แวะชมกระทู้เก่า ๆ ได้ตามลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ
[ ★ ] ครั้งหนึ่งในชีวิต พิชิต " ผ า หิ น กู บ " ( 2 วัน 1 คืน กับงบ 1,400.-) https://th.readme.me/p/3774
[ ★ ] " ที ล อ ซู " อุ้มผาง มหัศจรรย์แห่งสายน้ำ กับเส้นทางลอยฟ้า 1219 โค้ง ( 3,900 บาทไทย ) https://th.readme.me/p/3935
[ ★ ] Backpack เว้ - ดานัง - ฮ อ ย อั น ( 5 วัน 4 คืน กับงบ 5,139.-) บนเส้นทางแห่งความทรงจำ ในวันที่ไม่นั่งเครื่องบิน :) https://th.readme.me/p/4720
[ ★ ] ก ร ะ บี่ ทริปสุดปัง !!! เที่ยวจุใจ 3 วัน 2 คืน ( 3,900.- เอาอยู่ ) https://th.readme.me/p/3937
[ ★ ] นอนแคมป์สุดชิค 2 วัน 1 คืน รับลมหนาว GOOD OLD DAYS จ. จันทบุรี https://th.readme.me/p/4721
[ ★ ] " มหากาพย์ลำคลองงู " แบกชูชีพ - เดินป่า - ไต่หิน - ลอดถ้ำ - ลอยตัว - โดดน้ำ - ตะลุยโลกใต้พิภพ https://th.readme.me/p/9353
+++พูดคุยทักท้ายกัน ติดตามเพจได้ที่นี่ ++
ก่อนตัดสินใจไปเที่ยวฮ่องกงก็ถามตัวเองว่า "ฮ่องกงมีอะไรให้เที่ยว" ...
"ฮ่องกง...มีอะไรอะ" ... "ไปทำไมอะ มันมีอะไรเหรอ"
ผมรู้แค่ว่า " ฮ่ อ ง ก ง " เป็นสถานที่ได้รับความนิยมเสมอในการออกเดินทางไปท่องโลกกว้าง อาจเพราะการเดินทางสะดวก
ใช้เวลาในการเดินทางไม่นานจนเกินไป มีแหล่งช็อปปิ้ง มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ มีวัดให้เราได้สักการะบูชา
และนี่ก็คงเป็นเหตุผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้ผมอยากออกเดินทาง ???? แบบ Backpack
เราเจอตั๋วโปรโมชั่นของ hongkong Airline กดจองรัว ๆๆๆๆๆๆๆๆ ได้ราคาโปรโมชั่นที่ x,xxx
ซื้อตั๋วกระเช้านองปิงเล่าแล้วน้ำตาจะไหล เราซื้อตั๋วจากไทยไปในราคา 960 บาท แต่ไม่ได้นั่ง
เขาปิดเพราะพายุเข้า . . . ฮือออออออ
ค่าตั๋วเครื่องบิน x,xxx บาท
ค่ามัดจำค่าที่พัก 1,100 บาท
เงินที่แลกไป 7,000 บาท (เหลือกลับมา 3,500)
ค่าบัตรปลาหมึก $300 ( 2 ใบ ) ทำหาย
รวมเป็นเงินทั้งหมด 11,000 บาทถ้วน ไม่มีรูดบัตรเครดิตเพิ่มคัฟ
เกริ่นมาซะยาววววว ...... ออกเดินทางกันดีกว่าคัฟ
สำหรับทริปฮ่องกง ผมขอแพลนคร่าวๆ ก่อนค้าฟฟ ว่าจะไปที่ไหนกันบ้าง
DAY 1 : หาด Repulse Bay ไหว้เจ้าแม่กวนอิม -->> ดู SOL , Avenue Of Star -->> ช็อปปิ้ง
DAY 2 : กระเช้านองปิง / ไหว้พระใหญ่ วัดโปลิน -->> ช็อปปิ้ง Citygate Outlet -->> ช็อปปิ้ง ย่านมงก๊ก
DAY 3 : วัดหวังต้าเซียน - >> วัดนางชี / สวนสวย Nan Lian Garden -->> วัดแชกุงหมิว -->> กลับบ้าน
[ Day 1 ]
หาด Repulse Bay ไหว้เจ้าแม่กวนอิม -->> ดู SOL , Avenue Of Star -->> ช็อปปิ้ง
ก่อนเดินทางได้ทำการจองโรงแรมผ่านเว็บ
http://www.agoda.com โดยเลือกพักที่ Marrigoldostel ราคา 3 วัน 2 คืน
คนละ 1,100 .- ประมาณตีสี่ผมก็รีบตื่นอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปตามนัดหมายขึ้นเครื่องที่ Suvarnaphum International Airport (เค้าว่ากันว่าต้องไปก่อนเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) ไปถึงสนามบินประมาณ 6.30 น. ก็รีบไปเช็คอิน โหลดสัมภาระ (กลัวไม่ได้ไป..อิอิ) เดินทางด้วยสายการบิน hongkong Airline คัฟ
กระเป๋าผมโหลดหนักประมาณ 8.3 กิโลเอ๊ะ!!! ทำไมหนักจัง สงสัยจะเสื้อผ้าเยอะ (พร๊อพผมต้องพร้อม) แต่ป่าวคัฟ ที่มันหนักนี่เพราะขนมคัฟ ผมตุนเสบียงสิคัฟ (มาม่า / ฟันโอ/ หมูหวาน / เลย์ / หอยลายกระป๋อง ฯลฯ)
หลังจากเช็คอินโหลดสัมภาระเรียบร้อย ท้องมันเริ่มประท้วงคัฟ (จ๊อกๆๆๆๆๆ) หิวล่ะสิคัฟ ก็เดินลงไปที่ Food ชั้น 1 เพื่อหาอะไรรองท้องก่อนเดินทางอีก 2 ชั่วโมง
ข้าวมันไก่ น้ำจิ้มรสเด็ด จานละ 50.-
กินเสร็จก็แวะเข้าห้องน้ำ เถลไถล กันจนได้เรื่อง เจอ Final Call หลายรอบเลยก็ใส่เกียร์หมาล่ะคัฟ Gate ของผมได้ไกลเลย อยู่สุดทาง รีบเลย 8.45 ได้เวลาเครื่องบินออกจาก Suvarnaphum International Airport ไปฮ่องกง
ได้เวลาเดินทางกันแล้ว ได้นั่งริมหน้าต่าง ที่นั่งก็โอเค ไม่แคบ กำลังพอดี :)
มีจอทีวีให้ดู ฟังเพลงด้วยเพลงก็ค่อนข้างอัพเดทใหม่พอสมควรเลย
บอก MAP ว่าตอนนีถึงไหนแล้วด้วยหน้าจอนี้
บินขึ้นมาได้สักพักพี่แอร์คนสวยเริ่มแจกอาหาร แอร์คนไทยก็มีนะคัฟ อุ่นใจมาก ๆๆ เลย
ตอนแรกไม่คิดจะกินเพราะยังอิ่มข้าวมันไก่ แต่คุณลุงข้างๆ กลัวเสียผลประโยชน์ สั่งมาให้เสร็จ
เมนูเป็นก๋วยเตี๋ยวไก่ หน้าตาแบบนี้ อาหารก็โอเคใช้ได้เลย
บินอยู่บนฟ้าสองชั่วโมงกว่า ๆ ก็ได้เวลา Landing แล้ว คุณกัปตัน Land นิ่มมาก และก็ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ
นกยักษ์ลำนี้แหละที่พามาถึงฮ่องกงโดยปลอดภัย ขอบคุณนะคัฟ Hongkong Airline
ถึงสนามบินฮ่องกงแล้วก็เดินออกมาเลย แวะเข้าห้องน้ำ กรอกน้ำดื่ม เปลี่ยนซิม หันมาอีกทีเค้าหายไปกันหมด เดินหลงกันอยู่แพร๊บ ก็เห็นป้าย เดินตามป้ายเลย Immigration เดินลงบันไดเลื่อนน่ะค้าฟ เพื่อต่อรถไฟ MTR ไปยังตม.
นั่งรถไฟ MTR ลงสถานี E2 เดินขึ้นบันไดเลื่อน เพื่อผ่าน ตม.
ผ่าน ตม. มาได้สบาย ๆๆ มองหน้าแล้วก็ปริ้นใบให้เลย ไร้ปัญหา เข้าไปรับกระเป๋าแบบสบาย ๆ ได้เลย
(อ้อ อย่าถ่ายรูปบริเวณ ตม. น่ะคัฟ เดี๋ยวจะโดนคุณ รปภ. ดุเอา)
เดินออกจาก ตม. มาเพื่อรับกระเป๋า ดูป้ายด้วยน่ะคัฟ ว่าของเราอยู่ช่องไหน
รับกระเป๋าเรียบร้อยก็เดินออกทางช่อง hall A หรือ hall B ก็ได้แล้วแต่ ...
ผมเลือกออกทาง hall B ออกพ้นประตูมาทางด้านขวามือจะเจอ ที่ซื้อบัตร Octopus (ปลาหมึก)
ผมเน้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MTR และรถบัส (เพราะง่ายและสะดวกสำหรับมือใหม่อย่างโพ้ม !!! 5555555)
ซื้อบัตรปลาหมึก เพื่อใช้จ่ายค่าเดินทางโดยรถเมล์ , MTR รวมทั้งซื้อของที่ 7-11
และอีกหลายร้านที่มีเครื่องคิดเงิน octopus อยู่ โดยที่ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องเศษสตางค์
ราคาบัตร ใบละ $150 (มัดจำบัตร 50 เหรียญ ที่เหลือเป็นเงินที่ใช้ได้ในบัตร)
ตู้เติมบัตร ผ่านเครื่องเติมเงิน Add Value Machine (ขั้นต่ำ $50 ) รับเฉพาะแบงค์ 50 กับ 100 เท่านั้น
การเติมเงินก็สามารถเติมได้ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินทุกแห่ง หรือร้าน 7-Eleven
การเติมเงิน ผ่านเครื่องเติมเงิน Add Value Machine .... ทำง่ายๆ แค่ 3 ขั้นตอน ดังนี้
1 . สอดบัตรปลาหมึก เข้าไป หน้าจอจะแสดง จำนวนเงินที่เหลืออยู่
2. ใส่เงิน ในช่องใส่เงิน
3. กด confirm อีกครั้ง เป็นอันเรียบร้อยครับ ก็จะได้บัตรคืนกลับมา - หน้าจอจะแสดง จำนวนเงินทั้งหมด ให้เห็นด้วยคัฟ
เมื่อได้บัตรปลาหมึก + เติมเงินเรียบร้อย ก็เดินตามป้าย To city เลยคัฟ
เดินมาสุดทาง จะเป็นทางแยก ซ้าย -ขวา ให้เดินตามป้าย Bus (เลี้ยวขวาน่ะคัฟ)
เดินตรงออกไปจนสุดทาง
เมื่อออกนอกตัวอาคาร ให้เดินไปทางขวา (ตามป้าย) เพื่อไปยังท่ารถบัส Cityflyer A21
เดินทางเข้าเมือง จากสนามบินฮ่องกง ด้วยรถ bus สาย A21
ราคาค่าโดยสาร 33 HKD ตลอดสาย ...
เป็นการเดินทางที่สะดวก สบาย เพราะ นั่งรถต่อเดียว
มุ่งหน้าสู่ตัวเมือง ย่านถนน Nathan ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
A21 จอดที่นี่แหละครับ จะมีผู้โดยสารเข้าคิว แถวค่อนข้างยาว แต่ไม่ต้องกลัวครับ เพราะเป็นต้นสาย ..
ระหว่างรอก็แอ๊คท่าถ่ายรูปกันไป . . . สนุกสนาน
รอประมาณ 10 นาที ก็มาแล้ว ตรงนี้ต้องเตรียมบัตรปลาหมึก ให้พร้อม
เมื่อขึ้นรถก็เอาบัตรแตะไปที่เครื่อง เอากระเป๋าไปวาง แล้วก็เลือกที่นั่ง ชั้น 1 หรือ 2 ก็ได้
ที่วางรถเข็นคนพิการ และ ที่วางสัมภาระ
เบาะนั่งอย่างดี (เสียอย่างเดียวปรับเบาะไม่ได้) นั่งตัวตรงอย่างเดียวเลย
แผนการเดินรถจาก Airport -> Hung Hom Station (จาก สนามบิน สู่ ตัวเมือง)
ตลอดเส้นทาง รถบัส Cityflyer A21 จะจอดทั้งหมด 19 ป้าย
ป้ายที่ 1 Airport (Ground Transportation Centre) - ป้ายแรกที่เราขึ้นรถที่สนามบิน
ป้ายที่ 2 Lantau Link Toll Plaza
ป้ายที่ 3 AquaMarine, Sham Mong Road
ป้ายที่ 4 Fat Tseung Street West, Sham Mong Road
ป้ายที่ 5 Metropark Hotel Mongkok, Lai Chi Kok Road
ป้ายที่ 6 Argyle Centre, Nathan Road
ป้ายที่ 7 Bank Centre, Nathan Road
ป้ายที่ 8 Sino Centre, Nathan Road
ป้ายที่ 9 Man Ming Lane, Nathan Road
ป้ายที่ 10 Nathan Hotel, Nathan Road
ป้ายที่ 11 Prudential Centre, Nathan Road
ป้ายที่ 12 Kimberley Road, Nathan Road
ป้ายที่ 13 Cameron Road, Nathan Road
ป้ายที่ 14 Middle Road, Nathan Road ---> ลงสถานีนี้คัฟ
" Tsim Sha Tsui " / " จิมซาจุ๋ย "
ป้ายที่ 15 New World Centre, Salisbury Road
ป้ายที่ 16 Mody Road, Chatham Road South
ป้ายที่ 17 Granville Road, Chatham Road South
ป้ายที่ 18 Hong Kong Science Museum, Chatham Road South
ป้ายที่ 19 Hung Hom Station
บรรยากาศระหว่างการเดินทาง เข้าสู่ตัวเมือง
ลงสถานีที่ 14 " Tsim Sha Tsui "
เดินย้อนกลับลงมาถึงสี่แยก Nathan Road เลี้ยวขวาเดินลงมาตามป้าย Tsim Sha Tsui Station
ตึกที่พักของเรา CHUNGKING MANSIONS เดินตรงเข้าไปในตึก เลี้ยวขวา -->> เลี้ยวซ้าย เพื่อขึ้นลิฟท์
BLOCK D - 11/F Marrigold Hostel
ห้องพักในฮ่องกง
พอเข้าที่พักเรียบร้อยพักผ่อนสักครู่ กินมาม่ารองท้อง แล้วก็ออกเดินทางกันต่อ แต่ตื่นตาตื่นใจกับตึกที่อยู่ติด ๆ กัน
บ้านคนฮ่องกงจะเป็นตึกติด ๆ กัน อย่างเราอยู่ฝั่งตรงข้ามก็จะมองเห็นอีกฝั่งหมดเลย
[ สถานที่เที่ยวที่แรก " หาด Repulse Bay ไหว้เจ้าแม่กวนอิม " ]
การเดินทางไป Repulse Bay
นั่ง MTR สถานี Tsim Sha Tsui (สายสีแดง) ไปลง สถานี Central -> Exit A (ปลายทาง)
แล้วขึ้นบันไดเลื่อน ไปตึก Exchange Square ใต้ตึกจะเป็น Bus Terminal ->
นั่งรถ No.6, 6A, 6X, 260 ประมาณ 30 นาที
รถจะวิ่งมาเรื่อยๆ จนถึง ถนนเลียบชายทะเล สักพัก เราจะเห็นตึกที่มีรู .... แล้วให้ลุกไปกดกริ่งลงได้เลย
ข้ามถนน มาอีกฝั่ง แล้วเดินลงไปที่ชายหาด Repulse Bay
เดินเลียบชายทะเล ไปทางซ้าย ประมาณ 300 เมตร ก็จะถึง ศาลเจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่ทับทิม
นั่ง MTR สถานี Tsim Sha Tsui (สายสีแดง) ไปลง สถานี Central -> Exit A (ปลายทาง)
ออกมาแล้วก็มองหาตึก Exchange Square พอเราไปถึง เย็นตึ้บเลย มีแต่ตึกเต็มไปหมด . . .
เจอเป้าหมายเป็นชาย วิ่งตรงเข้าไปถามทาง เราถามว่าตึก Exchange Square คือตึกไหน ??????
ไม่มีใครตอบเราเลยสักคน ... เสี่ยงดวงเอาว่ะ
ดูแล้วน่าจะเป็นตึกฝั่งตรงข้าม ที่มีชั้นล่างเป็นลานโล่งๆ (น่าจะเป็นจุดจอดรถบัส)
เริ่มจากออกจากสถานีรถไฟฟ้า ก็เลี้ยวขวาเดินขึ้นบันไดเลื่อนข้ามไปอีกฝั่ง เดิน ๆ ไปก็จะเจอป้ายให้ลงไปชั้นล่าง
เดินลงไปก็จะเจอป้ายนี้สะดุดตาสะดุดใจ มาถูกทางแล้ว รถเมล์ที่จะไปถึง Repulse Bay มีสาย 6 6A 6X 260
เราก็เลือกขึ้นสายนี้แหละ 260 (อยู่ใกล้เราสุดๆๆ)
ตอนขึ้นรถเมล์ก็แตะบัตรปลาหมึก เลือกที่นั่งได้ตามใจ เนื่องจากคนไม่เยอะ ลงสถานีที่ 11
นั่งรถเมล์มาได้ประมาณ 30-45 นาที ก็ถึง สถานีที่ 11 Repulse Bay
แล้วให้สังเกตตึกที่มีช่องโหว่เป็นรูตรงกลาง เห็นตึกนี้แล้วเตรียมลงได้เลย
Repulse Bay หาดทรายรูปจันทร์เสี้ยว จัดว่าเป็นหาดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในฮ่องกง (ตรงไหนหว่า??)
วัด Tin Hua มีรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่ทับทิม เทพเจ้าแห่งโชคลาภ
เทพเจ้าหยุดโหล่ว (เทพเจ้าแห่งความรัก) ถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ดีมาก ๆ ของฮ่องกง
จะมีสะพานต่ออายุ หากได้ข้ามสะพานนี้เชื่อกันว่าข้ามครั้งหนึ่งแล้วจะอายุยืนขึ้นอีก 3 ปี
แต่ข้ามสะพานแห่งนี้มีข้อแม้ว่าข้ามไปแล้วห้ามข้ามกลับ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นลดอายุลงมา
ต้องเดินข้ามไปแล้วเดิมอ้อมใต้สะพานกลับมาอีกทางหนึ่ง ตั้งใจมาที่นี่เพื่อมาขอพรให้เป็นสิริมงคล
การขอพร พื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกับตัวเอง
1. ยืน อธิฐานขอพรด้านหน้าพระพักตร์ของเจ้าแม่กวนอิมตรงบริเวณพื้นที่สี่เหลี่ยม เล็กๆ
บอกชื่อ-นามสกุล ที่อยู่
และสิ่งที่ต้องการจะขอท่าน และถ้าหากสำเร็จแล้วจะแก้บนที่วัดมังกรเล่งเน่งยี่ (กทม)
2. สังเกตุที่บริเวณที่ยืนด้านหน้าพระพักตร์ขององค์เจ้าแม่ทับทิม จะมีวงกลมอยู่วงหนึ่งบนพื้น ให้เราเดินวนรอบๆ
วงกลมนั้นและ เมื่อเดินครบรอบแล้วให้ก้าวออกมา ซึ่งการกระทำแบบนี้หมายความว่าเราได้นำสิ่งที่ไม่ดีออก
จากร่างกายเราไปและจะทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นนั่นเอง
3. จากนั้นเข้าไปขอพรจากเทพเจ้าแห่ง โชคลาภ "ไฉ่ซิงเอี้ย" ซึ่งตั้งอยู่ตรงด้านหน้าพระพักตร์ของ
เจ้าแม่กวนอิม สังเกตได้ไม่ยากครับเพราะว่าจะมีคนเข้ามาลุม ลูบเทพเจ้าองค์นี้ตลอดเวลา
วิธีการคือให้เรานำเงินมาลูบเทพเจ้า แห่งโชคลาภ ตั้งแต่บนสุดจนลงไปล่างสุดขององค์รูปปั้น
และนำใส่กระเป๋าของเราดังนั้นถ้าจะ ไปเที่ยวที่วัด เจ้าแม่กวนอิมแห่งนี้ให้ใส่กางเกงที่มีกระเป๋าไปด้วย
4. เดิน ข้ามสะพานต่ออายุ ซึ่งตั้งอยู่ตรงบริเวณริมชายหาด ทาสีแดง สามารถสังเกตุเห็นได้อย่างชัดเจน
เค้าว่ากันว่า ถ้าเดินข้ามสะพานแห่งนี้ไปแล้วจะทำให้เราอายุยืนไปอีก 3 ปี
* * แต่มีข้อห้ามว่า * * อย่าเดินย้อนกลับอย่างเด็ดขาด เพราะว่าจะทำให้เราอายุสั้นลงไป 3 ปี
5. เดินไปด้านหน้าของวัด เพื่อไปลูบๆ คลำๆ ที่ลูกแก้วสารพัดนึกที่ลิ้นมังกร (Dragon of wealth)
และ อธิษฐานเพื่อสิ่งที่ต้องการ จะทำให้สมความปรารถนาทุกประการ
การขอ เรื่องความรักกับเทพเจ้าแห่งความรัก เค้าว่ากันว่าสมุดเล่มใหญ่ที่อยู่ในมือของเทพเจ้าแห่งความรักนี้
มีรายชื่อ ของหนุ่มสาวที่ท่านจะประทานพรให้
ว่ากันว่า ใครโยนเหรียญ เข้าปากปลาสีเหลืองตัวนี้ได้ในครั้งแรก
พรที่ขอไว้กับเจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่ทับทิมไว้ จะสัมฤทธิ์ผล
จบภาระกิจขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล
ได้เวลาเดินทางกลับ เพื่อไปช๊อปปิ้ง ย่านมงก๊ก
การนั่งรถบัสยามค่ำคืน ที่ฮ่องกง น่ากลัวสุดๆ เพราะผมนั่งชั้น 2 (หน้าสุดเลย)
นั่งรถ No.6, 6A, 6X, 260 ประมาณ 30 นาที กลับไปตึก Exchange Square
นั่ง MTR สถานี Central ไปลง สถานี MongKok -> Exit E2
บรรยากาศยามค่ำคืน (ปิดถนน) ฝนตก อากาศไม่เป็นใจ แต่ก็ยังเดินกันอยู่ ช๊อปสักพักก็กลับ
นั่ง MTR สถานี MongKok (สายสีแดง ปลายทาง Central) ไปลง สถานี Tsim Sha Tsui -> Exit C1 (สีเขียว)
ลงสถานี Tsim Sha Tsui
เดินตามป้าย C
ออกทาง C1
ด้านหน้าทางเข้าที่พักยามค่ำคืน
[ Day 2 ]
กระเช้านองปิง / ไหว้พระใหญ่ วัดโปลิน -->> ช็อปปิ้ง Citygate Outlet -->> ช็อปปิ้ง ย่านมงก๊ก
เข้า MTR เดินไปตามเส้นทาง B2 Cameron Road ( ขึ้นบันไดเลื่อน ) เพื่อไปทานอาหารร้าน YOSHINUYA
เมนูอาหารยามเช้า (โดนโกงค่าอาหารไป $4 )
บรรยากาศภายในร้าน ไม่มีใครสนใจใครเลย
อาหารมื้อนี้ $29 บะหมี่เค้าอร่อยมาก ชอบซุปมากๆๆ
การเดินทางไป ขึ้นกระเช้านองปิง ชมหมู่บ้านวัฒนธรรมนองปิง ไหว้พระใหญ่ วัดโปลิน
นั่ง MTR สถานี Tsim Sha Tsui (สายสีแดง ปลายทาง Tsuen Wan)
ไปเปลี่ยนเป็นสายสีเหลืองที่สถานี Lai King ไปลงสถานี Tung Chung
ระหว่างการเดินทาง ฟ้าหลังฝน มักสวยงามเสมอ (ถ่ายผ่านกระจกรถไฟฟ้า)
ออกจากรถ MTR -->> Exit B (ปลายทาง สายสีเหลือง)
ขึ้นมาจากบันไดเลื่อน จะเจอร้าน arome ขนมปังราคาไม่แพง ซื้อตุนไว้เวลาขึ้นไปไหว้พระใหญ่ (เผื่อหิวกลางทาง)
จัดขนมปังไป 1 ชิ้น $9
แตะบัตรออก เดินไปตามป้าย B ให้เลี้ยวขวา
เดินผ่านตึก Citygate เพื่อข้ามถนน
ทางขึ้นกระเช้านองปิง อยู่ใต้ตึกนี้
เศร้า!!! มากมาย กระเช้าปิด เพราะพายุเข้า :(
ได้มองแต่บันไดทางขึ้นกระเช้า (แต่ไม่มีสิทธิ์ได้ขึ้น) ดวงดีอะไรขนาดนี้นิ
หากต้องการที่จะขึ้นไปไหว้พระใหญ่ สามารถไปได้ทางรถบัส โดยการเดินไปสุดทางแล้วเลี้ยวขวา
นั่งรถเมล์สาย 23 จากท่ารถบัสสถานี Tung Chung เหมือนกัน อยู่ติดกับตรงบริเวณที่นั่งกระเช้าเลย
วิธีนี้จะเหนื่อย เพราะว่ารถจะวิ่งลัดเลาะตามขอบเขื่อน ขอบภูเขาไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
สำหรับค่าใช้จ่ายก็ 16 HK$ ในวันธรรมดา และ 23 HK$ ในวันหยุด
ด้านบนคือที่ขึ้นกระเช้านองปิงเพื่อไปไหว้พระใหญ่
เดินตรงไป ตามป้าย 23
ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ค่ารถไป - กลับ $34 ... จุดที่รถบัสสาย 23 จอดส่งให้ลงเพื่อไหว้พระใหญ่ . . .
เดินตามป้ายบอกทาง
ระหว่างรอเข้าห้องน้ำ
องค์พระใหญ่นองปิง . . .
เดินไปเรื่อยๆจะผ่านประตูนี้ ดูสวยและยิ่งใหญ่มาก ชอบๆ
บรรยากาศโดยรอบทางเข้าจนถึงทางขึ้นพระใหญ่
ทางขึ้นไหว้พระใหญ่ . . .
องค์พระทำจากทองสัมฤทธิ์หนัก 250 ตัน สูง 34 เมตร นั่งอยู่บนฐานกลีบบัว
ยกพระหัตถ์ขวาและแบพระหัตถ์ด้านซ้ายไว้บนตัก
พระเนตรจ้องมองลงมาเหมือนดังว่ากำลังประทานพรให้แก่เราที่มากราบไหว้ท่านเลยล่ะ
ถ้าอยากจะขึ้นไปสัมผัสกับองค์พระแบบใกล้ๆ แล้วล่ะก็ต้องเดินเท้าขึ้นบันได 268 ขั้น
ทางขึ้นไปไหว้พระใหญ่ ยังกับทางขึ้นดอยสุเทพบ้านเรา . . .
ตลอดการเดินขึ้นบันได มีจุดแวะพักไปเรื่อยๆ แวะถ่ายภาพบ้าง ดูวิวไปบ้าง เดี๋ยวก็ถึงคัฟ
แต่พอขึ้นไปถึงด้านบนแล้ว เราจะเห็นวิวทิวทัศน์ของเกาะฮ่องกงได้อย่างชัดเจน
ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเดินขึ้นไปไหว้พระใหญ่ แต่หากจะชมบริเวณฐานด้านล่างของพระใหญ่ $60
มีเปิ๊สสะกาดของวัดขายด้วยคัฟ $10
ระหว่างทางก็แวะไปเรื่อยๆ ถ่ายรูป ชมวิว เอาบรรยากาศ
พอเดินขึ้นมาเรื่อยๆ หันหลังกลับไปมองด้านหลัง สวยจุง หมอกกำลังมา
ถึงแล้วคร๊าบๆๆๆๆๆๆๆ พอขึ้นมาถึงด้านบนก็หายเหนื่อยเลยครับ
ยืนมอง อยู่นาน สองนาน ขนลุกเลยครับ (อากาศเย็นมาก ลมแรงด้วย ฮ่าๆๆ)
สักพักฝนก็ตกมาแบบซู่ๆๆ วิ่งหลบใต้ฐานแทบไม่ทัน รอสักพักก็เดินลุยฝนกลับลงมา
ไปต่อยังวัดข้างๆ วัดโปลิน
ด้านในวัดโปลินไม่ให้ถ่ายรูปน่ะคัฟ ให้ไหว้พระขอพรได้อย่างเดียว
ถ่ายย้อนกลับไปยังพระใหญ่ ฝนตกหมอกลงหนาตามาก มองแทบไม่เห็นองค์พระ
ออกจากวัดโปลิน ก็เดินกลับไปหมู่บ้านวัฒนธรรมนองปิง ท่ามกลางบรรยากาศฝนตกพร่ำๆๆๆ แล้วก็ซู่มาเป็นระยะ
ทางเข้าหมู่บ้านวัฒนธรรมนองปิง
มีแผนที่ด้วย แต่เดินง่ายมาก ตามๆเค้าไป ไม่ต้องกลัวหลง ในป้ายบอก Wifi Avilable ไม่ได้ลองซะด้วย
เพราะฝนตกต่อเนื่องทำให้ร้านค้าส่วนมากปิด ก็เลยไม่ได้เดินดูเท่าไหร่ เตรียมตัวเดินทางกลับ
รอรถประมาณ ครึ่งชั่วโมง โดยรอตรง Bus Terminal เพื่อกลับไปยังจุดที่ขึ้นรถมา
กลับมาถึง ท้องร้องจ๊อกๆๆ เห็นป้ายพิซซ่า ราคา $33 ตรงดิ่งเข้าไปทันที
สิ่งที่เราคิด กับ สิ่งที่เราได้มันไม่ใช่อ่ะ $33 ได้มา 1 ชิ้น
ต่อด้วยชุดเกี๊ยวซ่า + ซุปข้าวโพด ด้านบน Food
แล้วก็เดินช๊อปปิ้งที่ City Gate ไม่ได้อะไรสักอย่าง
รู้สึกล้า . . . เดินทางกลับที่พัก
นั่ง MTR สถานี Tung Chung (สายสีเหลือง ปลายทาง Hong Kong) ไปลง สถานี Lai King
แล้วต่อสายสีแดงไปลงสถานี Tsim Sha Tsui (ปลายทาง Central) -> Exit C2
[ Day 3 ]
วัดหวังต้าเซียน - >> วัดนางชี / สวนสวย Nan Lian Garden -->> วัดแชกุงหมิว -->> กลับบ้าน
วัดหวังต้าเซียน
นั่ง MTR สถานี Tsim Sha Tsui (สายสีแดง ปลายทาง Tsuen Wan)
ไปลง สถานี Yau Ma Tei
เพื่อต่อสายสีเขียว ไปลงสถานี Wong Tai Sin -> Exit B (สายสีเขียว ปลายทาง Tiu Keng Leng)
ออกทาง Exit B เลี้ยวขวาขึ้นบันไดจะเห็นวัดอยู่ตรงหน้า (ด้านซ้ายมือ)
ระหว่างทางเดิน
จะมีคนขายธูป เทียน (จะซื้อหรือไม่แล้วแต่เลยคัฟ) ด้านหน้ามีวัดมีร้านขาย
จะเห็นร้านขายเครื่องลางสีแดง ๆ เต็มไปหมดอยู่ทางซ้ายมือ
(ร้านแรกพี่ผช เสื้อแดงพูดไทยได้) ซื้อร้านนี้แหละคัฟ
น้ำเต้า ใบเล็ก $28 ใบใหญ่ $38
บูชาน้ำเต้าเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ดูดเงินดูดทอง (ไหว้เสร็จลาเอากลับบ้านได้)
ธูป แบบสั้น $10 แบบยาว $15 (ต่างกันที่คำอวยพร) ใช้ครั้งแรกที่มาไหว้
แบบชุด $35 ธูปกับกระดาษ ใช้ในการแก้บน
ของผมซื้อแบบธูป แบบ $15 แบบยาวคัฟ อ้อ!!! ขี้ธูปของที่วัดหวังต้าเซียน ตกใส่มือแล้วไม่เจ็บน่ะคัฟ ไม่ร้อนด้วย
หลังจากซื้อชุดไหว้เสร็จก็เดินเข้าวัด ตามป้ายบอกทางเลย (มีเจ้าหน้าที่คอยบอกด้วย)
เดินตรงขึ้นบันไดไปได้เลยคัฟ
บริเวณลานจุดธูป (ธูปติดยากมากขอบอก)
มีผู้คนจำนวนมากมาย มาไหว้ขอพร และเซี่ยงเซียมซี่ (ที่นี่แม่นมาก)
การไหว้ขอพร ที่นี่จะมีทั้งหมด 3 จุด เริ่มจาก ด้านหน้าหลังจากเดินเข้าประตูไป
เดินไปทางขวา ในจุดที่สอง และเดินลงบันไดไปไหว้ในจุดที่สาม จะมีป้ายบอกทาง หลังจากไหว้เสร็จ
เดินออกจากวัดจะมีมังกรอยู่หน้าวัด ให้ลูบตัวมังกรแล้วอธิษฐานขอพรด้วย
ไหว้ขอพร จุดที่ 1 ธูปจะมีคำอวยพรเป็นภาษาจีน (อ่านไม่ออก แปลไม่ได้) :)
จุดที่ 2
จุดที่ 3
หลังจากไหว้พระขอพรเสร็จ ส่วนมากก็จะขึ้นไปเซี่ยงเซียมซี (แม่นมาก) เค้าว่ากันมาแบบนี้อ่ะค้าฟ
แต่ผมไม่ค่อยสนก็เลยใช้เดินเก็บบรรยากาศรอบๆ วัด
อย่าลืม !!! ลูบมังกร ลูบจมูก ลูบหน้า ตัว เท้า ลูบจนลอก (ดูจมูกดิ)
คงเป็นความเชื่อ ของชาวฮ่องกง เพราะทุกคนวิ่งกรูกันเข้าไป บางคนถ่ายรูปเซลฟี่ บางคนก็ลูบเหมือนจะเอาเลข
วัดนางชี / สวนสวย (Nan Lian Garden)
จบจากวัดหวังต้าเซียน ก็จะเดินทางไปวัดนางชี -> สวนสวย โดยรถไฟฟ้า MTR เหมือนเดิม
* * วัดนางชี กับสวน Nan Lian อยู่ติดกัน ให้เข้าไปที่ สวน Nan Lian ก่อน แล้วข้ามสะพานหิน ไปวัดนางชี * *
เปิดให้เข้าชมฟรี ไม่เสียเงิน .... เปิดบริการ 7.00 - 21.00 น.
นั่ง MTR สถานี Wong Tai Sin (สายสีเขียว ปลายทาง Tiu Keng Leng)
ไปลง สถานี Diamond Hill - > Exit C2
ออกมาจะเจอ บันไดเลื่อน ทางเข้าห้าง Plaza Hollywood ให้เดินเลี้ยว ไปทางขวา ก็จะเจอทางออก ด้านนอก
ออกมาตรง ถนน. จะเห็นป้าย บอกทางไป (ให้เลี้ยวซ้าย)
เดินไปอีก 100 เมตร แล้วข้าม ถนน ตรงแยกไฟแดง ... ก็จะเป็นประตู ทางเข้า Nan Lian (สวนอยู่ใต้ทางยกระดับ)
Hilight คือศาลาจีน สีทอง ..... สวยงาม... รู้สึกเหมือนได้มาเที่ยวญี่ปุ่น (เข้าไปด้านในไม่ได้ !!! ห้ามเข้า)
เป็นสวนสาธารณะที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา มองเห็นต้นไม้สีเขียวๆ ร่มรื่น สบายตา
ถ้าเมืองไทยบ้านเรามีแบบนี้ !!! สัญญาเลย ... ผมจะออกไปวิ่งทุกวัน
สวนสีเขียวอยู่กลางเมืองฮ่องกง . . .
ภาพบรรยากาศภายในสวนสวย มีทั้งน้ำตก ดอกไม้ พันธุ์ไม้หลายชนิด ผีเสื้อมากมาย
และหินรูปร่างหน้าตาแปลกๆ การตกแต่งและออกแบบคล้ายๆ ของญี่ปุ่น (ช่วงที่ไปมีการปรับปรุงบางส่วน)
และฝนทำท่าจะตกหลายรอบ
ภาพที่ได้ออกมาเลยไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
ข้ามสะพานหิน เพื่อไปยังวัดนางชี
วัดนางชี (ที่นี่มีแต่ชี ไม่มีพระ)
วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อปี คศ. 1989 ทั้งวัดไม่ใช้ตะปูตอกเลย แต่จะใช้ไม้เชื่อมทั้งหมด สไตล์การตกแต่งสมัยราชวงศ์ถัง
เปิดให้เข้าชมเวลา 09.00 - 15.00 น. (ปิดทุกวันพุธ)
* * ห้ามถ่ายรูป ด้านใน เด็ดขาด * *
เมื่อเข้าประตูนี้ไปแล้ว จะเป็นโซนด้านใน .... ในนี้จะเหมือน อารามหลวงมีรูปปั้น พระศรีอาริย์ ,
พระศรีศากยมุนี , เจ้าแม่กวนอิม และอื่นๆ อีกมากมาย
ด้านใน ห้ามถ่ายรูปเจ้าหน้าที่ ยืนมอง ตลอดเวลา
เก็บบรรยากาศ (ภาพถ่าย) ในวัดนางชี วัดที่มีแม่ชี เรียบร้อย ก็เตรียมตัวเดินทางไปยังวัดแชกงหมิว (วัดกังหัน)
เพื่อขอพร และเช่ากังหันกลับบ้าน
วัดแชกงหมิว (วัดกังหัน)
เดินกลับเข้าทางเดิม เข้าสถานีรถไฟฟ้า MTR
จากสถานี Diamond Hill ไปลงปลายทางที่ Yao mai tei (สายสีฟ้า ปลายทางEast Tsim Sha Tsui)
ไปลงสถานี Hung Hom เพื่อเปลี่ยนขบวนรถไฟไปเส้น สายสีฟ้า (East Rail Line)
มุ่งหน้าไปทาง Lo Wu/Lok Ma Chau
จากสถานี Hung Hom สายสายสีฟ้าอ่อน ----> ไปลงยัง สถานี Tai Wai
รอรถไฟฟ้า ที่จะไป Tai Wai
ออก Exit B (Che Kung Temple)
ออกนอกตัวอาคาร ให้เดินออกไปตามทางซ้ายมือ เดินริมกำแพง ตามทางเดินไปจนถึงด้านนอก ประมาณ 100 เมตร
เดินออกจากตึกมาเจอถนน เดินเลี้ยวซ้ายตาม ลูกศร เลยคัฟ
จากตรงนี้ มองไปก็จะเห็น กำแพงวัด สีแดง อยู่ด้านขวามือคัฟ
รอสัญญาณไฟ ข้ามสี่แยกเล็กๆ แล้วเดินลง Subway แล้วเลี้ยวขวา
เดินลอดไปยังอีกฝั่ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดกังหัน หรือ Che Kung Temple
พอรอดเสร็จเลี้ยวซ้ายตามลูกศร จะเข้าข้างๆวัดกังหัน
เมื่อ 300 กว่าปีที่แล้วเดิมทีวัดนี้เป็นวัดเล็ก ๆ เป็นวัดที่เก่าแก่และอนุรักษ์โบราณสถานซึ่งอยู่ทางด้านหลังของเรือนใหม่ วัดเรือนใหม่สร้างเสร็จในปี 1993 บนเนื้อที่ 50,000 ตารางฟุต ด้านในมีรูปปั้นสูงใหญ่ของท่านแชกงซึ่งเป็นเทพประจำวัดแห่งนี้ ซึ่งทางด้านข้างมีอาวุธรบของทหารแบบโบราณ และมีกังหันอยู่หลายตัว มีกลองด้านละตัว ประชาชนที่เข้าวัดแชกงจะต้องหมุนกังหัน หรือที่เรียกว่า "กังหันนำโชค" เพื่อหมุนแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต และก่อนที่ท่านจะออกจากวัดจะต้องตีกลองให้เสียงดังสนั่นเพื่อความเป็นสิริมงคล
ความหมายของใบพัดทั้ง4 ดังนี้
1. เดินทางไปไหนมาไหนขอให้ปลอดภัย
2. สุขภาพแข็งแรง อายุยืน
3. โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา
4. คิดหวังสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ
เวลา เปิด-ปิด ที่วัดแชกงหมิว วัดเปิดตั้งแต่ 07.00-18.00 น.
ทางเข้าวัดด้านข้าง (ถ้าจะให้ดีเดินอ้อมไปเข้าด้านหน้าจะดีกว่า)
เมื่อเราเดินเข้าสู่ประตูวัดแล้ว ด้านซ้ายมือจะเป็นจุดสำหรับซื้อธูปเทียนและเครื่องสักการะ ท่านแชกง
พี่เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้ พี่เขาพูดภาษาไทยได้คัฟ
เราสามารถเลือกธูปชุดไหนก็ได้ จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำให้ ว่าเราไหว้คนเดียว เป็นครอบครัว หรือมากับแฟน
สำหรับไหว้ ประกอบด้วย กระดาษไหว้เจ้า 1ชุด, ธูปมังกรสีแดง 3ดอก, ธูปดอกเล็ก 1กำ
ราคา $68
เขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด และคำอวยพร ลงไปในกระดาษในใบสะเดาะเคราะห์
หรือเรียกว่ากระดาษไหว้เจ้า ทำให้เกิดสิริมงคล ปัดเป่าเรื่องร้ายๆ ไม่ให้เข้ามาใกล้เรา
คำแนะนำในการเขียนและขอพร
หลังจากเขียนชื่อ เรียบร้อย ก็นำธูปไปให้เจ้าหน้าที่ช่วยจุดให้ อยู่ลานด้านซ้ายมือ
รับธูปจากเจ้าหน้าที่ เตรียมพร้อมขอพรจากท่านแชกง ได้เลยคัฟ
เริ่มแรกให้ไหว้เทวดาฟ้าดินและเจ้าที่ จุดที่จะไหว้นี้ จะอยู่กลางแจ้ง
ธูปมังกร ภาษากวางตุ้งจะเรียกว่าหล่งเฮิง เพราะเทพเจ้าแชกงไม่ใช่พระ
ฉะนั้นจึงต้องมีการไหว้เจ้าที่ฟ้าดินก่อน เพื่อเปิดทาง ซึ่งจะใช้ธูปมังกรเพื่อไหว้นั่นเอง
วิธีการไหว้เทวดาฟ้าดิน
1. ให้หันหน้าออกไปทางข้างนอกหน้าวัด กล่าวแจ้งฟ้าดินก่อน
โดยบอกชื่อ ที่อยู่ อายุ และวัตถุประสงค์ที่มาทำบุญที่วัดในครั้งนี้
โดยมีคำอธิษฐานเมื่อจุดธูปว่า "วันนี้วันที่ เดือน ปี ข้าพเจ้า ชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด อยู่ที่....
มาขอกราบสักการะท่านแชกง ข้าพเจ้าขออำนาจบารมีแห่งท่านแชกง
โปรดเมตตาประทานพรแก่ข้าพเจ้า ให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ธุรกิจการ
ค้าให้เจริญรุ่งเรืองตลอดปีนี้ และขอท่านโปรดช่วยขจัดปัดเป่าโรคภัย สิ่งไม่ดีทั้งหลายออกไปด้วยเทอญ"
2.ให้เราหันกลับมาด้านใน ปักธูปมังกรทั้ง 3 ดอก ไว้ที่กระถางกลาง
3 .ต่อไปนำธูปดอกเล็ก ไหว้พร้อมบอกชื่อ นามสกุลอีกครั้ง ปักธูปเล็กทั้ง3กระถาง กระถางละ3ดอก
อย่าลืม !!! ไหว้เจ้าที่ อยู่ตรงหน้าประตูทางเข้านะคัฟ
4 .เมื่อปักธูปทั้ง 3 ดอกเสร็จแล้ว จะยังเหลือธูปอยู่กำใหญ่ๆ ให้เราแยกไว้ก่อน 3ดอก เพื่อไปปักด้านใน
ส่วนที่เหลือกำใหญ่ๆ ให้ปักกระถางกลางแจ้งทั้งหมดให้แล้วเสร็จ ก่อนที่จะเดินเข้าไปด้านใน
*** ให้เราถือธูป 3ดอกเดินเข้าใปส่วนด้านในได้เลย ให้ตั้งใจอธิฐาน ขอพรท่านแชกง***
วิธีการไหว้ขอพรจากท่านเทพเจ้าแชกง :
ไหว้พร้อมธูป 3ดอกและกระดาษไหว้เจ้า ที่เตรียมเอาไว้ ให้มองไปที่หน้าท่านเทพเจ้าแชกงอย่างตั้งใจ
โดยมีคำอธิษฐานว่า "วันนี้วันที่ เดือน ปี ข้าพเจ้า ชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด อยู่ที่....... มาขอกราบสักการะท่านแชกง
ข้าพเจ้าขออำนาจบารมีแห่งท่านแชกง โปรดเมตตาประทานพรแก่ข้าพเจ้า ให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
ธุรกิจการค้าให้เจริญรุ่งเรืองตลอดปีนี้ และขอท่านแชกง โปรดช่วยขจัดปัดเป่าโรคภัย สิ่งไม่ดีทั้งหลายออกไปด้วยเทอญ"
เคล็ดลับ : ตอนอธิษฐานตั้งจิตให้มั่น เมื่อจะขอพรให้เปล่งคำพูด ออกเสียงออกมา
พูดแต่สิ่งที่ดี ๆ สิ่งที่ไม่ดีไม่พูด ขอพรเสร็จให้ปักธูปทั้ง3ดอก
สำหรับกระดาษไหว้เจ้า ให้นำไปใส่ในรถเข็น มีจุดใส่อยู่บริเวณด้านหน้า ให้นำไปวางในรถได้เลย
โดยที่จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยนำไปทำพิธีให้ (ไม่ได้ถ่ายรูปมาคัฟ)
จากนั้นเดินไปหมุนกังหัน 3 รอบ
วิธีการหมุนกังหัน
ในการหมุนกังหันทองเหลืองนำโชคนี้ ควรตั้งอธิษฐานก่อนแล้วจึงหมุนกังหันไป 3 รอบ
โดยมีคำอธิษฐานว่า "วันนี้วันที่ เดือน ปี ข้าพเจ้า ชื่อ-สกุล อยู่ที่…. ขอบารมีแห่งท่านแชกง โปรดเมตตาช่วยให้ "กังหันนำโชค" นี้หมุนแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตของข้าพเจ้าและครอบครัว ขอให้ความสำเร็จในธุรกิจการงาน การเงินจงมีแก่ข้าพเจ้า มีความเจริญรุ่งเรือง มีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา ตลอดปีนี้ด้วยเทอญ"
หลังจากนั้นก็หมุนกังหัน โดยใช้ นิ้วชี หมุนกังหันตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ
จากนั้นเดินไปตีกลอง อีก 3 ครั้ง ดังๆ เพื่อให้พรนั้นสมปรารถนา และเป็นที่รับรู้ทั่วกันทั้งฟ้าดิน
เทพเจ้าไฉ่ซิ่งเอี้ย
มีวัตถุมงคลให้เช่าหลายแบบเลย ทั้งถุงเงินถุงทอง แสดงถึงความมั่งคั่งร่ำรวย
จุดจำหน่ายของบูชาท่านแชกง มีหลากหลายแบบเลย ทั้งแบบตั้งโต๊ะ ที่แขวนในรถ ที่สำหรับไว้หน้าบ้าน
วิธีการขอพรจี้กังหัน
สำหรับท่านที่บูชาจี้กังหัน สามารถนำมาทำพิธีขอพรเพิ่มพลัง โดยกล่าวดังนี้
"วันนี้วันที่ เดือน ปี ข้าพเจ้า ชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด มากราบสักการะและอธิษฐานขอพรจากท่านแชกง
โปรดอำนวยอวยพรให้กังหันนี้นำพาแต่สิ่งที่ดี ๆ เข้ามา ทั้งโชคลาภ เงินทอง และความสำเร็จในธุรกิจ
ขอให้กังหันทั้ง 4 ใบ นี้นำพาให้ข้าพเจ้าประสบแต่สิ่งที่ดี
1. เดินทางไปไหนมาไหนขอให้ปลอดภัย
2. สุขภาพแข็งแรง อายุยืน
3. โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา
4. คิดหวังสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการเทอญ เฮง เฮง เฮง
วันที่เริ่มใส่จี้กังหัน เป็นครั้งแรก(พร้อมทั้งตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากท่านแชกง)
- ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ควรใส่ครั้งแรกในวันพฤหัส
- ผู้ที่เกิดวันจันทร์ ควรใส่ครั้งแรกในวันพุธกลางวัน
- ผู้ที่เกิดวันอังคาร ควรใส่ครั้งแรกในวันศุกร์
- ผู้ที่เกิดวันพุธกลางวัน ควรใส่ครั้งแรกในวันจันทร์
- ผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืน ควรใส่ครั้งแรกในวันเสาร์
- ผู้ที่เกิดวันพฤหัส ควรใส่ครั้งแรกในวันอาทิตย์
- ผู้ที่เกิดวันศุกร์ ควรใส่ครั้งแรกในวันอังคาร
- ผู้ที่เกิดวันเสาร์ ควรใส่ครั้งแรกในวันพุธกลางคืน
บรร
บรรยากาศภายใน บริเวณลานวัดแชกงหมิว
หลังจากไหว้พระขอพรเสร็จก็เดินทางกลับไปยังที่พัก เพื่อเอากระเป๋าเดินทาง ไปสนามบิน
จากสถานี Tai Wai (สายสีฟ้า ปลายทางEast Tsim Sha Tsui)
ไปลงปลายทาง Hung Hom
ไปสับเป็นสายสีเขียว ที่สถานี Kowloon Tong
ไปลงสถานี ปลายทาง Yau Ma Tei
ต่อสายสีแดง ลง Tsim Sha Tsui (ปลายทาง Central) ไปลง Tsum sai jui
รับกระเป๋าจาก
กลับไปเอากระเป๋าจากที่พัก เตรียมตัวเดินแวะ Post office ซะโหน่ย
ในการเดินทางไปแต่ละสถานที นอกจากรูปถ่าย ผมก็มักจะหา " เ ปิ้ ส ส ะ ก า ด "
เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก และเป็นความทรงจำที่จับต้องได้
แวะส่ง " เ ปิ้ ส ส ะ ก๊ า ด "
ซื้อแสตมป์ และส่งในช่อง Air (ใช้ระยะเวลาในการส่งถึงไทย 2 สัปดาห์)
แล้วก็เตรียมเดินทางกลับจาก Tsum sai jui ไปสนามบินด้วยรถ Cityflyer A21
ขามา . . . ลงที่ไหน . . . ขากลับ . . . ให้ไปขึ้นฝั่งตรงข้าม
ลอดอุโมงค์ เพื่อไปขึ้นรถที่ถ.นาธาน ฝั่งที่จะไป Mong Kok
ขึ้นที่ป้ายรถเมล์ที่เขียนว่า A21 รอประมาณ 10 นาที
ลงรถที่ Terminal 1 เดินไปสุดทาง (Row K)
สามารถเช็คได้ด้วยตัวเองที่ตู้นี้เลยคัฟ
วาง Passport ลงไป และกดหมายเลข ไฟล์ทเดินทาง รอรับ Boarding Pass
ทำการเดินเข้าไปโหลดกระเป๋า (ทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง) มีเมนูภาษาไทยให้เลือก
(รวดเร็วมากๆๆ)
จากนั้นก็เข้าไปในส่วนของ Departure เช็ค Gate ที่เราจะขึ้นเครื่องแล้วก็เดินตามป้ายบอกทางเลย
นั่งรถไฟ ไปตาม Gate มี 2 สถานีน่ะคัฟ ของผม Gate 228
รถไฟที่ใช้ในการเดินทางไปตาม Gate (ผมลงสถานีที่ 2)
ออกจากรถไฟ ก็ขึ้นบันไดเลื่อนเดินไปตามป้ายเลยคัฟ
รอบนี้มาถึงเร็ว ไม่ต้องกลัว Final Call วิ่งตับแล่บเหมือนที่บ้านเรา
ระบบการจัดการรวดเร็วมาก จะช้าก็บริเวณ ตม. เท่านั้น
บรรยากาศภายนอก ฝนตกไม่หยุดเลยทีเดียวคัฟ
เริ่มออกเดินทาง 18.00 น. ถึงเมืองไทยประมาณ 19.50 น.
ระยะทาง ประมาณ 2 ชั่วโมง
บรรยากาศยามเย็น บนเครื่อง
อาหารรอบนี้เป็นขนมปังครัวซอง อร่อยมากๆ หรือผมหิวก็ไม่รู้
ทานเสร็จก็ขอพักผ่อนซะหน่อย
19.50 น. ถึงกรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) โดยสวัสดิภาพ
หวังว่ารีวิวนี้ คงเป็นทางเลือกให้กับคนที่อยากเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองแบบง่ายๆ น่ะคัฟ
เ ร า อ อ ก เ ดิ น ท า ง . . . เ พื่ อ ใ ช้ ชี วิ ต ใ น แ บ บ ที่ เ ร า เ ป็ น
เ ที่ ย ว ใ ห้ ค น อิ จ ฉ า
วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 13.08 น.