เป็นอีกครั้งที่เราเลือกมาพักผ่อนที่เชียงคาน เราว่าเชียงคานเป็นเหมือนเมืองต้องมนต์ที่ใครเคยมาสัมผัสแล้วจะต้องหลงรัก เหมือนทุกครั้งสำหรับการเดินทางแบบคนไม่มีรถและมีงบที่จำกัด เราเลือกเดินทางมากับรถทัวร์ กรุงเทพฯ-เชียงคาน ขึ้นรถที่หมอชิต 2 เราจองตั๋วผ่านอินเทอร์เนตมาล่วงหน้านะคะ
ประมาณตี 5 เราก็ใกล้ถึงเชียงคาน รถทัวร์จอดที่ตลาดเชียงคาน พอลงรถเราเดินตรงไปที่ร้านขายข้าวจี่เลย ได้ข้าวจี่ร้อนๆมากินรองท้อง
จากตลาดเดินมาถนนคนเดินไม่ไกลนะคะ ไม่ต้องนั่งรถก็ได้เดินเรื่อยๆค่ะ และด้วยความที่เรามาถึงเช้า จึงทันเวลาใส่บาตรพอดี เราใส่บาตรตรงถนนคนเดินนะ
หลังใส่บาตรเสร็จ เราก็เอากระเป๋าไปเก็บที่เกสเฮ้าส์ก่อนได้นะเจ้าของใจดีที่สุด เราพักที่ บ้านชานเคียง ที่เชียงคานนะ เรามาพักเป็นครั้งที่ 3 แล้ว เราชอบที่นี่มากเพราะมันให้อารมณ์เหมือนเรามาพักบ้านเพื่อน เงียบ สงบ และยังราคาถูกเหมาะกับคนงบน้อยแบบเรา ถึงราคาหลักร้อยแต่วิวหลักล้านเลยนะ ติดต่อที่พักที่คุณเต้ย โทร 085-460-2035 ที่พักเต็มเร็วมากนะ
ที่หลับที่นอนเราคืนนี้และบรรยากาศโดยรอบของเกสเฮ้าท์
เรามาเดินหาอะไรกินอยากบอกว่าอร่อยมากค่ะ
ช่วงบ่ายแดดร่มลมตกเราก็เช่ารถมอร์ไซค์ขับไปเที่ยวแก่งคุดคู้จ้า ค่าเช่ามอร์โซค์ 250 บาทนะ บริการส่งถึงที่พักเลย โทรเบอร์นี้เลยนะ 084-145-4648 ก่อนถึงแก่งคุดคู้ เราแวะกินข้าวกันที่ ร้านตำด๊องแด๊ง ณ เชียงคานค่ะ อยากบอกว่ามาทีไรก็มากินร้านนี้ แซ่บมาก
ถึงแล้วแก่งคุดคู้ สวยมากค่ะ
ช่วงเย็นแค่เราเดินออกมาจากเกสเฮ้าส์เพียงไม่กี่ก้าว ก็เห็นแบบนี้เลยนะ เราเดินเล่นถ่ายรูปตามริมโขงมาเรื่อยๆ ลมเย็นๆ อากาศดีๆ สบายใจสุดๆไปเลยจ้า
เราว่าเชียงคานเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งนึงในประเทศไทยเลยนะ
หลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว เราก็มาหาอะไรกินที่ถนนคนเดินค่ะ ช่วงนี้ร้านค้าต่างๆไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อนนะคะ แต่อาหารก็ยังเยอะอยู่ ไม่รู้จะกินอะไรก่อนดี แต่มาแล้วที่พลาดไม่ได้ก็คงจะเป็นกุ้งย่างเสียบไม้แบบนี้ค่ะ
อากาศแบบนี้ต้องเบียร์วุ้นนะ อิอิ
เราซื้ออาหารมานั่งกินที่หน้าเกสเฮ้าส์ค่ะ ซึ่งช่วงกางคืนจะเป็นเหมือนบาร์เบียร์ย่อมๆ เพลงเพราะบรรยากาศดี ชิลล์สุด
เช้านี้เราตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่ภูทอกค่ะ มาถึงก็ซื้อตั๋วตรงจุดนี้นะคะ
ขึ้นมาถึงก็จะเห็นวิวประมาณนี้ค่ะ เช้านี้ไม่มีหมอกและไม่เห็นพระอาทิตย์ค่ะเมกเยอะไปหน่อย
พอลงจากภูทอกเราก็แว้นรถไปที่สกายวอร์คเชียงคานกันต่อ เป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของเชียงคาน ถึงแล้วก็ติดต่อซื้อตั๋วรถขึ้นไปสกายวอร์คเลย อ่อ ราคาตั๋วรวมรองเท้าที่ใส่เดินสกายวอร์คด้วยนะเออ
วิวนี้เลยจ้า สกายวอร์คเชียงคาน เราแนะนำมาช่วงเช้า ไม่งั้นก็ช่วงเย็นนะ จะได้ไม่ร้อน
มองลงไปก็เสียวไส้อยู่นะ
แล้วกลับมาที่พักเก็บข้าวของเตรียมเช็คเอ้าท์ รอเวลาขึ้นรถทัวร์กลับกรุงเทพฯกันค่ะ
***ขออนุญาติทุกท่านที่อยู่ในภาพด้วยนะคะ**
ค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้นะคะ
ค่ารถทัวร์ไป/กลับ 2 คน = 1,808 บาท
ค่าที่พัก = 800 บาท (ที่พักมีหลายราคา ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป)
ค่าเช่ามอร์ไซค์ = 250 บาท
ค่าน้ำมัน = 60 บาท
ค่ารถขึ้นภูทอก 2 คน = 50 บาท
ค่ารถขึ้นสกายวอค 2 คน = 120 บาท
รวม 3,088 / 2 ตกคนละ 1,544 บาท
เพียงงบคนละ 1,600 บาทก็เที่ยวเชียงคานได้แล้ว
ปล.เราไม่รวมค่าอาหารและของฝากนะ เพราะแต่ละคนใช้งบในการกินไม่เหมือนกัน งบจะบานปรายหรือไม่อยู่ที่ค่าอาหารค่ะ
แล้วพบกันใหม่ทริปหน้านะคะ
แค่ทิ้งความกลัวไปบ้างก็ใช้ชีวิตสนุกขึ้นนะ
#ลองเป็นโสดแล้วจะเป็นสุข
ลองเป็นโสดแล้วจะเป็นสุข
วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 09.11 น.