สวัสดีครับกลับมาพบกับ Mr.Napat อีกครั้ง วันนี้จะพาไปทำความรู้จักกับโรงแรม ยู อินจันทรี กาญจนบุรี
หลายคนอาจสงสัย ว่าทำไมถึงชื่อ ยู อินจันทรี ก็เพราะภายในรีสอร์ท มีต้นอิน และต้นจัน ขนาดใหญ่
ปลูกเคียงข้างกันจนพันเกี่ยวเสมือนเป็นต้นเดียวกันในที่สุด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ ของที่นี้



หมายเหตุ


CR ค่าเดินทาง อาหารมื้อกลางวัน และขนมหวาน
SR ห้องพัก อาหารเย็น

การมาพักผ่อนที่นี้ เหมือนได้รีสตารท์ร่างกายให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากต้องขึ้นเวร วันละ8-16 ชั่วโมง
เป็นเวลาหลายๆวันติดต่อกัน มันทำให้ร่างกายผมเริ่มล้า ต้องการการพักผ่อนแบบจริงจังนอนยาวๆ
บรรยากาศเงียบ สงบ และหาของกินได้สะดวก เดินทางไม่ไกล และที่พูดมา ยูอินจันทรี มีคุณสมบัติที่ผมต้องการ
มาครับ ตามดูกันว่าเราจะได้สิ่งที่ต้องการมั้ย?


เริ่มที่การการเดินทาง


1.รถตู้ ขึ้นที่สายใต้ใหม่ อนุสาวรีย์ หมอชิต แล้วแต่ความสะดวกเลย ครับ รถตู้จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ค่าโดยสาร คนละ 120 บาทพอมาถึงท่ารถตู้ ขึ้นวินมอไซค์ให้มาส่งที่โรงแรมได้เลยครับ ตัวโรงแรมจะอยู่ใกล้กับร้านอาหาร Loft



2.รถไฟ ขึ้นที่ สถานี รถไฟธนบุรี รอบเวลา 7.45 น. ถึงสถานีสะพานแควใหญ่ประมาณ 11 โมงครับ แนะนำเวลานี้ดีที่สุด
จะได้ถึงโรงแรมไม่ค่ำเกินไป และมีเวลาในการพักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยลงที่สถานีสะพานข้ามแม่น้ำแคว
แล้วเดินต่อไปที่โรงแรมอีกประมาณ 400เมตร ผ่านร้านครัว ธาราคิรี และร้าน Loft ครับ


3.รถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทาง บรมราชชนนี-นครปฐม-ราชบุรี-กาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงแนะนำให้ออกเช้าหน่อย
ถ้าออกสายรถอาจติดได้ และต้องวิ่งผ่านตัวเมืองในแต่ละจังหวัดต้องใช้ความระมัดระวังในการขับเป็นอย่างมาก และจุดกลับรถ
ไฟแดงมีเยอะมากครับ ให้ขับมาที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว ผ่านร้านอาหารธาราคิรี โรงแรมจะอยู่ทางซ้ายมือ ครับ


ผมออกเดินทางประมาณ 8 โมง ไปถึงกาญจนบุรี ประมาณ 10 โมงกว่า แวะไปชิมก๋วยเตี๋ยวเนื้อ โก้เล็ก มาครับ
ร้านนี้มีพี่แนะนำมาบอกว่าอร่อยพอผมชิม อือ รสชาติอร่อยครับ เผ็ด เปรี้ยวหวาน ปรุงรสมาให้พร้อม ผมไม่ได้ปรุงอะไรต่อเลย
ร้านนี้แนะนำเลยครับ ใครที่ชอบทานเนื้อ แวะไปชิมได้เลย ผมรับประกันความอร่อย


พอทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จ ดูเวลาใกล้เที่ยงแล้ว ขับรถไปที่โรงแรมเพื่อเช็คอินกันดีกว่าครับ
สามารถแจ้งกับทางโรงแรมได้เลยว่าต้องการเข้าพักเวลาไหน ข้อดีของโรงแรมเครือ U Hotels & Resorts
คือแขกจะได้พักเต็ม 24 ชม ถ้าเช็คอิน บ่าย 2 ก็สามารถเช็คเอาท์เวลาบ่าย 2 ได้เช่นเดียวกัน


ที่จอดรถเพียงพอสำหรับแขก เพราะที่นี้มีห้องพักเพียง 26 ห้อง เป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก แต่พื้นที่กว้างมากครับ
ตอนเช็คอินพนักงานจะให้เลือกกลิ่นสบู่ มี 4 กลิ่นให้เลือกนะครับ มีกลิ่น ตะไคร้ มะลิ กล้วยไม้ ไผ่ ผมเลือกกลิ่นตะไคร้


เวลคัมดริ้ง ที่ล็อบบี้ไม่มีน่ะครับ จะอยู่ในตู้เย็น เราสามารถเลือกทานได้ในตู้เย็น คนละหนึ่งอย่าง


ขนาดห้องไม่กว้างมากหนัก พอทำกิจวัตรได้สะดวก เตียงขนาดใหญ่และนุ่มนอนสบายมากครับ มีหมอนให้หนุนสะใจถึง 6ใบ


ระเบียงและห้องน้ำมีขนาดพอดีกับห้องพัก อุปกรณ์การอาบน้ำมีให้ครบครัน


หลังจากเก็บของและสำรวจห้องพักเสร็จ ออกไปเดินสำรวจรอบๆรีสอร์ทกันดีกว่า
เดินไปที่ริมน้ำจุดแรกมีศาลาไทยพักผ่อนอยู่ด้านขวามือ และสระว่ายน้ำอยู่ด้านซ้ายมือครับ


ศาลาไทยถ้าให้มานอนตอนนี้คงไม่ไหวครับ อากาศร้อนมาก ช่วงใกล้เที่ยงแบบนี้ แต่ช่วงเย็นเหมาะกับการมานอนชมพระอาทิตย์ตกมากๆ


สระว่ายน้ำอยู่ติดกับห้องอาหารเช้า สระว่ายน้ำสีดำทอดตัวเป็นแนวยาวขนานกับริมแม่น้ำแคว
พร้อมกับได้ร่มเงาจากต้นมะพร้าว แนะนำให้มาเล่นช่วงเย็นๆจะดีกว่าครับ


บริเวณด้านหน้าศาลาไทยจะมี บาร์ชื่อ เดอะเทอเรส เป็นบาร์นั่งสบายๆไว้ทานอาหารเย็นและนั่งดูพระอาทิตย์ตกกับวิวโค้งแม่น้ำ
บอกเลยว่าจุดนี้ห้ามพลาดครับ มันฟินมากครับ


ตอนนี้ร้อนมากครับ ออกไปหาของหวานเครื่องดื่มเย็นๆกินกันดีกว่าครับ
Library Cafe อยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทครับ ขับรถประมาณ5นาที ก็ถึงตัวร้านแล้วครับ


ด้านในร้านกว้าง โล่งสบายครับ มีโต๊ะเพียงพอครับ ด้านในร้านแบ่งออกเป็น 2 โซน


โซนเบเกอรี่และบาร์เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ และห้องสมุด ด้านในมีหนังสือมากพอให้เลือกอ่านครับ
เข้าใจเลยว่าทำไมต้องมีหนังสือไว้ให้อ่าน เพราะรายการของหวานใช้เวลาพอสมควรครับ


สั่งเครื่องดื่มเป็น สตอเบอรี่ อิตาเลียนโซดา กับ กาแฟ แล้วก็ แพนเค้กไลบลารี่ ค่าเสียหาย 290 บาท ถูกมากเมื่อเทียบกับกรุงเทพ
ราคาสมเหตุสมผล รสชาติอร่อยใช้ได้ ปริมาณเยอะมากครับ


หลังจากนั้งคลายร้อนอยู่สักพัก ดูเวลาแดดร่ม ลมตกแล้ว ไปเดินเล่น สะพานข้ามแม่น้ำแควกันดีกว่าครับ ถ้าใครมากาญจบุรีแล้วไม่มาที่นี้ถือว่าผิด


จากร้านมาถึงสะพานใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที ครับ อากาศรอบๆสะพานร้อนมากครับ แต่ระหว่างเดินข้ามสะพาน ลมพัดเย็นสบาย
อยากจะบอกเลยว่า ให้ดูเวลารถไฟ แล่นผ่านมาด้วยครับ จะได้ถ่ายรูปรถไฟกับสะพาน ซึ่งไม่ควรพลาดอย่างยิ่งครับ


ตอนมาถึงเห็นเจ้าแม่กวนอิมอยู่ฝั่งตรงข้าม เดินไปนมัสการหน่อยหละกัน เสริมศิริมงคลให้กับตัวเอง


อยู่ที่วัดกันสักพัก ก็ได้เวลากลับแล้ว ท้องเริ่มร้อง ไปหาอะไรทานกันที่รีสอร์ทดีกว่า บรรยากาศที่ the terrace มันน่านั่งที่สูด
ดูพระอาทิตย์ตกพร้อมกับกินข้าวไปด้วย มันฟินเหลือหลาย


อาหารที่ลองสั่งมา วันนี้ มี สเต๊กแซลมอน สเต็กกุ้งแม่น้ำ กับสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า และข้าวเหนียวมะม่วงกับไอศครีมอินจัน
อาหารราคาไม่แพงเลยครับ รับได้กับราคาและรสชาติ ถูกใจที่สุดคงเป็น สเต็กแซลมอน เนื้อแน่นมากครับ


บอกตามตรงเลยว่า บรรยากาศทำให้อาหารอร่อยขึ้นมาก นั่งดูพระอาทิตย์ตกดูเรือที่แล่นไปมา มันทำให้ชีวิตผมช้า
สโลไลฟ์ลงเยอะมากจากที่เลยทำอะไรต้องแข่งกับเวลาตลอด พอมาอยู่ที่นี้ดูเหมือนทุกอย่างมันช้าลง
มีเวลาพักผ่อนและมีเวลาให้กับตัวเองแบบเต็มที่


ผมนั่งอยู่ที่เดอะเทอเรส จนถึง 2 ทุ่ม เริ่มง่วงนอนแล้ว ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำนอนดีกว่าครับ


ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ตี 5.30 ปรากฏว่าไม่ตื่นครับ ที่นอนมันนอนสบายมากไม่อยากจะลุกเลย และอีกอย่างเหมือนร่างกายล้าจากการทำงาน
เลยทำให้นอนยาวเลย มาสะดุ้งตื่นอีกที ตอน 8 โมง รีบอาบน้ำเก็บของไปทานข้าวและเช็คเอาท์ เพราะผมเช็คอินตอน 10 โมง


บรรยากาศตอนสายๆ สบายๆไม่เร่งรีบ อาหารเช้าจะเป็นสลัดบาร์ กับข้าว 2-3 อย่าง ผลไม้ เบเกอรี่ ส่วนจานหลักต้องสั่งจากเมนูครับ
ผมสั่งเป็นโจ๊กกุ้งไป อร่อยครับ อันนี้แนะนำเลย ส่วนเมนูอื่น ไม่ได้สั่งมาลอง แค่นี้ก็อิ่มแล้วครับ


โจ๊กกุ้ง หน้าตาธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดาครับ


นั่งทานไปเรื่อย ดูนาฬิกา ใกล้จะ10 โมงแล้ว เดินไปเช็คเอาท์ดีกว่า ระหว่างทางถ่ายรูปส่งท้ายกันหน่อย
เจอกันใหม่ ยู อินจันทรี แล้วจะกลับมารีสตารท์อีกเมื่อมีโอกาส


มาพูดถึงบทสุดท้ายที่หลายๆคน จะให้ความสำคัญกัน นั้นก็คือ เรื่องที่ถูกใจ กับเรื่องที่ไม่ประทับใจ


ถูกใจ ใช่เลย


บรรยากาศ เงียบ สงบ เหมาะแก่การพักผ่อน สะดวกในการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว และหาของกินระหว่างวัน
เตียงนุ่มนอนหลับสบายมากครับ อาหารถูกปาก สเต็กปลากับโจ๊กกุ้งอร่อยถูกใจ บรรยากาศพระอาทิตย์ตก สวยงามล้านแปด
รอบๆรีสอร์ทมองไปทางใหนก็มีแต่สีเขียวและอยู่ติดกับแม่น้ำแคว การบริการดีครับ ดูแลทั่วถึง และให้ข้อมูลสถานที่ต่างๆได้เป็นอย่างดี
และเช็คอินเวลาไหน เช็คเอาท์เวลานั้นเลยครับ


เรื่องที่ไม่ค่อยถูกใจ


ห้องมีขนาดเล็กไปนิดหนึ่ง เมื่อเทียบกับอาณาบริเวณของรีสอร์ท ช่วงกลางคืน พวกแมลงและยุ่งเยอะ
แต่ก็เข้าใจครับว่าอยู่ติดริมแม่น้ำ และมีต้นไม้เยอะ


ทิ้งท้าย


ยู อินจันทรี กาญจนบุรี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ การพักผ่อนแบบจริงจัง มาเพื่อการนอนและเล่นน้ำ กิน และเดินเที่ยวเล่นชิวๆ
ไม่เน้นการทำกิจกรรมมากนัก ส่วนใครสนใจกิจกกรม ก็มี พวกล่องเรือ สปา ฟิตเนส แต่ที่สุดแล้ว ที่นี้ผมคิดว่ายังไงก็เหมาะแก่คนทำงานหนักที่ต้องการพักผ่อน หรือ รีสตารท์ร่างกายให้กลับมาชิวิตชีวา แบบผม หลังจากเข้าพักที่นี้ 1 คืน มันช่างต่างกับ 1 คืนที่อยู่ในห้องพักที่กรุงเทพ
ซะเหลือเกินคงเป็นเพราะอากาศ และบรรยากาศที่ทำให้ผมรู้สึกว่า เต็มอิ่มกับการพักผ่อนในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
แนะนำที่ ยู อินจันทรี กาญจนบุรี เลยครับหากใครต้องการพักผ่อนและมีเวลาให้กับตัวเอง



ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ ...

Mr'Napat Ittiyos

 วันพฤหัสที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 02.50 น.

ความคิดเห็น