![](/f/36650/6012bdb6b76e2e2c3b6bb7d0.jpg)
สตูล ไม่ได้มีดีแค่เกาะตะรุเตา แต่สตูลยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นทั้งบนบกและในทะเล หากมีเวลาอยู่ในสตูลเพียงแค่ 2 วัน 1 คืน เราจะเที่ยวอะไรได้บ้างที่ไม่ใช่เกาะตะรุเตา? ผมจะพาไปสัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ได้ทำในหลายๆ Activity เที่ยวพร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปในตัว เที่ยวแบบไม่เร่งรีบ สถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เราจึงต้องปรับตัวและเรียนรู้ธรรมชาติ ช่วงเวลาไหนน้ำขึ้น น้ำลง น้ำเป็น น้ำตาย ต้องไปให้ถูกช่วงถูกเวลา หลายจุดที่ผมพลาดเข้าชม เพราะไปไม่ตรงกับช่วงเวลาที่เหมาะสม ไปดูกันดีกว่าว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมแนะนำมีอะไรบ้าง
ถ้ำภูผาเพชร
การมาเที่ยวที่ถ้ำภูผาเพชร จะมีค่าเช้าชม 20 บาท/คน ค่ารถ 30 บาท/คัน (เก็บใบเสร็จไว้ให้ดีๆ เพราะสามารถใช้ได้กับน้ำตกวังสายทอง) จากนั้นจะเสียค่าบำรุงสถานที่ให้กับท้องถิ่นอีกคนละ 20 บาท และมีค่าเช่าไฟฉายอีกคนละ 20 บาท สำหรับไกด์ท้องถิ่น แล้วแต่เราจะให้ครับ
![](/f/36650/6012bdd3b76e2e2c3b6bb7d1.jpg)
จากลานจอดรถ เราต้องเดินเท้าขึ้นไปยังปากถ้ำตามทางลาดชัน โดยเส้นทางจะเป็นขั้นบันไดราวๆ 300 กว่าขั้น เรียกได้ว่าเล่นเอาเหนื่อยเลยทีเดียวครับ
![](/f/36650/6012bde3b76e2e2c3b6bb7d2.jpg)
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าปากถ้ำจะเล็กเพียงแค่คนลอดผ่าน แต่เมื่อได้ก้าวเข้าไปในถ้ำแล้วต้องร้อง OMG!! ภายในถ้ำมีขนาดใหญ่ม๊ากกก
![](/f/36650/6012bdf5b76e2e2c3b6bb7d3.jpg)
![](/f/36650/6012bdfcb76e2e2c3b6bb7d4.jpg)
ถ้ำภูผาเพชร เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเห็นว่าใหญ่ติดอันดับ 4 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยนะครับ มีเนื้อที่กว่า 50 ไร่ ประดับประดาด้วยหินงอกหินย้อยที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ปั้นแต่งให้ออกมาหลากหลายรูปร่าง บางจุดเมื่อกระทบกับแสงไฟ เกิดเป็นแสงส่องประกายระยิบระยับราวกับเพชรต้องแสง อันเป็นที่มาของ “ถ้ำภูผาเพชร” ครับ
![](/f/36650/6012be0fb76e2e2c3b6bb7d5.jpg)
ภายในถ้ำจะทำสะพานไม้ และจะมีการติดไฟส่องสว่างให้เพียงบางจุดเท่านั้น ดังนั้นการเที่ยวชมในถ้ำ ควรจะพกไฟฉายติดตัวไปด้วย เพราะเส้นทางจะเป็นบันไดต่างระดับ หากมัวเดินชมความงามของหินงอกหินย้อยเพลิน อาจทำให้เดินพลาดได้ง่ายๆ และอีกสิ่งที่สำคัญคือการใช้บริการของไกด์ท้องถิ่น เพราะเส้นทางภายในถ้ำค่อนข้างวกวน เดินชมเองมีโอกาสหลงแน่นอนครับ
![](/f/36650/6012be22b76e2e2c3b6bb7d6.jpg)
ภายในถ้ำมีโถงห้องมากมายกว่า 20 ห้อง แต่ละห้องก็จะมีเอกลักษณ์ของตัวเองครับ อากาศภายในถ้ำค่อนข้างเย็นเมื่อเทียบกับถ้ำอื่นๆ ที่ผมเคยไปสัมผัสมา นอกจากนี้ยังพอจะมีลมพัดผ่านอยู่บ้าง
![](/f/36650/6012be334167924063f3af16.jpg)
เมื่อไกด์ท้องถิ่นสาดแสงไฟฉายมาหยุดที่จุดนี้ เล่นเอาอึ้งกันเป็นแถวๆ ครับ ไกด์เล่าว่าได้ค้นพบภาพนี้หลังจากที่พระองค์ท่านสวรรคตไปได้ไม่นานครับ
![](/f/36650/6012be4eb76e2e2c3b6bb7d7.jpg)
![](/f/36650/6012be594167924063f3af17.jpg)
ลานแสงมรกต ผมขอยกให้เป็นไฮไลท์ของถ้ำภูผาเพชรครับ ยามที่แสงสว่างส่องผ่านมายังปากถ้ำผ่านผนังถ้ำ จะเห็นเป็นสีเขียวมรกต นี่ซินะที่เป็นที่มาของคำว่า “แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์”
น้ำตกวังสายทอง
น้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ที่ไหลลดหลั่นเป็นชั้นเล็กชั้นน้อย ดูสวยงามเลยทีเดียว บางชั้นเป็นแอ่งน้ำเล็กๆ ให้เด็กๆ ได้มานอนแช่น้ำ ให้อารมณ์อ่างจากุชชี่ท่ามกลางธรรมชาติเลยครับ เจ้าหน้าที่เล่าว่าเมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบกับชั้นหินปูนที่มีสีเหลือง จะเปล่งแสงอร่ามดังทองกันเลยทีเดียว
![](/f/36650/6012be7f4167924063f3af18.jpg)
![](/f/36650/6012be8eb76e2e2c3b6bb7d8.jpg)
ต้นน้ำมาจากการอัดและทะลักของน้ำในถ้ำใต้ภูเขา และทะลุออกมาตามช่องเขาลงสู่แอ่งต่างๆ ที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ดูร่มรื่นมากๆ ครับ
![](/f/36650/6012bea74167924063f3af19.jpg)
![](/f/36650/6012beaeb76e2e2c3b6bb7d9.jpg)
เห็นแล้วอิจฉาเด็กๆ อยากจะลงไปแช่น้ำบ้างไรบ้าง แต่ก็ต้องหักห้ามใจ 555
น้ำตกวังสายทอง เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวสตูลครับ บ้างก็มาปิกนิกริมน้ำตก บ้างก็พาลูกเล็กเด็กแดงมาเล่นน้ำคลายร้อนกัน
![](/f/36650/6012beb9b76e2e2c3b6bb7da.jpg)
การเข้าชมที่นี่ มีค่าธรรมเนียมในการเข้าชมคนละ 20 บาท รถคันละ 30 บาท แต่ถ้าหากว่าจ่ายค่าเข้าชมที่ถ้ำภูผาเพชรแล้ว ก็ไม่ต้องเสียค่าเข้าที่นี่ครับ
เขตข้ามกาลเวลา
![](/f/36650/6012becfb76e2e2c3b6bb7db.jpg)
เขตข้ามกาลเวลาเขาโต๊ะหงาย อยู่ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา การจะชมเขตข้ามกาลเวลา จะต้องเดินเท้าไปตามเส้นทางเดินเท้าเลาะเรียบริมทะเล ช่วงนี้อยู่ระหว่างซ่อมแซมสะพานครับ หากใครต้องการมาชมจุดข้ามกาลเวลา ให้ใช้เส้นทางมายังโรงแรมรอยัลฮิลล์ สตูล หลุดโรงแรมแล้วจะมีโค้งซ้ายหักศอก และจะเห็นหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ภต.1 (เขาโต๊ะหงาย) ชำระค่าเข้า คนละ 20 บาท ค่ารถ 30 บาท หากเห็นลานจอดรถช่วงแรกๆ อย่าเพิ่งจอดนะครับ ให้ขับรถเข้าไปอีก ไม่อย่างนั้นจะเดินไกลพอสมควร สามารถขับรถไปจอดตรงสุดถนนได้เลย
![](/f/36650/6012beeab76e2e2c3b6bb7dc.jpg)
![](/f/36650/6012bf33b76e2e2c3b6bb7e0.jpg)
![](/f/36650/6012bf3a4167924063f3af1a.jpg)
![](/f/36650/6012bf41b76e2e2c3b6bb7e1.jpg)
![](/f/36650/6012bf48b76e2e2c3b6bb7e2.jpg)
เขตข้ามกาลเวลา จะเป็นบริเวณที่พบรอยเลื่อนของหิน 2 ยุค ที่มีอายุแตกต่างกันซึ่งมองเห็นสีของหินได้อย่างชัดเจนครับ เมื่อหันหน้าเข้าหาหน้าผา หินฝั่งซ้ายจะเป็นหินทรายสีแดงยุคแคมเบรียน อายุประมาณ 541-485 ล้านปี และหินฝั่งขวาจะเป็นหินปูนยุคออร์โดวิเชียน อายุประมาณ 485-444 ล้านปี มาจุดนี้เหมือนเราสามารถก้าวย่างข้ามกาลเวลาผ่าน 2 ยุค ได้เพียงก้าวเดียวครับ
![](/f/36650/6012bf59b76e2e2c3b6bb7e3.jpg)
ใกล้ๆ จุดจอดรถ จะมีทางลงหาด เพื่อไปชมหินหลากสีครับ ดูในภาพโฆษณาหินหลากสีบริเวณที่ทำการแล้วดูอลังการมาก แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าของจริงไม่ค่อยตรงปกสักเท่าไร เพราะภาพผ่านการปรุงแต่งเยอะ เอาเป็นว่าของจริงมันก็ไม่ได้หลากสีอย่างในภาพจริงๆ ครับ
สำหรับสถานที่ต่อไปจากนี้ เราจะต้องซื้อแพคเกจทัวร์แบบ one day trip กัน โดยผมเลือกโปรแกรมปราสาทหินพันยอด โปรแกรมจะเริ่มช่วงสายๆ ประมาณ 08.30-09.00 น. จุดขึ้นเรืออยู่ใกล้ๆ กับท่าเรือปากบารา และจะปิดทริปราวๆ 14.00 น. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแนวการเที่ยวของแต่ละคณะ หากคณะไหนชอบเที่ยวแบบช้าๆ ซึมซับกับบรรยากาศ ก็สามารถใช้เวลาได้ราวๆ 4-5 ชั่วโมง โปรแกรมจะสลับตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับเวลาน้ำขึ้นน้ำลง สำหรับเรือที่ใช้ในการออกทริปจะเป็นเรือหัวโทง ถ้าหากมีสมาชิกประมาณ 3-4 คน ก็สามารถใช้เรือลำเดียวโดยไม่ต้องไปรวมกับคณะอื่นครับ
![](/f/36650/6012bfb14167924063f3af1b.jpg)
![](/f/36650/6012c010b76e2e2c3b6bb7e4.jpg)
สำหรับเรือนำเที่ยว สามารถหาบริษัทนำเที่ยวได้ทั่วไปตามเวปไซด์ต่างๆ ในราคา 750-800 บาท/คน ราคานี้จะรวมอาหาร 1 มื้อ น้ำดื่ม ค่าเข้าชมอุทยาน เรือคายัค และประกันการเดินทาง แต่ถ้าหากใครอยากจะได้ราคาต่ำกว่านี้สามารถติดต่อผ่าน “บังโด้” ได้ ที่เบอร์ 091-9855001 ได้เหมือนกับที่เพื่อนๆ ติดต่อผ่านบริษัททัวร์ทุกอย่าง ยกเว้นไม่มีประกันการเดินทางให้ครับ บังโด้เป็นทั้งไกด์นำเที่ยว ทั้งคนขับเรือ ด้วยประสบการณ์การนำเที่ยวตะรุเตามาหลายปี แต่เดี๋ยวนี้มารับทัวร์แบบใกล้ๆ ดังนั้นเรื่องข้อมูลของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ต้องห่วงเลยครับ อัดแน่นมาก ถ้าหากนักท่องเที่ยวอยากจะรู้อะไร สอบถามได้เลย
อ่าวโต๊ะบะ
![](/f/36650/6012c033b76e2e2c3b6bb7e5.jpg)
![](/f/36650/6012c068b76e2e2c3b6bb7e6.jpg)
บังโด้ พามาแวะที่อ่าวโต๊ะบะเป็นจุดหมายแรกครับ
![](/f/36650/6012c07db76e2e2c3b6bb7e7.jpg)
![](/f/36650/6012c084b76e2e2c3b6bb7e8.jpg)
ไฮไลท์ของอ่าวโต๊ะบะมี 2 อย่างครับ อย่างแรกคือค้นหาซากฟอสซิลในยุคออร์โดวิเชียน ซากดึกดำบรรพ์ที่สุสาน “นอติลอยด์” จะเป็นสัตว์จำพวกหอย กลุ่มเดียวกับหมึก หมึกยักษ์ ลักษณะมีทั้งแบบกรวย แบบม้วนขดเป็นวง อายุประมาณ 470 ล้านปีครับ
![](/f/36650/6012c090b76e2e2c3b6bb7e9.jpg)
![](/f/36650/6012c097b76e2e2c3b6bb7ea.jpg)
ใกล้ๆ กับซากดึกดำบรรพ์ จะพบหัวใจสีน้ำเงินที่ปลายผา หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า หัวใจอันดามัน คือเป็นสิ่งที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นโดยแท้ครับ เส้นทางที่จะเดินมาชมหัวใจอันดามัน ถึงแม้จะอยู่ใกล้กับซากดึกดำบรรพ์ แต่ทางเดินค่อนข้างหวาดเสียวเพราะต้องเดินบนหินแหลมคม ใครใจไม่ถึงแนะนำว่าอย่าเดินไปครับ
![](/f/36650/6012c0aab76e2e2c3b6bb7eb.jpg)
![](/f/36650/6012c0b1b76e2e2c3b6bb7ec.jpg)
ทริปนี้นอกจากจะได้บังโด้ มาเป็นผู้นำทริปแล้ว ยังมี กอวีมา ลูกสาวของบังโด้ มาช่วยดูแลสมาชิกในทริปด้วย ในช่วงวันหยุดเรียน เธอมีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการดูแลลูกทริปมากๆ คอยเสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟเฉาก๊วยและขนมขบเคี้ยวอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยครับ
![](/f/36650/6012c0cfb76e2e2c3b6bb7ed.jpg)
![](/f/36650/6012c0d64167924063f3af1c.jpg)
![](/f/36650/6012c0deb76e2e2c3b6bb7ee.jpg)
![](/f/36650/6012c0eb4167924063f3af1d.jpg)
นั่งเรือชมบรรยากาศไปเรื่อยๆ ไม่นานนักก็มาถึงที่ถ้ำลอดพบรักครับ
![](/f/36650/6012c1014167924063f3af1e.jpg)
บังโด้เล่าให้ฟังว่าถ้ำลอดพบรักเป็นหนึ่งในฉากภาพยนตร์เรื่อง “อุกาฟ้าเหลือง” ซึ่งหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล สร้างไว้เมื่อปี 2523 ครับ บังโด้เริ่มให้ผมพายคายัคเพื่อลอดถ้ำลอดพบรัก เมื่อลอดจากถ้ำลอดพบรักแล้ว กอวีมา พาพายต่ออีกนิดหน่อย เพื่อไปยังไฮไลท์ของวันนี้ นั่นคือ ปราสาทหินพันยอดครับ
![](/f/36650/6012c1164167924063f3af1f.jpg)
การเข้าชมปราสาทหินพันยอด เราจะต้องพายคายัคผ่านช่องแคบระยะทางสั้นๆ เข้าไป เส้นทางไม่ได้ลำบากลำบนอะไรเลย แต่การเข้าไปด้านในง่ายๆ เราไม่ไป กอวีมา พาพวกผมพายคายัคลอดเข้าไปในหลืบถ้ำ ซึ่งดูตื่นเต้นและหวาดเสียว (คายัคล่ม) มากๆ คายัคหายไปในความมืด สักพักก็พบแสงสว่างที่ปลายทาง เผยโฉมของน้ำทะเลสีเขียวมรกต ในอ้อมกอดของปราสาทหินพันยอด เส้นทางนี้สร้างความประทับใจให้กับผมเป็นอย่างมาก
![](/f/36650/6012c1314167924063f3af20.jpg)
![](/f/36650/6012c139b76e2e2c3b6bb7ef.jpg)
ปราสาทหินพันยอด สถานที่ท่องเที่ยวลับๆ กลางทะเลสีเขียวมรกต รายล้อมด้วยหินหน้าตาประหลาด ในยุคออร์โดวิเชียน ที่มีอายุมากกว่า 450 ล้านปี ลักษณะคล้ายปราสาทยอดแหลม ดูสวยงามแปลกตามากๆ ถ้าหากมาเที่ยวชมในช่วงจังหวะน้ำลง ด้านในปราสาทหินพันยอดจะมีชายหาดเล็กๆ ให้เดินเล่นด้วยครับ
ว่ากันว่าเมื่อก่อนสถานที่แห่งนี้ถูกน้ำใต้ดินกัดเซาะจนทำให้ด้านล่างเป็นโพรง เมื่อหินปูนยกตัวขึ้นจากการกัดเซาะของธรรมชาติ จึงกลายเป็นเทือกเขาหินปูน ส่วนด้านบนก็ถูกน้ำฝนกัดเซาะจนบางลง และรับน้ำหนักไม่ไหว เลยยุบตัวลงกลายเป็นหลุมยุบ ทำให้เกิดเป็นยอดแหลมคมขึ้น ถ้ามองจากมุมสูงจะแลดูคล้ายปราสาทหินครับ
![](/f/36650/6012c14f4167924063f3af21.jpg)
![](/f/36650/6012c157b76e2e2c3b6bb7f0.jpg)
จากปราสาทหินพันยอด บังโด้พามาแวะทานมื้อเที่ยงกันที่ หาดนุ้ย ครับ
![](/f/36650/6012c17cb76e2e2c3b6bb7f1.jpg)
![](/f/36650/6012c16f4167924063f3af22.jpg)
![](/f/36650/6012c1884167924063f3af23.jpg)
หาดนุ้ยอยู่ในชุมชนบ้านบ่อเจ็ดลูก เป็นหาดที่มีทรายขาวละเอียด นุ่มเท้ามาก เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบๆ ทั้งในทะเลและหมู่บ้าน นักท่องเที่ยวสามารถมานั่งชมธรรมชาติและเล่นน้ำได้ตลอดเวลาครับ
![](/f/36650/6012c19eb76e2e2c3b6bb7f2.jpg)
![](/f/36650/6012c1a54167924063f3af24.jpg)
![](/f/36650/6012c1ae4167924063f3af25.jpg)
มื้อเที่ยงนี้ บังโด้เตรียมแกงหอยใส่ใบชะพลู พร้อมไข่ดาวมาให้ ตอนแรกผมคิดว่า เป็นแกงหนวดปลาหมึกที่ตัดเป็นท่อนเล็กๆ ใส่ใบชะพลู แต่บังโด้มาพร้อมกับคำเฉลย โดยยื่นหอย “อูหนำ” หรือ “หอยหวาน” มาให้ผมดู รสชาติแกงหอยนี่เผ็ดแต่รสชาติเด็ดได้ใจจริงๆ จากนั้นตบท้ายด้วยแตงโมหวานๆ ครับ
ระหว่างรอน้ำลง กอวีมา พาผมเดินไปชมโบราณสถานบ่อ 7 ลูกครับ
![](/f/36650/6012c1b94167924063f3af26.jpg)
ตำนานของโบราณสถานบ่อ 7 ลูก มีหลายตำนานมาก แต่ที่ กอวีมา เล่าให้ฟัง สรุปใจความได้ว่า มีชาวเลรอนแรมมาพักที่เกาะและได้ตั้งรกรากที่นี่ ได้ทำการขุดบ่อเพื่อหาน้ำจืดใช้ บ่อแรกที่ขุดพบว่าน้ำเค็ม จึงได้ขุดบ่อต่อๆ มา จนครบ 6 บ่อ พอขุดบ่อที่ 7 จึงพบน้ำจืด จึงได้ใช้กันเรื่อยมาครับ ลักษณะของบ่อแต่ละบ่อมีขนาดไม่เท่ากัน ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง
![](/f/36650/6012c1d04167924063f3af27.jpg)
จากหาดนุ้ยเมื่อมองออกไป เริ่มเห็นสันหลังมังกรโผล่ขึ้นมาชัดขึ้น บังโด้เลยรีบเรียกคณะของผมขึ้นเรือ เพื่อไปยังสันหลังมังกรก่อนที่จะมีทัวร์คณะอื่นมาลง
![](/f/36650/6012c1e1b76e2e2c3b6bb7f3.jpg)
บังโด้บังคับเรืออ้อมเกาะ พาลัดเลาะไปเรื่อย มองออกไปจากเรือเห็นแนวทรายที่วางตัวทอดยาว แต่แนวทรายยังไม่โผล่มากนัก กอวีมา บอกว่านั่นคือหางมังกร ยามเมื่อคลื่นสาดซัดไปยังหางมังกร ดูเหมือนหางมังกรกำลังแหวกว่ายอยู่กลางทะเล ไม่นานนักเราก็มาถึงสันหลังมังกรแล้ว ยามนี้มีคณะผมเพียงคณะเดียวที่มายืนบนสันหลังมังกร
![](/f/36650/6012c1fab76e2e2c3b6bb7f4.jpg)
![](/f/36650/6012c20db76e2e2c3b6bb7f5.jpg)
![](/f/36650/6012c215b76e2e2c3b6bb7f6.jpg)
สันหลังมังกรหรือทะเลแหวก เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ต้องมาให้ถูกที่ถูกเวลา ถึงจะได้เห็นครับ
ด้านปลายของสันหลังมังกรมองเห็นผาใช้หนี้ ตามตำนานเล่าว่ามีชายวัยกลางคนทำอาชีพประมง เป็นลูกน้องของเถ้าแก่จีน เขามีหนี้สินมาก ไม่มีปัญญาจะใช้หนี้ได้หมด จึงได้ปรึกษาเถ้าแก่เพื่อหาทางปลดหนี้ โดยพร้อมจะทำทุกอย่างที่สามารถปลดเปลื้องหนี้สินได้ เถ้าแก่จีนจึงให้ไปกระโดดหน้าผา ถ้าหากกล้ากระโดดลงมาก็จะยกหนี้สินทั้งหมดให้ ชายคนนั้นจึงรับคำท้า แล้วกระโดดหน้าผาลงมา ผลปรากฏว่าเขามีชีวิตรอดปลอดภัย หนี้สินที่ค้างอยู่ก็หมดไป
![](/f/36650/6012c220b76e2e2c3b6bb7f7.jpg)
![](/f/36650/6012c2274167924063f3af28.jpg)
บนสันหลังมังกรเป็นที่อยู่ของฝูงปูทหารพระราชา เวลาเราเดินบนสันหลังมังกร ฝูงปูเหล่านี้ก็จะวิ่งหนีตายกันเป็นโขยง ดูเหมือนกองทัพปูกำลังยกทัพออกศึกเลยครับ
![](/f/36650/6012c2394167924063f3af29.jpg)
สำหรับที่พัก ผมเข้าพักที่เดอะ ละงูบูทิค ซึ่งอยู่กลางใจเมืองละงูครับ
![](/f/36650/6012cb49b76e2e2c3b6bb7f8.jpg)
![](/f/36650/6012cb57b76e2e2c3b6bb7f9.jpg)
ละงูบูติค เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี หากไม่ซีเรียสเรื่องที่พักริมทะเล การอยู่กลางใจเมืองทำให้สะดวกในเรื่องการเดินทางไปยังจุดต่างๆ รวมถึงร้านอาหารต่างๆ ที่พักใหม่ สะอาดครับ
![](/f/36650/6012cb63b76e2e2c3b6bb7fa.jpg)
![](/f/36650/6012cb69b76e2e2c3b6bb7fb.jpg)
![](/f/36650/6012cb6f4167924063f3af2a.jpg)
บริเวณลอบบี้ มีที่ให้นั่งพักผ่อนเยอะพอสมควร แต่บริเวณนี้ไม่เปิดแอร์ ไม่เปิดพัดลม ทำให้ค่อนข้างร้อนอบอ้าวครับ
![](/f/36650/6012cb7fb76e2e2c3b6bb7fc.jpg)
![](/f/36650/6012cb854167924063f3af2b.jpg)
![](/f/36650/6012cb934167924063f3af2c.jpg)
![](/f/36650/6012cb984167924063f3af2d.jpg)
![](/f/36650/6012cb9d4167924063f3af2e.jpg)
ห้องพักมี 2 แบบ คือเป็นวิลล่า และแบบตึก ไปดูห้องแบบวิลล่ากันก่อน พื้นที่ใช้สอยภายในวิลล่าค่อนข้างกว้างขวาง แต่ละวิลล่าจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ วิลล่าทุกหลังจะมีมุมให้นั่งเล่นด้านนอกด้วย
![](/f/36650/6012cbaeb76e2e2c3b6bb7fd.jpg)
![](/f/36650/6012cbb4b76e2e2c3b6bb7fe.jpg)
![](/f/36650/6012cbb9b76e2e2c3b6bb7ff.jpg)
![](/f/36650/6012cbbf4167924063f3af2f.jpg)
อีกห้องที่ผมจะพาชมเป็นห้อง Standard พื้นที่กว้างขวางดีทีเดียวครับ
![](/f/36650/6012cbd24167924063f3af30.jpg)
![](/f/36650/6012cbd84167924063f3af31.jpg)
![](/f/36650/6012cbdeb76e2e2c3b6bb800.jpg)
ห้องอาหารจะอยู่ใกล้ๆ กับลอบบี้ครับ ราคาที่พักจะรวมอาหารเช้าด้วย โดยอาหารเช้าเริ่มสายไปสักนิด โดยจะเริ่มเวลา 08.30 น.
ต้องบอกเลยว่าสตูลไม่ได้มีดีแค่เกาะตะรุเตาจริงๆ ครับ แต่สตูลอัดแน่นด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย มีอีกหลายจุดที่ผมพลาดการเที่ยวชม เนื่องด้วยข้อจำกัดของธรรมชาติ การท่องเที่ยวจังหวัดชายทะเล จะต้องศึกษาข้อมูลกันพอสมควร ทริปนี้ผมมีเวลาสั้นไปนิด บอกเลยว่า 2 วัน 1 คืน ไม่สามารถเก็บสถานที่ท่องเที่ยวของสตูลได้ครบ ผมคงต้องหาช่วงเวลาเหมาะๆ กลับมาสัมผัสกับสตูลอีกสักหลายๆ ครั้งอย่างแน่นอน
ท้ายสุดนี้ เพื่อนๆ สามารถเข้าไปให้กำลังใจและติดตามผลงานของผมเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/unclegreenshirt นะครับ
ลุงเสื้อเขียว
วันพฤหัสที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 21.37 น.