สวัสดีจ้าครอบครัวตะลอนเที่ยวมาแล้ว ทริปนี้พาลูกสาวตะลุยเชียงใหม่ครั้งแรก จัดไป 4 วันเอาให้หนำใจทริปนี้รับลมหนาวกลางเดือนธันวา จะพาไปเที่ยวจุดไหนมั้งแวะเชิญชมได้เลยจ้า
ออเดิฟกันก่อน
ตารางทริปนี้ 12-15/12/64
12-15/12/64
เช้าแรกม่อนเงาะ ไร่ชาลุงเดช ลงมา123 glamp ข้าวซอยนิมมาน เข้าเมืองประตูท่าแพ ถนนช้างม้อย เข้าที่พัก pastell hotel ตอนเย็นแวะลานสังคีต อ่างแก้ว มช สุกี้ช้างเผือก
วันที่สองขึ้นม่อนแจ่ม ยิ่งยงสวนดอกไม้ สวนส้มป้างฮวา fleur คาเฟ่ ขึ้นไปกางเต็นท์สันป่าเกี๊ยะ
วันที่ 3 ลงมาแวะสวนสนแม่แตง แวะปางช้างแม่แตง และเข้าที่พักวันเดย์โฮมสเตย์ผาปู่จอม
วันที่สี่ลงมาแวะ Elery คาเฟ่ ฮ้านถึงเจียงใหม่ ปิดท้ายสะพานบ้านตาก
รูปทั้งหมดถ่ายจาก Nikon D7200 tokina 11-20 fix35 tamron 70-300 vc
และคลิปจาก Iphone 12
มาดูคลิปกันก่อนอ่านได้จ้าา
เริ่มออกเดินทาง เมื่ออายุเริ่มย่างเข้าวัย 30 เดี่ยวนี้จะขับรถยันหว่างเหมือนร่างกายเริ่มจะไม่ไหว ทริปนี้เลยแผนเดิม ออกให้ไวที่สุดไปนอนปลายทางเอาแรง
ทริปนี้เลยออกจากกทม 5 โมง กว่าๆ รับสมาชิกอีกสองคนเหมือนเดิมกว่าจะหลุด กทม ก็เกือบทุ่ม แวะกินข้าวยุดยา จากนั้นก็ยิงยาว มาถึงตัวเมืองเชียงใหม่ ตี2.30 ทำเวลาได้ดี
อันที่จริงก็ง่วงแล้ว แต่จุดหมายเราคือม่อนเงาะ อยู่แม่แตงอีกประมาณ 50 โล ก็ดันมาต่อ แต่ช่วงสุดท้าย ที่จะถึงม่อนเงาะประมาณ 20โล ที่เลี้ยวเข้ามาจากแยกแม่แตง
ทางขึ้นม่อนเงาะทั้งมืดทั้งแคบ ทำเอาตาสว่างไปเลย ซ้ายขวามีแต่ป่า ทางก็มืดไฟไม่มี ถนนก็แคบ คนในรถเริ่มตื่นเพราะมันโยกซ้ายขวาๆถี่ๆ แต่ส่วนตัวผมว่าขึ้นตอนมืดดีกว่าเพราะไม่มีรถสวนสักคันปลอดภัย และถ้าจะมีรถสวนมาเราจะเห็นแสงไฟก่อน ปลอดภัยกว่ากลางวันไม่ต้องจ๊ะเอ๋กันกลางโค้ง
แต่ด้วยความแคบและมืดและมีช่วงที่เป็นป่าๆเยอะ ขึ้นม่อนเงาะตอนตี 3 มันก็จะทำให้เราหลอนนิดหน่อย แต่ในที่สุดเราก็มาถึง ม่อนเงาะจูเลี้ยะแคมป์ ตอนเวลาประมาณ ตี4 พอดี
ข้อดีของความมืดคือเราจะได้เห็นดวงดาวส่องสว่างแบบเต็มๆตา ที่นี้ฟ้าใสเคลียร์มากดาวชัดสุดๆ ถ้าช่วงที่มีทางช้างเผือกคงจะสวยไม่น้อยเลย
อันนี้คือประตูทางเข้าเขาปิดไว้เพราะเรามาถึงกลางดึก แต่ ตี 4 แบบนี้ยังมีคนที่จูเลี้ยะไม่นอนเดินมาเปิดประตูให้เราเข้าไปจอดข้างในครับ
พอผมเจอดาวเข้าไปก็หายง่วงเลยเดินถ่ายไปมาอีกสักพักกว่าจะได้งีบก็ตี 4.30
มีความหลงไหลในหมู่ดาว ซึ่งสาวๆอย่างเมียผมจะชอบบอกว่าไม่อิน จะอดหลับอดนอนทำไม ปั๊ดโธ่ก็คนมันชอบนี่เมีย 555
นอนได้ 2 ชั่วโมงก็ตื่นมารับแสงแรกของเชียงใหม่ทริปนี้
เช้านี้หมอกน้อยหน่อยไม่มีให้ชมแน่นๆ อากาศหนาวกำลังดีเย็นสบายหนาวนิดๆ
ทะเลหมอกอยู่ฝั่งทางซ้ายแต่ไกลไปนิด
ลูกสาวตื่นแล้วตื่นมาด้วยความงงเช่นเคย พ่อพามาที่ไหนอีกแล้วคะเนี้ย
แม่ยังแต่งหน้าอยู่ถ่ายกะพ่อก่อน
พระอาทิตย์ค่อยๆโผล่ขึ้นมา
มาเดินเล่นฝั่งนี้มองเห็นหมอกชัดหน่อยครับ
ซูมเข้าไปดูทะเลหมอกใกล้ๆ ไม่รู้ว่าจุดในรูปคือจุดกางเต็นท์อะไร แต่คงจะถ่ายหมอกได้ชัดอยู่นะจุดนั้น
ที่จูเลี้ยะแคมป์มีทั้งจุดกางเต็นท์และห้องพัก ผมติดต่อในเพจมาก่อนแล้วว่าจะขอขึ้นมาชมวิวอย่างเดียวเสียค่าบริการค่าจอกรถ 50 บาทเท่านั้นครับ
หมอกเริ่มไหลมาแต่ยังไม่เต็มพื้นที่แต่ก็พอให้ชื่นใจ
สามคนหน่อย
จากนั้นก็ขับออกมาแวะที่ลานกางเต็นท์ป้าต้อย ถ่ายอีกสักแปปนึง
น้องหมานึกว่าพวกเดียวกันสีเหมือนกันเลย
จากนั้นก็ลงจากม่อนเงาะมาแวะที่ไร่ชาลุงเดช
ไร่ไม่ใหญ่มากแต่คนไหลมาไม่ขาดสายเลยที่นี้
แต่ที่เดินถ่ายรูปที่นี้ช่วงเช้าสวยมากเลยที่นี้มีทั้งหมอกยามเช้า
และแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องลงมาช่างสวยงามยิ่งนัก
เมื่อหมอกฟุ้งเริ่มจางก็มองเห็นทะเลหมอกชัดเจน
ออกจากไร่ชาลงมาวิ่งกลับตัวเมืองเชียงใหม่วันนี้นอนในเมือง ก่อนถึงเมือง แวะคาเฟ่สักที่ 123 glamp
ค่าเฟ่แนวแคมปปิ้งมาถึงสั้งเครื่องดื่มหยิบเก้าอี้ไปคนละตัวหามมถ่ายรูปเอาเลย
อันนี้ไม่ได้แต่งตัวเป้นฮิบฮอบแต่ว่าซื้อเผื่อโต 555
จากนั้นเข้าเมืองตามหาร้านเด็ด ข้าวซอยนิมมานซอย 7
เรามาถึงตอนจะ 11 โมงพอดีร้านเปิดได้คิวแรกๆพอดี ที่นี้หาที่จอดยากหน่อยต้องวนหาตามซอยตรงที่ว่างแล้วเดินเอาครับสำหรับรถยนต์
รสชาติอาหารอร่อยเด็ดมากครับ ข้าวซอยหอมมันเข้มข้น ขนมจีนน้ำเงี้ยวก็อร่อยครับ
เมนูนี้อ๋องปู มันๆนัวๆผมพึ่งเคยกินก็อร่อยแปลกดีครับ มื้อนี้ 500 พอดีมีขนมปังด้วย
จากนั้นก็วนเข้าไปถนนช้างม้อย ร้านจักรสาน เห็นวัยรุ่นเขาชอบมากันเราก็มาบ้าง 555
ขยับมาอีกนิดใกล้ๆกัน ประตูท่าแพ แชะภาพสักหน่อย
ที่นี้มีบริการถ่ายรูปกับนกพิราบ ก็คือจะมีทีมงานล่อนกให้มาเยอะๆแล้วเขาจะกดถ่ายรูปนิ่งภาพคลิปสโลว์โมชั่นสวยๆให้เรา ถ้าเราไม่มีมือถือที่ถ่่ายได้เขาก็จะกดถ่ายเครื่องเขาให้ครับ ค่าบริการสำหรับคนไทยให้เขากี่บาทก็ได้ เขามีวิธีทำให้นกบินสวยๆ ด้วยการตะโกนคำว่า เดินค่ะ ดังมาก คนยังตกใจนกเลยบินกระเจิงก็เลยได้ภาพที่สวยงามแบบนี้แหละ 555
ที่จอดรถริมถนนจอดได้เลยตรงไหนไม่มีขาวแดงดูวันคู่วันคี่ให้ดี
จากนั้นเราเข้าที่พักคืนแรกวันนี้ Pastell old town เชียงใหม่ ตั้งอยู่ในตัวเมืองเลย ห่างจากประตูท่าแพ 2 โลได้
เป็นโรงแรมเล็กๆไม่ใหญ่แต่มีที่จอดรถและมีห้องที่สวยงาม
เราเลือกห้องชั้นล่างเป็นห้อง Acess pool
สามารถเปิดประตูลงเล่นสระน้ำได้เลย สระไม่ใหญ่มาก
แต่ก็พอให้ลูกสาวเล่นได้เราก็แช่น้ำคลายเหนื่อยได้วันนี้
ราคาที่พักผมใช้สิทธิ์ เราเที่ยวด้วยกันเหลือ 1080 บาท ราคาดีมากเลย
ลูกสาวเล่นน้ำจนเหนื่อยแล้วก็นอนกันสักงีบ
5 โมงเย็นเราออกจาก รร ไปที่อ่างแก้ว มช. สถานที่ของวัยรุ่นเชียงใหม่มารวมตัวกัน
ส่วนใหญ่จะมานั้งเล่นและพาน้องหมาน้องแมวมาเดินเล่นที่สนามหญ้าครับ
ฟิวเหมือนอยู่เกาหลี จะพูดไป เกาหลีผมก็ยังไม่เคยไปสักที 555
พ่อๆดูหมานั้นจิ ชี้อย่างเดียวยังพูดไม่รู้เรื่องนะ
มองแต่หมาไม่มองกล้องเลยลูกสาว
อ้าวยิ้มหน่อยย
แม่ๆรูปสวยไหม
ขยับมาตรงเนิน
เดินขึ้นมาด้านบนก็จะเจอกับอ้างเก็บน้ำมีทางปูนวิ่งออกกำลังกายได้
แต่คนที่นี้เยอะจริงๆครับ
ต้นไม้ใหญ่สวยงาม
จากนั้นก็ไปต่อหามื้อเย็นตั้งใจจะไปกินสุกี้ช้างเผือกสาขาแรกเราเลยไปที่ตลาดช้างเผือก แต่ดันร้านปิดพาลูกน้องไปฉีดวัคซีนแต่ด้วยความอยากกิน สาขาตรงแถว มช ก็จอดรถยาก ป้าบอกมีอีกสาขาอยู่ตรงสันทรายก็เลยขับไปดู ในที่สุดก็ได้กิน
อร่อยสมคำร่ำลือมากๆ ตอนนั้นหิวจัดเลยตั้งหน้าตั้งตากิน อร่อยจริงคอนเฟิมต้องมาลองกันให้ได้ครับ
และตบด้วยบัวลอยร้านข้างๆกันนั้นแหละ
จากนั้นก่อนกลับแวะมาเจอเพื่อนที่ กาดมณี ที่นี้อยู่ใกล้ รร ของเรา ก็เลยมาดื่มเบาๆก่อนเข้าที่พัก อากาศวันนี้เย็นนิดๆ แต่ไม่หนาวครับตัวเมืองเชียงใหม่ จากนั้นก็กลับที่พัก นอนเตรียมลุยต่อพรุ่งนี้
เช้าวันที่สองตื่นแต่ตี 5 กว่า ออกจาก รร 6 โมงกว่าเช้านี้เราจะไปเที่ยวที่แรก สวนดอกไม้ม่อนแจ่มที่ยิ่งยงสวนดอกไม้ ใช้เวลาจากตัวเมืองไปชั่วโมงหน่อยๆก็ถึงแล้ว ทริปนี้มีทะเลหมอกให้ดูแต่แบบไกลๆทุกวันเลยต้องซูมๆเข้าไป
ที่ยิ่งยงสวนดอกไม้เสียค่าเข้า 50 บาท สถานที่กว้างขวางวิวสวยมากครับ
มีทะเลหมอกไกลๆก็พอชื่นใจอยู่น้าา บรรยากาศบนนี้ลมแรง หนาวนิดๆเพราะมีแสงแดดพระอาทิตย์แผ่ความร้อนมาให้แล้ว
จะเดินหรือจะเต้นน
วิวเขาตรงนี้สวยมาก
มีสะพานไม้ไผ่เดินได้รอบสวน
แต่ข้อเสียอย่างเรามาตอนช่วงพระอาทิตย์ส่องแยงตาพอดิบพอดี แม่บ้านสู้แดดไม่ไหว ถ่ายยากมากตาหยีทุกรูป แล้วพอรูปไม่สวยก็บ่นผัวถ่ายไม่ดีอี๊กกก555
ถ่ายไอ้ลูกสาวดีกว่ามันยังบ่นพ่อไม่เป็น
พ่อๆหนูขอดมหน่อยค่ะ
มุมฝั่งนี้พอได้แดดไม่แยงตาแต่ย้อนแสงไปหน่อย หน้าจะดำๆอีก 555
ยิ้มสู้แดดค่าแม่ฟางพยายามลืมตามันได้แค่นี้
ได้สักรูปมั้ยพ่อ สำหรับเมียแล้วสวยทุกใบในสายตัวปัวแหละจ้าา อิอิ
ช่อดอกไม้นี้เป็นพร้อพเขามีให้ถือถ่ายรูปได้นะครับมีหลายช่อ
ผมชอบฝั่งนี้นะเห็นวิวภูเขาสวยดี
ที่จอกรถติดสวนเลยแต่ที่จอดไม่เยอะนะครับ ถ้าวันที่รถเยอะๆเขาจะให้จอดข้างล่างและจะมีรถไปรับส่งเสียค่าบริการอีกนิดหน่อยเพราะที่จอดรถไม่มีและทางมันชันแคบนิดนึงคนไม่ชำนาญจอดไว้ข้างล่างก็ได้ทางสั้นประมาณ โลเดียว
อาลิงกินกล้วยมื้อเช้า
ออกจากยิ่งยงสวนดอกไม้ ไปต่อสวนส้มป้างฮวา ลืมบอกว่าที่พักเมื่อคืนนี้เขาจะมีบัตรค่าเข้าสวนส้มป้างฮวาให้ด้วยครับน่าจะดีลกันไว้ ประหยัดไปได้อีก 200 บาท
สะพานบันไดไม้ไผ่ เมียฉันต้องได้รูปมุมนี้ 55
ขอแอคคนเดียวบ้าง
เดินลงมาที่ร่องสวนชมส้มใกล้ๆ
หนูขอกินส้มได้ไหมคะพ่อ
จากนั้นแวะกินข้าวแถวๆสวนส้มร้านชาวบ้านรสชาติดีแต่ไม่ได้ถ่ายไว้
ลงมาพื้นราบแม่แตงแวะคาเฟ่สวยๆอีกสักที fleur คาเฟ่แม่แตงร้านสวยงามพื้นที่กว้างขวาง
แต่ลูกสาวดันมาหลับ รูปก็ต้องถ่ายลูกก็จะนอน มันเลยออกมาแบบนี้
คลั่นจะให้เพื่อนที่มาด้วยถ่ายรูปเมีย เมียก็จะไม่ถูกใจ ก็เลยอุ้มลูกไปด้วยถ่ายเมียไปด้วยทั่วร้านนี้แหละ 5555 สนุกสนานกันไปกับวิธีพ่อลูกอ่อน บางครั้งก็สลับกับเมียอุ้มผลัดกันถ่ายครับ
น้ำและเค้กชุดนี้ 300 บาท
อุ้มลูกถ่ายเมียจนเหนื่อย
พอจะกลับหนูก็ตื่น
พลังมาเต็มขอหนูวิ่งเล่นแปบนึงค่ะพ่อ นอนมาเยอะเลยยยย
เต็มที่เลยลูกพ่อก็นั้งพักเหนื่อยแปป 555
วิ่งกันจนเหลือซิกก็ขึ้นรถไปกันต่อ
วันนนี้มีเจ้าถิ่นเชียงใหม่จะไปนอนบนสันป่าเกี๊ยะด้วยกัน นัดเจอแถวเชียงดาว เติมเสบียงก่อนขึ้นเรียบร้อยก็ลุยกันต่อ
ถึงจุดตรวจจ่ายค่าบริการอีก คนละ 20 รถ30
เส้นทางขึ้นสันป่าเกี๊ยะรอบนี้ยังคงขึ้นทางเดิมรอบก่อนเนื่องจากเพื่อนที่มาด้วยเป็นปาเจโร่ขับสองเอาทางชิลๆจะได้มีเวลาดื่มด่ำบรรยากาศข้างบน
เส้นทางบ้านแม่นะระยะทางประมาณ 20 โลตอนนี้ทางเกลี่ยเรียบสบายขนาดที่ว่ารถเก๋งก็มาได้ถ้าคุณไม่ได้โหลดครับ ก็เลยขับชิลๆ ทางปูนสลับทางดินแดงอัดแน่นวิ่งง่ายๆ
ถึงสามแยกวันนี้เราจะไปนอนทางขวาทางโรงเรียนแต่เดี่ยวแวะไปทางหน่วยจัดการต้นน้ำทางซ้ายชมวิวก่อน
40นาทีเราก็มาถึง หน่วยจัดการต้นน้ำดอยแม่ตะมาน ที่เรามากางรอบก่อนชมวิวกันก่อนเพราะจุดนี้รถเต็นท์จะกางได้แค่รอบนอกและพื้นที่ขอบเต็มแล้ว
ขับกลับออกมาแวะอุดหนุนน้องๆขายมันขายส้ม แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าหมู่บ้านไปทางโรงเรียนบ้านสันป่าเกี๊ยะ
คืนนี้เราจะกางเต็นท์กันที่ ม่อนวิวสันป่าเกี๊ยะ อยู่ขวามือเลยก่อนไปถึง โรงเรียน ที่นี้ค่ากางคนละ 200 บาทมีห้องน้ำหลายห้องมีน้ำอุ่น และตอนเช้ามีข้าวต้มร้อนๆไข่ลวกให้ด้วยครับ ที่นี้ไม่ต้องจองใครมาก่อนเลือกลงได้เลย
ของผมที่ขอบด้านหน้าเต็มหมดแล้ว แต่เหลือขอบฝั่งซ้ายพอดีเห็นวิวดอยหลวงสวยงามจัดการลงสมอกันเลย
ลูกสาวก็ขยันจริงช่วยพ่อกางเต็นท์
ไม่รู้ว่าจะช่วยกางหรือช่วยป่วนน
เอาสมอมาให้พ่อเร็ว
ตอกไปแรงเลยค่ะพ่อ
QC ตรวจเช็คงาน โอเคแน่นใช้ได้คุณพ่อ
ต้องพกของเล่นไปด้วยให้หนู
กางเต็นท์เสร็จแล้วทั้งสวนตัวและสวนกลาง
มุมของเราดีอย่างมีดอกไม้ข้างๆเลยทำใหถ่ายรูปได้สวยงามครับ
ดื่มน้ำเย็นๆวิวงามๆ
ซูมไปดูดอยหลวงเชียงดาวกันหน่อย
ท่าคู่ต้องมาปล่อยลูกวิ่งเล่นไปก่อน
เดินถ่ายหามุมไปเรื่อยครับวันนี้ นทท ก็ทะยอยมาเรื่อยๆโชคดีเรามาไวยังได้กางรอบๆ คนมาช้าต้องกางแถวต่อไปครับ
แดดยามเย็นสองไปที่ดอยหลวงมันช้างสวยเกินบรรยายครับ ที่นี้ผมมาสองครั้งแล้ว ผมก็ยังรู้สึกว่าสวยไม่มีเบื่อครับ
ตกเย็นเราก็กินเมนูง่ายชาบูครับ ซื้อหมูมา 4 โล น่าจะพอคืนนี้
บรรยากาศที่นี้ลมเย็นสบายตั้งแต่ตอนบ่ายที่มาถึง แดดแรงถึงบ่ายแก่ๆก็มีร่มเงานั้งหนาวกันแล้วครับวันนี้
ไอหนูมาถ่ายรูปกับพ่อแม่หน่อยสิ
พ่อๆหนูจะกิงส้ม
ยิ้มแบบอรุมเจาะ
ยิ่งเย็นแสงยิ่งสวย
และนี้เป็นวิวจากหน้าต่างเต็นท์เรา วิวงามไหมละฟินมาก
วิวดีมากๆครับ
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
แสงสุดท้ายค่อยๆหมดไปพร้อมความเหน็บหนาวที่ค่อยมาเยือน
สิ่งที่จะแก้หนาวได้คือชาบูร้อนๆ
อากาศค่อยๆหนาวขึ้นเรื่อยๆ ลมเอื่อยๆมาเป็นระรอก พอเข้า 2 ทุ่มตอนนี้นั้งแทบไม่ติดหนาวเย็นแต่ยังทนไหว ใส่เสื้อกันหนาว เอามือซุกกระเป๋าอากาศสุดยอด กดดูในแอพอุณหภูมิประมาณ 16 องศา
ดวงดาวก็สวย
ยิ่งดึกก็ยิ่งหนาวว
จนได้เวลานอนเที่ยงคืน อุนหภูมิลงไปถึง 13 องศาเย็นมาก แต่ตอนนอนกลับสบายสุดๆเพราะเราปิดหน้าต่างเหลือไว้ด้านเดียวห่มผ้านวมอากาศอุ่นกำลังดีเลยหลับสบายสุดๆครับคืนนั้น
ตื่นเช้าด้วยความปวดฉี่ เดินไปเข้าห้องน้ำกลับมาถ่ายแสงยามเช้ากันหน่อย
แม่สาวน้อยของพ่อตื่นแล้ว
ตื่นมาชมวิวยามเช้า
เมื่อคืนนี้เกลหลับตั้งแต่ 3 ทุ่มกว่ามีตื่นมาสองที ก่อนเที่ยงคืนแล้วก็หลับยันเช้าเลย นอนดีมากๆ สงสัยจะเหนื่อยด้วย
พ่อกินน้ำมั้ยคะ
เช้านี้ไม่เห็นพระอาทิตย์เพราะเขาบัง มีแสงมีหมอกบนยอดเขาให้ชม
อีกฝั่งตรงด้านห้องน้ำ จะมีทะเลหมอกให่ชมแต่ไกลๆอีกแล้ว
จากนั้นก็พาลูกสาวอาบน้ำและกินข้าวต้ม
ซูมไปทางหมู่บ้านดูทะเลหมอก
วิ่งเต็มที่เลยเช้านี้
คุณพ่อเรียกหนูหรอคะ
สายๆก็เริ่มเก็บเต็นท์เราเก็บช้ามากไม่รีบร้อนวันนี้ไม่มีโปรแกรมเท่าไหร่ กว่าจะเก็บหมดก็เกือบ 11 โมง
รอเต็นท์แห้งก่อน
ถ่ายรูปหมู่กันหน่อยข้างหลังเป็นดอยหลวแต่พอสายนี้เมฆบัง
เจ้าถิ่นที่ว่าคือตาพีท จากทริปก่อนที่ขี่ CRF มอไซต์มาเที่ยวเชียง มาเชียงใหม่ทีไรจะมาเที่ยวด้วยตลอดเจ้าถิ่นน่ารักมาก และแกขาย CRF ไปแล้วออกรถยนต์มาพอดีก็เลยเป็นทริป 4ล้อบ้างครับ
เที่ยวทั่วไทยไปกับไทรทัน
บ๊ายบาย สันป่าเกี๊ยะแล้วเจอกันใหม่
พ่อนั้งเลยหนูขับให้เอง
อากาศในระยังแสดงเป็น 18 องศา
ขาลงก็ไม่มีอะไรเร็ววก่าเดิมหน่อยทางชิลๆครับ
ถึงทางดำเรียบร้อย
ไปต่อวันนี้เราจะไปนอนแม่แตง แวะทางผ่านสวนสนแม่แตงครับ
อยู่ริมถนนเลยผ่านหลายทีพึ่งจะได้แวะครั้งนี้
สวนสนใหญ่พอสมควรเลยครับเด็กๆชอบแน่นอนวิ่งเล่นได้หญ้าเขียวสวยต้นไม้งาม
เท่ป่ะละ
หนูน้อยร้อยชุดค่ะแม่บอกชุดมันไม่เขากะสวนสน เปลี่ยนให้อีกชุด ความสนุกของคุณแม่เขาล่ะ
คนจะวิ่งมาเปลี่ยนชุดอยู่ได้ แงง
ถ่ายคู่กับคุณแม่หน่อย
เอ้ยจับมือพ่อบ้างดิ
ปล่อยลูกวิ่งแล้วมาผลัดกันถ่ายคนละแอคพอ
เป็นอีกทางผ่านที่สวยงามครับแวะได้เลยริมถนนแม่แตง
เลี้ยวเข้าแม่แตงไปแวะดูช้างที่ ปางช้างแม่แตงครับ ที่นี้ค่อนข้างเงียบเหงาครับเนื่องจากโควิด และปางช้างหลายๆที่ก็เช่นกัน นทท ส่วนใหญ่มีแต่คนไทยช่วงนี้ ใครผ่านไปผ่านมาก็แวะมาซื้ออาหารให้ช้างบ้างนะครับ
ลูกสาวชอบมากครับเหมือนจะกลัวแต่ก็อยากป้อนเลยให้ลองป้อนกับมือตัวเองเลย
ฃ
ออกจากปางช้างขับมาอีกหน่อยก็มาถึงที่นอนคืนนี้ วันเดย์โฮมสเตย์ที่พักพึ่งเปิดใหม่ไม่นานปีนี้ที่ ผาปูจอม แม่แตงครับ
วิวดีใกล้ชิดภูเขา
ห้องพักมีประมาณ 5 ห้องตอนนี้
เป็นเต็นท์กระโจมติดแอร์มีห้องน้ำในตัว
และมีอ่างสวยๆให้แช่น้ำชมวิว ถูกใจสาวๆยิ่งนัก
ในราคา ณ ตอนที่จองล่วงหน้านั้น 1790 บาทเท่านั้น แต่ตอนนี้ราคาขึ้นแล้วนะครับ ลองติดต่อสอบถามกันอีกที
วิวดีงามมาก
มองมาข้างหลัง
มองเหม่อไปทางซ้าย
นอนระเบียงทำเป็นมองไปที่อื่น
จะมองอะไรนักหนาไม่มองกล้องเลยครับเมีย 555 หยอกๆก็ให้เมียโพสท่าไปเรื่อยครับ
ชุดแช่อ่างต้องมางานนี้
เห็นหลังแล้วอยากเห็นหน้า
พอหน้าแล้วอยากเข้าไปใกล้ๆ อิอิ
แอคเฉยๆไม่ได้เปิดน้ำวันนี้ค่อยแช่น้ำพรุ่งนี้เช้าแทน
ท่ามองหลอดไฟใช้ได้ทุทที่
ถ่ายจนกว่าเมียจะพอใจ
มากินมื้อเย็น วันนี้กินหมูกระทะ สั่งจากที่พัก ชุดนึง 449 และซื้อหมูมาเพิ่มอีกโลตอนทางผ่านมาที่พัก
อากาศเย็นแต่ยังไม่เท่าบนสันป่าเกี๊ยะแต่ตัวเลขก็ 20ต้นๆเหมือนเปิดแอร์อยู่บ้าน กินกับหมูทะร้อนๆฟินเวอร์อิ่มแล้วก็เข้านอนกันพรุ่งนี้ต้องกลับแล้ว
เช้ามาตอนแรกว่าจะไปชมวิวที่ห้วยกุ้บกั้บแต่ช่วงที่ไป เอาไม่อนุญาตให้รถส่วนตัวขึ้น งั้นเราก็ไม่ขึ้นก็ได้ ก็เลยขับรถเข้าไปในหมู่บ้านหน่อยว่ามีอะไรให้ดูไหม เจอชาวบ้านเขาบอกว่ามันมีทางไปชมวิวแต่ต้องเข้าทางดินข้างๆไร่เลาะไปและเดินขึ้นเนิน
ไอเราก็ขับเลาะไปมาแต่ทำไมหาไม่เจอทางดินซุยๆยังดีว่าเราขับสี่ไม่มีปัญหา เจอเนินนึงลองเดินขึ้นไป เดินไปตั้งไกลแต่ไม่เห็นวิวเลย สงสัยจะหลง ก็เลยออกมา
โอ็วเดินขึ้นมาไกลมาก
ดูดินที่ล้อพอได้ลุยทริปนี้ฮิฮิ
หมอกไกลๆเช่นเคย
ออกมาแถวๆในหมู่บ้านจอดถ่ายรูปนิดหน่อย เห็นหมอกไกลๆทุกวันทริปนี้
อันนี้สวนดอกไม้ของที่พักชื่ออะไรไม่ทราบ
กลับมาที่พักถ่ายรอบๆก่อนกินมื้อเช้าครับ
ที่พักเรียงหน้ากระดาน
มื้อเช้ามาเสริฟถึงห้องพักครับ
น้ำชาร้อนๆ
นอนเล่นชิลๆวันนี้ไม่มีไปไหน
เล่นน้ำกันก่อนกลับพาลูกสาวแช่น้ำ
จะถ่ายคนเดียวแต่เกลก็ไม่ยอมเลยต้องมีลูกยุด้วยนะแม่
พ่อขอบ้างดิ
เตรียมเดินทางกลับ 11โมงกว่า
ออกจากที่พักแวะคาเฟ่ทางผ่านคาเฟ่ที่มีน้องหมาเยอะมากๆ elely คาเฟ่
ลูกสาวหลับรอบเช้าเมหือนเมื่อวานเลย
น้องหมาเยอะมาก
เจ้าตัวนี้เขาว่าชื่อแรมโบห้ามจับเลยเขามีป้ายเขียนกฏเอาไว้ใครไปถึงร้านอ่านก่อนนะจ๊ะ
เครื่องดื่มของหวานทานให้ชื่นใจ
มีที่ถ่ายรูปสวยยๆ
ไปอ่านหนังสือร้อนๆทำไมน้อเมียจ๋า อิอิ
ซื้ออาหารให้น้องๆมารุมกันใหญ่เลย
ด้านล่างมีช้างให้ถ่ายรูปได้ครับ
เริ่มหิวแล้วก็ไปต่อ
ปิดท้ายเชียงใหม่ด้วยร้านอาหาร ฮ้านถึงเชียงใหม่ ร้านอาหารอร่อยๆในตัวเมืองอีกมื้อก่อนกลับ
รสชาติอร่อยทุกเมนูมากินกันได้ครับ
มื้อนี้ 515 บาท
ออกจากเชียงใหม่บ่ายสอง มาถึงเมืองตาก 6 โมงพอดีเลยขอแวะมาถ่ายแสงเย็นที่สะพานตากก่อนหน่อย
ปิดทริปด้วยแสงสุดท้ายที่ปลายสะพานบ้านตาก
จากนั้นก็เดินทางกลับยิงยาวมากินข้าวที่นครสวรรค์และถึงนนทบุรี 5 ทุ่มถึงบ้านเราก่อนเที่ยงคืนเวลากำลังสวยเป็นอันจบทริปอย่างสวยงาม
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าน้ำมัน น้ำมัน 6550
ค่าที่พัก คืนแรกสองห้อง 2160
ค่าม่อนเงาะ50
ร้านกาแฟ 180
ค่าขนม 65
ค่าข้าวซอย 500
ค่ารถ20
ค่าบัวลอย170
ค่าสุกี้440
ค่าเบียร์335
ค่าข้าวเช้า200
ค่าเข้ายิ่งยง200
ค่ากาแฟเค้ก fluer 300
ค่าขึ้นสันป่าเกี๊ยะ 100
ค่ากางเต้นและอาหารเบียร์สี่คน 1880
ค่ากล้วยช้าง 200
ที่พักวันเดย์โฮมสเตย์สองห้อง 3580
ค่าหมูกระทะ449
ค่าเบียร์ค่าหมูขนมก่อนเข้าปางช้าง 600
ร้านคาเฟ่ elery 249
ค่าข้าวเฮือนเชียงใหม่515
ค่าก๋วยเตี๋ยวนครสวรรค์ 200
รวมทั้งหมด 18940/4 เท่ากับคนละ4735 บาทครับทริปนี้
ในส่วนค่าน้ำมันเจ้าไทรทัน
1900 67.16
1850 63.57
1600 55.19
1200 41.61 ลิตร
วิ่งไปทั้งหมด 1885 โล
6550/1885= ตกโลละ 3.47 บาท
1885/227.53 = 8.2 กิโล/ลิตร
ผู้โดยสาร 4เด็ก 1 ของเต็มลำ ความเร็วขาไปใส่เต็มทำเวลา ขากลับขับชิลๆ 120 ประมาณนี้จบการรายงาน
แล้วพบกันใหม่กับ ครอบครัวตะลอนเที่ยวทริปหน้าจะพาไปขึ้นเหนืออีกทริปส่งท้ายปี วันนี้สวัสดีจ้า
เที่ยวทั่วไทยไปกับไทรทัน
เหลี่ยมพาเที่ยว
วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 19.46 น.