเรือก็พาเราไปเล่นน้ำที่หน้าหาดเกาะราชาค่ะ
คลื่นที่นี่โหดมาก ไกด์บอกว่ามันคือคลื่นม้วน ที่จะลากเราออกจากฝั่ง ให้ระวังด้วย
ถ้าใครกลัว ก็มานั่งชิวๆ กินน้ำมะพร้าว (ลูกละ100 แทบช็อกตอนจะจ่ายเงิน) บนเสื่อผืนละ200 ได้ค่ะ
หลังจากพักผ่อน ถ่ายรูปไปจนได้เวลา ไกด์ก็เรียกขึ้นเรือกลับฝั่งภูเก็ตค่ะ
พอถึงฝั่งเค้าจะมีรถตู้รอรับไปส่งตามโรงแรมของเรา คืนนี้เราพักที่ป่าตอง โรงแรม Andaman Beach Suite ได้ห้องเป็น Sea View ดี๊ดีแหละเธอ
ยังเล่นน้ำไม่สะใจ เปลี่ยนชุดลงมาเล่นสะว่ายน้ำของโรงแรมอีกรอบ แม่แฮปปี้ตามเคย ลูกคนนี้ก็สุขใจจ้า
เล่นน้ำจนหมดแรง เราก็ไปหาร้านอาหารอร่อย ๆ ค้นดูจากพันทิปนี่แหละ มีคนแนะนำให้ไปร้านกาบกล้วย อ่ะ ลองไปดู
รสชาติอาหารอร่อยมาก กุ้ง ปลาหมึกงี้สดมาก แถมให้เยอะด้วย ราคาก็ถูกมื้อนี้หมดไป 1570 บาท
รวมเบียร์ชาละวันด้วย ภาพอาหารอาจจะไม่สวยนะ เราหิวมาก มือไม้สั่นไปหมด แงงงงง
หลังจากอิ่ม เราก็ไปเดินย่อย ที่ถนนป่าตองบีช ถนนเส้นนี้ก็จะมีผับ บาร์ คล้าย ๆ walking street ของพัทยา แต่ไม่น่ากลัวเท่า(อันนี้ตามความรู้สึกเรานะ)
อ้อ วิธีการเดินทางที่ป่าตอง มันจะมีเท็กซี่กะ ตุ๊ก ๆ นะคะ รอบแรกจากโรงแรมไปร้านอาหาร เรานั่งเท็กซี่ 200 บาท
จากร้านกาบกล้วยมาป่าตองบีซ นั่งตุ๊กๆ 200 เท่ากัน ถามน้องเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหาร เค้าบอกว่า 200คือราคาเริ่มต้น ใกล้ไปอีกก็เพิ่มเงินไปจ้ะ
ส่วนนี้คือหน้าตาตุ๊กๆของภูเก็ต
สิ้นสุดวันนี้โดยการซื้อเบียร์ไปกินที่ห้องเพราะร้อนอยากจากแอร์ จอบอ แฮร่Day 3
วันสุดท้ายในภูเก็ต วันนี้เป็นททริปเดินชิล ๆ ถ่ายรูปชิค ๆ ในย่านเมืองเก่ากัน เช้ามากินอาหารเช้าที่โรงแรม แพ็คของรอรถมารับ
วันนี้เราเช่ารถเพิ่ม เพราะในแพ็กเกตของเราเค้าจะเป็นรถตู้มารับจากโรงแรมไปสนามบินอย่างเดียว
จากป่าตองเข้าไปในย่านเมืองเก่า ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีค่ะ
พี่คนขับส่งเราลงตรงสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี มีมังกรทองตัวใหญ่ ๆ เป็นจุดเด่นอยู่
เอาจริง คือไม่รู้หรอกว่าต้องเดินไปทางไหนบ้าง รู้แค่ต้องเดิน อ่ะ งั้นเดินวนไปค่ะ!!
สรุปมาโผล่ตึก the chartered bank ตรงถนนภูเก็ต ที่มีหอนาฬิกาแต่ตอนไปเค้ายังปรับปรุงอยู่เลยไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ
แวะแซะภาพแม่ลูกผูกพันหน่อย
ใครสอนนางโพสท่า อยากรู้มาก
เราเดินตามถนนพังงาไปค่ะ ระหว่างทางก็มีตึกเก่าตลอด ๆ
เราชอบตึกสไตล์ชิโน-โปรตุกีสนะ มันมีเอกลักษณ์ดี ผสมผสานเอาความเป็นศิลปะตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกันอย่างดี
แถมพอได้รับการดูแลอยู่ตลอด ทาสีให้สดใสขึ้นก็แปลกตาไปอีกแบบ
เจอ graffiti ด้วย เป็นน้องนก ทำไมเจอนกบ่อยจังช่วงนี้ แต่ดีนะมีแฟนแล้วเลยไม่กลัว หว่ายยยย กิกิ
เดินไปก็เจอตึกนี้ เป็นที่ตั้งของธนาคารกสิกรไทยค่ะ มีตู้ไปรษณีย์สีแดงตั้งอยู่ ตัดกะสีตึกที่เป็นสีขาว สวยดี ขอถ่ายรูปหน่อยๆ
เดินเล่นถ่ายเก็บบรรยากาศไปเรื่อย ๆ มาเจอร้านอาหาร ดูท่าทางอร่อย คนนั่งเต็มร้านเลย แต่เรายังไม่หิว ผ่านไปก่อนแล้วกัน
แต่ตอนนี้อยากกินกาแฟ เราเดินไปถึงถนนกลาง เจอร้านกาแฟ Cafe in อยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัวพอดี ไม่ได้ถ่ายหน้าร้านมานะคะ
เป็นร้านกาแฟขนาดเล็กน่ารัก ตกแต่งสไตล์จีนนิด ๆ
เมนูขึ้นชื่อของที่นี่ เห็นเค้าสั่งกันเกือบทุกโต๊ะเลยเอาบ้าง ก็คือโอวเอ่วน้ำผึ้งมะนาว อร่อยมาก สดชื่นสุดๆ ข้างล่างมันมีเหมือนเจลลี่นุ่มด้วย ชอบมากเลย
พอนั่งพักคลายร้อนแล้ว เราก็เดินต่อ คราวนี้เดินไปถึงถนนถลาง ถนนเส้นนี้จะมีตึกเก่าอยู่เยอะมากกกกก
ไม่พูดมากแหละ ให้ดูภาพดีกว่าเนอะ
แม่ ๆ ยืนทำไรอะ
เดินมาเจอ grafitti อีกแล้ว คราวนี้เป็นผลงานของคุณ ALEX FACE เค้าวาดน้องมาร์ดี้ร์ สามตา กลายร่างเป็นอั่งกู๊ ขนมเต่าแดง ของภูเก็ต น่าร๊ากกกกก
เดินมาเจอร้านกาแฟอีกแล้ว ร้านกาแฟที่นี่เยอะดีนะ ร้านนี้เห็นในเนตบ่อยๆ เพราะหน้าตาสีสันสดใสแบบนี้แหละมั้ง คนเลยชอบกัน
ชื่อร้านEleven Two & Co Cafe และแน่น๊อน ไม่ได้กิน ถ่ายรูปก็ยังดี
อ่ะ หิวแล้ว เรามีร้านที่เล็งไว้แล้ว มื้อนี้ขอฝากท้องไว้ที่ร้านวันจันทร์ พี่ที่ทำงานเคยมาถ่ายรายการแล้วแนะนำมา ฮี่ฮี่
ร้านตั้งอยู่ใกล้แยกระหว่างถนนเทพกระษัตรีตัดกับถนนดีบุก เป็นร้านอาหารพื้นเมืองภูเก็ตที่ปรับรสชาติให้ถูกปากคนต่างถิ่น
ระหว่างรออาหาร ก็ไปเดินถ่ายรูปบรรยากาศร้านมา ร้านยังคงสไตล์บ้านโบราณเอาไว้ ตกแต่งเพิ่มเติมบ้าง แต่ก็จะใช้ของสะสมมาตกแต่ง
เมนูที่เราสั่ง เป็นอาหารแนะนำเกือบหมดเลยค่ะ เริ่มด้วยเห็ดทอด
ส่วนนี้คอหมูคั่วพริกเกลือ อร่อยดี ถูกปากเด็กอ้วนอย่างเรามากมายยยย
อันนี้ เซตน้ำพริกวันจันทร์ เป็นน้ำพริกกุ้งเสียบ กับน้ำพริกไข่ปู เราชอบน้ำพริกไข่ปู กุ้งเสียบเราว่าสู้ร้านกาบกล้วยที่ป่าตองไม่ได้
และนี่ แกงปูใบชะพลู หูยยยยย เนื้อปูเยอะมาก อร่อยด้วยเทอออ กินกินเส้นหมี่นะ ไม่อยากจะบรรยาย
หมดนี่รวมข้าว2จาน กะน้ำอัดลม หมดไป 920บาท!!! ผิดคาดมาก คิดว่าจะแพงกว่านี้ โอเคมาก ๆ เลยนะ ถ้าใครไปลองแวะไปชิมดู แนะนำเลยๆๆ
กินเสร็จ พุงกาง ก็ถึงเวลาเซย์กู๊ดบายกะภูเก็ตแล้ว ก่อนกลับมารวมค่าใช้จ่ายให้ดูกันดีกว่า อาจจะไม่เป๊ะมากนะคะ
ทริปนี้อาจจะเรื่อยเปื่อยไปนิด แต่เราตั้งใจพาแม่ไปพักผ่อนจริงๆ
ใช้เวลาเดินเล่นถ่ายรูปด้วยกัน มันสนุกมากเลยนะเธอ ออกไปเที่ยวกัน อย่าลืมพาคนที่เรารักไปด้วยนะ :]
วันนี้ไปแล้ว เจอกันใหม่ รีวิวหน้า บ๊ายบายยยย
ติดสอยห้อยตาม
วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.47 น.