ปล่อย ชีวิตจริงทิ้งไป วางไว้ข้างทาง วันนี้ไม่มีสัญญาน วิ่งตามไปที่ใด ….. นั่งฟังอยู่นาน มาสะดุดกับประโยค
มีเวลาให้หัวใจกับสายลมได้ทักทาย เปิดกาสให้แสงแดดและร่างกายได้พบกัน…


ประโยคนี้มันกระตุ้นต่อมการเปลี่ยนที่นอนขึ้นมาทันที นานแล้วที่ไม่ได้ไปพักผ่อนใช้ชีวิตแบบช้าๆกับภรรยาสองคนเลย ส่วนมากจะพาลูกสาว

ไปด้วย ไปแต่ละครั้งก็ยุ่งกันมาก ไหนจะเตรียมของใช้ ของกิน ของเล่น แทบไม่ได้พักผ่อน ยุ่งกับลูกสาวทั้งวัน ถึงแม้จะนอนไม่ดึก แต่ลูกสาวก็ตื่นเช้ามาก

จนบางทีแทบไม่มีเวลาได้พักเลย



เรื่องทั้งหมดก็เลยเป็นที่มาของทริปนี้ต้องมานั่งหาที่พัก ให้ตรงกับโจทย์ ของภรรยา คือ เดินทางใกล้ อาหารอร่อย ติดทะเลและมีหาด

และที่สำคัญต้องเป็นสไตล์รีสอร์ท ห้องพักต้องสะอาด เพราะเธอเป็นคนแพ้ฝุ่น ตอนแรกที่คิดไว้คือโซน ชะอำ หัวหิน เกาะเสม็ด เกาะล้าน

แต่ก็ถูกเหตุผลต่างๆที่เธอปฎิเสธ ทั้งไกลบ้างละ ไปบ่อย ไม่อยากนั่งเรือ หาของกินลำบาก จนเธอเอารูปมาให้ดู นั้นก็คือ ยู พัทยา

ให้คิดสะนานบอกว่าอยากไป ยูพัทยา แค่ก็จบ



เราออกเดินทางกันช่วงสายๆซึ่งเป็นวันธรรมดา เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้ลงเวรก็เกือบตี 1 อาบน้ำเข้านอนดูนาฬิกาเข้าตี 3 แล้ว ชีวิตมนุษย์ทำงาน กว่าจะได้เข้านอนมันช่างเหนื่อยล้าจริงๆ ขอนอนตื่นสายๆแล้วค่อยเก็บของ ขับรถไปพัทยา ออกจากกรุงเทพแถวราชพฤกษ ประมาณ 10 โมง

ช่วงนี้รถไม่ติดครับ ฟังเพลงสบายขับไปเรื่อยๆ ถึงพัทยาช่วงเที่ยงๆ เป็นเวลาท้องร้อง ทริปนี้ตามใจภรรยาเลย อยากกินร้านไหน อยากทำอะไร

ให้เธอเป็นคนเลือก

CR = ร้านเดอะกลาสเฮาส์ / ร้านริมผา ลาภิน / ปรีชา ซีฟู๊ด


SR = สุพีเรีย ซีวิว ยู พัทยา+อาหารเช้า

The Glass House Pattaya


ร้านอาหารที่ภรรยาเลือก เป็นร้านดังของพัทยา มีชื่อเสียงมานาน ถามเธอว่าทำไมถึงเลือกร้านนี้ เธอบอกว่าดูจากวงใน บอกว่าอร่อยและ


บรรยากาศดี ราคาไม่ค่อยแพง เหตุผลรับได้และอีกอย่างเป็นทางผ่านพอดี ร้านหาไม่ยากครับ ขับตาม google map มาได้เลย ตัวร้านแบ่งออกเป็น

3 โซน คือ indoor outdoor และโซนชายหาด ผมเลือกที่จะนั่งด้านนอกรับลมทะเล วันนี้คนไม่เยอะ เป็นวันธรรมดาด้วยทำให้คนไม่พลุ่งพล่าน อาหารได้เร็วและจานใหญ่มาก เมนูที่สั่งไป

แกงส้มปลากระพง รสชาติจัดจาน ส่วนตัวผมว่าอร่อยครับแถมได้เยอะด้วย

ปลาหมึกไข่ยาง ปลาหมึกสด แต่ไม่ชอบที่เค้าหมักเนย ทานแล้วเลี่ยนๆ น้ำจิ้มยังแซ่บไม่ถึงใจ

ลาบแซลมอน ทำได้ออกมาน่าทาน รสชาติกลมกล่อมครับ และไม่รู้สึกคาว จานนี้ถูกใจ

กับข้าวสามอย่าง กับน้ำผลไม้ปั่น ราคา พันนิดๆรับได้ครับ ไม่แพงจนเกินไป

ทานข้าวเสร็จมุ่งหน้าเข้าที่พักกันเลย คุยกันไว้ว่าจะเข้าไปนอนให้สบายใจตอนเย็นค่อยออกมาหาอะไรกินกัน

ทำไมต้อง ยู พัทยา


เหตุผลหลักที่เลือกพักที่นี้ คือ ต้องการที่พักสไตล์บูติก รีสอร์ท มีความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ ไม่วุ่นว่าย อยู่ติดทะเลมีชายหาด ที่สำคัญเหมาะแก่การพักผ่อนและเติมความหวานให้กับชีวิตคู่ มาครับตามมาดูกันว่าที่นี้สามารถตอบโจทย์คู่รักวัยรุ่นตอนปลายแบบผมได้มั้ย

1.ในการเข้าพักผ่อนเราทุกคนต่างต้องการอยู่โรงแรมให้ได้นานที่สุด ให้มันคุ่มค่ากับเงินที่เราจ่ายไป ซึ่งตอนจองกับโรงแรมได้แจ่งไว้เช็คอิน 16 น ไปถึงเข้าห้องพักได้เลยครับ การมาพักกับโรงแรมเครือ ยู สามารถเข้าพักได้เต็มวัน เป็นข้อดีที่ไม่มีใครเหมือนคือ

สามารถเข้าพักได้ 24 ชม แต่ต้องแจ้งล่วงหน้าและขึ้นอยู่กับว่าห้องว่างหรือเปล่า นี้แหละครับเหตุผลหลักที่เลือกที่นี้


2.เหมาะสำหรับคนที่ตื่นสายมากๆและคู่รักที่หักโหมตื่นเช้าไม่ไหว 55 สำหรับผมแล้ว ชอบลงมาทานที่ห้องอาหารมากกว่า เพราะได้เปลี่ยนบรรยากาศ พบปะผู้คน และที่สำคัญสั่งได้ไม่อั้น เติมได้ตลอด อาหารมีหลากหลายด้วยครับ


อาหารเช้าเราเลือกได้ว่าจะทานที่ใหนได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ไม่เกิน 4 ทุ่ม


3.มีจักรยานให้ปั่นฟรี ไวไฟฟรี ช่วงที่ไปนี้ขอข้ามครับ อากาศร้อนมาก ปั่นไม่ไหว แต่ถ้าเป็นช่วงเย็นๆปั่นเรีบยหาดบางเสร่ น่าจะโรแมนติกไปอีกแบบครับ ส่วนไวไฟในห้องพัก ที่นี้สอบตกครับ สัญญานไม่ดีเลย ติดๆดับๆแต่ถ้าส่วนกลาง หรือห้ องอาหาร สระว่ายน้ำไม่มีปัญหาครับ



4.เลือกหมอน สบู่และ ชาได้ ตามใจชอบ แถมยังสามรถเลือกมินิบาร์ได้คนละ 1 อย่าง ข้อนี้สำหรับบางท่านอาจะมองข้ามไป แต่ผมคิดว่าที่นี้ ดีครับ ให้เราเลือกตามใจ อยากนอนแบบไหน อยากกินอะไร คุณเลือกได้เลย เราไม่บังคับ เรียกได้ว่าที่นี้ไม่เอาเปรียบลูกค้ากันเลยครับ

การเดินทางมาที่โรงแรมผมว่าไม่ยากน่ะครับ เปิด google map มาได้เลย ไม่หลงแน่นอน ผมคอนเฟริมครับ ตัวโรงแรมจะอยู่ติดกับหาดบางเสร่


เมื่อเข้ามาถึงที่จอดรถจะอยู่ด้านขวามือ ส่วนด้านซ้ายมือเป็นลอบบี้ และเห็นสัญลักษณ์ของ ยูพัทยา นั้นก็คือ บันไดวน ใครเห็นต่างจะรู้เลยว่าที่นี้คือ

U PATTAYA


LOBBY


ล็อบบี้ของที่นี้ไม่ได้ใหญ่โต อลังการ พื้นที่พอเหมาะ ตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติ ดูเก๋ และมีมุมให้ถ่ายรูป ด้วยครับ


แต่ไฮไลค์จริงๆของ ล็อบบี้คือบันไดวน ใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปครับ


และมีที่วางกล้อง ไว้สำหรับถ่ายรูปอีกด้วย ใส่ใจในรายละเอียดของคนชอบถ่ายรูป ได้ใจผมให้ไปเลย 10 ดาว


บันไดที่เห็นจะใช้ขึ้นไปยังห้องพักชั้น 2 และชั้น 3 เป็นห้องพักประเภท superior Seaview และเป็นห้องพักของผมในวันนี้


SUPERIOR SEAVIEW


ห้องพักแบบซูพีเรีย ซีวิว มีอยู่ 18 ห้อง อยู่ที่ชั้น 2 และชั้น 3 ห้องพักวิวดีที่สุดใน คือห้องที่อยู่ใกล้บันไดชั้น 3 วิวจะอยู่ตรงกลางที่สุดครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับรหัสลับคือหมายเลข 122 ครับ ห้องจะอยู่ตรงกลางของเห็นวิวทะเลเต็มๆ เข้าไปดูห้องพักกันดีกว่าครับ เมื่อก้าวเท้าเข้าไป สิ่งแรกที่รับรู้ได้เลยคือ แอร์เย็นมาก เปิดเข้ามาห้องน้ำอยู่ด้านซ้ายมือแยกกันระหว่างห้องสุขากับห้องอาบน้ำ มีตู้เสื้อผ้า เสื้อคลุม ไดร์เป่าผม อ่างล้างหน้าสองอ่างไม่ต้องแย่งกัน


พอเดินเข้ามาเป็นเตียงคิงส์ไซด์ ขนาดใหญ่นอนสบาย หมอนมีทั้งแบบหนาแน่น และแบบนุ่ม มีให้ 4 ใบ


ด้านปลายเตียงเป็นโซฟาเบด ไว้สำหรับนอนชมวิว ภายในห้องพักดูไม่อึดอัด มีทางเดินข้างเตียงทั้งสองข้างได้สะดวกครับ


และห่างจากเดย์เบดพอสมควร

โต๊ะทำงานละทีวี อยู่ด้านซ้ายมือใกล้กับ ตู้เย็นสำหรับแช่มินิบาร์


ระเบียง ข้างนอกมี อ่างน้ำวน ไว้ให้นอนตีฟองสบู่และแช่น้ำดูพระจันทร์ ข้อดีอีกอย่างของที่นี้คือมีอ่างอาบน้ำทุกห้อง ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงห้องบีชฟร้อนท์ซึ่งเป็นห้องระดับสูงสุดของที่นี้ครับ


มองจากระเบียงจะเห็น รูฟท็อปบาร์ ห้องอาหาร และวิลล่าด้านล่างครับ


ไฮไลค์ของที่ห้องซูพีเรีย คงหนีไม่พ้นเจ้าอ่างน้ำวน ที่ระเบียงสามารชมพระอาทิตย์ตกได้ วิวด้านหน้าอลังการมากครับ แต่ด้วยวิวที่เปิดกว้าง


ก็มีข้อเสียคือไม่ค่อยส่วนตัวเท่าไร ถ้ามองมาจาก รูฟท็อปบาร์ เห็นได้ชัดเลยครับว่าทำอะไรบ้างในห้อง เพราะฉะนั้นควรกั้นม่านป้องกันไว้ด้วย

สำหรับใครที่จะปฎิบัติภารกิจส่วนตัว ถึงแม้จะไม่ค่อยส่วนตัว แต่เป็นห้องที่ผมอยากจะแนะนำมากที่สุด เพราะเหมาะสำหรับผู้ที่งบประมาณไม่มาก ต้องการวิวทะเล นับเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดครับ หลังจากเก็บของเข้าที่เข้าทางแล้ว กิจกรรมต่อไปคือนอนพักผ่อนครับ อากาศร้อนๆแบบนี้คงไม่มีอะไรจะฟินไปกว่านี้แล้ว เย็นๆค่อยตื่นไปเล่นน้ำ

สระว่ายน้ำ


บรรยากาศดีมากครับ ติดกับชายหาดเลย ตัวสระยาวเกือบ 50 เมตร มองเห็นทะเลแบบ พาโนราม่า ด้านขวามองเห็นฝั่งพัทยา
ด้านซ้ายเป็นฝั่งหาดบางเสร่


ด้านหน้าเห็นชายหาดแบบไม่มีอะไรมากั้นสายตา มีที่นั่งชมพระอาทิตย์ตกให้ฟินกันอีกด้วย


ไฮไลค์ของสระว่ายน้ำ คือ ฝูกสีดำๆนอนลอยน้ำไปมา ชมวิวไปด้วย ที่สำคัญเอาไว้ถ่ายรูปเก๋ๆ ใครมาต้องมาถ่ายรูปกับอีเจ้าฝูกดำๆ


ลอยน้ำตัวนี้แหละ ใครไม่ถ่ายถือว่าเชยครับ

ส่วนผมมีพี่เป็ดขาวส่วนตัว เอาไปให้พี่ที่ดูสระเป่าลมให้ ลอยน้ำสบายใจเฉิบๆ หลังจากเล่นน้ำกันหน่ำใจแล้ว ขอขึ้นไปเชยชมบรรยากาศ


รูฟท็อบบาร์บ้างครับ

LA VALA ROOFTOP BAR


ลาเวล่า เป็นชื่อที่เรียก รูฟท็อปบาร์ครับ ด้านบนบรรยากาศดีมาก ด้างหลังมองเห็นตึกห้องพักแบบซูพีเรีย


ส่วนด้านหน้ามองเห็นทะเลแบบเต็มๆ


ไม่มีอะไรมาขว้างกัน แนะนำใครที่ชอบดื่มเบาๆ ไม่ควรพลาด และถ้าไม่มาถ่ายรูปด้านบนถือว่าผิดอีกเช่นกันครับ


ห้องข้างๆคือห้องประชุมขนาดไม่กว้างมาก


เล่นน้ำกันจนตัวเปื่อย กลับห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ได้เวลาออกไปหาของกินกันแล้วครับ เราไปที่ร้าน ริมผา ลาภิน


สาเหตุที่เลือกร้านนี้คืออยู่ไม่ไกลจากที่พัก บรรยากาสดี และเคยมาแล้วครั้งหนึ่ง อาหารสั่งมาทานพอประมาณ

ข้าวผัดทะเล รสชาติมาตราฐาน ไม่ว้าวครับ

กุ้งแช่น้ำปลา กุ้งสด น้ำจิ้มไม่ค่อยแซ่บโดนใจ

สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล ซี๊ด ซ๊าด สะใจ ภรรยาให้ผ่านครับ

โดยรวม รู้สึกเฉยๆกับรสชาติและตกใจ กับราคา มื้อนี้ อาหารสามจาน น้ำปั่นคนละแก้ว เบ็ดเสร็จมื้อนี้ 9xx กว่าบาท แต่ที่เด็ดคือวิวที่มองเห็นโค้งชายหาดจอมเทียนและพระอาทิตย์ตกที่สวยมากอีกแห่ง

บรรยากาศตอนกลางคืน


กลับมาถึงที่พักภรรยาขึ้นไปอาบน้ำ ส่วนผมอดใจไม่ไหวขอไปเก็บภาพที่ล็อบบี้


ห้องอาหารปาปิญอง


ฟิสเนส


สระว่ายน้ำ


ลาเลล่า


ได้ภาพประทับใจมาพอประมาณ ก็เป็นเวลาที่สมควรที่จะไปแช่น้ำ แล้วนอนพักผ่อน


ไม่ต้องถามถึงบรรยากาศตอนเช้าน่ะครับ บอกแล้วว่าทริปนี้มาพักผ่อน นอนตื่น 9 โมงครึ่ง แปรงฟันล้างหน้าออกไปทานอาหารเช้ากันครับ


PAPILLON


ห้องอาหารแห่งเดียวของรีสอร์ท ด้านนอกเหมือนนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ริมทะเลมีเถาวัลย์ย้อยลงมา มีชิงช้าที่แขวนตามกิ่งไม้ให้ไกว้ขณะกินข้าว


มองเห็นวิวทะเล บรรยากาศดีเพิ่มรสชาติของอาหารให้อร่อยมากขึ้น

ด้านในเป็นส่วนของไลน์อาหารและใครที่ไม่ชอบอากาศร้อนเรียนเชิญด้านในได้เลยครับ ไลน์อาหารมีหลากหลายชนิด ทั้ง ผลไม้ ธัญพืช อาหารไทย จีน สเตชั่นไข่ และอาหารอินเตอร์ ด้วยครับ เรียกได้ว่าไม่ใหญ่แต่มีครบให้เลือกสรร ที่สำคัญมีเมนูตามสั่งด้วยครับ ทานกันให้อิ่มไปข้างหนึ่งเลย วัสดุดี รสชาติมาตรฐานครับ ทานได้ถูกปาก


นั่งทานอาหารกันจนอิ่มหน่ำสำราญแล้ว พักให้อาหารย่อย


เดินกลับห้องแวะไปเข้าไปเยี่ยมสปาดูสักหน่อย นั่งพักกันสักพักหนังตาเริ่มหย่อน ได้เวลากลับห้องกันแล้ว


ตื่นมาอีกทีช่วงบ่าย 2 อากาศร้อนได้ที่เลยครับ เปิดน้ำลงในอ่างใส่ชุดว่ายน้ำแช่กันสองคน มีความสุขตามประสาพ่อแม่


ที่แอบหนีลูกสาวมาพักผ่อน หลังจากนั้นอาบน้ำเปลี่ยนผ้าเก็บกระเป๋าได้เวลา ร่ำลา ยูพัทยา กันแล้ว

ข้อดีข้อที่ 1 ที่ผมบอกไว้ เข้าพักได้ 24 ชม เชคอินตอน 4 โมงเย็น เช็คเอาท์ตอน 4 โมงเย็นเช่นกัน แต่จะทำแบบนี้ได้ต้องโทรแจ้งพนักงาน


ก่อนน่ะครับ และขึ้นอยู่กับว่ามีห้องว่างให้มั้ย ช่วงที่ผมเช็คอิน เป็นวันจันทร์ เช็คเอาท์วันอังคาร เลยทำให้มีห้องว่าง ถ้าเป็น ศุกร์ เสาร์อาทิตย์

อาจจะไม่ได้ตามคำขอน่ะครับ

หลังจากเช็คเอาท์เรียบร้อยแล้ว เรายังไม่กลับง่ายๆครับ มายูพัทยาทั้งที ต้องห้ามพลาด จุดถ่ายรูปที่มีให้ทั่วรีสอร์ทกันไปเลย


ดูสิว่าผมจะตามหา point photo ได้ครบมั้ยครับ แต่ละจุดเดินหากันเองน่ะครับ งานนี้ไม่บอก ฮ่าๆ อยากให้ทุกคนที่ไปได้เดินให้ทั่วครับ

ทริปนี้เป็นอีกทริปที่ภรรยายอมให้ความร่วมมือถ่ายรูปเยอะมากครับ อย่าลืมไปหามุมโพสท่าตามนางแบบของผมน่ะครับ


เดินถ่ายรูปกันทั่วแล้ว ได้เวลาโบกมือ อำลา ยู พัทยา จริงๆแล้ว เศร้าใจ ไม่อยากกลับเลย อยากอยู่ต่ออีกสักคืน สำหรับทริปนี้ภรรยาประทับใจมากครับ ได้พักผ่อน นอนสบาย ร่างกายได้ชาร์จแบ็ตเต็มที่ เรามีเวลาให้กันมากขึ้น ได้ถ่ายรูปคู่ซึ่งนานๆผมจะถ่ายกันที สถานที่และบรรยากาศรวมถึงการบริการของที่นี้ทำให้ทริปนี้เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากอีกทริปหนึ่งครับ ความสุขบางทีก็ขึ้นอยู่กับ เวลา สถานที่ และโอกาส


ขอบคุณทาง ยูพัทยา ที่ให้โอกาสในการเข้าพักในครั้งนี้

ปรีชา ซีฟู๊ด


เดี้ยวๆยังไม่จบทริปครับ ก่อนกลับเย็นมากแล้ว ไปหาข้าวทานก่อนกลับกันดีกว่า ขับรถมุ่งหน้าไปทางหาดบางเสร่


จุดหมายของเราคือร้านปรีชา ซีฟู๊ด ตัวร้านจะอยู่ติดถนนเลยครับหาไม่ยาก แต่ลำบากเรื่องที่จอดรถ ด้านในร้านบรรยากาศดีมาก

แนะนำให้มาช่วงเย็นๆเลยครับ พระอาทิตย์ตกสวยมาก อาหารรสชาติถูกปาก แต่ราคาทำร้ายจิตใครับ

อาหารที่สั่งมา


ปลากระพงทอดน้ำปลา ปลาตัวใหญ่มาก ทอดได้กรอบนอกนุ่มใน น้ำยำไม่ถูกใจเท่าไร

กรรเชียงปู ปุไม่ค่อยสด รสชาติจืดๆแห้งๆ แต่นำจิ้มซีฟู๊ดอร่อย แซ่บถึงใจ

หอยนางรมทรงเครื่อง สด หวาน

โป๊ะแตก ได้เยอะมาก รสชาติไม่ค่อยเผ็ดร้อน เปรี้ยวซี๊ดถึงใจ

สรุปกันสั้นๆสำหรับร้านปรีชาซีฟู๊ด คือ บรรยากาศดี อร่อยถูกปาก แต่ราคาทำร้ายจิตใจ


ได้เวลากลับของจริง พรุ่งนี้ต้องกลับไปทำงาน ไปเป็นมนุษย์เงินเดือนขายบริการต่อไป อยากหยุดเวลาเอาตรงนี้ แต่มันคงทำไม่ได้ ก็ได้แต่เก็บความทรงจำและความสุขเอาไว้กับตัวเราให้นานที่สุด สุดท้ายขอบคุณทุกๆท่านที่เข้าอ่านจนจบตั้งใจหรือไม่จั้งใจ ขอแค่เปิดมาดูรูป อย่างน้อยก็อยากให้ทุกคนได้เห็นมุมมองในแบบของผมแล้วอยากใหมาพักที่นี้กันบ้าง ถ้าจะพูดถึงสิ่งที่ไมถูกใจของ ยูพัทยา คงเป็นเรื่องราคา และสัญญานไวไฟที่ติดๆดับๆ ส่วนเรื่องห้องพัก บรรยากาศ ส่วนกลาง อาหารเช้า สระว่ายน้ำ ที่สำคัญอ่างน้ำวน ผมประทับใจมากครับ อยากให้ทุกคนได้ไปลองพัก ใช้วันหยุดพักผ่อนให้เต็มที่ เติมพลังงานชีวิตให้กับตัวเองและคนที่อยู่เคียงข้างเราครับ


ความคิดเห็น