เพราะโควิดอยู่ยาวมากๆ จนหลายคนลืมวันหมดอายุพาสปอร์ตตัวเองไปกันแล้ว ผู้เขียนก็เช่นกัน เพิ่งมานึกได้ว่าอายุพาสปอร์ตเหลือน้อยกว่า 6 เดือน ใช้บินไม่ได้ก็ตอนกำลังจะขอเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนผ่านแอปหมอพร้อม เลยต้องหยุดมือไว้แล้วไปต่ออายุพาสปอร์ตก่อน และวันนี้เราจะมารีวิวการต่ออายุพาสปอร์ตด้วยตัวเองโดยเครื่อง Kiosk ที่ MBK Center กันค่ะ


เครื่อง Kiosk คืออะไร

เครื่องหรือตู้คีออสก็คือ เครื่องให้บริการอัตโนมัติ ที่เน้นการใช้งานที่ง่ายและสะดวกสบายด้วยระบบเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยปกติแล้วเพราะเครื่องถูกออกแบบมาเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานดังนั้นขั้นตอนต่างๆ ที่ต้องทำผ่านเครื่องนี้จะไม่ซับซ้อน ผู้ใช้บริการสามารถเรียนรู้ที่จะใช้ได้อย่างง่ายดาย ตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยระบบหน้าจอสัมผัส สัญญาณ Wifi และลูกเล่นและระบบฐานข้อมูลตามการใช้งาน เช่น เครื่องคีออสสำหรับเช็กอินขึ้นเครื่อง ตู้คีออสสำหรับทำพาสปอร์ตเป็นต้น

สถานที่ทำพาสปอร์ตด้วยเครื่อง Kiosk

  • หากใครอยากไปทำพาสปอร์ตด้วยเครื่องคีออส สามารถไปได้ที่ MBK Center ชั้น 5 โซน A อยู่ตรงข้ามกับบันไดเลื่อนขึ้นไปศูนย์อาหาร
  • วิธีการเดินทางไป MBK Center สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติได้เลย และเดินต่ออีกนิดเดียวก็ถึงห้างเลยค่ะ
  • เปิดวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 10:00 - 18:00 น.

ต่ออายุพาสปอร์ตใช้เอกสารอะไรบ้าง

ในการต่ออายุพาสปอร์ตนั้นจะไม่ใช้เอกสารเยอะเหมือนครั้งแรกที่ไปทำ โดยจะใช้เพียงแค่บัตรประชาชนตัวจริง และเล่มพาสปอร์ตเล่มเดิมถ้าของท่านใดหายไปแล้ว จำเป็นต้องไปแจ้งความและนำใบแจ้งความไปพร้อมกับบัตรประชาชนแทน

ขั้นตอนการทำ

ขั้นตอนการทำจะแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนใหญ่ๆ คือ ขั้นตอนโดยรวมทั้งหมด และขั้นตอนขณะใช้เครื่องคีออส

  • ขั้นตอนโดยรวมทั้งหมด

เมื่อไปถึงสำนักงานออกหนังสือพาสปอร์ต ซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 5 โซน A ของ MBK Center แล้ว หากไม่ได้จองคิวออนไลน์มาให้เข้าไปจุดรับคิวสำหรับผู้ที่ Walk in เพื่อตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นก่อน หากข้อมูลเล่มและในระบบตรงกันทั้งหมด เจ้าหน้าทีจะแนะนำวิธีการทำพาสปอร์ตที่เหมาะสมให้กับคุณ มีทั้งติดต่อทำพาสปอร์ตกับเจ้าหน้าที่โดยตรง และไปยังเครื่องคีออส

ในส่วนนี้ผู้เขียนเป็นการต่ออายุ ไม่ยุ่งยากอะไรมากเลยไปต่อที่เครื่องคีออส ไปรับคิวสำหรับรอเข้าเครื่อง บัตรคิวอยู่ที่โต๊ะเล็กๆ ก่อนทางเข้าไปยังห้องที่มีเครื่องคีออส ให้หยิบบัตรคิวมาด้วย บัตรคิวจะเป็นใบกระดาษมีเลขคิวระบุอยู่ หยิบใบนั้นแล้วเข้าไปนั่งรอเรียกเข้าเครื่องได้เลยค่ะ หลังกรอกข้อมูลผ่านเครื่องคีออสเสร็จ ก็จะเป็นการชำระค่าธรรมเนียมการออกเล่ม เป็นอันเสร็จสิ้นการขอพาสปอร์ตด้วยตัวเอง


ขั้นตอนขณะใช้เครื่องคีออส

ส่วนนี้เข้าใจง่ายๆ คือเราจะเป็นผู้ป้อนข้อมูลเองทั้งหมด ดังนั้นต้องใช้ความรอบคอบค่อนข้างสูงเลยนะคะ โดยขั้นตอนทั้งหมดมีดังนี้

  1. นำบัตรประชาชนเสียบเข้าที่ช่องใส่บัตรปรชาชน ซึ่งช่องใส่บัตรจะอยู่เหนือจอมอนิเตอร์แสดงผล
  2. เลือกเมนูทำพาสปอร์ต รอเครื่องโหลดฐานข้อมูล จะใช้เวลาสักครู่ ไม่ต้องตกใจไปค่ะ
  3. อ่านคำชี้แจง และข้อกำหนดต่างๆ พร้อมกดยอมรับข้อชี้แจงทั้งหมด
  4. กรอกข้อมูลบุคคลอ้างอิงกรณีติดต่อฉุกเฉิน ชื่อ สกุล และเบอร์โทรศัพท์
  5. ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดที่จอแสดงผล สำหรับการต่ออายุนั้น จะมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่แล้ว ให้ตรวจสอบอีกครั้ง หากไม่ตรงกับความเป็นจริง หรือมีข้อผิดพลาดให้เรียกเจ้าหน้าที่ได้เลย
  6. หากข้อมูลไม่ผิดพลาด กดยืนยัน และเข้าสู่ขั้นตอนการถ่ายรูป
  7. หากได้รูปที่ถูกใจแล้วให้ไปขั้นตอนต่อไปได้เลย กรณียังไม่ชอบใจรูปถ่ายสามารถกดถ่ายใหม่ได้ ไม่แน่ใจว่ามีลิมิตหรือไม่ แต่ผู้เขียนกดถ่ายใหม่ไปประมาณ 4-5 ครั้ง
  8. ขั้นตอนต่อไปคือการสแกนม่านตา ซึ่งกล้องจะคนละกล้องกลับที่ถ่ายภาพ จะมีกล้องอีกตัวที่อยู่เหนือที่เสียบบัตรประชาชน จะมีไฟสีน้ำเงินตรงกลาง ให้เราเอาตาเข้าไปใกล้กล้องตัวนี้จนกว่าจุดสีน้ำเงินจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ถือว่าสแกนผ่านแล้ว หากจุดเปลี่ยนเป็นสีแดงคือไม่ผ่าน ก็สแกนม่านตาใหม่อีกรอบ
  9. ต่อจากนั้นคือการสแกนนิ้ว หลายคนติดปัญหาส่วนนี้ ไม่สามารถบันทึกลายนิ้วมือได้เนื่องจากลายนิ้วมือไม่ชัด หรือด้วยเหตุอื่นๆ แนะนำให้นำผ้าที่วางอยู่บริเวณเครื่องเช็ดจอสแกนก่อนสแกนทุกครั้ง เพราะอาจจะมีคราบลายนิ้วมือของคนก่อนติดอยู่และอาจทำให้เครื่องไม่เก็บลายนิ้วมือเรา รวมถึงตอนเปลี่ยนมือตนเองก็ให้เช็ดก่อน และวางนิ้วตามที่กำหนดโดยกดลงน้ำหนักที่ปลายนิ้วเล็กน้อยเพื่อให้นิ้วแนบกระจกแน่นเพิ่มความชัดเจนให้กับลายนิ้วมือ
  10. ตรวจสอบข้อมูลการจัดส่งเล่ม ระบบจะขึ้นเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน แต่สามารถแก้ไขข้อมูลที่อยู่จัดส่งได้
  11. เลือกจำนวนปีอายุพาสปอร์ตซึ่งจะมี 5 ปีและ 10 ปี กดยืนยันข้อมูลทั้งหมดและตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอีกครั้ง หากไม่พบข้อผิดพลาดกดยืนยันทั้งหมดได้เลย
  12. หลังจากยืนยันเสร็จแล้วจะมีใบเสร็จแนวยาวออกจากเครื่องมา ให้นำใบเสร็จนั้นไปชำระเงิน เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นแล้วค่ะ

ค่าธรรมเนียมการออกเล่ม

  • 5 ปี ราคา 1,000 บาท ค่าส่งไปรษณีย์ 40 บาท รวมเป็น 1,040 บาท
  • 10 ปี ราคา 1,500 บาท ค่าส่งไปรษณีย์ 40 บาท รวมเป็น 1,540 บาท
  • 5 ปี เล่มด่วน ราคา 3,000 บาท
  • 10 เล่มด่วน ราคา 3,500 บาท

*กรณีรับเล่มด่วน หรือติดต่อขอรับเล่มด้วยตัวเองจะไม่สามารถขอผ่านเครื่องคีออสได้ ต้องติดต่อทำเล่มผ่านเจ้าหน้าที่เท่านั้น

การรับเล่มพาสปอร์ต

หากเลือกรับเล่มทางไปรษณีย์ก็รอรับเล่มตามที่อยู่ที่ระบุได้เลยค่ะ รูปแบบการจัดส่งนั้นจะเป็น EMS ส่วนใหญ่ค่อนข้างไว ตามประสบการณ์ที่เคยได้รับเร็วสุดคือ 2 วันหลังไปติดต่อทำ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่จัดส่งด้วยค่ะ ในส่วนของรอบนี้ใช้เวลาจัดส่งไป 3 วันเพราะย้ายมาอยู่ต่างจังหวัดแล้ว 


ข้อควรรู้อื่นๆ

  • เลี่ยงการใส่คอนแทคเลนส์ในวันดังกล่าว เพราะจำเป็นต้องสแกนม่านตา และจำเป็นต้องนำคอนแทคเลนส์ออกก่อนสแกน
  • ภาพถ่ายพาสปอร์ตเป็นขาวดำ ดังนั้นภาพที่แสดงในเล่มจะมีแค่เข้มและสว่าง สำหรับสาวๆ แนะนำว่าแต่งหน้าอย่าเข้มเกินไปเพราะจะทำให้สีบนภาพใบหน้าจะมีความเข้มตามไปด้วย อย่าเขียนอายไลน์เส้นหนามาก จากประสบการณ์เมคอัปสีอื่นๆ จะไม่ค่อยแสดงชัดเท่าอายไลน์เนอร์ ดังนั้นถ้าเขียนเส้นใหญ่มา ในภาพใบหน้าของเราก็จะมาพร้อมอายไลเนอร์เส้นหน้าเข้มกว่าสัดส่วนอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้ดูตลกและหลอกตาได้ แต่ก็ไม่แนะนำให้ไม่แต่งเลย เพราะแบบนั้นอาจทำให้หน้าดูซีดเหมือนคนป่วย แต่งไปแบบพอดีๆ ถ้าให้แนะนำ ขอแนะนำเป็นลุค Everyday โทนน้ำตาล หรือน้ำตามส้มจะดีค่ะ บรอนเซอร์เล็กน้อยเอาแค่เพื่อให้กรอบหน้าชัดก็พอค่ะ
  • แนะนำให้จองคิวออนไลน์ไปก่อน เพราะถ้าบังเอิญไปเจอช่วงคนเยอะ จะใช้เวลารอคิวเรียกรับบริการนาน มากๆ ค่ะ สามารถลงทะเบียนจองคิวออนไลน์ได้ที่ https://www.qpassport.in.th/
  • ใบเสร็จการจ่ายเงินอย่าเพิ่งทิ้งค่ะ เพราะในนั้นจะมีระบุเลขติดตามสถานะการจัดส่งไปรษณีย์ เอาไว้เช็กสถานะเผื่อเกิดข้อผิดพลาดในการจัดส่งเล่มได้

ส่วนตัวรู้สึกประทับใจเครื่องคีออสนะ เพราะว่าใช้งานง่ายค่อนข้างสะดวก ข้อดีแรกที่มองเห็นเลยก็คือขั้นตอนการถ่ายรูปค่ะ เราสามารถกดถ่ายใหม่ได้ตามใจรู้สึก ถ้ารู้สึกว่าภาพมันยังไม่ได้ก็ถ่ายใหม่ไป แต่ก็ไม่แนะนำให้ถ่ายไปเรื่อยเปื่อยเกินเหตุนะคะ อย่าลืมว่ายังมีคนรอคิวเข้าเครื่องต่อจากเรา และขั้นตอนอื่นๆ ก็รวดเร็วว่องไว ระบบไม่เอ๋อ รันระบบไปได้เรื่อยๆ ไม่ติดขัด ถือว่าเสถียรในระดับดีเลยค่ะ ส่วนปัญหาที่จะเกิดขึ้นที่คนอื่นๆ เจอกันก็คือการสแกนลายนิ้วมือค่ะ สำหรับบางคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ลายนิ้วมือเริ่มจางแล้ว ส่วนนี้จะใช้เวลาเก็บลายนิ้วมือค่อนข้างนานอยู่พอตัว เพราะลายนิ้วมือจางเครื่องเลยเก็บไม่ได้ แนะนำให้เช็ดกระจกสแกนนิ้วแล้ววางมือแบบกดน้ำหนักลงพอประมาณ อาจจะช่วยได้ค่ะ สำหรับใครที่กำลังจะไปต่อพาสปอร์ตแต่ยังไม่รู้จะไปที่ไหน เราแนะนำที่นี่เลยค่ะ สะดวก เดินทางง่ายด้วยค่ะ


สุดท้ายนี้หากใครชอบบทความนี้ก็สามารถแชร์ออกไปได้เลยนะคะ และถ้าอยากติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของผู้เขียนนั้นก็สามารถติดตามกันได้ที่

หญิงเถื่อน Solo Traveler

 วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 12.56 น.

ความคิดเห็น