สวัสดีจ้ากลับมาพบกันอีกแล้ว หลังจากทริปสงกราน เจ้าโควิดตัวร้ายก็ระบาดหนักอีกแล้ว ก็เลยงดเที่ยวอีกรอบ ทริปนี้เดือน 6 สถานการณ์เริ่มดีขึ้น ก็ได้เวลาพาลูกสาวเที่ยวอีกครั้ง พร้อมทริปนี้มีที่นอน ใหม่ Roof top tent หรือเต็นท์หลังคา เล็งไว้นานแล้วกะให้ลูกสาว ครบ 1 ขวบค่อยซื้อ ทริปนี้ ลูกสาวครบ 1 ขวบพอดี ไวมากๆ แปบเดียว เป็นขวบแล้วสาวน้อยของพ่อ ว่าแล้วก็เริ่มออกเดินทางกันเลยทริปนี้ 3 วัน 2 คืน

ก่อนออกเดินทางเล่าถึงเต็นท์หลังคาหลังนี้สักนิดเผื่อมีคนสนใจ เต็นท์ที่ใช้คือยี้ห้อ Maxx equip รุ่น Panorama ขนาด 1.4 เมตร สำหรับความกว้าง เป็นแบบหลังอ่อนครับ ราคา ณ ปัจจุบันที่เขียนรีวิวอยู่ที่ 27900 แต่ผมได้มือสองมาราคามิตรภาพพี่ที่สนิทกันกางไปสามสี่ครั้งขยับไปเล่นรุ่นท๊อปตัว 50000 ผมเลยได้หลังนี้มาสภาพใหม่ๆ ส่วนแร็คคานขวางที่วางเต็นท์กับหัวเก๋ง อีก 3700 บาท เท่านี้ก่อนเดี่ยวให้ดูอีกทีในรีวิวนะครับ และจะพูดถึงข้ดีข้อเสียเจ้านี้ให้ฟัง

ตารางทริปนี้

18-21/6/64

วันแรกร้านแวะกินข้าวที่ร้านซี่โครงปราน กางเต็นท์ทับสะแก แหลมกุ่มบีชรีสอร์ท ริมทะเลวิวสวยลมเย็น 

เช้าที่สองเที่ยวชายหาดทับสะแก คาเฟ่ PISCES ไปต่อเที่ยวสันเขื่อนแก่งกระจาน และกางเต็นท์ที่ ชลดาริเวอร์รีสอร์ท

วันที่ 3 กลับไม่ได้แวะไหนเลย

รูปทั้งหมดถ่ายจาก Nikon D7200 tokina 11-20 fix35 tamron 70-300 vc

และคลิปจาก Iphone 12

มาดูคลิปกันก่อนอ่านได้จ้าา

เริ่มออกเดินทางทริปนี้เที่ยวแบบนิวนอลมอล จะไม่แวะเรี่ยราดแบบทุกครั้ง เราจะแวะแค่ไม่กี่ที่ ทริปนี้เลยออกสายหน่อยไม่รีบร้อน รับเพื่อนอีกสองคนกว่าจะออกจากกทม ก็ 10โมงกว่า

ของเต็มลำ บวกเต็นท์หลังคาด้วย ทำเอาเจ้าไทรทันมีอาการอืดขึ้นสักหน่อย ใดๆแล้วหลังจากใส่เต็นท์หลังคาบนหัวเก๋งเสียงลมจะดังมากหากขับเกิน 100 แต่ถ้าไม่เกิน 100นี้ใช้งานได้ปกติไม่ดังอะไร เป็นว่าตอนนี้ทั้งเสียงยางเสียงลมตีเต็นท์ ดังสนั่นไปเลย แต่ไม่เป็นไร เราก็เปิดเพลงดัง ป้องกันอาการง่วงได้ด้วย 555

เนื่องจากออกช้าจึงต้องทำเวลากันสักนิด ช่วงรถว่างๆเลยต้อง 120-140 ตลอดทาง น้ำมันทริปนี้เลยจะกินกว่าเดิมพอสมควรเพราะเต็นทหลังคามันต้านลมด้วย บางท่านจะไว้ท้ายกระบะอาจจะเอาเตี้ยกว่าหัวเก๋งหน่อยจะช่วยได้ แต่ผมต้องการกระบะไว้ขนของได้เหมือนเดิมเลยเอาไว้หัวเก๋งครับ

มาถึงปรานบุรีบ่ายโมงกว่าแวะกินข้าวที่ซี่โครงปรานบุรี ชุดสุดท้ายพอดีก่อนที่ของร้านจะหมด

ซี่โครงนุ่มอร่อยรสชาติดีครับ ผ่านไปผ่านมาก็มากินได้อยู่ริมถนนหลักเลยเลี้ยวเข้ามานิดเดียว

จากนั้นก็ยิงยาวมาที่พักคืนนี้เลยอยู่ที่ทับสะแก มีแวะตลาดตรงสถานีรถไฟซื้อหมึกมาเผื่อย่างกินกัน

ที่นี้แหล่มกุ่มบีช รีสอร์ท หรืออีกชื่อ Lazy beach camping อยู่ริมชายหาดทับสะแกเลย 

สามารถจอดริมชายหาดแบบผมได้เลย แต่ว่าที่นี้พื้นที่หน้าหาดไมไ่ด้เยอะมากครับถ้าวันคนเยอะๆอาจไม่ได้ริมหาดแต่มีานามหญ้ากางได้ครับ 

ค่ากางเต็นท์ คนละ 150 บาท ที่นี้มีเต็นท์กระโจมเช่าด้วย หรือเป็นห้องพักก็มี คืนนี้เพื่อนผมนอนห้องพัก เพียงคืนละ 600 บาท อยู่ไม่ไกลจากชายหาดเดินไปนิดเดียว

ยืมรูปจากทริปล่าสุดให้ดูภายในเต็นท์ ขนาด1.4 ที่ว่าคือความกว้าง ส่วนแนวยาวนี้พอกางออกมานี้เหลือเฟือ 2 เมตรกว่าได้ ผมนอนเหยียดขาเหลือที่ทั้งบนทั้งล่าง ส่วนความสูงนี้ไม่แน่ใจ แต่ไม่อึดอัดครับข้างในนอนสบายมากที่นอนหนา ไซต์นี้เหมาะสำหรับ 2 คนหรือ มีลูกเล็กแบบผมกำลังดีครับ ถ้าคนเดินนี้ต้องขยับไปขนาดใหญ่กว่านี้ครับ

อันนี้คลิปที่กางครั้งแรก ไปดูกันได้ทำคลิปไว้ครับวิธีกางก็ไม่ยากใช้เวลาไม่นานมาก สำหรับครั้งแรกผมใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที สำหรับคนเดียว ถ้าคนเดียวแบบผมก็จะวุ่นๆหน่อยเดินวนรถสองสามรอบ ตอนกางไม่ค่อยยากมาเสียเวลาตอนใส่เสาหน้าต่างทั้ง 3 ด้านยังไม่เซียน ถ้าเซียนแล้วใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที แ้ลวถ้ามีคนช่วยกางด้วยอีกคน 5 นาทีก็เสร็จแล้วครับ ไปดูได้

พูดกันต่อถึงทริปนี้ สถานที่แหลมกุ่มบีชที่นี้ บรรยากาศดีมากๆ ดูจากในคลิปได้ลมแรงเย็นสบายไม่มีอาการเหนื่ยวน้ำทะเลเลย บรรยากาศดีสุดๆครับ เราถึงตอนเกือบ บ่ายสามแล้ว แดดก็ไม่ค่อยแรงแล้วอยู่ในร่มไม้

จัดเซ็ทน่ารักๆแม่ลูกสักหนึ่งเช็ทริมทะเล

ชี้อะไรฮะลูกสาว วัย 1 ขวบ 12 วัน

เต็นท์สีเขียวเก้าอี้ก็เขียวคลุมโทน แต่ไม่ใช่ของเรา ของเพื่อนที่ไปด้วยกันสีมันเข้ากะเต็นท์พอดีเลยเอามาถ่ายรูปหน่อย 555

ถึงคิวแม่ขอแซบๆหน่อย

ลมแรงแค่ไหนดูหัวลูกสาวได้55

เปลี่ยนชุดเตรียมลงน้ำ

เห็นลูกชอบพ่อก็มีความสุข ปกติอยู่แต่บ้านในห้อง ไม่มีอะไรให้เล่นแบบนี้ 

ชอบใจสุดค่ะพ่อ

เล่นน้ำกับลูกสาวสักพักก็ไปอาบน้ำกินมื้อเย็น บรรยากาศยามเย็นดีมากๆที่นี้

ชายหาดที่นี้สงบสุดๆครับเหมาะแก่การมาพักผ่อนรถเต็นท์มีผมคันเดียววันนี้ และก็มีกลุ่มอื่นมากางเต็นท์อีก สองสามกลุ่มครับ 

อาหารมื้อนี้สั่งจากทางรีสอร์ทเลย ราคาก็ทั่วไปเหมือนร้านอาหารปกติครับ รสชาติถือว่าดีเลย มื้อนี้ ประมาณ 1000 บาทพอดี สำหรับ 4 คน

กินง่ายนอนง่ายครับลูกสาวกินนมแปปเดียวก็ง่วงนอนรอบเย็นสักรอบปกติจะนอนรอบสายๆกับรอบบ่ายแต่วันนี้รอบบ่ายมัวแต่เล่นไม่ได้นอน มานอนตอนเย็นแทน

ดื่มด่ำบรรยากาศลมเริ่มนิ่งๆแต่ยังไม่ร้อน วันนี้ไม่มีฝนฟ้าสวยมีดาวให้ดู คืนนี้มาลุ้นช้างกัน

ที่นี้มีไฟฟ้าให้ต่อพ่วงฟรีไม่คิดเพิ่มแต่ไม่ให้เสียบแอร์นะครับถ้าแอร์จะมีค่าบริการ

ห้องน้ำก็ไม่ไกลมากอยู่ที่เดียวกับที่ทานอาหาร

อยู่กันถึงเกือบ 4 ทุ่มก็พาลูกเข้านอนได้เวลาพักผ่อน

แต่ภารกิจของพ่อยังไม่จบ ตั้งปลุกไว้ตี 2 ตื่นมาดูช้าง และวันนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหลัง ช้างดุๆริมทะเลทับสะแก

ตั้งตรงสวยงามเกือบจะถ่ายยอกแล้วยังดีมุมนี้ถ่ายได้ 

ถ่ายอยู่พักนึงจนหนำใจแล้วก็ไปนอนต่อ เก็บช้างริมทะเลได้อีกเชือกทริปนี้

อรุณสวัสดิ์เช้านี้ แสงเช้าสาดส่องอย่างสวยงาม

บรรยากาศเงียบๆสงบเมื่อคืนกลางดึกแอบมีหนาวนิดๆ ทำเอาคัดจมูกได้เลยทีเดียวเชียว

แสงเช้าสวยงามมาก นอนสบายมากเมื่อคืน ข้อดีของเต็นท์หลังคาคือนอนสบายไม่ต้องกังวลเรื่องฝนตกน้ำท่วมพื้นเพราะอยู่บนหลังคา และรู้สึกปลอดภัยจากสัตว์เลื่อนคลานด้วยครับ

นาทีทองแบบนี้มีให้ดูแค่แปบเดียวเท่านั้น

ซูมเข้าไปพี่ชาวเรือ

เช้าแล้วหนาลูดสาวหลับสบายเหลือเกิน เมื่อคืนนอนไม่งอแงเลยสงสัยจะเพลีย เปิดพัดลม P9 ไปด้วยเบอ1-2 คลอๆ แบตยังอยู่ได้ทั้งคืน อึดพอสมควร

เอ้ยตื่นได้แล้วไอ้หมูน้อย 

ตื่นมาก็กระทืบพ่อเลยหรอ

ลงมาเดินเล่นยามเช้าหน่อยค่ะ ที่นี้ร้อนค่อนข้างไว้ครับตอนเช่น พอแดดมาก็เริ่มร้อนเลยช่วงเช้า ผมเก็บเต็นท์ตั้งแต่ 7 โมง

วิธีเก็บเต็นท์ก็ไม่ยากเอาออกแบบไหนก็เอากลับไปแบบนั้น ใช้วเลาก็พอๆกัน 15 นาที สิ่งที่ยากในตอนเก็บคือตอนเสียบผ้าเต็นท์เข้าไปในฐานเต็นท์ รถยิ่งสูงยิ่งทำได้ช้าลองดูในคลิปครับครับ แต่อย่างที่บอกถ้าสองคนก็จะง่าย 

อาบน้ำแต่งตัวนั้งเล่นริมชายหาดถึง 9 โมงกว่าเตรียมออกเดินทางต่อ

สรุปแล้วที่แหลมกุ่มบีชรีสอร์ทนี้เป็นจุดกางเต็นท์ที่ดีมากๆบรรนกาศดีสุดๆสงบ ชายหาดส่วนตัวคนน้อยมาก แนะนำเลย ที่พักก็มีนะครับถ้าไม่กางเต็นท์มีสระว่ายน้ำด้วย

ออกจากแหลมกุ่มบีช ก็ขับมาอีกหน่อยแวะเที่ยวชายหาดทับสะแก และกินมื้อเช้าที่ร้านอาหารท้องถิ่นเลย ร้านเด็ดแน่นอนลูกค้าชาวบ้านเพียบ แบบนี้ต้องลอง

มีทั้งก๋วยเตี๋ยวอาหารตามสั่ง มาต่างถิ่นทุกทีจะสั่งกระเพราเนื้อ ร้านนนี้ก็ไม่ผิดหวังอร่อยมากราคาถูกด้วยครับ

ร้านอยู่ใกล้ๆสะพานไม้ทับสะแก

แวะดูความสวยงามแต่เขาห้ามเดินนะครับชำรุดอยู่

มาดูประวัติสะพานไม้กัน

ขยับกลับมาอีกนิดใกล้ๆกัน คาเฟ่สวยๆริมหาด PISCES

รับอะไรดีคะลูกสาว

รับน้ำสดชื่นๆแก้อากาศร้อนหน่อย

ร้านเล็กๆไม่ใหญ่มากๆแต่ก็มีมุมให้ถ่ายรูปได้อยู่ครับ

ออกจากร้านเกือบ 11 โมงยิงยาวกันต่อคืนนี้จะไปนอนที่แก่งกระจานใกล้ชิดภูเขาบ้างวันนี้

ดิ่งมาถึงสันเขื่อนแก่งกระจานบ่ายแก่ๆ 

แวะถ่ายรูปกันสักหน่อย

เมื่อไหร่พะเนินทุ่งจะเปิดน้าอยากพาเจ้าไทรทันขึ้นไปบ้าง

จาดนั้นก็ไปจุดกางเต็นท์วันนี้ผิดแผนนิดหน่อย ตอนแรกจะไปกางจุดกางเต็นท์ที่ดังๆ แต่พอไปถึงจองไว้แล้วแหละ แต่คนแน่นเกินไปรู้สึกแออัด ก็เลยขับออกมาหาที่กางจุดอื่น ก็เลยมากางที่ ชลลดา ริเวอร์รีสอร์ท ตอนแรกนี้โทรคุยกัยกับป้าไว้นี้แหละแต่ป้าบอกที่ป้ายังไม่ได้เปิดให้กางเต็นท์เต็มระบบเลยอาจจะไม่สะดวกป้าเลยแนะนำไปที่ที่ดังๆนั้นแหละ แต่คนเยอะเลยมาหาป้าป้าเลยให้เลือกกางเลย ลานเลยจะไม่ได้สวยงามนัก แต่มีห้องน้ำ และมีสายไฟยาวๆพ่วงไฟได้ ตอนแรกว่าจะเช่าห้องป้าหลังนึง แต่วันนี้ป้าบอกมีแขกพักเต็มทุกหลังเลย  ป้าเลยบอกวันนี้กางฟรีไปเลยไม่เก็บเงิน แถมยังพาเดินรอบรีสอร์ทพื้นที่ป้าเยอะมาก แต่ยังไม่ได้ปรับปรุง ก็เลยมาประชาสัมพันธิ์ให้ป้าสะเลย ที่นี้หากใครหาที่พักแบบเป็นหมู่คณะที่นี้มีหลายหลังครับ บรรยากาศดี ติดน้ำสามารถเล่นน้ำได้ ส่วนจุดกางเต็นท์ลองสอบถามป้าอีกทีตอนที่จะมา ป้าใจดีมากครับ รอบหน้าถ้ามาเป็นหมู่คณะจะมาพักที่นี้อีกครับ

มื้อเย็นวันนี้เราแวะซื้อหมูมาทำชาบู และหมึกย่างตั้งแต่ทับสะแกมะวานซื้อไว้ยังไม่ได้ย่าง 

บรรยากาศที่นี้ตอนกลางวันจะร้อนมากครับ ควรมาถึงเย็นๆหน่อย แต่พอกลางคืนลมเย็นสบาย ตกดึกมีหนาวอากาศดี

หมดสภาพลูกสาวขอนอนเติมพลังแปบบนะพ่อ

คืนนั้นพี่ที่สนิทกันขับตามมากางด้วย นี้แหละเต็นท์ตัวท๊อปกางง่ายใน 2 นาที ปลดสลักแล้วยกขึ้นจบเลยครับ ง่ายสุดๆ

มอนิ่งเช้าวันต่อมาที่นี้ร้อนไวครับบรรยากาศจะร้อนนกว่าทางสวนผึ้งถึงเมื่อคืนจะเย็นสบายแต่พอแดดออกก็ร้อนเลยครับ 

เจ้าพัดลมเมื่อวานแบตหมดตอนกลางดึก เลยเสียบ Power bank 20000 แอมต่อ อยู่ได้สบายทั้งคืน 

ตื่นเถอะลูกสาวทำหน้างงๆ

พ่อหน้าจะมึนๆหน่อยเมื่อคืนบรรยากาศดีมาก ดื่มกันถึงเกือบตี 2 ปวดหัวเลยเช้านี้ 

ให้ดูอีกที่เต็นท์ Maxx Equip รุ่น AluMax ราคาตอนนี้59000 กางเก็บง่ายสุด ยกขึ้นยกลงเสร้จ แต่พื้นที่อาจจะไม่ใหญ่มากเหมาะสำหรับสองคนครับ กับเด็กเล็ก ความกว้างพอๆกะของผม รุ่นนี้น่าจะ 1.5 เมตร แต่ความยาวจะสั้นกว่าของผมนิดนึง

เก็บของเสร้จแล้ว อีกข้อดีสำหรับของแพง บางมากก เทียบกันเลย ประมาณ  16 ซม. ตามสเปคของผมน่าจะ เกือบฟุตหรือเกินฟุตนิดหน่อย

สายๆก็เดินทางกลับกันครับแยกย้ายกับพี่ๆ

เจอร้านริมทางตามสั่งกระเพราเนื้อเด็ดอีกแล้ว แล้วก็ยิงยาวกลับบ้านเลยครับทริปนี้ 

สรุปค่าใช้จ่าย 

ค่าน้ำมัน  เติมน้ำมันไป 2360 บาท

ค่าข้าวซี่โครงปราน   160
ค่าเครื่องดื่มน้ำแข็ง       688
ปลาหมึกย่าง           275

ค่ากางเต็นท์ 300

ค่าห้องพัก 600

อาหารเย็นวันแรก       1000
อาหารเช้าวันที่สอง    170
เครื่องดื่มวันท่ี่สอง          360
ชาบูวันที่สอง                    307
ข้าวบ่ายวันที่สอง       260
ข้าวเช้าวันที่สาม        205
รวมแล้วทริปนี้ 4 คน คนละเกือบ 2500 บาท 

สรุปค่าน้ำมันทริปนี้ 

วิ่งไป  = 813 กิโลเมตร

เติมน้ำมัน B10 ไป 2360 บาท หรือ 90.74 ลิตร
เท่ากับทริปนี้ อัตราบริโภคอยู่ที่ 8.95โลต่อลิตร
หรือ โลละ2.90 บาท

กับความเร็ว 120-140 ตลาดทางไปกลับ ของเต็มลำเต็นท์หลังคา ก็ยังไม่ทะลุ 3 บาทยังถือว่าโอเคอยู่ตามสภาพกับการบรรทุกและน้ำมันที่แพงขึ้นครับ

มาสรุปข้อดีข้อเสียสำหรับ Roof top tent ขณะที่เขียนนี้ใ้ช้งานไปแล้ว ประมาณ 7 ครั้ง 

ข้อดี

1. กางง่ายเก็บง่าย ตอกเสมอแค่ 2 อัน เสียเวลาแค่ตอนเสียบหน้าต่างตอนกางแปบเดียวครับ (อันนี้เทียบกะเต็นท์พื้นปกติแต่ถ้าเทียบกะเต็นท์หลังคา รุ่นหลังอ่อนของผมนี้จะกางใช้เวลานานกว่าหลังแข็ง)

2. นอนสบายมากที่นอนหนา และเราเอาหมอนผ้าห่มตุ๊กตาลูกใส่ทิ้งไว้ในเต็นท์ได้เลย ไม่ต้องเอาขึ้นลง กางเสร็จนอนได้เลย

3. ไม่ต้องกลัวเปียกผ้ากันฝนได้ อันนี้อาจใกล้เคียงเต็นท์พื้นที่ใช้อยู่ แต่ที่เหนือกว่าคือไม่ต้องห่วงเรื่องฝนตกน้ำไหลที่พื้นในเฉอะแฉะเวลาจะขึ้นลงหรือเวลาจะเก็บเต็นท์ เพราะเต็นท์กางบนหลังคาพื้นไม่เปียกหรือซึมแน่นอน

4.วิวดีอยู่เปิดเต็นท์มาไม่ติดเต็นท์คนหน้าแน่นอนได้วิวสูงลมเข้าง่าย

นึกออกประมาณนี้ถ้าคิดออกอีกจะมาเพิ่มใหม่

ข้อเสีย 

1.ราคาสูง เริ่มต้น 2หมื่นกว่าจะสามหมื่นแล้วบางคนนานๆออกทริปทีอาจจะรู้สึกไม่คุ้ม

2.การไว้ที่หัวเก๋งแบบผม ทำให้รถต้านลม และหนักขึ้นต้องแบกเต็นท์ไปมา ทำให้รถกินน้ำมันขึ้นอีกหน่อยและมีเสียงลมดัง และอีกข้อมันเข้าที่กลับรถที่ต่ำๆไม่ได้ หรือเข้าที่จอดรถห้าง รพ. ไม่ค่อยได้(แต่ในข้อเสียมันก็มีข้อดีคือเราจะได้จอดรถตรงที่จอดรถสำหรับรถหลังคาสูงซึ้งมันจะอยู่ชั้นล่างไม่ต้องวนขึ้นที่จอดรถ แต่ว่าพวกที่จอดหลังคาสูงมันก็ไม่ได้ได้เยอะไงเช่นพาคุณแม่ไป รพ ก็ต้องวนรอเขาอออก แต่ถ้าไปห้างนี้จะง่ายหน่อยเขามีโซนใว้ให้หลังคาสูงเลย )

3. สำหรับรุ่นที่ผมใช้ยังถือว่ากางยากหากใครสนใจแนวนี้แนะนำหาหลังคาแข็งเลย จะไม่เสียเวลาตอนคลุมผ้า และป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเผื่อเข้าป่า ไว้มีตังค์จะซื้อใหม่ครับ 

4.สำหรับคนฉี่บ่อยอาจไม่ชอบแนวนี้เพราะต้องปีนขึ้นปีนลงบ่อยยิ่งถ้ารถสูงก็อาจจะขี้เกียจได้ครับ

5.ในบางสถานที่รถเราจะเข้าไม่ถึงตรงวิวที่ต้องการเพราะบางที่ไม่ให้รถเข้าเลยอาจต้องกางไกลหน่อยครับ 

แต่โดยรวมแล้วผมกะฟางชอบมากๆ แฮปปี้ ตอนจะซื้อคิดว่าต้องกางให้ได้ 15-20ทริปเพื่อให้คุ้ม แต่พอได้ใช้งานแล้วมันไม่ใช่แค่คุ้ม แต่เราซื้อในความสบายๆในหลายๆอย่างที่กล่าวมาแค่นี้ก็คุ้มแล้วไม่ต้องนับเป็นจำนวนเงิน


ก็ประมาณนี้ครับทริปต่อๆไปก็คงจะได้ใช้เจ้าเต็นท์นี้สักพักกำลังเห่อ ออกไปหลายทริปแล้ว555 

แล้วพบกันใหม่ทริปหน้ากัลครอบครัวตะลอนเที่ยว วันนี้สวัสดีจ้า

เหลี่ยมพาเที่ยว

 วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 15.44 น.

ความคิดเห็น