สวัสดี : นครพนม
ถ้ามีคำถามว่า.. จังหวัดไหนในประเทศไทยที่ผมชอบที่สุด? ผมก็ต้องยกให้จังหวัดนี้ครับ "นครพนม" ชอบที่ตรงไหนน่ะเหรอ? ผมชอบที่ความสงบของเมืองนี้ครับ ประกอบกับธรรมชาติที่เอื้อให้เกิดบรรยากาศที่น่ามาพักผ่อน การที่ตัวเมืองนครพนมเองตั้งอยู่เลียบริมฝั่งโขง และสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่เลียบไปตามถนนริมฝั่งโขง ก็ทำให้ได้อารมณ์ชิลล์ๆ สโลว์ๆ ช้าๆ ในการเที่ยวไม่น้อยเลยล่ะ
ผมได้มีโอกาสได้ไป "นครพนม" หลายครั้ง และในทุกๆ ครั้ง ก็ไปด้วยโปรโมชั่นสายการบิน (ส่วนมากก็โปร 0 บาท) ที่มีเส้นทางนี้มาบ่อยๆ ก็ต้องขอบคุณทุกสายการบินที่เปิดเส้นทางนี้ ที่ทำให้ได้มาสัมผัสกับจังหวัดนี้ ที่ตอนแรก "ไม่เคยคิด" ที่จะมาเลย แต่เมื่อได้มาเยือน และได้มาสัมผัส ก็ต้องยอมรับจริงๆ ครับ ว่าผมได้ หลง+รัก ที่นี่ไปเสียแล้ว และก็หาโอกาสไปเยือนบ่อยๆ เมื่อมีโอกาส
ดังนั้น .. รีวิวนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยว "นครพนม" กันครับ โดยผมจะขอรวบรวม เรียบเรียงเรื่องราว จากหลายครั้งที่ได้ไปเยือน "นครพนม" ให้เกิดเป็นหนึ่งรีวิวตัวอย่างโปรแกรมเที่ยว ที่ให้ข้อมูลที่(น่าจะ)เข้าใจได้ง่าย และ สามารถเอาไปปรับได้เองนะครับ โดยโปรแกรมการเดินทางเที่ยวนครพนม คร่าวๆ 2 วัน 1 คืน มีดังนี้
[DAY 1]
- เช้า เดินทางจากดอนเมือง - นครพนม
- สาย จากตัวเมืองนครพนม ไปไหว้พระธาตุพนม
- บ่าย เช่าจักรยานปั่น #ปั่นริมโขง เที่ยวตามเส้นทางริมโขง
- เย็น ล่องเรือชมสองฝั่งโขง
- ค่ำ เดินเล่นถนนคนเดิน ชิมอาหารอร่อย
[DAY 2]
- เช้า ดูพระอาทิตย์ขึ้นริมฝั่งโขง
- สาย ปั่นจักรยานไป บ้านลุงโฮจิมินห์
- สาย/เที่ยง นั่งเรือข้ามโขงไปเที่ยวฝั่งลาว แขวงคำม่วน
- บ่าย ชิมอาหารร้านเด็ดนครพนม ก่อนเดินทางกลับ กทม.
การเดินทางไปเที่ยว "นครพนม" จะเน้นการไปเที่ยวแบบประหยัด อยู่ง่าย กินง่าย แบบสบายๆ นะครับ จังหวัดนครพนม จะมีอะไรให้เที่ยว และให้ประสบการณ์อะไรบ้าง..? เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา แพ็คกระเป๋า ..แบกเป้ ตามมาเลยครับ !!!
ปล.1 Review นี้เป็นการรวบรวมข้อมูลจากหลายครั้งที่ไปเที่ยวมานะครับ ซึ่งก็เป็นรูปแบบโปรแกรมประมาณนี้ครับ
ซึ่งถ้ามีข้อมูลใดผิดพลาดไป ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะครับ
ปล.2 Review นี้เป็นการรวบรวมภาพจากหลายๆ กล้อง ทั้ง DSLR กล้องดิจิตอล กล้องมือถือ
ทำให้คุณภาพของภาพอาจดูแตกต่างกันไปบ้าง คละกันไปนะครับ
"จังหวัดนครพนม" เป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ที่ถือว่าเป็นเมืองชายแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความสวยงามของทิวทัศน์ มีความหลากหลายของวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ รวมทั้งมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ซึ่งถ้าพูดถึงจังหวัดนครพนมแล้ว..ก็ต้องนึกถึง "พระธาตุพนม" ที่ใครมาเยือนนครพนมแล้วต้องไปไหว้พระธาตุกันสักครั้งในชีวิต
เช่น ประเพณีไหลเรือไฟ , งานนมัสการองค์พระธาตุพนม ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี เป็นต้น
การเดินทางไป "นครพนม" ทุกครั้ง ผมมักจะไปกับ โปร 0 บาท ของแอร์เอเชีย ซึ่งมักมีโปรฯ เส้นทางนี้ออกมาบ่อยๆ จึงทำให้การเดินทางประหยัดมากๆ ถึงแม้ว่า ต้องจองล่วงหน้านานๆ และต้องรอนานหน่อยะ แต่ก็คุ้มค่าดีนะ ในเมื่อต้องจองล่วงหน้านาน ด้วยความไม่แน่นอน อาจทำให้สมาชิกที่ร่วมเดินทางมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง อย่างเช่น ที่จะยกตัวอย่างในครั้งนี้ ที่เคยจองเอาไว้เมื่อนานนม ยกแก๊งค์ไปเที่ยว "นครพนม" 9 คน รวมจ่ายไป 1444 บาท ก็ตกค่าตั๋วเครื่องบิน เดินทางไป-กลับ แค่คนละ 160 บาท เท่านั้น!!
สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบท่องเที่ยวแบบประหยัด แวะมาทักทาย ติดตามกันได้นะครับ
CHAILAIBACKPACKER : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
[DAY 1] - เริ่มต้นการเดินทางที่ "สนามบินดอนเมือง"
ออกเดินทางกันครับ!
การเดินทางจาก
ดอนเมือง สู่ นครพนม จะใช้เวลาเดินทางชั่วโมงนิดๆ ครับ
นั่งดูเมฆ ชมวิว แป้บเดียวก็เดินทางมาถึงแล้วครับ "สนามบินนครพนม"
เพื่อความสะดวก ควรจะมีจุดหมายปลายทาง เพื่อระบุกับรถรับส่งนะครับ ว่าต้องการไปลงที่ไหน.. อาจจะเป็นโรงแรมที่จองเอาไว้ หรือ เล็งๆ ที่พักเอาไว้ รถรับส่งจะได้มาส่งได้ถึงที่เลยครับ หรือ ถ้ามาแบบลุยๆ ไม่รู้จะไปลงที่ไหนจริงๆ บางที "หอนาฬิกา" คือ.. คำตอบ
ใกล้ๆ กันกับ "หอนาฬิกา" ก็จะเป็น "ตลาดอินโดจีน" ตรงนี้จะติดอยู่กับแม่น้ำโขงเลยครับ..
แผนที่ตัวเมืองนครพนม
1 = หอนาฬิกา
2 = โรงแรมเฟิสท์
3 = โรงแรมตองเจ็ด
4 = ถนนคนเดิน
5 = ด่านตรวจคนเข้าเมือง(ข้ามไปลาว)
6 = วัดโอกาส
7 = ตลาดอินโดจีน
8 = ร้านสบายดี@นครพนม
9 = ร้านชิลล์ๆ ริมแม่น้ำโขง(จิบเบียร์)
มานครพนมจะพักที่ไหนดี?
นครพนม ภายในตัวเมืองนั้นมีที่พักให้บริการมากมายครับ ก็แล้วแต่ว่าจะชอบพักแบบไหน ใกล้ตลาด ใกล้ถนนคนเดิน อยากพักติดริมโขง อันนี้ก็แล้วแต่ความต้องการของแต่ละคน ซึ่งถ้าพูดถึงที่พักยอดนิยม ก็คงจะเป็น โรงแรม 777 (ตองเจ็ด) ที่คนนิยมมาพักกันมาก โรงแรมตองเจ็ด(3) จะเป็นโรงแรมที่ใหม่ และดูสะอาด แต่ไม่ติดริมโขง ต้องเดินออกมาอีกหน่อย (โดยส่วนตัวไม่เคยพักที่นี่ครับ เพราะโรงแรมเต็มตลอด มีคนมาพักเยอะมาก ในช่วงวันหยุด)
" บ้านปันสุข "
ตัวเมืองนครพนมจะอยู่ติดแม่น้ำโขงเลยครับ โดยมี ถ.สุนทรวิจิตร เป็นถนนเส้นหลักเลียบไปกับแม่น้ำโขงเลย
สุดเขตแดนสยามที่แม่น้ำโขง แห่งนี้!
"วัดโอกาส" (6) เป็นวัดที่อยู่ใกล้กับ "หอนาฬิกา" ที่สุด สามารถเข้าไปไหว้พระข้างในได้ เดินไม่ไกลจากหอนาฬิกาครับ
" โหนสองแถว " .. กันไปครับ !
นั่งกินลม ชมวิว เกือบชั่วโมง ก็เดินทางมาถึง วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร รถสองแถวก็จะสุดสายพอดี ลงรถเดินผ่านร้านขายเสื้อ และของที่ระลึก เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ก็ต้องจัดกันซักหน่อย จัดการเปลี่ยนยูนิฟอร์ม..55
"พระธาตุพนม" ประดิษฐาน ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง อยู่ภายในบริเวณวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นพระธาตุประจำผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ซึ่งมีความเชื่อว่าหากได้มาสักการะสักครั้ง จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และจะมีความเจริญรุ่งเรือง..โดยทุกๆ ปีจะมีงานนมัสการองค์พระธาตุ เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 โดยจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่
สักครั้งในชีวิต..ได้มาไหว้ "พระธาตุพนม" เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
พุทธศาสนิกชน เข้ามาไหว้พระธาตุ ทำบุญกันอย่างไม่ขาดสาย คนเยอะมากๆ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดครับ
มีความเชื่อกันนะครับ เกี่ยวกับการสักการะ พระธาตุประจำวันเกิดให้ครบทั้ง 7 วัน ที่มีครบทั้ง 7 พระธาตุในจังหวัดนครพนม โดยพระธาตุประจำวัน ทั้ง 7 วัน ก็ประดิษฐานกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ของจังหวัดนครพนม แต่ละพระธาตุค่อนข้างที่จะอยู่ห่างกันมาก และต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้น จึงนิยมสักการะพระธาตุตามวันเกิดของตัวเองครับ ก็มี ดังนี้
1. พระธาตุพนม พระธาตุประจำวันอาทิตย์ ประดิษฐานที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม
2. พระธาตุเรณู พระธาตุประจำวันจันทร์ ประดิษฐานที่วัดพระธาตุเรณู อ.เรณูนคร
3. พระธาตุศรีคุณ พระธาตุประจำวันอังคาร ประดิษฐานที่วัดธาตุศรีคุณ อ.นาแก
4. พระธาตุมหาชัย พระธาตุประจำวันพุธ ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก
(พระธาตุมรุกขนคร พระธาตุประจำวันเกิดวันพุธ (กลางคืน) ประดิษฐานอยู่ ณ วัดมรุกขนคร อ.ธาตุพนม)
5. พระธาตุประสิทธิ์ พระธาตุประจำวันพฤหัสบดี ประดิษฐานที่วัดพระธาตุประสิทธิ์ อ.นาหว้า
6. พระธาตุท่าอุเทน พระธาตุประจำวันศุกร์ ประดิษฐานที่วัดพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน
7. พระธาตุนคร พระธาตุประจำวันเสาร์ ประดิษฐานที่วัดมหาธาตุ ถ.สุนทรวิจิตร อ.เมือง
(ป้ายบอกระยะทางพระธาตุต่างๆ จากหน้าวัดพระธาตุพนม)
ก่อนกลับแวะหาอะไรกินกันสักหน่อยก่อนกลับเข้าไปในตัวเมืองครับ
จากแผนที่บริเวณวัดพระธาตุพนม
1 = พระธาตุพนม
2 = ร้านอาหาร
3 = บริเวณรอรถสองแถว,รถตู้
จากนั้นก็มารอรถ เพื่อกลับเข้าตัวเมืองครับ จะเป็น วินสองแถว(3) พระธาตุ-นครพนม หรือ จะคอยโบกรถตู้ก็มีเหมือนกันครับ รถตู้ที่วิ่งมาจาก มุกดาหาร เข้า นครพนม แต่ .. ขออาศัยรถสองแถวดีกว่าครับ ได้บรรยากาศ นั่งชิลล์ รับลม 55+
หลังจากนั้นประมาณเกือบ 1 ชั่วโมงก็เดินทางเข้ามาถึงในตัวเมือง กลับมากันที่ "หอนาฬิกา" เช่นเคย (กลับมาตั้งหลักกันที่นี่เช่นเดิม อิอิ) ซึ่งในช่วงบ่ายนี้..เราจะมา "ปั่นจักรยาน" เที่ยวกัน ครับ
แผนที่ปั่นจักยานเที่ยวนครพนม #ปั่นริมโขง
1 = หอนาฬิกา
2 = หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ นครพนม
3 = ร้านส้มตำคุณแต๋ว
4 = พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าฯ (หลังเก่า)
5 = โบสถ์นักบุญอันนา หนองแสง
เรามาเริ่มปั่นกันดีกว่าครับ โดยจากหอนาฬิกามาไม่กี่สิบเมตร คือป้าย ที่ใครมาต้องแวะมาถ่ายครับ.. ป้าย @นครพนม ที่มีฉากหลังเป็น วิวแม่น้ำโขง และฝั่งประเทศลาว
"หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ นครพนม" เป็นอาคาร 3 ชั้นแบบเรอเนสซอง สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2458 เดิมเป็นอาคารศาลากลางจังหวัดนครพนม สร้างด้วยอิฐฉาบปูน พื้นและบันไดเป็นไม้ ตัวอาคารสีเหลือง ดูสวยงามมากครับ
หลังจากนั้นก็ปั่นกันต่อไป โดยระหว่างทางจะมีร้านเด็ดแนะนำครับ นั่นก็คือ ร้าน "ส้มตำคุณแต๋ว" (3) ร้านส้มตำอีสานแท้ อาหารอร่อย สะอาด บรรยากาศดี ที่มีทั้ง เมนูส้มตำสารพัดตำ ปลาเผา ไก่ย่าง (น้ำจิ้มเด็ดมากกก)
ปั่นชิลล์ๆ เลียบริมโขงมาอีกไม่ไกล ก็มาถึง "พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม" เป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลในการก่อสร้างจากฝรั่งเศส ช่วงสมัยสงครามอินโดจีน จึงมีลักษณะของสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น มีประตูโค้งครึ่งวงกลมหน้าต่างโค้ง เหนือประตูหน้าต่างเป็นลายปูนปั้น หรือแกะสลัก อาคารมีเสาเป็นเสาสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ หลังคาไม่ลาดชัน
โต๊ะตัวนี้ สามารถมานั่งถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้ด้วยนะครับ!
ในอดีตจวนผู้ว่าฯ แห่งนี้ได้ผ่านภารกิจอันยิ่งใหญ่ คือการเป็นที่ประทับแรมของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมเยียนราษฎรในจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความปลาบปลื้มใจแก่ชาวนครพนมอย่างยิ่ง
ก่อนออกจากตัวอาคารจะมีจุดจำหน่ายของที่ระลึก ครับ สามารถซื้อหาของที่ระลึก ของนครพนมได้ครับ มีทั้ง พวงกุญแจ เข็มกลัด โปสการ์ด และของที่ระลึกต่างๆ
จากนั้นก็ปั่นมาถึงที่สุดท้ายของเส้นทางนี้ นั่นก็คือ "วัดนักบุญอันนา-หนองแสง" วัดในศาสนาคริสต์ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2469 ลักษณะเด่นของโบสถ์ก็คือมีหอคอยคู่ยอดแหลมเด่นเป็นสง่าสวยงาม โบสถ์นี้ถือเป็นศูนย์กลางของคริสต์ศาสนิกชนท้องถิ่นแห่งนี้ครับ
ใกล้ๆ กันนั้นเป็นอาคารเก่าที่เคยใช้เป็นที่ปฎิบัติศาสนกิจของบาทหลวงนิกายคาทอลิก ก่อตั้งโดยบาทหลวงเอดัวร์นำลาภ (ภายหลังจัดตั้งเป็นมูลนิธิบาทหลวงเอดัวร์นำลาภ)
เสร็จสิ้นการ #ปั่นริมโขง เที่ยว ในระยะทางร่วมๆ เกือบ 10 กิโลเมตร ในเวลา 3-4 ชั่วโมง ก็มานั่งพักผ่อนกันริมโขงครับ เป็นระยะเวลา แดดร่มลมตก พอดี วิวธรรมชาติริมฝั่งโขง ยามเย็นแบบนี้ดีมากๆ ครับ..ชิลล์ และ อีกไม่นานก็จะเป็น กิจกรรมต่อไปของเราครับ นั่นก็คือ "การล่องเรือแม่น้ำโขง"
ได้เวลา 17.00 น. เรือก็ทำการออกล่องไปตามแม่น้ำโขงครับ โดยจะเลียบไปกับฝั่งไทย นครพนมก่อน บนเรือก็จะมีไกค์คอยบรรยาย ให้ความรู้ แนะนำ ประวัติความเป็นมา ของสถานที่ต่างๆ ที่ล่องผ่านครับ เห็นถึงวิถีชีวิตของผู้คนริมฝั่งแม่น้ำโขง บรรยากาศก็สบายๆ ครับ .. สนุกดี เพลินเลย!
เรือแล่นเลียบไปตามฝั่ง "นครพนม" ก่อนครับ
ส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวชอบมานั่งกันบนชั้นสอง(ดาดฟ้า) ของเรือครับ อาจจะได้บรรยากาศที่สบายๆ ในมุมมองที่กว้างกว่า รับลมเย็นๆ ด้านบน ดังนั้น..ชั้นสอง จึงดูคนเยอะเป็นพิเศษครับ..
ยืนเล่นรับลมท้ายเรือก็ชิลล์ดีนะ..ครับ ชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตก..
ลงมานั่งด้านล่างกันเหมือนเดิมครับ
เรือจะใช้เวลาในการล่องทั้งหมด ประมาณ 1 - 1.30 ชั่วโมง โดยประมาณครับ เมื่อล่องเลียบฝั่งไทยแล้วก็ข้ามไปล่องดูวิถีชีวิตของพี่น้องฝั่งลาวกันบ้าง
ขึ้นมาจากเรือแล้ว..ก็แวะมาไหว้ พระธาตุกันต่อ ที่ ถ.สุนทรวิจิตร ริมโขงนี่เอง เป็น
"วัดมหาธาตุ" ที่อยู่ติดริมฝั่งโขง ซึ่งเป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อครั้ง สร้างเมืองนครพนม
แผนที่ สถานที่สำคัญ ร้านอาหาร และ โรงแรม
1 = หอนาฬิกา
2 = โรงแรมเฟิสท์
3 = โรงแรมตองเจ็ด
4 = ถนนคนเดิน
5 = ด่านตรวจคนเข้าเมือง(ข้ามไปลาว)
6 = วัดโอกาส
7 = ตลาดอินโดจีน
8 = ร้านสบายดี@นครพนม
9 = ร้านชิลล์ๆ ริมแม่น้ำโขง(จิบเบียร์)
พามาดูของกิน ที่ "ถนนคนเดินนครพนม" กันครับ เริ่มที่ "ข้าวจี่" มีหลายรสเลย เลือกเอาตามความชอบ..
หาอะไรกินเล่นๆ ที่ถนนคนเดินกันแล้ว ก็มาหาอะไรที่มันกินจริงๆจังๆ บ้าง ฮ่าๆ เรามากันที่ "ร้านสบายดี@นครพนม" ..(8) อยู่ในถนนคนเดินนี่แหละครับ
ได้เวลาอาหารมื้อเย็นอย่างเป็นทางการ..
และ นี่คือพระเอกของมื้อนี้เลยครับ.. ใครมาก็ต้องสั่งมาลองครับ เมนู "ปลาจุ่ม" เสริฟมาเป็น เซต ๆ.. เป็นชุดๆ ..
อิ่มจากร้าน สบายดี@นครพนม ก็ข้ามฝั่งมาอีกฝั่ง เยิ้องๆ กัน เป็นร้านอาหารเช่นกันครับ (9) แต่มีจุดเด่นที่ร้านนี้มีเบียร์นำเข้าจากต่างประเทศ ให้ได้ชิมกัน
บรรยากาศ ดีๆ นั่งสนทนา เพลินๆ
เอก อี้..เอ๊ก..เอ๊กกกกก.. (ไก่ขัน)
เข้าสู่วันใหม่
[DAY 2] - ยามเช้าริมโขงนครพนม
พระอาทิตย์เริ่มจับขอบฟ้า บรรยากาศริมโขงยามเช้าอากาศดีมากๆ ชาวบ้าน ออกหาปลา กันแต่เช้าเลย .. ได้เห็นวิถีชิวิต ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ไม่เสียแรงเลย ที่ตื่น แต่เช้า.... อิอิ!
สายๆ หน่อย.. เช่าจักรยาน ปั่น มากันต่อที่นี่.. "บ้านลุงโฮจิมินห์"
1 = เมืองนครพนม
2 = บ้านลุงโฮจิมินห์
3 = ทางไปสนามบิน
ในส่วนของบริเวณภายในบ้านฃ จะมีต้นไม้นานาชนิดที่ลุงลุงโฮจิมินห์ ได้ปลูกไว้ครับ ได้แก่ ต้นมะพร้าว หมาก พลู กล้วย และชา ซึ่งทำให้บริเวณบ้านมีบรรยากาศที่ร่มรื่นมาก
ประวัติของบ้านหลังนี้มีอยู่ว่า.. "อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ลุงโฮจิมินห์ ได้เคยเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารเจ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อกอบกู้เอกราชของประเทศเวียดนาม ระหว่างปี พ.ศ. 2467–2474" ลุงโฮจิมินห์ เคยมาใช้ชีวิตในช่วงหนึ่งที่บ้านแห่งนี้ ภายในบ้านมีเครื่องใช้ไม้สอยที่จำลองในสมัยก่อนมากมาย เพื่อให้คงซึ่งบรรยากาศเดิม ๆ ไว้ เหมือนสมัยที่ครั้งลุงโฮจิมินห์ ได้มาอยู่ที่บ้านแห่งนี้
ภายในบ้านเต็มไปด้วยรูปถ่าย ของลุงโฮจิมินห์
มาเยือนที่บ้านลุงโฮจิมินห์ ได้เดินดูอะไรจนทั่วแล้ว ก็ปั่นกลับเข้าเมืองครับ!
จากนครพนมจะข้ามไปฝั่งลาว ยังไง?
จังหวัดนครพนม จะตรงกับ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน (ຄໍາມ່ວນ) ซึ่งเป็นหนึ่งในแขวงของประเทศลาว ครับ ซึ่งการเดินทางข้ามแม่น้ำโขงไปนั้น ค่อนข้างที่จะสะดวกสบาย เพราะจะมีเรือข้าม ตลอดทั้งวัน ถ้ามาเที่ยวนครพนมแล้ว มีความรู้สึกอยากข้ามไปเที่ยวฝั่งลาวบ้าง ..ก็ทำตามนี้เลยครับ!
แผนที่นครพนม-ท่าแขก
1 = หอนาฬิกา
2 = ด่านตรวจคนเข้าเมือง
3 = เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน
หลังจากผ่าน ตม.ไทย ปั๊ม .. ขาออก เรียบร้อยแล้ว ก็เดินลงบันได ไปขึ้นเรือครับ บันไดค่อนข้างสูงและชันมาก มีการขนส่งสินค้าทางเรือ ขึ้น-ลงตลอดเวลาเลยครับ
ไม่นานเรือก็ข้ามฝั่ง มาถึง ฝั่งลาว ที่ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน แล้ว ก็ลงเรือ แล้วเดินขึ้นฝั่งสิครับ... แต่ ฝั่งลาวบันไดชันกว่าฝั่งไทยอีก แบบว่ากว่าจะขึ้นไปถึงข้างบน 55+ ก็ทำการปั๊มเข้าประเทศลาวครับ จะเสียค่าธรรมเนียม 40 บาท (จ่ายเป็นเงินไทยได้ครับ)
เดินเล่นบนถนนเลียบฝั่งโขง จากที่เคยมอง ฝั่งลาว จาก ฝั่งไทย ตอนนี้.. ขอมามอง ฝั่งไทย จาก ฝั่งลาว ดูบ้าง
เดินจากด่านมา 200 เมตรก็เจอวัดวัดหนึ่งครับ (อ่านชื่อวัดไม่ออก..แหะๆ) เข้าไปชมความสวยงามของวัด ลาว กันสักหน่อยครับ..
ใกล้ๆ กับด่าน จะเห็นโรงแรมใหญ่ อยู่ 2 โรงแรมครับ เผื่อใครสนใจข้ามฝั่งมานอนฝั่งนี้ก็ได้นะครับ..
เห็นร้านค้าเล็กๆ หลายร้านเลยครับ ตามริมโขง ลองหานั่งดูสักร้านดูดีกว่า เหมือนว่า..ไม่ค่อยมีคนเลย.. นั่งร้านนี้เป็นโต๊ะ เก้าอี้ตัวเล็กๆ นั่งริมถนน..
สั่งไป 2 ฟอง ครับ 5000 กีบ (20 บาท)
แอบดู สาวน้อย..คนนี้ กินข้าวเหนียว กับ ปลาทอด ได้ท่าทางแซ่บมาก!
ได้เวลาเดินทางกลับไปฝั่งไทยแล้วครับ.. ก็เดินกลับไปที่ด่านลาว (ที่ด่านมีพักเที่ยงด้วยนะครับ) ก็ทำเรื่องขาออกประเทศ เสียค่าธรรมเนียมอีก 40 บาท (เสียอีกแล้ววว..) เสร็จแล้วก็มาซื้อตั๋วเรือ ขากลับ ราคาเท่ากับขามา 60 บาท ครับ
แผนที่นครพนม
1 = ตลาดอินโดจีน
2 = ที่พักริมโขงปันสุข(ตำถาดครูริน)
3 = วัดมหาธาตุ
4 = ข้าวเกรียบปากหม้อศรีเทพ
5 = ร้านเหรียญทอง(ของฝาก)
ภาพนี้..กำลังทำปากหม้อใส่ไข่ ครับ
จากนั้น มาอีกหนึ่งร้าน ขอแนะนำ "ตำถาดครูริน" (2) อยู่ติดริมโขงเลยครับ ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกับ ที่พักปันสุข ริมโขง ที่ได้แนะนำไปข้างต้นแล้วนะครับ ถ้ามาพัก ที่ ปันสุข ริมโขง ก็จะได้กินส้มตำได้ใกล้ๆ เลยทีเดียว อิอิ!
มานั่งตรงมุมดี ก็ดีครับ นั่งกินตำถาดแซ่บๆ พร้อมกับ.. ชมวิวแม่น้ำโขงสวยๆ
และ อีกร้านที่อยากแนะนำ " ครัวเวียดนาม @ นครพนม " ถ้ามีเวลาลองไปชิมดูครับ
สุดท้าย.. ก่อนกลับ ก็ต้องมาแวะซื้อของฝากที่ร้าน "เหรียญทอง" (5) ครับ อยู่ไม่ไกลจาก "ข้าวเกรียบปากหม้อศรีเทพ" (4) เดินมาไม่กี่ก้าวก็ถึงครับ (แถวนี้มีอีกร้าน ครับ ร้านพรเทพ อาหารเช้า ใครชอบกินไข่กะทะ ไข่ลวก อาหารเช้ามาทานกันได้นะ) ร้าน "เหรียญทอง" เป็นร้านของฝาก สามารถมาซื้อของฝากได้ที่นี่ครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็น พวกหมูยอ แหนม อาหารแปรรูป ต่างๆ ไว้ซื้อไปเป็นของฝากครับ..!!!
และแล้ว.. ก็ได้เวลาเดินทางกลับ กทม. ครับ จากสนามบินสามารถ โทรเรียกรถให้มารับได้ครับ (รถรับส่งสนามบินตามเบอร์ที่ได้จากตั๋วตอนขามาครับ ควรโทรบอกรถล่วงหน้าหน่อยนะครับ) แล้วทางรถรับส่งเขาจะถามเที่ยวบินขากลับเรา เพราะเขาจะมารับ แค่รอบเดียวเท่านั้นครับ รถจะวนรับผู้โดยสาร ตาม โรงแรมต่างๆ ซึ่งถ้าเป็น แอร์เอเชีย ไฟล์ทเย็น เขาก็จะให้สแตนด์บายรอ ช่วงประมาณ 15.00-15.30 น. สามารถให้ไปรับได้ทุกที่ในเมืองครับ ราคา 100 บาท เท่าเดิมเหมือนตอนขามา สะดวกสบายไม่ต้องกังวลว่าจะตกรถ..ครับ
จากนั้น .. ก็มาถึง "สนามบินนครพนม" เตรียมตัวเดินทางกลับกันครับ สำหรับการเที่ยวใน นครพนม นี้ก็รู้สึกประทับใจ อะไรหลายๆ อย่างเลยครับ ไม่เบื่อ ที่จะต้องมาหลายๆ รอบ ชอบวิถีชีวิตที่ช้าๆ ไม่เร่งรีบ ในบรรยากาศสบายๆ จึงอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ที่ยังไม่เคยมา ลองมาเที่ยวกันนะครับ..(นครพนมโปรถูกๆ เยอะนะครับ..อิอิ แต่ช่วงหลังๆ เหมือนจะไม่ค่อยออกมาเลยนะ 55) ก่อนหน้า..นี้ ที่ไม่เคยรู้จัก และไม่เคยคิดที่จะมาเที่ยวนครพนมเลย พอได้มาสัมผัส มาทำความรู้จักแล้ว ความคิดก็เปลี่ยนไปเลย ครับ กลายเป็น จังหวัดที่ผมรู้สึกชอบที่สุด ไปซะงั้น..55+ ก็หวังว่าเมื่อเพื่อนๆ ได้มาลองเยือนแล้วจะรู้สึก หลง+รัก ไปกับผม เช่นกัน!
สุดท้ายนี้.. ก็ขอขอบคุณ เพื่อนๆ ทุกท่านที่เปิดเข้ามาชม มาอ่านรีวิวนี้นะครับ ถ้ามีข้อมูลใด หรือ อะไรที่ผิด พลาดไป ก็ ขออภัย ไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะครับ มีโอกาสคงได้เจอกันอีกนะ บ๊ายยย..บายยย.. นครพนม สวัสดี! (-/\-)
การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER
Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
Instagram : CHAILAIBACKPACKER
Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9
CHAILAIBACKPACKER
วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.18 น.