หากเอ่ยถึงบรรดายอดเขาทั้งหลายที่อยู่ในประเทศไทยสำหรับการเดินป่า ที่ติด top 5 คุณต้องเคยได้ยินชื่อนี้แน่นอน "ภูสอยดาว" วันนี้เราจะไปกัน
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีเนื้อที่ประมาณ 212,633 ไร่ หรือ 340.21 ตารางกิโลเมตร อยู่ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดพิษณุโลก เราจึงขับรถมุ่งหน้าสู่ อำเภอชาติตระการ จ.พิษณุโลก นอนพักที่นี่สักหนึ่งคืน รุ่งเช้าเราก็แวะตลาดป่าแดง ในตัวอำเภอชาติตระการ ซื้อเสบียงแล้วก็พุ่งไปยัง อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวทันที
![](/f/36136/5fdc51a43719744bc9ad6a24.jpg)
เราใช้เวลาขับรถประมาณชั่วโมงครึ่งก็มาถึงที่ทำการอุทยาน นำของลงเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ไปยังจุดบริการที่ 1 เพื่อลงทะเบียน ว่ามากันกี่คน ชื่ออะไรบ้าง ขึ้นยอด 2,102 มั้ย เบอร์ติดต่อฉุกเฉิน ต่างๆ แล้วนำเอกสารที่ได้ เดินต่อไปยังจุดบริการที่ 2
![](/f/36136/5fdc521c7c6e674bc091270e.jpg)
จุดบริการที่ 2 นี้ก็เป็นการชั่งน้ำหนักของ ที่จะจ้างลูกหาบแบกขึ้นไปด้านบน (กิโลละ30บาท) มีค่าแท๊กใบละ 5 บาท ด้วย ของใบใหญ่หน่อยก็ใช้ใบนึง ของเล็กๆ สองสามชิ้นชั่งรวมกันก็ใช้แท๊กใบนึงเพื่อเขียนน้ำหนัก แล้วก็เช็คว่าใครจะเอาหมอนผ้าห่มผ้านวมกี่อัน เจ้าหน้าที่จะจดใส่กระดาษไว้ ให้เราไปยื่นเบิกของด้านบนลานสน แล้วค่อยกลับมาชำระที่นี่ในวันขากลับลงมา
![](/f/36136/5fdc52e97c6e674bc091270f.jpg)
นี่คือโฉมหน้าและสภาพโดยรวมของผู้ท้าชิงขึ้นสู่ลานสนภูสอยดาว ถ่ายรูปรวมกันไว้สักหน่อย
![](/f/36136/5fdc536e3719744bc9ad6a27.jpg)
และก็จะมีรถของเจ้าหน้าที่ ขับพาเราไปส่งยังน้ำตกภูสอยดาว ซึ่งก็เป็นทางเดินขึ้นนั่นแหละ สาเหตุที่ไม่ให้นำรถไปจอดเพราะว่า พื้นที่มีน้อย ให้เฉพาะคนที่ไปน้ำตก ไปเช้าเย็นกลับได้ ถ้าใครจะขึ้นลานสนภูสอยดาวต้องจอดรถไว้ที่ทำการอุทยานเท่านั้น เจ้าหน้าที่ไปส่งให้ไม่ได้เสียค่าบริการเพิ่มแต่อย่างใด
![](/f/36136/5fdc53ff3719744bc9ad6a28.jpg)
![](/f/36136/5fdc540e7c6e674bc0912711.jpg)
ลงรถกัน ณ จุดนี้ ก็ถ่ายรูปกันสักหน่อย ตรงนี้มีร้านข้าว อาหารตามสั่ง ก็แวะทานรองท้องก่อนขึ้นก็ดี จะได้มีแรง ต้องใช้พลังงานเยอะมาก แต่ระวังกินมากขี้แตก ระหว่างทางไม่มีห้องน้ำนะ
![](/f/36136/5fdc55027c6e674bc0912713.jpg)
เริ่มสตาร์ทกันที่เวลา 10.30 น. โดยประมาณ เป็นเส้นทางเดินลัดเลาะน้ำตกภูสอยดาว ตามสภาพภูมิประเทศ มีขึ้นลงบันไดบ้าง
![](/f/36136/5fdc55e87c6e674bc0912716.jpg)
![](/f/36136/5fdc55f83719744bc9ad6a29.jpg)
![](/f/36136/5fdc56097c6e674bc0912717.jpg)
![](/f/36136/5fdc56197c6e674bc0912718.jpg)
ในช่วงแรกนี้จะมีการข้ามลำธาร จากซ้ายไปขวา แล้วก็จากขวาไปซ้าย แล้วก็จากซ้ายไปขวา อีกที ง่ายๆคือข้ามลำน้ำตกเนี้ยสามเที่ยว เอออย่าลืมเอาอาหารกลางวันและน้ำดื่มมาด้วยล่ะ น้ำดื่มนี่คนละสองลิตรอย่างต่ำนะ... เพราะเดินไกลและเหนื่อยมากด้วย ไม่มีร้านค้าระหว่างทางนะ ย้ำอีกครั้ง
![](/f/36136/5fdc57db7c6e674bc091271d.jpg)
![](/f/36136/5fdc57067c6e674bc0912719.jpg)
![](/f/36136/5fdc57177c6e674bc091271a.jpg)
และก็ถึงเนินแรก เนินส่งญาติ ซึ่งที่เดินผ่านมานั้น มันไม่ใช่เนินส่งญาตินะ มันเป็นแค่วอล์มเครื่องที่ทำให้เหงื่อแตกเต็มหน้าได้เหมือนกัน หลังป้ายนี้ไปนี่แหละเขาเรียกว่า เนินส่งญาติที่แท้จริง
![](/f/36136/5fdc57917c6e674bc091271b.jpg)
ขึ้นไปได้แปปเดียวถึงกับต้องเบรกกันเลย...
![](/f/36136/5fdc57b47c6e674bc091271c.jpg)
เราค่อยๆไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงเนินที่ 2.เนินปราบเซียน 3.เนินป่าก่อ 4.เนินเสือโคร่ง
![](/f/36136/5fdc58627c6e674bc091271e.jpg)
และที่ไฮไลท์ก็เนินสุดท้ายภายภาคหน้าที่เห็นนี้คือ เนินมรณะ
![](/f/36136/5fdc58fb7c6e674bc0912720.jpg)
![](/f/36136/5fdc590c7c6e674bc0912721.jpg)
ระยะทางของเนินนี้ไม่ได้ไกล แต่มีความชันมาก ต้องใช้พลังที่มีใส่เกียร์ต่ำขึ้นกันเลย ซึ่งพลังที่ว่าหมดตั้งแต่เดินมาถึงเนินส่งญาติแล้วววว.....
![](/f/36136/5fdc597f7c6e674bc0912722.jpg)
![](/f/36136/5fdc598c7c6e674bc0912723.jpg)
ยิ่งขึ้นสูงก็ยิ่งมองได้กว้าง...
![](/f/36136/5fdc59b43719744bc9ad6a2a.jpg)
ลิ้นห้อยกันเลยทีเดียว
![](/f/36136/5fdc5a5f7c6e674bc0912724.jpg)
![](/f/36136/5fdc5a7a3719744bc9ad6a2b.jpg)
![](/f/36136/5fdc5a887c6e674bc0912725.jpg)
และแล้วก็คลานกันมาพิชิตลานสนภูสอยดาวได้ในเวลาประมาณเจ็ดชั่วโมง มาถึง 17.30 น.
![](/f/36136/5fdc5ac37c6e674bc0912726.jpg)
เลยนั่งชมพระอาทิตย์ตกตรงนี้มันซะเลย แล้วค่อยเดินไปอีกประมาณห้าร้อยเมตรถึงจะเจอจุดลานกางเตนท์
![](/f/36136/5fdc5afe7c6e674bc0912727.jpg)
รับของจากลูกหาบ กางเต็นท์ ทำกับข้าว กินข้าว อาบน้ำ
![](/f/36136/5fdc5b263719744bc9ad6a2c.jpg)
ร่างกายร้อนปนหนาว เหมือนคนจะเป็นไข้ เพราะข้างในร่างกายเผาผลาญอย่างหนัก แต่ภายนอกโคตรหนาว ก่อกองไฟ ให้ไออุ่นดีกว่า
![](/f/36136/5fdc5b7a7c6e674bc0912728.jpg)
![](/f/36136/5fdc5b8a7c6e674bc0912729.jpg)
ภูสอยดาวก็ต้องมีดาว แหงนไปบนท้องฟ้าที่นี่ มีดาวระยิบระยับ เต็มท้องฟ้าไปหมด ถ่ายได้ ไม่น่าจะเกินห้านาที หนาวก็หนาว เพลียก็เพลีย เข้าเต็นท์นอนดีฟ่า แบกขาตั้งกล้องขึ้นมาใช้ไม่ถึงห้านาที 5555
![](/f/36136/5fdc5d897c6e674bc091272c.jpg)
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่อุณหภูมิยอดหญ้าประมาณสิบเอ็ดถึงสิบสององศา ก็เตรียมตัวกันพิชิต ยอด 2,102 เมตร กัน เหมือนเดิมคือเอาร่างกาย อาหารและน้ำไป
![](/f/36136/5fdc5c617c6e674bc091272a.jpg)
![](/f/36136/5fdc5c727c6e674bc091272b.jpg)
มีค่าใช้จ่ายเพิ่มตรงนี้อีกคนละ 500 บาท ซึ่งพวกเราชำระมาตั้งแต่ด้านล่างตรงที่จ้างลูกหาบแล้ว เตรียมใจมาขึ้นแล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งตั้งแต่ข้างล่างแล้วว่า ถ้าไปถึงลานสนแล้ว เปลี่ยนใจไม่อยากขึ้นยอด ก็กลับลงมาเอาตังค์คืนได้
![](/f/36136/5fdc5df23719744bc9ad6a2d.jpg)
เริ่มออกเดินเท้าอีกครั้ง เวลาประมาณ 08.15 น. (มาลงทะเบียนก่อน08.00น.) ยอดเขาที่อยู่เบื้องหน้านั่นแหละ คือที่ที่เราจะไปพิชิตกัน
![](/f/36136/5fdc5e3b7c6e674bc091272d.jpg)
มีเจ้าหน้าที่ไปด้วยสองนาย เพื่อดูแลความปลอดภัยระหว่างปีนให้พวกเรา
![](/f/36136/5fdc5ee37c6e674bc091272e.jpg)
แวะเบรคสถานีแรก "ไผ่กงจักร" บริเวณนี้ไผ่กงจักรเยอะ ระวังเกี่ยวมือเกี่ยวขาด้วย
![](/f/36136/5fdc5fa27c6e674bc091272f.jpg)
สถานีที่ 2 "ห้วยลึก" มันลงร่องระหว่างเขา ไม่อยากจะลงหรอกนะ เพราะการลงเนี่ยก็ต้องยิ่งขึ้นแบบสูงไปอีก
![](/f/36136/5fdc5fc37c6e674bc0912730.jpg)
มันเริ่มมีเชือกมาให้ไต่ละ
![](/f/36136/5fdc5fee7c6e674bc0912731.jpg)
สถานที่ 3 "เมเปิ้ล" ช่วงตรงนี้ก็จะมีต้นเมเปิ้ลที่ใบกำลังเปลี่ยนสีในฤดูหนาวเป็นสีแดง ตัดกับสีเขียวของใบไม้จากต้นอื่น ไม่ได้ถ่ายไว้ เริ่มเหนื่อย และ
![](/f/36136/5fdc60a37c6e674bc0912732.jpg)
สถานีที่ 4 "ดงกล้วยป่า" น่าตัดเอาหยวกกล้วยไปต้มกิน...
![](/f/36136/5fdc60dc7c6e674bc0912733.jpg)
![](/f/36136/5fdc60ea3719744bc9ad6a2e.jpg)
![](/f/36136/5fdc60fe7c6e674bc0912734.jpg)
สถานีที่ 5"เริ่มปีนเขา" ตามชื่อเลย เริ่มปีนบวกกับเดินขึ้นทางชัน บ้างละ เจ้าหน้าที่บอกว่าใครไม่ไหวก็กลับได้นะ อย่าฝืน แต่ก็ไม่คืนเงินแล้วนะ..ถือว่าเดินมาแล้ว เรายังไหวกันอยู่....
![](/f/36136/5fdc61413719744bc9ad6a2f.jpg)
สถานีที่ 6 "ที่พักริมผา" ไม่ได้ถ่ายไว้ เพราะเป็นทางชัน มีที่พักอยู่นิดนึงริมผา
![](/f/36136/5fdc61897c6e674bc0912735.jpg)
สถานีที่ 7 "หวายป่า" จากจุดนี้ไปจะขึ้นแบบชันๆกันเลย ชันแบบไม่มีอะไรกั้นด้วย ขอนำเสบียงที่จะมากินตอนเที่ยง เอาออกมากินสักสี่ห้าคำก่อน เพราะตอนเช้า ไม่ได้กินข้าวมากินขนมปังมาสองแผ่นเอง เดี่ยวไม่มีแรง
พักสักแปปก็เก็บโทรศัพท์ไม่ถ่ายอะไรและ เพราะสองมือนี่ต้องเกาะรากไม้ เกาะเชือกพาตัวเองขึ้นสู่ด้านบน
สถานีที่8 ทางหมูป่า สถานีที่9 ดงเลียงผา
![](/f/36136/5fdc62f57c6e674bc0912736.jpg)
สถานีที่ 10 จุดโรยตัว ตรงนี้เจ้าหน้าที่จะมารอรับและรอส่งทั้งสองคนเลย พอผ่านจุดนี้ไป เดินขึ้นไปอีกอึดใจเดียวก็จะถึงยอดสูงสุดแล้ว
![](/f/36136/5fdc63237c6e674bc0912737.jpg)
เรามาถึงแล้ว.....
![](/f/36136/5fdc635a7c6e674bc0912738.jpg)
![](/f/36136/5fdc63787c6e674bc0912739.jpg)
![](/f/36136/5fdc63817c6e674bc091273a.jpg)
![](/f/36136/5fdc64097c6e674bc091273b.jpg)
และนี่คือผู้ผ่านความทรหด ที่คลานกันมาถึงจุดนี่ได้... มีผู้ถอนตัวระหว่างทางไปสองคน
และแน่นอน ที่ขึ้นว่ายากและเหนื่อยแล้ว ตอนลงแม่งยากยิ่งกว่า ขึ้นชันเท่าไหน มองลงไปเสียวกว่าเดิมสองเท่า แรงก็น้อยด้วย ต้องลงอย่างระมัดระวัง มีสมาธิตลอด เกร็งทั้งตัวตั้งแต่หัวยันฝ่าเท้า ซึ่งก็ไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูปเลย จนลงมาด้านล่าง
![](/f/36136/5fdc65a87c6e674bc0912746.jpg)
![](/f/36136/5fdc65b97c6e674bc0912747.jpg)
ลงมายืนอย่างภูมิใจว่ากูรอดตายลงมาได้แล้ว และมองกลับไป ไอห่า ขึ้นแล้วลงมาได้อย่างไร สูงชิบหาย...
ที่เห็นยอดแหล่มๆนั่นแหละ ที่เราไปกันมาเมื่อกี้ ลงมาถึงก็สี่โมงเย็น ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง แม่เจ้า...
![](/f/36136/5fdc66353719744bc9ad6a41.jpg)
![](/f/36136/5fdc66447c6e674bc091274c.jpg)
อาหารเย็นวันนี้ ก็จัดเต็มกันไปเลย มีเท่าไหร่ ใส่ให้เต็มที่
![](/f/36136/5fdc667b7c6e674bc091274d.jpg)
เช้าวันรุ่งขึ้น เก็บของเดินทางกลับ เช่นกันขาลง เจ็บปวดขาเหมือนเดิม ใช้กำลังขาในการเบรคร่างกายตอนลงเยอะทีเดียว ขาลงใช้เวลาน้อยกว่าขาขึ้นเยอะ เราใช้เวลาในการลงสี่ชั่วโมง
![](/f/36136/5fdc670f7c6e674bc0912750.jpg)
แวะประทับตรา ได้อีกหนึ่งที่ และนั่งรถกลับไปยังที่ทำการอุทยาน
![](/f/36136/5fdc67753719744bc9ad6a43.jpg)
![](/f/36136/5fdc67813719744bc9ad6a44.jpg)
![](/f/36136/5fdc678a7c6e674bc0912755.jpg)
![](/f/36136/5fdc67937c6e674bc0912756.jpg)
มาถึงที่ทำการอุทยาน ชำระค่าลูกหาบและอุปกรณ์เครื่องนอนที่เช่าบนลานสนเสร็จ เอาของจากลูกหาบ แล้วไปติดต่อที่จุดบริการที่ 1 เขาจะปริ้นเกียรติบัตรนี้ให้
คำเตือน...
1.ด้านบนไม่มีร้านค้า เตรียมของกินไปให้พอไม่เหลือไม่ขาด
2.ด้านบนมีน้ำฝนและน้ำจากลำธาร ที่เจ้าหน้าที่รองใส่ถังไว้กรอกใส่ขวดดื่มได้ มีตู้กดน้ำดื่มที่ต่อจากน้ำฝน หากน้ำฝนหมด ก็ดูดน้ำจากลำธารมากรองแทน ลิตรละ 20 บาท ตู้ใช้เหรียญ 5-10 บางวันเหรียญหมดไม่มีแลก ส่วนน้ำที่หุงหาอาหาร ก็ไปเอาในถังที่เจ้าหน้าที่สูบจากลำธารมาพักไว้ มีที่สำหรับล้างจานให้
3.ด้านบนไม่มีถังขยะ ท่านเอาขยะไปเท่าไหนเก็บลงมาด้วย มีแค่ที่ทิ้งแค่เศษอาหาร
4.ด้านบนมีห้องน้ำแต่ไม่มีน้ำ ต้องไปตักในลำธารมาใช้(เช่าถังและขันด้วย)กะให้พอนะ และในห้องน้ำก็ไม่มีถังขยะนะ ถ้าจะไม่ใช้น้ำ ใช้กระดาษเช็ดตูดเช็ดก้นเอากลับลงมาด้วย หลายห้องด้านบนมีคนมักง่ายถ่ายไม่ราด ทิ้งทิชชู่เปียกไว้ พร้อมขี้ลอยอยู่คอห่าน แล้วใครจะไปใช้ต่อ
เราจะไม่ทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้า เราจะไม่เก็บอะไรไปนอกจากความทรงจำ คงเป็นสโลแกนประจำของอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศของไทยที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการ พวกเราก็เช่นกัน ที่การเดินทางครั้งนี้ มีความประทับใจ มีความทรงจำ มีเรื่องราวให้คุยกันไปได้อีกหลายเรื่องในระยะเวลาต่อจากนี้ไปอีกหลายๆปีก่อนที่ความทรงจำจะค่อยๆลบเลือนกันไป จุดหมายด้านบนอาจพอๆกับอีกหลายๆที่ที่เคยไป หากแต่ระหว่างทางที่ไปนี่แหละที่ยังคงสำคัญพอๆกับปลายทางหรืออาจจะสำคัญกว่าด้วย เพราะระหว่างทางเนี่ยยาว จุดหมายไปถึงแล้วสั้น ทุกสิ่งอย่างน่าจดจำเสมอ... ขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาเขียนเรื่องราวในชีวิตเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งครั้ง
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตำบล ห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด อุตรดิตถ์ 53110
พิกัด https://goo.gl/maps/aCcE1VZohm...
++++ เผื่อมีอะไรไถ่ถาม ฝากติดตามเพจด้วยนะคุณที่รัก ++++
https://www.facebook.com/travel1night2days
Sikhorn Palanan
วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.11 น.