Mui ne - Vietnam

มุยเน่เป็นหนึ่งในเมืองไฮไลท์ของการมาเที่ยวเวียดนามใต้ อยู่ห่างจากโฮจิมินห์ประมาณ 200 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม. เป็นเมืองชายฝั่งทะเลที่ติดกับทะเลทรายหนึ่งเดียวของเอเชียค่ะ ^^

มาถึงที่นี่แล้ว เราสามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์หรือเหมารถจี๊ปให้พาไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก เพราะมีบริษัทเอเจนซี่นำเที่ยวไว้คอยบริการมากมาย มาคราวนี้เราเลือกเช่ามอเตอร์ไซค์มาลองขี่ แข่งกับคนเวียดนามดูบ้าง ^^ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างพลาด เพราะอากาศร้อนมาก และราคาเช่ามอเตอร์ไซค์กับรถจิ๊ปก็เท่าๆกัน รถจิ๊ปมีคนขับให้พร้อม เราก็นั่งสวยๆถ่ายรูปดีกว่าไหม ^^"

ได้มอเตอร์ไซค์กันแล้ว เราก็ลุยกันเล้ยยยยย !!!


วิวระหว่างทางเลียบชายฝั่งกับเรือกระด้ง ซึ่งเป็นเรือพื้นบ้านดั้งเดิมของมุยเน่ค่ะ


หมู่บ้านประมง (Fishing Village) เป็นจุดชมวิวของอ่าวมุยเน่ ตรงนี้จะได้เก็บภาพของเรือประมงนับร้อย สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านประมงค่ะ


และมาถึงเมืองมุยเน่ ต้องไม่พลาดอาหารทะเลที่สดและถูกมากกกกกก ไม่ว่าจะเป็นหอยเชลล์ หอยหวาน ล๊อปสเตอร์ตัวใหญ่ๆ กุ้งกุลาดำทะเล ปลาหมึก ในราคาแค่หลักสิบถึงหลักร้อยเองค่ะ


วิวระหว่างทางไปทะเลทราย มีทั้งทะเล ภูเขา หาดทราย สวยจนต้องจอดรถเก็บภาพกันตลอดเส้นทางเลยค่ะ ^^


และแล้วเราก็มองเห็นทะเลทรายสีขาว (White Sand Dune) อยู่ไกลๆ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของเมืองนี้ ห่างจากตัวเมืองมุยเน่ประมาณ 30 กว่ากม.


ทะเลทรายมุยเน่เป็นเนินทรายขนาดใหญ่สูงกว่า 40 เมตร แม้จะไม่ได้กว้างใหญ่เทียบชั้นทะเลทรายซาฮาร่าได้ แต่ถ้าได้ขึ้นไปยืนอยู่บนสันทราย ก็จะดูตัวเล็กเท่ามดไปเลยนะ ^^


ริ้วลอนของคลื่นทราย ที่เกิดจากลม จะลบรอยเท้าของเราให้หายไปได้เพียงแป๊บเดียวเองค่ะ ^^



มาที่นี่เตรียมตัวกันแดดมาให้ดีนะคะ ลมก็แรงมาก ยกกล้องถ่ายรูปนี่ก็ติดทรายเต็มไปหมดเลยค่ะ ^^"



จุดที่ถ่ายรูปตรงนี้ เป็นจุดที่สูงที่สุด สามารถมองเห็นวิวได้ครบ 360 องศา แต่จะมาตรงนี้ได้ด้วยการเดินเท้า คงเป็นไปได้ยาก เราก็เลยเช่ารถ ATV ที่ขับเองก็ไม่ได้ซะด้วย เด็กเวียดนามก็เลยมาขับให้ (และแน่นอนเรียกร้องขอทิปเยอะซะด้วยนะ - -" ) แต่ประสบการณ์ซ้อน ATV ที่นี่ จะจำไม่มีวันลืม T_T น้องขี่ได้โหดมากกก ผาดโผน ไต่ไปตามสันทรายสูงๆ เราทำได้แค่อย่างเดียวคือกอดน้องเค้าแน่น หลับตา และกรี๊ดจนสุดเสียง - -" อารมณ์คงเหมือนได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์ไต่ถัง...พูดได้เลยว่า แทบช๊อค!!!


หลังจากเต็มที่กับทะเลทรายขาวแล้ว ก็ขี่รถย้อนกลับแวะเที่ยวระหว่างทาง ตรงนี้น่าจะเป็นทางเข้าแฟรีสตรีม (Fairy Stream) ซึ่งสภาพภูมิประเทศตรงนี้จะเป็นภูเขาหินทรายขนาดใหญ่ ที่ถูกกัดเซาะจนเป็นร่องกว้างกว่า 20 เมตร ซึ่งจะมีชั้นหินและชั้นทรายสีสันสวยงามแปลกตา ระยะทางชมแฟรีสตรีมไป-กลับประมาณ 2 กม. แต่เราไม่ได้เข้าไป เพราะเวลาไม่ทัน ก็เลยขอถ่ายรูปไว้แค่นี้ค่ะ ^^"



และอีกหนึ่งไฮไลท์อันดับสองของเมืองนี้ ก็ยังคงเป็นทะเลทรายอยู่นะคะ แต่ที่นี่เป็นทะเลทรายแดงค่ะ แดงจริงๆด้วย เกิดจากการรวมตัวกันของทรายสีแดงจากสนิมเหล็กจนเป็นบริเวณกว้าง...ที่นี่จะมีเด็กๆท้องถิ่นตัวป่วนคอยเดินตามชวนเล่นสไลเดอร์ ซึ่งต้องปีนเนินทรายขึ้นไปด้านบนแล้วใช้แผ่นสไลเดอร์ไถลลงไปด้านล่าง น่าสนุกไปอีกแบบนะ ^^



กลับเข้าถึงในเมืองกันก็เย็นพอดี มานั่งรอดูพระอาทิตย์ตกที่ชายหาดกันค่ะ



ช่วงสุดท้ายที่พระอาทิตย์ตกไปแล้ว กำลังเดินกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ พอหันกลับมามองอีกที เราเจอภาพนี้ค่ะ ท้องฟ้าสีแดง แดงมากกกกกก ยืนตะลึงอยู่สักพักเลย จากที่ดูว่าสวยงามกลายเป็นน่ากลัวไปเลยค่ะ มันแดงมากจริงๆนะ - -"


มื้อเย็นเรามาฝากท้องร้านดังของที่นี่ค่ะ เป็นร้านที่อยู่บนหาด ล๊อปสเตอร์ตัวใหญ่มากแบ่งทานได้สองคน สั่งอาหารมาอีกหลายอย่าง จิปไวน์แดง ชมบรรยากาศ ชิวๆ ราคาไม่ต้องห่วงค่ะ ถูกมากอย่างที่บอก อาหารประมาณนี้ที่อื่นคงหลายพัน วันนั้นเราจ่ายประมาณ 8-9 ร้อยบาทค่ะ

จบ One day trip ที่มุยเน่แล้ว เราก็รอรถ Sleeping bus ออกประมาณเที่ยงคืน เพื่อให้ไปถึงโฮจิมินห์ในตอนเช้าค่ะ แล้วจะเขียนรีวิวเมืองโฮจิมินห์ต่อนะคะ :D

ติดตามเรื่องราวการเดินทางและพูดคุยกับผู้เขียนได้ที่ Fanpage : https://www.facebook.com/Mytravelholicdiary/ ค่ะ


My Travelholic Diary

 วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.47 น.

ความคิดเห็น