คลิปวิดีโอการเดินทางด้วยคนเดียว
สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคนนะครับ
วันนี้ผมจะเพื่อนๆไปนั่ง รถไฟนำเที่ยวขบวนรถพิเศษ
เส้นทาง กรุงเทพฯ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี
ฝากติดตามเพจด้วยครับ
facebook fanpage : https://goo.gl/Fumgyi [เกรียนแบกเป้เที่ยว]
อย่าลืมกดLike กดShare และ subscribe ด้วยนะครับ
YouTube ►► https://bit.ly/2yFR22w
รถไฟขบวนนำเที่ยว เดินทางไปเช้า-เย็นกลับ
เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์
เป็นกิจกรรมดีๆในทุกๆปี ของการรถไฟแห่งชาติ
ที่จัดในช่วงเดือนที่น้ำเต็มเขื่อนป่าสัก
ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2563 – มกราคม 2564
จะมีการให้บริการในวันที่ 14, 15, 21, 22, 28, 29 พฤศจิกายน 2563
วันที่ 6, 12, 13, 19, 20 ธันวาคม 2563
และวันที่ 9, 10, 16, 17, 23, 24, 30, 31 มกราคม 2564 รวมจำนวน 19 วัน
ค่าบริการ กรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพ
กรุงเทพไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แล้วมาที่กรุงเทพ
รถนั่งชั้น 3 ธรรมดา (พัดลม) ไป-กลับ คนละ 290 บาท
รถนั่งชั้น 2 (ปรับอากาศ) ไป-กลับ คนละ 490 บาท
ไม่ว่าจะชั้น 2 และ 3 ผู้ใหญ่และเด็ก ราคาเดียวกันนะ
สามารถติดต่อซื้อตั๋วก่อนเดินทางล่วงหน้าได้ถึง 30 วัน
ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ หรือโทรจองและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 1690
รถไฟออกเดินทางจาก หัวลำโพง - กลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
เวลาประมาณ 7 โมงกว่าๆ
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
(โดยจะหยุดรับ ส่งผู้โดยสาร ตามสถานีต่างๆ คือ
สามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี
แก่งคอย และแก่งเสือเต้น)
เมื่อเริ่มเดินทาง พี่ๆ ประชาสัมพันธ์ของการรถไฟ
จะมาให้คำแนะนำและแจกโปรชัว ตารางเวลา และรายละเอียด
อากาศตอนนี้ร้อนมากเลย เพราะเรานั่งชั้น 3 มา
เพราะเฉพาะอย่าลืม พกร่ม หมวก ครีมกันแดด หรือสวมเสื้อผ้าสบายๆ
ในระหว่างทางนั้น จะมีพ่อค้าและแม่ค้า มาขายอาหาร
ผมซื้อ ข้าวเหนียวหมู ห่อละ 30 บาท
น้ำดื่ม ขวดละ 10 บาท ผ้าเย็น 15 บาท
ห้องน้ำในขบวน บางตู้ก็เป็นแบบโถนั่ง
บางตู้ก็เป็นนั่งยอง
ผมถึงจุดชมวิว “รถไฟลอยน้ำ”
กลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ขบวนรถจะหยุดกลางสันเขื่อน ประมาณ 30 นาที
ในที่สุดผมก็มาถึงจุดชมวิวรถไฟลอยน้ำ
และจากนั้นเจ้าหน้าที่จะปล่อยให้คนทั้งขบวนลงมาจากรถไฟ
เพื่อดื่มด่ำความสวยงามและถ่ายรูปได้อย่างเต็มที่
ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีวิวแบบนี้ให้เห็นในประเทศไทย
มุมสวยที่สุดสำหรับผม
ผมคิดว่าน่าจะเป็นบริเวณหน้าหัวเครื่องจักร
เพราะภาพทั้งขบวนเลย โค้งตามทางรถไฟ
การที่เราจะเดินไปหน้าหัวเครื่องจักร
ใครที่ได้นั่งคันที่เลขน้อยก็เดินไปหัวขบวนได้เร็วกว่า
และแน่นอน รถนั่งชั้น 2 คือ
โบกี้ที่อยู่ไกลที่สุดนั่นเอง
30 นาทีต่อมา
จากนั้นรถไฟเดินทางต่อไปที่สถานีโคกสลุง (กลับรถจักร)
ที่นี่มีสินค้ากลุ่มชุมชนท้องถิ่นให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อกัน
ตอนนี้เราอยู่กันที่สถานีโคกสลุงนะครับ
โดยเจ้าหน้าที่จะให้เวลากับนักท่องเที่ยวประมาณ 30 นาที
จากนั้นขบวนรถไฟ ก็ไปส่งนักท่องเที่ยวที่ตัวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ก่อนที่ขบวนรถไฟจะมุ่งหน้าไปอีกสถานีหนึ่ง
เพื่อไปทำความสะอาดในตู้ขบวน
และหลีกให้ขบวนสายหลักผ่าน
เราจะอยู่ที่นี่ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
ให้ทุกคนได้ทำกิจกรรมต่างๆตาม อัธยาศัย
ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานกลางวัน
กิจกรรมการแสดงวิถีชีวิตของชุมชนไทยเบิ้ง
จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง OTOP
และไฮไลท์ของที่นี่
คือนั่งรถตัวหนอนชมบรรยากาศสันเขื่อน
แล้วไปสักการะพระใหญ่
อ.วังม่วง จ.สระบุรี
ผมกินข้าวผัดหมู ราคา 40 บาท และซื้อน้ำดื่ม 25 บาท
ท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผา
ผมเช่ารถจักรยาน เพื่อมุ่งหน้าไปยังสันเขื่อนๆ
ผมได้พบกับน้ายาม เราพูดคุยกันซักพักเกี่ยวกับเขื่อนป่าสัก
ก่อนมาพบกับพี่สมชาย อายุ 62 ที่เพิ่งปั่นจักรยานมาทางนี้
ผมมาจากชัยภูมิครับ
จะกลับนครนายก โอ้โห้ค่ำไหนนอนนั่นเลย
ใช่ครับผม ผมไปมาทุกอำเภอเลย 10 กว่าวัน
12-13 วันครับผม เฉพาะจังหวัดชัยภูมิ
เราจะเข้าที่พัก
วัดบ้าง โรงเรียนบ้าง
พี่ก็ปั่น 7โมงเช้าจนถึงเย็น แล้วก็พักกลางคืน
เมื่อเราได้พูดคุยกันประมาณ 15 นาที
ผมก็ขอตัวแยกจากพวกพี่เขา เพื่อไปขึ้นรถไฟเดินทางกลับไปที่กรุงเทพ
ขบวนรถไฟเที่ยวกลับ ออกจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 16.30 น.
และผมก็มาถึงปลายทางที่ กรุงเทพ เวลา 18.50 น.
ยิ้มแบกเป้เที่ยว RoamingYim
วันพฤหัสที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 21.49 น.