ยอดเขาพนมเบญจา ตั้งอยู่ในพื้นที่การดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา จ.กระบี่ มีความสูงถึง 1,397 เมตร จากระดับน้ำทะเล
- ชาวบ้านจะเรียกเขาแห่งนี้ว่า “เขานม” เพราะสัณฐานของแนวเทือกเขาที่มองแต่ไกล จะมีรูปทรงคล้ายกับผู้หญิงนอนหงาย บนยอดเขาสูงสุดจะเป็นยอดนม 2 ยอด คั่นกลางส่วนหัวในบริเวณคอจะเรียกว่า “คอนางนอน” ถัดมาก็เป็นส่วนหัว หรือเรียกส่วนนั้นว่า “หน้าผากนางนอน” ชาวบ้านในละแวกนั้นต่างเชื่อว่าเป็นขุนเขาความศักดิ์สิทธิ์ จนกระทั่งมีการเปลี่ยนตั้งชื่อ เขาพนมเบญจา

- เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่นักเดินป่าต้องการพิชิต ซึ่งเส้นทางเดินป่าสู่ยอดเขาพนมเบญจา มี 2 เส้นทาง ทั้งสองเส้นทางจะได้พบกับธรรมชาติที่สวยงามของพันธุ์ไม้ สัตว์ป่า ถ้ำ น้ำตก ธารน้ำ ทะเลหมอก จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นตัวเมืองกระบี่ และยังเป็นเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกระบี่

ข้อควรรู้เมื่อไปพนมเบญจา

- ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยวป่าเขาพนมเบญจา
: ควรเป็น 2 วัน 1 คืน หรือจะเที่ยวให้เต็มที่ก็ต้องใช้เวลา 3 วัน 2 คืน

- ติดต่อการเดินทางผ่านอุทยานแห่งชาติ

- จุดแคมป์มีแหล่งน้ำ ช่วงที่ไปไม่เจอทาก ( 2-4 มี.ค.64)

- ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง ได้ราคาเหมามา 2 คน 3 วัน 6000 บาท

- ค่ารถรับส่ง อช.-จุดเริ่มเดิน (ไป-กลับ)1000 บาท

- ผู่ช่วยแบกสัมภาระ 15 กิโลกรัม 3000 บาท

- ตลอดทางเดินไปกลับมีสัญญาณมือถือ AIS มาเรื่อยๆตลอดเส้นทาง บางจุดเน็ทแรงมากจนเล่นโปเกมอนได้

--------------------

DAY 1

ตรงนี้คือ อุทยานแห่งชาติพนมเบญจา ต้องมาลงทะเบียนตรงนี้ 

จากนั้นเคลียร์ของสัมภาระให้เจ้าหน้าที่เสร็จแล้วจะมีรถเจ้าหน้าที่ไปส่งยังจุดเริ่มเดิน ซึ่งไกลจาก อช.ประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ1 ชม. เพื่อนๆ ต้องเผื่อการเดินทางช่วงนี้ดีๆ

เส้นทางนี้เป็นเส้นทางใหม่เมื่อก่อนเดินขึ้นทางน้ำตกซึ่งจะมีความชันมากกว่า

เส้นนี้ก็จะเดินขึ้นเรื่อยๆ ไกลกว่าแต่ไม่ชันเท่าเส้นเก่า อากาศร้อนอบอ้าวมาก ตลอดทางเดินไม่มีแหล่งน้ำให้เติม...เริ่มเดินตอน 11 โมง ด้วยความลีลาาหลายสิ่ง และไม่ได้เผื่อเวลานั่งรถอีก 1 ชม.

จุดเริ่มเดินความสูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 190 เมตร

วันแรกยิงยาว 4km. ขึ้นอย่างเดียวไม่มีทางราบ...

ความสูงตรงจุดแคมป์จากระดับน้ำทะเล 1070 เมตร 

ความชันหรือความลาดเอียง 870 เมตร 

ดันจนถึงแคมป์ตอน 4 โมงเย็น ตรงนี้มีแหล่งน้ำแบบแห้งมากกกก ต้องเอาแก้วค่อยๆวิดน้ำขึ้นมาใช้ - -!

แคมป์ 1 พื้นที่ส่วนใหญ่เหมาะสำหรับกางเปลมากกว่า พื้นที่กางเต็นท์ได้สูงสุดไม่น่าจะเกิน 6 หลัง พื้นที่ลาดเอียงเยอะ รากไม้เยอะ ก้อนหินยิ่งเยอะกว่ารากไม้

มีเห็บด้วย ตัวใหญ่มาก

แล้วก็ผ่านค่ำคืนนี้ไปอย่างเหงาๆ ถึงแคมป์เร็วกินข้าวเร็ว ไม่มีอะไรทำจริงๆ ทุกคนพากันเข้านอนตั้งแต่ 3 ทุ่ม

พี่โชคถือเป็นคนแกร่งของทริปนี้เลย นอกจากจะแบกเป้เดินขึ้นแล้ว พี่แกยังแบก Ronin ตลอดเส้นทาง เดินไวด้วยนะ

คนหุงข้าวดูเป็นกังวลมาก

DAY 2

วันนี้เริ่มเดินสายๆเลยเพราะจากแคมป์หนึ่งไปแคมป์สอง ห่างกันเพียง 1 กิโลเมตร 

แต่ความชัน จาก 1,070 เมตร ไป 1,200 เมตร เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกันนะ ตลอดเส้นทางยังคงเป็นป่าทึบ ไม่มีวิวเลย จุดพักเราจะอยู่ตรงน้ำตก แล้วเดินต่อ

เสพติดเขา X Comeon เจอกันทีไรลุ้นทุกที #พรุ่งนี้จะเอาวิวมาอวด

และแล้วก็เกือบถึงแต่ไม่ถึง จุดนี้จะเป็นวิวเปิดโล่งมองเห็นเมืองกระบี่

ถึงจุดกางเต้นท์แล้ว ตรงนี้ สามารถ กางเต้นท์ก็ได้ ผูกเปลก็ได้ พื้นที่เยอะ พระอาทิตย์จะขึ้นตรงหน้าแคมป์เลย...พรุ่งนี้เช้ารอดู

แคมป์นี้มีแหล่งน้ำแบบสามารถอาบได้เลย

กางเต้นท์อะไรให้เรียบร้อยแล้วนอนเล่น แล้วสักบ่าย 3 ค่อยไปจุดชมวิว เนินหน้าผากสาว ที่ความสูงราว 1,290ม.  คือ (เวลาเหลือเยอะมาก ที่จริงที่นี่ควรมาแบบ 2 วัน 1 คืนนะ )

นอนจนเบื่อ บ่าย 3โมงครึ่ง ถึงเริ่มเดินไปยอดเนินหน้าผากสาว

ระหว่างทางคือดีมาก ต้นไม้สวย ออกแนวป่าโบราณ แต่ทางชันชิปหายเลย ต้องไต่หิน ปีนหิน บางจุดต้องใช้เชือกค่อยๆไต่ขึ้นไป แต่โดยรวมสนุกดี เหนื่อยเหมือนกัน ควรพกน้ำและขนมขึ้นไปด้วย

ตอนแรกๆจะดันขึ้นอย่างเดียวเลยยาวๆ แล้วจากนั้นก็ดันลง ยาวๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังเดินกลับแคมป์ป่าววะ ไม่ไปยอดเขาสักที แบบนั้นเลย

ถึงแล้วววววววววโว้ยยยยยยย เออสวยวะ แบบสวยเกินคาดนะที่นี่ เพราะตอนแรกไม่ได้หวังว่าจะเห็นวิวจากพนมเบญจา...แต่ของจริงมาวะ ได้อยู่ อากาศเย็นลมแรงมาก มีหมอกไหลตลอดเลย

มองไปทางทิศตะวันตกจะเห็นอ่าวอันดามัน สลับกับภูเขา สวยมากจริงๆ

นั่งเล่นจนเกือบๆ 6 โมงเย็น ก็เดินกลับไปแคมป์ ขากลับทางมืด อย่าลืมไฟฉายคาดหัวด้วย (สำคัญ)

เย็นนี้มีเมนูยำหมูเด้ง-หมูยอทอด-ต้มยำปลากระป๋อง โดยเชฟปันและเชฟพี่โม

ราตรีสวัสดิ์

แด่เช้าที่สดใส (ในความคาดหวัง)

หมอกหนามาก 7 โมงแล้วยังไม่ได้เห็นแสงอาทิตย์ที่หน้าแคมป์เลย.....เมื่อคืนคนที่นอนเปลบอกว่าหนาวมาก แต่เรานอนเต้นท์ตรงริมผา ลมแทบไม่ผ่านเลยเหงื่อแตก

วันนี้ต้องรีบกินข้าวแล้วรีบลงเพราะทางลง นรกมาก

ขากลับทางลง ลงอย่างเดียว เดินไปเรื่อยๆ จนเจอน้ำตกแปลว่าใกล้จะถึงและ

จุดสุดท้ายที่แวะเล่นน้ำกัน

จบทริปแล้ว ถ้าถามว่าพนมเบญจา เป็นที่ต้องห้ามพลาดไหม? 

ก็จะตอบในแบบของเราว่า ก็มาได้แหละ มาเถอะ ก็สนุกดี 

(แต่ถ้ามาสองวันหนึ่งคืนคงสนุกกว่านี้) แต่ถ้าสายชิลเดินแบบ 3 วัน 2 คืนก็หาอะไรมาเล่นบนเขาด้วยแก้เบื่อ

#เก็บป่าใต้ให้มันจบๆจะได้ไม่คาใจ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณภาพสวยๆจากเพื่อนๆ ทุกๆคนมริปที่ร่วมแบ่งปันกัน 

แล้วเจอกันใหม่ป่าหน้าจ้า

#เสพติดเขา

#Comeon คำอรที่ไม่ใช่ คัมออน

 

Mint Septidkhao

 วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 20.40 น.

ความคิดเห็น