ทริปนี้เกิดจากช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมต้องทำงานและไม่ได้กลับบ้าน เห็นเพื่อนๆโพสรูปพาครอบครัวไปเที่ยวกัน เห็นแล้วมันอิจฉา ส่วนตัวเราต้องขึ้นเวรทำงานยาว เป็นการทำงานที่ทรมานจิตใจมาก เห็นคนอื่นไปเที่ยวแล้วเราก็อยากไปเที่ยวบ้างแต่ทำไงได้ หน้าที่ของเราต้องรับผิดชอบกันไป แต่อย่าให้ถึงทีผมเที่ยวบ้างน่ะ 2 วันก็จะไป ดูตารางเวรแล้วได้หยุด 2 วันติดกันช่วงหลังสงกรานต์ จะรออะไรหละครับ หาตั๋วไปภูเก็ตกันเลย พอได้ตั๋วเสร็จขั้นตอนต่อมาคือจองทัวร์ไปเกาะสุรินทร์ ซึ่งเป็นเกาะที่ผมยังไม่เคยไป ทัวร์ก็มีหลายเจ้าเลยครับ ทั้ง เลิฟอันดามัน ซีสตาร์ ว้าวอันดามัน ผมเลือก เลิฟอันดามัน ด้วยเวลาที่มีน้อยและงานยุ่ง เลยเลือกเอาที่สะดวกไม่อยากติดต่อหลายอย่างเอาที่เดียวให้จบไปเลย ที่นี้มีทั้งแพ็คเกจที่พักรวม ทริปดำน้ำ

รถรับส่งรวมอยู่ด้วยครับและอีกอย่างผมก็ใช้บริการของเลิฟอันดามันอยู่เป็นประจำอยู่แล้วไว้ใจได้ครับ

มาที่เรื่องแรกกันเลย


ตั๋วเครื่องบิน

Air Asia คนละ 1215 บาท/คน ขาไปไฟท์แรกเลยครับ

ส่วนขากลับจองหลัง 2ทุ่ม เพราะกลัวจะกลับจากทริปดำน้ำไม่ทัน

ทริปดำน้ำพร้อมที่พัก 2 วัน 1 คืน พร้อม รถรับ-ส่ง

Love Andaman + Mazi design hotel คนละ 3300 บาท

อื่นๆ

ค่ากิน ร้านวันจันทร์ คนละ 260 บาท

ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ คนละ 125 บาท

ค่ารถตู้จากสนามบิน-โรงแรม คนละ 150

รวมทั้งทริป คนละ 5050 บาท

เอาหละครับ พอทราบค่าใช้จ่ายกันคราวๆแล้ว ก็มาถึงรายละเอียดกันบ้าง ผมจะขอเล่าตั้งแต่ออกจากสนามบินเลยน่ะครับ


เราเดินทางกันในวันที่ 18 เมษายน 2559 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เป็นความโชคดีอีกอย่างครับ ที่ได้เที่ยวหลังสงกรานต์เพราะช่วงนี้ตั๋วเครื่องบินราคาไม่แพงครับ มาถึงสนามบินภูเก็ต ประมาณ 8.30 น ครับ ตอนแรกจะนั่งแท็กซี่เข้าโรงแรม ราคาโหดมาก ไปป่าตองเที่ยวเดียว 800 บาท ดีน่ะครับที่เรามาบ่อย เรื่องอะไรจะยอมจ่ายแพง ขึ้นรถตู้สิครับ คนละ 150 บาท ประหยัดได้เยอะทีเดียว ส่งถึงหน้าโรงแรม ซื้อตั๋วที่หน้าทางออกเลยครับ นักท่องเที่ยวบริการเยอะ สะดวกปลอดภัย ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินมาที่โรงแรม ประมาณ 1.30 ชม ครับ รถติดมากในภูเก็ต จะไปสนามบินหรือที่ใหนเผื่อเวลาไว้ด้วยน่ะครับ

มาถึงโรงแรมประมาณ 10 โมง ยังเช็คอินไม่ได้ เลยฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อน แล้วไปเดินหารถมอเตอร์ไซค์เช่าครับ ได้วันละ 250 บาท หลังจากได้มอเตอร์ไซค์คู่ใจแล้ว ไม่รู้จะไปใหนเพราะอากาศร้อนมาก เลยแวะเข้าไปเยี่ยมเพื่อนและหลาน อยู่ที่บ้านเพื่อนถึงบ่ายโมง โรงแรมก็โทรมาแจ้งห้องพักได้แล้ว ไม่รอช้ารีบกลับเข้าโรงแรมไปอาบน้ำ นอนพักผ่อน ตอนเย็นเพื่อนจะมารับไปกินข้าวร้านวันจันทร์และพาไปเดินตลาด chillva market ครับ


Chillva Market


นัดกับเพื่อนไว้ ห้าโมงครึ่งครับ ไปถึง chillva market ประมาณ 6โมงนิดๆ chillva market มีหลายโซนครับ แต่โซนที่เด่นคือโซนตู้คอนเทนเนอร์ที่จะเน้นขายอาหารและเครื่องดื่มเป็นส่วนมาก วันนี้มีร้านค้าไม่มากคงเป็นเพราะเราไปวันธรรมดา คนไม่ค่อยเยอะ เดินดูสัก10นาทีก็หมดแล้วครับ ใครอยากมาที่นี้แนะนำมาวันเสาร์ อาทิตย์ เพื่อนบอกว่าจะมีร้านค้าและตลาดนัดเยอะกว่านี้มาก เอาเป็นว่ามาเยี่ยมชมสถานที่ใหม่ๆกัน ไม่ซีเรียสครับ เดินถ่ายรูปสบายๆ อากาศก็ไม่ค่อยร้อนมาก

ร้านวันจันทร์


นั่งคุยกันสักพักท้องเริ่มหิว ความตั้งใจทีแรกคิดว่าจะไปร้านหมอมูดง แต่ดูแล้วสงสารหลาน เลยหาอะไรกินใกล้ๆ มาคราวนี้ตั้งใจมากินร้านวันจันทร์

โดยเฉพาะ อยากจะรู้รสชาติเป็นยังงัย มาภูเก็ตหลายครั้งแล้วยังไม่มีโอกาสได้มาสักที คราวนี้ต้องมาลองสักหน่อย มาดูเมนูที่สั่ง กันครับ

แกงปูใบชะพลู จานนี้เป็นทีเด็ดเลยครับ ใครมาแล้วไม่สั่งถือว่าผิด อร่อย เนื้อปูเยอะมาก

น้ำพริกกุ้งเสียบ รสชาติยังไม่โดนใจครับ แซ่บไม่ถึงทรวง

ผัดผักเหมียงผัดไข่กุ้งเสียบ เมนูนี้ถูกใจภรรยาครับ ผมให้ผ่านครับ

ข้าวตังหน้าตัง เมนูนี้ไม่ได้ชิม พี่อีกคนที่ไปด้วยกัน บอกว่าอร่อยครับ และน้ำราดเป็นสีขาว เคยเห็นแต่สีเหลือง แปลกดีครับ

ข้าวผัดปู เนื้อปูได้เยอะคุ้มค่ากับราคา รสชาติใช้ได้ครับ

Mazi Design Hotel


หลังจากทานข้าวกันเสร็จ ก็กลับโรงแรมเลยครับ กลับไปพักผ่อน จัดกระเป๋าเตรียมตัวไปเที่ยวเกาะสุรินทร์พรุ่งนี้ และต้องเช็คเอาท์แต่เช้า เอากระเป๋าไปฝากที่ท่าเรือของเลิฟอันดามันเลยครับ ตอนแรกคิดว่าจะไม่รีวิวโรงแรมแล้ว อยากมาเที่ยวพักผ่อน แต่มันก็อดไม่ได้ครับ ถ้าเจออะไรดีๆก็อยากจะบอกต่อ

มาซิ ดีไซน์ โฮเทล บายด์ คาลิม่า คือชื่อเต็มๆครับ ทำเลที่ตั้งอยู่ที่ป่าตอง สะดวกต่อการเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวกมีให้ครบ


ทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ ร้านอาหาร สระว่ายน้ำของที่นี้ถึงแม้จะไม่ได้วิวหรือบรรยากาศรอบๆแต่มีม่านน้ำตกเข้ามาเพิ่มลูกเล่นทำให้ดูแล้วมันไม่ธรรมดา น่าเล่นครับ

อีกจุดหนึ่งที่ถูกใจคือล็อบบี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นโรงแรมที่ไม่ใหญ่ แต่ล็อบบี้ที่นี้ออกแบบได้สวย อลังการ สวยกว่าโรงแรม 5ดาวบ้างทีเสียอีกครับ


รอบๆล็อบบี้มีรูปวาดติดตามผนัง ใช้เป็นมุมถ่ายรูปได้เยอะเลยครับและที่สำคัญอยู่ใกล้ตลาดด้วยครับ หิวเมื่อไรก็แวะไปได้

ห้องพักใช้สีโทนสีขาวดำ ตกแต่งได้เก๋ ดูเทห์ดี เตียงนอน ข้าวของเครื่องใช้ยังใหม่และสะอาดมากครับคงเป็นเพราะที่นี้เปิดได้ไม่นาน


และที่สำคัญและหาได้ยากครับกับโรงแรมราคา หลักพันต้นๆที่จะมีหมอนให้เยอะแบบนี้ ถ้าใครต้องการที่พักที่สะดวกต่อการเดินทาง

ดูดีมีอาหารเช้า และราคาไม่แพง แนะนำที่นี้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งครับ คุ้มค่าคุ้มราคา

เสียงนาฬิกาปลุก ตี 5 ไม่อยากลุกออกจากที่นอนเลย นอนสบายมาก แต่ต้องเตรียมตัวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บกระเป๋าไปดำนำกัน


เมื่อวาน ทางรถตู้โทรมานัดเวลา 6.10 น. หลังจากจัดการกับตัวเองและสิ่งของเสร็จแล้ว ลงจากห้อง 6 โมงตรง คิดไว้ว่ารถตู้คงมารับเลทแน่ๆ

จะไปกินอาหารเช้าสักหน่อย ที่ใหนได้ พอเช็คเอาท์เสร็จ เดินออกมา รถตู้มาจอดที่หน้าโรงแรมพอดี อดชิมอาหารเช้ากันเลย รสชาติน่าจะใช้ได้ เพราะตอนเย็นที่นี้เปิดเป็นร้านอาหาร

เกาะสุรินทร์


พอขึ้นรถตู้มาหาที่นั่ง ก็นอนเก็บแรงเลยครับ ใช้เวลาเดินทางจากป่าตองไป ท่าเรือเลิฟอันดามันที่ทับละมุ ประมาณ 2 ชม ไปถึงท่าเรือ เป็นวันธรรมดาแต่คนเยอะมาก เช็คอินและฝากกระเป๋าเสร็จ เดินไปหาของกินรองท้อง คนเยอะมากครับ เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา ถ้าไปรอบหน้าจะถ่ายรูปมาให้ดูน่ะครับ นั่งกินไปภรรยาชี้ให้ดู มีเสื้อดำนำของเลิฟคอเลคชั่นใหม่ออกมา พร้อมกับพูดว่า สีขาวมันเปื้อนง่ายอ่า สีดำใส่ดำน้ำจะได้ไม่เปื้อน สีขาวเอาไว้ใส่เล่นที่สระโรงแรม เป็นเหตุผลที่ไม่สามารถเถียงได้ครับ ในใจได้แต่คิดว่านี้ผมต้องเสียเงินซื้อชุดดำน้ำให้เธอใหม่อีกแล้วใช่มั้ย พอได้สมใจเธอ เปลี่ยนชุดแล้วไปนั่งรอฟังไกด์อธิบายเกี่ยวกับเกาะสุรินทร์กันครับ ไกด์อธิบายได้ ฮามาก จำได้แค่บางเรื่องได้แต่แต่หัวเราะอยู่ และเป็นครั้งแรกที่ไปเกาะสุรินทร์ยอมรับเลยว่าผมจำรายละเอียดไม่ค่อยได้

เราไปถึงเกาะสุรินทร์ประมาณ 10.30 น แวะเยี่ยมชม หมู่บ้านมอแกนกันก่อนครับ ใช้เวลากับที่นี้ 30 นาที ทั้งเกาะนามสกุลของชาวบ้าน เหมือนกันทุกหลัง คือ กล้าทะเล และบนเกาะมีทั้งโรงเรียน สถานพยาบาล ก่อนขึ้นเรือมีเด็กๆขายของที่ระลึกเป็นสินค้าทำมือ เป็นรายได้หลักของชาวมอแกน


หลังจากนั้นเราไปดำนำกันที่จุดแรก ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 5 นาที และ 30 นาทีในการดำน้ำ เป็นช่วงเวลาที่ผ่านไปเร็วมากครับ แนวประการังกว้างขว้าง ตื่นตาตื่นใจ ดำกันไม่กลัวผิวไหม้เลย


เสียงไกด์เรียกให้ขึ้นเรือ เตรียมตัวไปทานข้าวกลางวันบนเกาะสุรินทร์ อาหารมื้อกลางวัน มี ผัดผักรวม มัสมั่น และหน่องไก่ทอด รสชาติอาหารทางอุทยานเป็นคนทำให้ ผมว่าฝีมือแม่ครัวที่สิมิลัน อร่อยกว่าครับ รสชาติจืดๆเหมือนเอาใจฝรั่ง ถ้าได้พริกน้ำปลาสักหน่อยจะแจ่มมาก ผลไม้เป็นแตงโมกับสัปปะรด ลืมถ่ายรูปมาครับ


หลังทานข้าวเสร็จมีเวลา 1 ชั่วโมงเต็มๆในการเดินสำรวจเกาะและเล่นน้ำครับ เวลานี้เป็นช่วงที่มีความสุขมากครับ ได้ใช้ชีวิตช้าๆสัมผัส แสงแดด สายลม และน้ำทะเล เดินถ่ายรูป เห็นรอยยิ้มของภรรยาและคนที่อยู่รอบๆตัว มันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เอาเป็นว่ามีความสุขที่ได้มา ผมพูดไปก็เปล่าประโยชน์เพราะมันไม่เห็นภาพ มาดูภาพที่ผมถ่ายมาฝากกันดีกว่าครับ ว่ามันสวย บาดจิต บาดใจแค่ไหน ธรรมชาติมันสวยอยู่แล้วครับ แค่คนถ่าย จัดองค์ประกอบให้ดีรูปมันสวยแล้วครับ อย่างผมถ่ายรูปกากๆยังสวยเลยครับ ฮ่าๆแอบชมตัวเอง ไปๆดูภาพกันดีกว่าครับ โม้สะเยอะ


ราวๆบ่ายโมงครึ่ง ไกด์เรียกให้ขึ้นเรือเพื่อไปดำน้ำในจุดที่สอง ช่วงบ่ายเราจะดำกันสองจุดนี้ จุดแรกประการังอยู่ตื่นมากครับ และขนาดของประการังกว้างมาก กว้างกว่าจุดแรกเสียอีก ช่วงบ่ายๆน้ำใสมาก คลื่นนิ่ง ดำน้ำสนุกกันเลย มีปลานีโม่และปลาเล็ก ปลาน้อยว่ายอยู่แถวประการังเยอะด้วย จุดดำน้ำสุดท้ายเป็นจุดที่ผมชอบมากที่สุดในวันนี้เลยครับ ผมจำได้แค่ บริเวณหน้าเกาะกล้วย ซึ่งเป็นเกาะสุดท้ายที่เราดำน้ำกัน และมี กัลปังหาฝูงปลาต่างๆมีมากกว่าจุดที่สอง ดำน้ำกันเพลินเลย เสียงไกด์เรียกขึ้นเรือ ทำไมเวลาแห่งความสุขและสนุกมันผ่านไปเร็วแบบนี้ ในใจไม่อยากจะขึ้นเลย แต่ทำไงได้ เราต้องอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริงและยอมรับกับมัน


เรามาถึงฝั่งประมาณ 5 โมงเย็น ล้างเนื้อล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวกลับกรุงเทพกันครับ มาถึงสนามบินประมาณ 1 ทุ่ม มีเวลา เช็คอิน ทานข้าวสบายๆเพราะไฟท์ที่เรากลับ หลัง 3 ทุ่ม แนะนำเลยครับ ถ้าใครไม่อยากเสียวันลา และต้องเสี่ยงกับการตกเครื่อง ให้จองหลัง 3 ทุ่ม save มากที่สุด มาถึงกรุงเทพ ห้าทุ่มนิดๆ ได้กลับมานอนพักเอาแรง พรุ่งนี้ออกไปทำงานได้สบายๆเลยครับ ไปแค่สองวัน แต่กลับมามีรูปอัพลงโซเชียลโชว์เพื่อนๆได้อีกสองอาทิตย์ ให้คนอื่นเข้าใจว่าเราไปเที่ยวสักอาทิตย์ ฮ่าๆ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน มาดูรูป ไม่ว่าจะจบหรือไม่จบ ก็ขอขอบพระคุณมากครับ


ความคิดเห็น