สวัสดีครับ แถ่มแท้ม




ไปติดเกาะที่เกาะหมาก


ไปท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอน

เที่ยวแบบไม่ซ้ำเติมธรรมชาติ

การท่องเที่ยวในแบบที่โลกจะรักคุณมากขึ้น





มาถึงตอนที่ 2 แล้ว และนี่เป็นความเดิมจากตอนที่แล้ว แล่นเรือใบล้อเล่นลมบนอ่าวสวนใหญ่ สนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งจานร่อน Disc Golf และชมแสงสุดท้ายที่อ่าวพระ >> http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=hyee&month=05-2016&date=10&group=1&gblog=164



ก่อนอื่น การท่องเที่ยวแบบโลว์คาร์บอนคืออะไร หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคย



ท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอนก็คือการท่องเที่ยวที่เน้นการทำกิจกรรมต่างๆ ที่จะไม่เพิ่มการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์หรือก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ อย่างเช่น เปิดแอร์ เปิดไฟเท่าที่จำเป็น ปิดเสียเมื่อไม่อยู่ห้องพัก หันมาสั่งอาหารเมนูที่หาได้เองจากในท้องถิ่น หรือเล่นกิจกรรมต่างๆ ที่พึ่งพาพลังงานสะอาด ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวพร้อมใจกันเปลี่ยนค่านิยมตรงนี้



และแหล่งท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอนก็คือ แหล่งท่องเที่ยวที่พัฒนาขึ้นโดยความพร้อมใจกันของชาวบ้านและผู้ประกอบการ รองรับความต้องการที่จะทำให้แหล่งท่องเที่ยวนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ซ้ำเติมธรรมชาติ นำไปสู่ความยั่งยืน นักท่องเที่ยวพร้อมใจกันยินดีทานอาหารที่ได้จากในถิ่น ทำกิจกรรมที่ไม่เพิ่มมลภาวะ ผู้ให้บริการก็พร้อมใจจัดหาวัตถุดิบในถิ่น ลดการนำเข้าจากที่ไกลๆ ลดการขนส่งที่ก่อให้เกิดการเผาผลาญพลังงาน และลงทุนในกิจกรรมสนุกสนานต่างๆ ที่ใช้พลังงานสะอาด เหล่านี้ก็ลดการใช้น้ำมัน ลดคาร์บอนในที่สุด



เกาะหมากคือ เกาะโลว์คาร์บอน พื้นที่เป้าหมายแรกๆ พื้นที่ต้นแบบที่ทางอพท. หรือองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยสำนักงานบริหารพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยงและความร่วมมือของ ISMED สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้ริเริ่มแบรนด์ เกาะหมาก Low Carbon Destination และความร่วมแรงรวมใจกันของชุมชนและเหล่าผู้ประกอบการบนเกาะ ช่วยกันพัฒนาให้เป็นเกาะที่มีความพร้อมสู่ความเป็น Low Carbon Destination
อาหารทะเลบนเกาะนี้วัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากประมงเล็กๆ รอบเกาะ ไฟฟ้าบนเกาะนี้หลายๆ ผู้ประกอบการก็หันมาใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ น้ำในสระว่ายน้ำของหลายๆ รีสอร์ทก็ใช้พลังงานจากโซล่าเซลในการทำความสะอาด ที่นี่ไม่มีผับเธค กิจกรรมทางน้ำไม่มีสกู๊ตเตอร์ บานาน่าโบ๊ท นอกจากนี้ผู้ประกอบการบนเกาะยังพร้อมใจจัด happy hour เชิญชวนนักท่องเที่ยวปิดแอร์ ปิดไฟ ช่วงบ่ายๆ ออกมาท่องเที่ยวชมเกาะ โดยลดค่าบริการอาหาร เครื่องดื่ม กิจกรรมต่างๆ




เกาะหมาก โลว์คาร์บอน

เกาะที่ไม่ถูกตามใจ

Unspoiled Island








ผมขึ้นเกาะหมากมาในครั้งนี้เดินทางมาเพื่อทำกิจกรรมร่วมกับ อพท. เป็นการมาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว จากโครงการ Low Carbon Destination ถัดไปก็ Low Carbon Holiday และครั้งนี้ ... Low Carbon Castaway หลายคนคงคุ้นๆ คำว่า Cast away มาติดเกาะเหมือนชื่อหนังดังในอดีตที่นำแสดงโดยทอม แฮงค์ มาในนาม 10 บล็อกเกอร์อาสารักษ์โลก วัตถุประสงค์ของกิจกรรมก็คือช่วยกันเผยแพร่เกาะหมากให้เป็นที่รู้จักกว้างขึ้นบนความเข้าใจคอนเซ็บภายใต้แบรนด์ "เกาะหมากโลว์คาร์บอน" มากขึ้น



เอาล่ะ ผมเดาว่ารายละเอียดในทริปคงไม่น่าสนใจไปกว่า มีอะไรดีดีในทริปนี้ที่พอนำมาฝากเป็นประโยชน์เป็นข้อมูลแก่ผู้ที่อาจจะสนใจมาเที่ยวเกาะหมากกันได้บ้าง เริ่มเลย



หาดแหลมสน
จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ดีที่สุดบนเกาะหมาก
Day2 เช้ามืดวันใหม่หลังจากตื่นขึ้นมา และพร้อมกันที่จุดนัดรับภารกิจใหม่ Mission 2 ฟ้าจวนสว่างแล้ว เราควบจี๊บออกปฏิบัติภารกิจกันทันที อย่างด่วนจี๋ ล่าแสงแรกแห่งวัน ดักรอตะวันขึ้น ณ จุดชมวิว Sunrise ปลายหาดแหลมสน




พิกัดหาดแหลมสน N11° 49.564' E102° 30.702' https://goo.gl/TpXQtO
เป็นจุดทิศตะวันออกสุดของเกาะหมาก บริเวณนี้เป็นชายหาดยาวเหยียด มีลักษณะเป็นแหลม มีต้นสนขึ้นอยู่ทั่ว ชายหาดยาวกว่า 1 กิโลเมตร แบ่งเป็นหาดด้านเหนือกับหาดด้านใต้






ดูสิครับ แนวสนกึ่งทึบกึ่งโปร่งแบบนี้ มองเห็นชายหาด มองไกลออกไปเห็นเกาะกระดาด หาดทรายก็สะอาด เปิดมุมรับการชมตะวันขึ้นได้ตลอดปีตลอดชาติ เว้นเสียแต่ตะวันจะหลบเข้ากลีบเมฆเท่านั้น






เมฆจับกลุ่มอยู่ปลายขอบฟ้าหนาทึบเป็นพิเศษ ผิดปกติเกินไปสำหรับกลางเมษาเดือนฮาวาย นี่ละครับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่ทำให้สภาพอากาศไม่แน่นอนเหมือนเก่าก่อน ทำเอาการเฝ้าดักตะวันครั้งนี้เป็นภารกิจที่ต้องลุ้นกันตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อต







เจอตะวันขี้อายแบบนี้ พอเธอโผล่พ้นขอบฟ้าเป็นไข่แดงยังไม่ทันจะลอยสูงก็หายว้าบเข้าก้อนเมฆไปเลย บรรยากาศฟ้าหม่นๆ เหมือนฝนจะตกในอีกไม่นาน โชคดียังมีช่องว่่าง ฟ้าเปิดนิดหน่อย ตรงกลางระหว่างตำแหน่งสูงจากขอบฟ้าเล็กน้อย กับมวลหมู่มหาเมฆหนาทึบที่ลอยอยู่ไม่สูงนักเบื้องบน เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว! เพียงพอที่เราจะได้ทักทายไข่แดง







แหลมสนเหมาะอย่างยิ่งที่เป็นจุดชมตะวันขึ้นของเกาะหมาก ด้วยประการทั้งปวง มีฉากหน้า fourground เงาป่าสนแบบนี้น่าจะหาได้ที่นี่ที่เดียวบนเกาะแห่งนี้ล่ะครับ




เตะตะวัน
คุณสุ มัคคุเทศก์กิตติมศักดิ์ของเรากำลังนอนเสพธรรมชาติ นั่นล่ะเธอล่ะ 555 ความสุขของ miss koh mak, She loves เกาะหมาก very มาก





บรรยากาศหาดด้านเหนือของแหลมสน เช้าๆ ลบนิ่ง ดูเงียบสงบดี ชายหาดโค้งน้อยๆ






มองกลับหลังหันมาก็จะเห็แนวทรายทอดยาวไปจรดปลายแหลม มีดงต้นสนเป็นแนวครึ้มอยู่เหนือหาด ตะกี้เราตั้งกล้องดักถ่ายตะวันอยู่ตรงนั้น





ทอดตาออกไปจากปลายแหลมสู่เวิ้งทะเล มองเห็นเกาะกระดาดอยู่ใกล้ ๆ มีติ่งเกาะเล็กๆ อยู่ขวามือสุดของเกาะกระดาก สองเกาะ คือเกาะนกใน และเกาะนกนอก






นาทีนี้ผมก็ love เกาะหมาก very มากอีกคนนึงแล้ว ความเงียบสงบเป็นเสน่ห์นะจังงังของที่นี่อย่างแท้จริง





พักผ่อน สโลว์ไลฟ์ อ่าวตัน



หลังเก็บตะวันเช้าเราก็บ่ายหน้าตรงดิ่งกลับมาเก็บแสงเช้าๆ กันต่อที่อ่าวตัน หากเอ่ยชื่ออ่าวตันหลายคนอาจไม่คุ้นหู แต่หากเอ่ยถึงชินนาม่อนอาร์ทรีสอร์ทแอนด์สปาขึ้นมา หลายคนคงคุ้นชื่อทันที เป็นรีสอร์ทแห่งเดียวบนอ่าวตัน ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะหมาก ถัดจากแหลมสนมาไม่ไกลนัก ทีมเราพักที่นี่ ก็เลยฝากปิ่นโตเช้าไว้ที่นี่ ดูแผนที่ข้างบนประกอบ ที่นี่มีสะพานทอดลงไปในทะเลที่ยาวที่สุดบนเกาะหมากอยู่ตรงนี้ สงสัยอยู่เหมือนกันทำไมต้องทำยาวซะขนาดนี้ ก็เลยใช้ กูเกิ้ลแม็ปส่องดู ปรากฏว่าเพราะทะเลทางด้านนี้ตื้นมากนั่นเองเลยต้องทอดยาวลงไปจนสุดเขตตื้นเพื่อจะได้เทียบเรือได้ ความยาวกว่า 460 เมตร นามว่าสะพานสู่ฝัน อันที่จริงสะพานที่ยาวกว่าครึ่งกิโลนี้ที่ปลายสะพานน่าจะเป็นจุดดักถ่ายตะวันที่ดีมากจุดหนึ่ง ผมคะเน ตะวันคงขึ้นรอดช่องว่างระหว่างเกาะหมากกับเกาะกระดาดเชียวล่ะถ้าวางแผนมาให้ถูกช่วงเวลา หากสนใจแม้ไม่ได้พักที่รีสอร์ทนี้ก็ลองแวะมากันได้ เท่าที่ทราบจากมัคคุเทศก์ของเรา ยืนยันมั่นเหมาะว่าเอกลักษณ์ที่น่ารักที่สุดของเกาะหมากก็คือคุณสามารถพักที่หนึ่งและไปท่องเที่ยวชมวิวยังที่อื่นๆ ได้ทั่วเกาะ โดยไม่มีรีสอร์ทไหนอิดออดแสดงการไม่ต้อนรับที่ไม่ได้พักที่เค้า ลองดูนะครับ เดินตรงไปถามเลยขอเข้าไปชมวิวชายหาดหน่อยนะครับ ค่ะ ลองดู







เสน่ห์ของอ่าวตันคงจะหนีไม่พ้นเหล่าต้นไม้กิ่งโกร๋นหงิกหงอยยืนต้นเหงาๆกระจัดกระจายอยู่กลางอ่าว สะพานสู่ฝันที่ทอดยาว และซากเรืออับปางที่เป็นแลนด์มาร์กชวนฝัน ยามน้ำลดเราลงไปเดินเล่นได้ พื้นรอนทรายแข็งไม่ยวบเท้าและไม่ลื่น เดินทอดน่องได้เพลินๆ เสียดายนิดที่ว่าซากเรือนี้กำลังถูกรื้อถอนไม้ออกไปเรื่อยๆ ใครมีโอกาสมาช่วงนี้คงยังทันพอได้เห็น แต่ว่าไม่เป็นไร หากไม่ทันผมมีลิงค์อัลบั้มซากเรือที่เคยถ่ายไว้ตอนที่มันยังเป็นซากสมบูรณ์ๆ ซึ่งคลาสสิคมากในความคิดของผมและเชื่อว่าของคนอีกหลายๆ คน
ลิงค์: https://goo.gl/d1GNqM







หลบแดดเที่ยงหาที่กินเค้กอร่อยๆ ที่
Sweet Cake
พิกัดแผนที่ร้าน https://goo.gl/KYfelh
ร้านเค้กนี้อยู่อ่าวนิด บนหัวโค้งเนินทางขึ้นมาจากท่าเรือ เป็นร้านกาแฟเล็กๆ กะทัดรัด แทบยกพื้นขึ้นไปอีกกลายเป็นหอชมวิวไปเลย เห็นวิวเกิน 180องศา ทดลองชิมเค้ก ชิมเครื่องดื่มแล้ว บอกเลยมาลองได้ ไม่เสียดายเงินในเป๋าตังค์แน่นอน







ครึ่งวันปาไปเรียบร้อย เพราะว่ามีเหตุการณ์ฝนตกหนักที่อีกฟากหนึ่งของเกาะ ทีมบล็อกเกอร์หลายทีมติดฝนขณะปฏิบัติภารกิจ ส่วนทีมล่าแสงของเราติดแดดเปรี้ยงๆ ตั้งหลักเฝ้าสังเกตเงาฝน เพราะภารกิจต่อไปของเราคือจะออกเรือ



แถ่มแท้ม บ่ายคล้อยละ ชัวร์ว่าไม่เจอฝนแน่แล้วก็ออกลุยต่อครับพี่น้อง







ย้อนกลับมาสู่บริเวณแหลมสนอีกครั้ง เราจะออกเรือไปตรงโน่น พร้อมกับชี้มือไปเกาะไกลๆ ลิบๆ ข้างๆ เกาะกระดาด มัคคุเทศก์ประจำทีมบอกว่าจะพาไปให้เห็น ต้นไม้แปลกตา มันยืนต้นเดียวดายอยู่กลางทะเล ปะปะ รีบพาไปเลย อยากเห็น







เรือน้อยลอยทะเล ลำหนึ่งขึ้นได้ 3-4 คน ลำที่มีหลังคาเต็มโควต้าอย่างรวดเร็ว ผมงี้เลยอาสามาลอยเรือลำน้อย ห่มแดด ห่มลม จินตนาการเหมือนเขียดน้อยลอยไปบนใบไม้แห้งๆ กลางทะเล







เรือแล่นผ่านเกาะกระดาด มองขึ้นไปทิวมะพร้าวสูงชะลูด ยังไม่มีโอกาสขึ้นไปเที่ยวเกาะกระดาดสักที






มาถึงแล้วเกาะนกนอก ออกเรือมาประมาณ 4 กิโล ต้นไม้อันซีนอยู่แถวนี้





สู่ต้นไม้อันซีน
ต้นเดียวดาย กลางทะเล

พิกัด gps: N11° 51.515' E102° 31.350'



ชื่อเรียกขานอย่างเป็นทางการยังไม่มี ดูแปลกตาดี เรือไม่สามารถวนรอบต้นไม้ได้ เพราะตื้นเขินเกินไป





เกาะชู้
พิกัดเกาะ gps: 11.858365, 102.528994
จากนั้นเราเรือก็พาเราอ้อมเหนือเกาะกระดาด ไปหาเกาะเล็กๆ อีกเกาะนึง คือเกาะชู้
เกาะชู้เป็นเกาะที่เล็กมาก มีนกใหญ่ทำรังอยู่บนนั้นด้วย ว่าจะปักหลักถ่ายสักหน่อย แต่กดชัตเตอร์ไม่ทันสักที ระหว่างพยายามบอกเรือให้นิ่งไว้นิ่งไว้จะถ่ายนก คุณสุ มัคคุเทศก์ของเราก็โดดตูม ลงไปเล่นคลื่นอย่างสนุกสนาน ผมงี้เลยเลิกถ่ายนก หันมาถ่ายกินรีเล่นน้ำคนนี้แทน แล้วจากนั้นก็อ้อมเกาะกระดาดกลับฝั่งที่แหลมสนจุดเดิม





แผนที่เส้นทางร่องเรือไปชมต้นไม้อันซีน ระยะทางวนรอบ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาไปประมาณหนึ่งชั่วโมง







ลุยกันต่อ แต่เดี๋ยวก่อน!! มาเกาะหมากทั้งทีพลาดถ่ายกับมุมมองดงมะพร้าวได้อย่างไร จัดซะเลย สองแช๊ะ






แหลมตุ๊กตา
พิกัด gps: 11.807678, 102.448094
แล้วก็ถึงเวลาเย็นย่ำ เวลาผ่านไปเร็วมาก มาถึงตอนนี้ภารกิจเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากหาที่ดักเก็บตะวันลาลับขอบฟ้า ก็คุยปรึกษากันแล้วตัดสินใจห้อจี๊บบึ่งมาทิศตะวันตกสุดของเกาะ ที่นี่ .... แหลมตุ๊กตา







พลาดครับ จุดนี้เหมาะชมความแปลกตาของแหลมตุ๊กตามากกว่าที่จะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก โอกาสที่จะได้เห็นตะวันตกผ่านซอกหินตรงนี้เป็นอะไรที่ต้องคำนวณวันมาก่อนให้ดี ผมจะรีวิวคำนวณวันให้ดูอีกทีในตอนถัดๆ ไป







ที่มาของชื่อแหลมตุ๊กตามาจากภาพโขดหินที่เมื่อมองจากทะเลเข้ามาจะแลเห็นเหมือนตุ๊กตาผู้หญิงนั่งอยู่ มีลักษณะคล้ายห่มสไบเฉียงๆ ด้วย (แต่ปัจจุบันสไบดูไม่เหมือนสไบแล้ว) ส่วนมุมมองจากด้านนี้จะแลเห็นเหมือนหินตามากกว่านะครับ







แผนที่แสดงตำแหน่งแหลมตุ๊กตา และอ่าวบ้านใหญ่ อ่าวที่จะเป็นจุดชมแสงสุดท้ายที่ผมขอแนะนำ





อ่าวบ้านใหญ่
จุดชมแสงสุดท้าย
จริงๆ แล้วเรียกว่าจุดชมแสงสุดท้ายจะเหมาะกว่าจุดชมพระอาทิตย์ตก เพราะว่ามันมีสิ่งนี้ .... มุมหมู่มะพร้าวสูงชะลูดโน้มลำตรงสู่ทะเลแล้วหักศอกขึ้นสู่ท้องฟ้า ฉาบแสงทไวไลค์ (มองดีดีเห็นแหลมตุ๊กตาอยู่ไกลๆ ด้านหลัง แต่หากจะชมตะวันตกน้ำสวยๆ แนะนำให้ไปชมที่อ่าวพระ ตรงนั้นมีเกาะผีเป็นฉากหลังสวยดี (แถวรีสอร์ทโคโค่เคป //รีวิวไว้ในตอนที่แล้วตามลิงค์ด้านบน)








สะพานโคโค่เคป
นี่ล่ะครับ ตรงนี้หากต้องการชมพระอาทิตย์ตก จุดนี้เหมาะนักแล สำหรับเย็นนี้ดวงตะวันลาลับฟ้าไปนานแล้ว เหลือแต่พระจันทร์คืนวันขึ้น 15ค่ำ ให้ดูแทน







ในตอนหน้าจะพาไปชมแหลมกระดุน อ่าวทองหลาง เกาะระยั้งนอก และเกาะรัง




หากคุณจะหลงรักเกาะไหนสักเกาะ

หลงรักการท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอน เที่ยวแบบไม่ซ้ำเติมธรรมชาติ


เกาะหมากแห่งนี้ก็พร้อมแล้วที่จะให้คุณหลงรักและรักคุณ



ขอขอบคุณ อพท. องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และ ISMED แม่งานหลักในทริปครั้งนี้ ขอบคุณผู้มีส่วนร่วมทุกท่าน โดยเฉพาะทีมสต๊าฟ เพื่อนร่วมทีม และคุณสุ มัคคุเทศก์ผู้มีใจเกินร้อยตลอดเวลา

และขอบคุณคนอ่านทุกท่าน เลิฟคนอ่านรักคนไลค์ ไลค์คนแชร์ทู้กคน



เกาะติดภารกิจติดเกาะของบล็อกเกอร์ทั้งหมดได้ที่เพจโลว์คาร์บอนช้างหมากกูด>> https://www.facebook.com/lcd.chang.mak.kood/



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเป็นการส่วนตัวได้ที่ Page:น้ำฟ้าป่าเขา https://www.facebook.com/Namfapakhao/ ยินดีเป็นสื่อกลางตอบคำถามและร่วมหาข้อมูล

น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา

 วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 13.50 น.

ความคิดเห็น