สวัสดีครับ .. ช่วงวันหยุดหน้าร้อนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเที่ยว “เกาะแสมสาร" มาครับ ที่ช่วงนี้พูดได้เต็มปากเลยว่าได้รับความนิยมมาก(รวมทั้งเกาะขามด้วย) ยิ่งตอนนี้ “เกาะขาม" ปิดให้ธรรมชาติพักผ่อนไปแล้ว(ปิดตั้งแต่ 16 พ.ค. เป็นต้นไป) “เกาะแสมสาร" ก็น่าจะได้รับความสนใจไปกันมากขึ้นอย่างแน่นอน..เนอะ!
#SAMAESAN
SATTAHIP, CHONBURI.
ในส่วนรายละเอียดของการเดินทางในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นทริปครอบครัวใหญ่ มีสมาชิกตั้งแต่เด็กเล็ก ยัน ผู้ใหญ่ 8 คน ความตั้งใจแรกกะว่าจะมาพักผ่อนสบายๆ ริมทะเล แถวๆ ชลบุรี แต่ไปๆมาๆ กลับมีความคิดว่า น่าจะข้ามไปเที่ยวเกาะกันบ้าง
“เกาะขาม" ก็เลยเป็นตัวเลือกแรกที่ผุดเข้ามา แต่ก็พอทราบมาว่า.. คนไปเที่ยวกันเยอะมาก และถ้าเกิดไปเกาะขาม ก็น่าจะเจอคนเยอะแน่ๆ ก็เลยเปลี่ยนไป “เกาะแสมสาร" ดีกว่า ซึ่งคนก็คงเยอะมากเหมือนกันแหละ แต่..ก็หวังว่าจะดูสะดวกกว่า เพราะเกาะใหญ่กว่า
ทั้งหมดเดินทางกันมาจากโคราช มีผมที่เริ่มต้นเดินทางออกจาก
กรุงเทพฯ และจะไปพบกันที่ สัตหีบ เนื่องจากต้องขับรถ และเดินทางมาไกล จึงต้องการเที่ยวให้คุ้มหน่อย เลยจัดการจองที่พักเอาไว้ล่วงหน้า เพราะมากันหลายคน ต้องบอกเลยว่า.. ที่พักแสมสาร และสัตหีบ หายากมาก โดยเฉพาะที่ติดทะเล และจะเต็มในช่วงวันหยุด โทรสอบถามหลายๆ ที่ก็เต็มหมด เงื่อนไขที่ต้องการ คือ ได้ที่พักแบบบ้านเป็นหลัง และ สามารถปิ้งย่าง อาหารได้ ส่วนในเรื่องติดทะเลนั้นก็คงต้องตัดไปแล้ว เพราะเต็มหมด
ในที่สุดก็มาได้ที่พัก
“บ้านพักพูนทรัพย์" อยู่ห่างจากท่าเรือเขาหมาจอ ประมาณ 5-6 กิโลเมตร ที่นี่มีบ้านแบบหลังใหญ่พักได้ 10 คนด้วยนะครับ แต่จองไม่ทันเต็มไปเสียก่อน ก็เลยได้แบบแยกเป็นห้องๆ แทน แยกกันนอนก็ไม่เป็นไร ขอแค่ปิ้งย่างได้ก็พอแล้ว ก็จัดการจองล่วงหน้าไป เมื่อได้สอบถามรายละเอียดการเดินทางต่างๆ จากที่พักแล้ว ก็ทราบว่า สามารถจองตั๋วเรือไป เกาะขาม และ เกาะแสมสาร กับทางที่พักได้เลย โดยที่พักจะดำเนินการจองให้เฉพาะลูกค้าที่มาพัก แต่ต้องระบุวันล่วงหน้า มีค่าบริการเพิ่มเติม(+50บาท/คน) ซึ่งสำหรับผมเองมันค่อนข้างที่จะคุ้ม กว่าที่จะไปต่อคิวรอแต่เช้าอย่างที่ทราบกัน เพราะมันก็ดูค่อนข้างลำบากเหมือนกัน ที่จะพาเด็กเล็ก และผู้ใหญ่สูงอายุไปรอต่อแถวซื้อตั๋วแต่เช้า อันนี้... ก็คิดว่าซื้อความสะดวกไปครับ
เมื่อรู้ว่าได้ตั๋วเรือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว(จองไว้รอบ 12.00 น.) ก็คลายความกังวลกับเรื่องนี้ไปได้ ที่เหลือก็เป็นเรื่องการเดินทาง ส่วนใหญ่ที่เริ่มต้นออกมาจากโคราช ก็ออกมาช้าได้ ไม่ต้องรีบออกมาตั้งแต่เที่ยงคืน (ตอนแรกกะว่าจะมาไวเพื่อมารอซื้อตั๋ว) ก็เลยได้ออกมาช่วงเช้าๆ แทน เดินทางสบายๆ เรื่อยๆ ส่วนผมออกจาก กทม. ก็ใช้บริการรถตู้ไปสัตหีบ ซึ่งมีหลายวินทั่ว กทม. ใช้เวลาเดินทางแค่ 2 ชั่วโมงหน่อยๆ ก็ถึงแล้ว ยิ่งช่วงเช้าๆ รถไม่ติด ทำเวลาดีมาก ถึงสัตหีบโดยไม่รู้ตัวเลย บอกคนขับให้จอดที่ กม.1 หรือ กม.6 ซึ่งถ้าลง กม.6 ได้ แนะนำให้ลงที่นี่ครับ แล้วต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างเอา ผมลงที่ กม.6 นี้เช่นกัน แต่จะเข้าไปที่พักก่อน ซึ่งมันจะไปทางเดียวกับ “ไปท่าเรือไปเกาะแสมสาร(เขาหมาจอ)" นั่นแหละครับ ถ้าไปท่าเรือ 50 บาท ผมจะเข้าที่พักก่อน เขาคิด 35 บาท
ผมมาถึง “บ้านพักพูนทรัพย์" เร็วมาก ก็เลยมานั่งรอผู้ร่วมทริปที่จะตามมาสมทบ ในระหว่างนี้ก็เดินสำรวจที่พักรอเวลากันสักหน่อย ที่นี่เป็นบ้านพักแบบง่ายๆ สบายๆ นะ เท่าที่ดูมีหลายแบบ มีบ้านหลังเล็กๆ หลายหลังเลย แบบหลังใหญ่นอนหลายคนก็มี หรือแบบประหยัดเป็นอาคารคล้ายห้องแถวก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ซึ่งบรรยากาศทั่วไปช่วงกลางวันก็ร้อนเป็นปกติอ่ะนะ!
สำหรับห้องที่ผมได้จองมานั้นจะเป็นแบบอาคารคล้ายห้องแถวแบบนี้ครับ โดยจองมา 3 ห้อง มีแบบห้องละ 4 คน กับ ห้องละ 2 คน ด้านหน้ามีโต๊ะ เก้าอี้ไว้นั่ง ทานอาหาร (มีเตาปิ้งย่างให้เช่าด้วย)
ตรงนี้จะเป็นส่วนของร้านอาหาร รวมไปถึงอาหารเช้าก็มาทานได้ที่นี่ (ที่พักรวมอาหารเช้า)
เขาว่ากันว่า.. หมูกระทะ อร่อยนะ แต่เสียดายไม่ได้ลอง เพราะมาเที่ยวแบบนี้อยากกินอาหารทะเลมากกว่า อ่ะเนอะ!
สงสัย คุณป้าที่ดูแล เห็นผมนั่งเล่นรอเวลาอยู่นาน จึงหยิบอาหารเช้ามาให้ลองชิมหนึ่งชาม เป็น ข้าวต้มทะเล โดยทุกวันอาหารเช้าก็จะเป็นอะไรง่ายๆ แบบนี้ครับ (มีขนมปัง ชา กาแฟ ด้วย)
ลองเข้าไปชมในห้องพักกันครับ เป็นห้องพักที่อยู่ในอาคารเดียวกัน ขนาดห้องจึงเท่าๆ กัน ห้องนี้เป็นแบบนอนได้ 4 คน ห้องดูกว้างมากนะครับ นี่คือส่วนของห้องนอนเท่านั้น
พอเปิดประตูไปด้านหลัง จะเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้า ที่แต่งตัว และตู้เย็น โดยด้านขวาจะเป็นห้องน้ำ
ห้องนี้เป็นแบบนอน 2 คน เนื่องจากขนาดห้องเท่ากัน แต่มีแค่เตียงเดียว จึงทำให้ห้องดูกว้างมากๆ และส่วนด้านหลัง ห้องน้ำ ก็คล้ายๆ กัน มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบ ทีวี ตู้เย็น แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น และ Wifi
ห้องน้ำดูสะอาด ใหม่ สีสันสดใส มีอีกฝั่ง เป็นส่วนสำหรับอาบน้ำด้วย
สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบท่องเที่ยวแบบประหยัด แวะมาทักทาย ติดตามกันได้นะครับ
CHAILAIBACKPACKER : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
#KOHSAMAESAN
SATTAHIP, CHONBURI.
ได้เวลาอันสมควร สมาชิกผู้ร่วมเดินทางมากันครบ ก็พร้อมออกเดินทางข้ามไปเที่ยว
“เกาะแสมสาร" กันครับ!
เดินทางมาถึง
“ท่าเรือเขาหมาจอ" ได้รับตั๋วเรือมาเรียบร้อย เรือที่จะขึ้นเพื่อข้ามไป “เกาะแสมสาร" เป็นเรือรอบ 12.00 น. ก็นั่นล่ะฮ่ะ.. เป็นเวลาที่พระอาทิตย์ส่งความร้อนมาตรงหัวซะแบบนี้ แล้วท่าเรือแห่งนี้ ก็ไม่มีที่กำบังแดดเสิยด้วยสิ ต้องเดินฝ่าความร้อนไปตามทางที่ยิ่นลงไปกลางทะเล กะระยะจากสายตาก็พอเหนื่อยเหมือนกัน.....
ระหว่างทาง จะได้ยินพี่ๆ ทหารที่มาคอยให้บริการ ตะโกนเรียกตลอดเวลา โดยเฉพาะจวนเจียนเวลาที่เรือจะออกเช่นนี้ ต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งไป คนมารอขึ้นเรือกันเยอะมาก
เรือที่จะเดินทางข้ามไป “เกาะแสมสาร" นั้นเป็นเรือประมงดัดแปลงให้มีเก้าอี้ที่นั่งบนเรือ หรือบางเที่ยวอาจโชคดีได้ลองนั่งเรือทหารบ้าง โดยบนเรือมีที่นั่งและที่กำบังแดดจำกัด ถ้าขึ้นเรือช้าอาจเหลือแต่พื้นที่นั่งตากแดด เพราะแต่ละรอบคนเยอะจริงๆ
“เกาะแสมสาร" สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้วันละ 500 คน (แต่วันหยุดคนเยอะๆ ก็มีเพิ่ม 6-700 คนบ้าง และ วันนี้ก็น่าจะเกิน 500 แน่ๆ) มี ข้อห้าม คือ ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ข้ามไปเกาะแสมสาร / ห้ามใส่บิกินี่ที่เกาะแสมสาร / ห้ามชาวต่างชาติข้ามเกาะแสมสารโดยที่ไม่มีคนไทยมาด้วย อากาศวันนี้ค่อนข้างดี ฟ้าเปิด แดดจัด ทะเลสวยดี!
เรือข้ามไป เกาะแสมสาร มีออกทุกชั่วโมง ตั้งแต่ 9.00 น.- 13.00 น. จากท่าเรือ เขาหมาจอ – เกาะแสมสาร ใช้เวลา เพียง 15-20 นาทีเท่านั้น เรือจะจอดที่ท่าเรือเกาะแสมสาร ฝั่งหาดเทียน
แค่เรือเทียบหาดก็เห็นถึงความสวยของหาดทราย และความใสน้ำทะเลแล้ว
บน “เกาะแสมสาร" มีชายหาดที่สามารถ เล่นน้ำ และทำกิจกรรมทางน้ำได้ คือ หาดเทียน และ หาดลูกลม ซึ่งที่นั่งเรือมาลงตรงนี้ คือ หาดเทียน อยู่ติดกับท่าเรือเลย
เมื่อขึ้นเกาะแล้วเจ้าหน้าที่จะให้มานั่งฟังบรรยาย เป็นความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเกาะแสมสาร
บนเกาะมีกิจกรรมอะไรบ้าง? เที่ยวตรงไหนได้บ้าง? ใช้เวลาฟังทำความเข้าใจไม่นาน
หาดเทียน เป็นหาดแนวยาวสวย อยู่ติดกับท่าเรือ ลงเรือมาก็เจอเลย สามารถ เช่าเตียงผ้าใบ(20 บาท) เช่าเสื่อปูนั่ง(20 บาท) เช่าจักรยานปั่นเล่น เช่าอุปกรณ์ดำน้ำ(50 บาท) ได้ ซึ่งการไปดำน้ำก็ต้องไปลงชื่อกับเจ้าหน้าที่ เพราะก่อนจะนั่งเรือออกไปดำน้ำ ก็ต้องชมการสาธิตการดำน้ำเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่เสียก่อนครับ
เพิงที่พักหลบแดดริมหาด มีเตียงผ้าใบให้เช่านอนเล่น พักผ่อน รับลม กันไป
ด้านซ้ายของหาดเทียนเป็นท่าเรือ จะเห็นนักท่องเที่ยว ขึ้น-ลง ไป-กลับ หมุนเวียน กันตามรอบเรือของตัวเอง
บรรยากาศของ หาดเทียน น้ำทะเลน่าลงเล่นซะจริงๆ
ชิงช้า กับ มุมมหาชน ใครมาที่นี่ แล้วต้องมาถ่ายรูป
บริเวณเล่นน้ำทะเล ของ หาดเทียน จะมีทุ่นกั้นเป็นพื้นที่เล่นน้ำ เพื่อความปลอดภัย
จุดติดต่อขอรับบริการจากเจ้าหน้าที่ ทั้ง ลงชื่อดำน้ำ เช่าเตียงผ้าใบ(20 บาท) เช่าเสื่อปูนั่ง(20 บาท) เช่าจักรยาน เช่าอุปกรณ์ดำน้ำ(50 บาท) เป็นต้น
จุดบริการอาหารและเครื่องดื่ม บริเวณหาดเทียน มีอาหารแบบง่ายๆ อย่างมาม่าคัพ จำหน่าย หรือ เครื่องดื่มเย็นๆ ก็พอมีให้เลือกบ้าง
เที่ยว “หาดเทียน" แล้ว จะลองไปเที่ยว “หาดลูกลม" บ้าง ซึ่งทั้งสองหาดนี้ อยู่กันคนละฝั่งของเกาะห่างกันประมาณ 1 Km. แต่มีรถ รับ-ส่ง (ฟรี) คอยรับ-ส่ง นักท่องเที่ยวทั้งสองหาด ใช้เวลาเดินทาง 5 นาทีเท่านั้น มีรถออกตลอดเวลา (ปริมาณนักท่องเที่ยวทั้งสองหาดมีจำนวน พอๆ กัน จะเลือกเที่ยวหาดไหนก่อนก็ได้ แต่แนะนำให้ไป หาดลูกลม ก่อน แล้วค่อยกลับมาที่หาดเทียน เพราะจะได้นั่งเล่นที่ชายหาด รอรอบเรือกลับที่ท่าเรือได้เลย)
นั่งรถข้ามมาแป้บเดียว ก็มาถึง
“หาดลูกลม" เป็นหาดที่สวยดี บรรยากาศดี แต่คนก็เยอะเช่นกัน
“หาดลูกลม" เป็นหาดที่สวยกว้าง กว้างจนสามารถเล่นวอลเล่ย์บอลชายหาดได้ ที่หาดก็เลยมี Net และลูกบอลให้ ที่นี่จะมีกิจกรรมที่เพิ่มมาอีกอย่าง ก็คือ การนั่งเรือท้องกระจก ดูปะการังใต้น้ำ
ตามใต้ต้นไม้ริมหาด จะเห็นนักท่องเที่ยวนั่งพักผ่อน หลบแดดกันเต็มไปหมด บ้างก็เช่าเสื่อมาปูนั่งเล่น บ้างก็เช่าเตียงผ้าใบ มานอนเล่นหลบแดด
นักท่องเที่ยวสนุกสนานกับการพายเรือคายัค ที่มีบริการให้เช่า
ไหนๆ มาเที่ยวทะเลกันแล้ว ขอลงเล่นน้ำกันซะหน่อย ถึงแม้แดดจะจัด ..แต่เมื่อลงไปในน้ำทะเลแล้วก็รู้สึกเย็นดี
น้ำทะเลใส น่าเล่นมาก ความรู้สึกเหมือน หาดนี้น่าลงเล่นมากกว่าหาดเทียนซะอีกนะเนี่ย เล่นน้ำอย่างสบายใจ มีสุขาและห้องอาบน้ำจืดบนเกาะให้บริการฟรี
หลากหลายกิจกรรมที่หาดแห่งนี้ (มีจุดชมวิวหาดลูกลมด้วย สามารถเดินขึ้นเนินเขาขึ้นไปชมได้)
การดำน้ำ เป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจมาก ซึ่งต้องไปลงชื่อกับเจ้าหน้าที่ เพราะก่อนจะนั่งเรือออกไปดำน้ำ ก็ต้องชมการสาธิตการดำน้ำเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่เสียก่อน การดำน้ำจะพาออกไปดำน้ำเป็นรอบๆ รอบละประมาณ 1 ชั่วโมง มีจำนวนคนจำกัดในแต่ละรอบ บางทีลงชื่อดำน้ำไว้ แต่กว่าจะถึงรอบก็ต้องรอนานเหมือนกัน เนื่องจากคนเยอะ กิจกรรมบางกิจกรรมต้องไปลงชื่อกับเจ้าหน้าที่ และชำระเงิน ณ จุดบริการ เพื่อต่อคิว จัดกันเป็นรอบๆ ไป ซึ่งถ้าเกิดรอนาน หรือเปลี่ยนใจ ไม่อยากไปทำกิจกรรมแล้ว ก็สามารถไปขอรับเงินคืนได้
เรือท้องกระจก ก็เช่นกัน! ลงชื่อไว้ แล้วรอประกาศรอบของตัวเอง และ ถ้าน้ำลง เรือออกไม่ได้ ก็อดดูปะการังเช่นกันนะ
จุดบริการจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่ม แบบง่ายๆ ราคาประหยัด ที่หาดลูกลมก็มีเหมือนกัน ดำน้ำ หรือ เล่นน้ำทะเลเหนื่อยๆ ได้กิน 2 อย่างนี้ ณ ตอนนี้ เหมาะมาก เฉาก๊วยในน้ำเชื่อม(20 บาท) น้ำส้มเกล็ดหิมะ(15 บาท)
หลังจากเที่ยวเล่น “หาดลูกลม" เสร็จแล้วก็นั่งรถบริการกลับไปที่หาดเทียน เพื่อที่จะขึ้นเรือกลับฝั่ง มาถึงหาดเทียน ก็เห็นเรือเทียบท่ารออยู่แล้ว เหมือนจะเป็นเรือ รอบ 16.00 น. (รอบสุดท้ายวันนี้ 16.30 น.) เห็นคนไปรอบนเรือเตรียมกลับกันเพียบ เรือใกล้จะได้เวลาออก เลยตัดสินใจกลับเรือรอบนี้ซะเลย ตรงท่าเรือจะเห็นศาลาหลังเล็กๆ หลังนี้ด้วย ใครมา “เกาะแสมสาร" ต้องเห็นศาลาหลังนี้ผ่านตาแน่นอน
ตอนขากลับแบบนี้ นักท่องเที่ยวจะค่อยๆ ทยอยกลับฝั่ง และส่วนใหญ่จะกลับเรือรอบท้ายๆ เพราะจะได้มีเวลาอยู่บนเกาะนานๆ มาทั้งทีต้องให้คุ้มหน่อย เรือรอบท้ายๆ คนจึงค่อนข้างเยอะ ระหว่างการเดินทางตั้งแต่ข้ามเกาะไปเที่ยว กิจกรรมต่างๆ บนเกาะ จนถึงเดินทางกลับ จะมีเจ้าหน้าที่ทหารคอยดูแลช่วยเหลืออย่างดี บางท่านอาจดูหน้าโหดๆ ไปหน่อย แต่จะใจดี และอัธยาศัยดีนะครับ!
ไม่นานก็กลับมาขึ้นฝั่ง ที่ “ท่าเรือเขาหมาจอ" เช่นเดิม บรรยากาศยามเย็นที่ท่าเรือแห่งนี้ก็ชิลล์เหมือนกันนะครับเนี่ย
เหน็ดเหนื่อยกับการเที่ยวมาทั้งวัน ก่อนจะกลับเข้าที่พักก็ต้อง หาอะไรอร่อยๆ ติดไม้ติดมือไปด้วยสิเนอะ โดยระหว่างทาง
“ท่าเรือเขาหมาจอ – บ้านพักพูนทรัพย์" จะต้องผ่าน ตลาดสดแสมสาร ซึ่งเป็นตลาดที่ติดกับทะเล แน่นอนล่ะ ที่นี่..จะมีอาหารทะเลให้เลือกซื้อ เลือกหา ไปกินกันตามความชอบเลยล่ะ
มาถึง ตลาดสด มีอาหารทะเลขายมากมายหลายร้านมากครับ แล้วก็ดูหลากหลายน่ากินซะด้วยสิ ได้ของสดใหม่กลับไปแน่นอน เพราะบางอย่างนี่ยังเป็นๆ อยู่เลย มื้อเย็นวันนี้ ..ก็คงไม่พ้นอาหารทะเลเหล่านี้!
ผมเห็นมีบริการ นึ่ง ปิ้ง ย่าง ฟรี ของหลายๆ ร้านในตลาดแห่งนี้ แบบว่า..เลือกซื้อ ชั่งกิโล แล้วก็ทำให้เสร็จเรียบร้อยมาเลย ลองสั่งปูตัวใหญ่(เป็นๆ) มาโลนึง 500 บาท นึ่งให้ฟรี... เนื้อปูนี่แบบแน่นมาก จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดนะ อย่างฟิน!
ยำไข่แมงดา นี่ก็น่าสน ขายมาพร้อมน้ำยำเลย จะให้เขาย่าง แล้วแงะไข่ให้ หรือ เอากลับไปทำเองก็ได้
ทีเด็ด .. ก็คงไม่พ้นกุ้งสดๆ นี่ล่ะครับ มีบริการปิ้งย่างให้พร้อม!
แต่สำหรับผม .. นอกจากปูที่ให้เขานึ่งให้แล้ว ก็ขอเลือกอาหารทะเลแบบสดๆ กลับไปปิ้งย่างเองที่ บ้านพักครับ ซื้อลังโฟมพร้อมน้ำแข็งหน้าตลาด ไว้แช่อาหารทะเลที่ซื้อ และ ที่บ้านพัก เขาก็มีบริการเตาปิ้งย่าง พร้อมถ่าน และจานชาม ให้ด้วยครับ ชุดละ 100 บาท ยามเย็นเช่นนี้ก็ถึงเวลาปาร์ตี้ปิ้งย่างครับ ราตรีนี้อีกยาวไกล.....!
จบไปอีกหนึ่งวัน สำหรับทริปเที่ยว “เกาะแสมสาร" ถือว่ามาแชร์ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้ที่สนใจไปเที่ยว เกาะแสมสาร(+ที่พักแสมสาร) หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ ...ขอบคุณครับ!
40 ข้อควรรู้เบื้องต้นก่อนไป "เกาะแสมสาร"
1.
เกาะแสมสาร มีเวลาวันเดียวก็เที่ยวได้ (จาก กทม.)
2.
เกาะแสมสาร อยู่ใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น
3. การเดินทางก็สะดวกสบายขับรถไปเองได้ไม่ไกล แต่วิธีที่นิยม ก็คือ นั่งรถตู้ไปลงที่สัตหีบ
4. ควรนั่งรถตู้ไปแต่เช้าๆ รอบแรกๆ ได้ยิ่งดี
ราคาต่อเที่ยว 150-160 บาท ปลายทางลงสัตหีบ บอกคนขับให้จอดที่ กม.1 หรือ กม.6
5. ถ้าลง กม.6 ได้ แนะนำให้ลงที่นี่ แล้วต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้าง บอกเขาไปว่า
"ไปท่าเรือไปเกาะแสมสาร(เขาหมาจอ)" 50 บาท สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องห่วงจะหลง วินที่นี่ เขารู้งาน เพราะคนที่มาลงตรงนี้ มีแต่คนไปท่าเรือข้ามเกาะกันทั้งนั้น
6. ตรง
กม.6 สามารถโบกรถสองแถวไปได้ด้วย เป็นสองแถว สีฟ้า-น้ำเงิน แต่อยากแนะนำ นั่งวินมอไซค์ ดีกว่า เพราะสองแถวนานๆ มาคัน
7. เมื่อมาถึงที่
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย(ท่าเรือเขาหมาจอ) ก็ซื้อตั๋วข้ามไปเกาะแสมสาร เริ่มแจกบัตรคิว 06.00 น. จำหน่ายตั๋ว 08.00 น.
8. ค่าตั๋ว ไป-กลับ เกาะแสมสาร ผู้ใหญ่ คนละ 300 บาท เด็กตั้งแต่ 3ปีขึ้นไปไม่เกิน 18ปี คนละ 220 บาท ( อายุต่ำกว่า 3 ขวบ ไม่เสียค่าใช้จ่าย) ชาวต่างชาติทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คนละ 600 บาท และ ไม่รับจองล่วงหน้า
9. ตั๋วเรือไปแสมสาร สามารถนำมาเข้าชม
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ได้ด้วย
10.
เกาะแสมสาร กับ เกาะขาม คนละเกาะกัน แต่อยู่ใกล้ๆ กัน ตอนซื้อตั๋ว ซื้อกันคนละที่ แต่ขึ้นเรือที่ท่าเรือเดียวกัน
11. ทุกวันหยุด
เกาะแสมสาร (รวมไปถึง เกาะขาม) คนจะไปเที่ยวกันเยอะมาก ก่อนเดินทางควรทำใจล่วงหน้า เพราะอาจไม่ได้รับความสะดวกสบายอย่างที่ควรจะเป็น เนื่องจากคนเยอะ เรื่องนี้ต้องเข้าใจเจ้าหน้าที่เขาด้วยเนอะ
12.
เกาะแสมสาร เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่มีปิดเกาะ / ส่วน เกาะขาม จะเริ่มปิด ให้ธรรมชาตืได้พักผ่อน ตั้งแต่ 16 พ.ค. นี้ เป็นต้นไป และจะประกาศเปิดอีกครั้ง
13. ก่อนขึ้น เรือไปแสมสาร ควรตุนเสบียงไปด้วย
(บนเกาะ มีอาหารและเครื่องดื่มจำกัด)
14. ระหว่างเดินไปขึ้นเรือจะเป็นท่าเรือที่ไม่มีที่กำบังแดดจึง ค่อนข้างร้อนมาก ในบางเวลาคนต่อคิวรอกันเยอะๆ หาร่มสักคันมาไว้บังแดดด้วยก็ดี
15.
เกาะแสมสาร สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้วันละ 500 คน (แต่วันหยุดคนเยอะๆ ก็มีเพิ่ม 6-700 คนบ้าง)
16.
เกาะแสมสาร มีข้อห้าม คือ ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ข้ามไปเกาะแสมสาร / ห้ามใส่บิกินี่ที่เกาะแสมสาร / ห้ามชาวต่างชาติข้ามเกาะแสมสารโดยที่ไม่มีคนไทยมาด้วย
17. เรือข้ามไปเกาะแสมสาร มีออกทุกชั่วโมง
ตั้งแต่ 9.00 น.- 13.00 น.
18. เรือข้ามไป
เกาะแสมสาร เป็นเรือประมงดัดแปลง มีที่นั่งและที่กำบังแดด จำกัด ถ้าขึ้นเรือช้าอาจเหลือแต่พื้นที่นั่งตากแดด เพราะแต่ละรอบคนเยอะจริงๆ
19. จากท่าเรือ
เขาหมาจอ – เกาะแสมสาร ใช้เวลา เพียง 15-20 นาทีเท่านั้น เรือจะจอดที่ท่าเรือเกาะแสมสาร ฝั่งหาดเทียน
20. เมื่อขึ้นเกาะแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้มานั่งฟังบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับเกาะแสมสาร บนเกาะมีกิจกรรมอะไรบ้าง? เที่ยวตรงไหนได้บ้าง? ใช้เวลาฟังทำความเข้าใจไม่นาน
21. เกาะแสมสาร ไปเช้า-เย็นกลับ ไม่ให้พักค้างบนเกาะเด็ดขาด (ไม่มีที่พักบนเกาะ)
22. ที่มาของชื่อ
"เกาะแสมสาร" มาจาก บนเกาะแสมสาร เคยมีต้นแสมสารอยู่มาก
23. บน
"เกาะแสมสาร" มีชายหาดที่สามารถ เล่นน้ำ และทำกิจกรรมทางน้ำได้ คือ หาดเทียน และ หาดลูกลม
24. ทั้งสองหาดนี้ อยู่กันคนละฝั่งของเกาะห่างกันประมาณ 1 Km. แต่มีรถ
รับ-ส่ง (ฟรี) คอยรับ-ส่ง นักท่องเที่ยวทั้งสองหาด ใช้เวลาเดินทาง 5 นาที เท่านั้น มีรถออกตลอดเวลา
25.
หาดเทียน เป็นหาดแนวยาวสวย อยู่ติดกับท่าเรือ ลงเรือมาก็เจอเลย สามารถ เช่าเตียงผ้าใบ(20 บาท) เช่าเสื่อปูนั่ง(20 บาท) เช่าจักรยานปั่นเล่น เช่าอุปกรณ์ดำน้ำ(50 บาท) ได้ ซึ่งการไปดำน้ำก็ต้องไปลงชื่อกับเจ้าหน้าที่ เพราะก่อนจะนั่งเรือออกไปดำน้ำ ก็ต้องชมการสาธิตการดำน้ำเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่เสียก่อน
26.
หาดลูกลม เป็นหาดที่สวยกว้าง จนสามารถเล่นวอลเล่ย์บอลชายหาดได้ ที่หาดก็เลยมี Net และลูกบอลให้ และที่นี่จะมีกิจกรรมคล้ายๆ กับหาดเทียน แต่มีเพิ่มมาอีกอย่าง ก็คือ การนั่งเรือท้องกระจก ดูปะการังใต้น้ำ
27. เนื่องจากคนเยอะ กิจกรรมบางกิจกรรมต้องไปลงชื่อกับเจ้าหน้าที่ และชำระเงิน ณ จุดบริการ เพื่อต่อคิว จัดกันเป็นรอบๆ ไป ซึ่งถ้าเกิดรอนาน หรือเปลี่ยนใจ ไม่อยากไปทำกิจกรรมแล้ว ก็สามารถไปขอรับเงินคืนได้
28. การดำน้ำจะพาออกไปดำน้ำเป็นรอบๆ
รอบละประมาณ 1 ชั่วโมง มีจำกัดจำนวนคนในแต่ละรอบ บางทีลงชื่อดำน้ำไว้ แต่กว่าจะถึงรอบก็ต้องรอนานเหมือนกัน
29.
เรือท้องกระจกก็เช่นกัน! ลงชื่อไว้ แล้วรอประกาศรอบของตัวเอง และ ถ้าน้ำลง เรือออกไม่ได้ ก็อดดูปะการังเช่นกัน
30. เจ้าหน้าที่ทหารที่คอยให้บริการนักท่องเที่ยวทุกกิจกรรมบนเกาะแสมสาร อาจดูหน้าโหดๆ ไปหน่อย แต่จะใจดี อัธยาศัยดี ติดตลก และเฮฮาดีนะ
31. มีสุขาและห้องอาบน้ำจืดบนเกาะให้บริการ
(และก็มีจำกัดเช่นกัน)
32. มีร้านจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มแบบง่ายๆ เช่น มาม่าคัพ(20 บาท) เฉาก๊วยในน้ำเชื่อม(20 บาท) น้ำส้มเกล็ดหิมะ(15 บาท) น้ำเปล่า เป็นต้น
33. มี
จุดชมวิว ที่หาดลูกลมด้วย สามารถเดินขึ้นเนินเขาขึ้นไปชมได้
34. มี
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ หากสนใจลองติดต่อกับเจ้าหน้าที่ดูได้
35. ปริมาณ นักท่องเที่ยวทั้งสองหาดมีจำนวน พอๆ กัน จะเลือกเที่ยวหาดไหนก่อนก็ได้ แต่แนะนำให้ไป หาดลูกลม ก่อน แล้วค่อยกลับมาที่หาดเทียน เพราะจะได้นั่งเล่นที่ชายหาด รอรอบเรือกลับที่ท่าเรือได้เลย
36. สามารถพบเห็น
หมูป่า เดินนวยนาด อยู่บนเกาะ
37. แม้บนเกาะจะมีระบบจัดการขยะ แต่ในช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวเยอะปริมาณขยะก็จะเยอะไปด้วย ดังนั้นจึง
ควรช่วยกันรักษาความสะอาด ทิ้งขยะในที่ที่จัดไว้ให้
38. เรือขากลับ มีทุกชั่วโมงเช่นกัน
รอบสุดท้าย 16.30 น. (รอบเรือไม่แน่นอน บางวันนักท่องเที่ยวเยอะ ก็มีเสริมรอบเรือบ้าง)
39. ถ้าทำกิจกรรมทางน้ำ ยังไม่เสร็จ เช่น ออกไปดำน้ำข้างนอก กลับมาเกาะ ไม่ทันขึ้นเรือรอบสุดท้าย ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้กลับ สุดท้ายแล้ว เจ้าหน้าที่จะพากลับฝั่งจนได้
40. ขากลับ นักท่องเที่ยวจะค่อยๆ ทยอยกลับฝั่ง และส่วนใหญ่จะกลับเรือรอบท้ายๆ เพราะจะได้มีเวลาอยู่บนเกาะนานๆ มาทั้งทีต้องให้คุ้มหน่อยอ่ะนะ!!
การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER
Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
Instagram : CHAILAIBACKPACKER
Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9
CHAILAIBACKPACKER
วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 16.22 น.