ยุโรปเที่ยวได้แล้ววววววว 

เที่ยวยุโรปไม่ได้ใช้เงินเยอะอย่างที่คิด!

ไม่เชื่อรองไปตามรอยทริปมิลาน นี้ดู


3 วัน 3 คืน กิน เที่ยวแบบจุกๆ เราหมด

ค่าเสียหายไปประมาณ 12,000 บ.

ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องิบไป-กลับค่ะ 

อยากเที่ยวต่างประเทศสะดวกขึ้น ต้องมีบัตรเครดิต!

บัตรเครดิตกรุงศรี เจซีบี JCB แพลทินัม

สมัครง่าย อนุมัติไว เพียงมีเงินเดือนผ่านบัญชี 15,000 บาทขึ้นไป

สมัครเลย https://atth.me/00by89001c4k

โพสต์นี้เราตัดมาแค่ 12 จุดเช็คอินในมิลาน

ถ้าใครอยากตามรอยทริปยุโรปแบบยาวๆ

15 วัน 3 ประเทศ 7 เมือง ก็เลือกอ่านรีวิว

เมืองที่สนใจได้เลยยยย เรารีวิวละเอียดมากจริงๆ

-

EP.1 Hallstatt + Salzburg ออสเตรีย https://tinyurl.com/y29bzavk

EP.2 Capri + Palermo อิตาลี https://tinyurl.com/y6rwfxlw

EP.3 Milan อิตาลี https://tinyurl.com/y28pwjfw

EP.4 Barcelona สเปน https://tinyurl.com/y36s6mgk

เป็นการเที่ยวมิลาน ที่ไม่ได้มีแค่ landmark!

พิพิธภัณฑ์ แกลอรี่ฮิปๆ เราก็ไป ย่านสวยๆ

เราก็เก็บ ไหนจะออกไปเที่ยวเกาะอีก โอ๊ยเริ่ด!

ใครมีแพลนไปเที่ยวมิลาน รีบหยิบสมุดขึ้นมาจดด่วน

เพราะรีวิวนี้ปิงเขียนละเอียดขั้นสุด! ชนิดที่ว่า

อ่านรีวิวเดียว ไปตามรอยได้เลย ไม่ต้องเสิชเพิ่ม

ทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย การเดินทาง ที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว

ถ้าพร้อมแล้วก็ ไปค่ะ !! 

** ค่าใช้จ่าย ต่อคน เฉพาะเที่ยวมิลาน **

( หน่วยเป็นยูโรช่วงที่ปิงไป 1 EUR = 34 THB

ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่หาร 3 นะคะ เพราะไปกัน 3 คน อิ_อิ )

1. ค่าที่พัก Canova Hotel 4 คืน 433.20 EUR

ไม่รวมอาหารเช้า ตกคนละ 144.40 EUR

2. ค่าเดินทาง 75.9 EUR ( รถราง รถบัส รถไฟ เรือ )

3. ค่ากิน 81.96 EUR

4. ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ 48.5 EUR

—– รวม 350.76 EUR / 11,925.84 THB —–

ป.ล. ไม่รวมค่าเครื่องบินจาก Palermo ไป Milan

( สายการบิน Ryanair ) และจาก Milan ไป Barcelona

ประเทศสเปน ( สายการบิน vueling )

ในโพสต์นี้ปิงเขียนเป็นแนะนำจุดเช็คอินนะคะ

ใครอยากอ่านแบบแพลนเที่ยวเที่ยวตาม timeline

เข้าไปอ่านรีวิวเต็มได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ 

https://tinyurl.com/y28pwjfw

Fondazione Prada

เห็นคำว่า Prada หลายคนอาจจะคิดว่า

ปิงพาไปดูกระเป๋าแบรนด์ดังหรืออย่างไร…

ไม่ใช่ค่ะ มันคือพิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปะร่วมสมัย

แต่เจ้าของก็คือ Miuccia Prada และ

Patrizio Bertelli สามีภรรยาผู้บริหาร

แบรนด์ Prada นี่แหละ!

จากที่พักเราเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินสถานี centrale

แล้วนั่งไปลงที่สถานี Lodi T.i.b.b. แล้วเดินต่ออีก 15 นาที

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีพื้นที่เยอะมากค่ะ

อาคารหลักคืออาคารสีทอง แล้วก็มีโซนพิพิธภัณฑ์

และอาคารแกลอรี่ที่สูงถึง 10 ชั้น! ค่าเข้าชมทุกโซน

15 EUR ถ้าชมแค่โซนนิทรรศการถาวร / ชั่วคราว

แค่โซนใดโซนนึง ก็ 10 EUR ซึ่งแบบทุกโซนมันคุ้มกว่านะ


Bar Luce

บาร์แห่งนี้เป็นส่วนนึงของ Fondazione Prada นะ

ร้านตกแต่งแบบ nostalgic พาเราย้อนไปยุค

1950s แต่ก็ใช้เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง แก้ว จาน

สีพาสเทล เพิ่มความน่ารักสดใสเข้ามา แถมมีพวก

ตู้เกม pinball ตู้เล่นเพลงสมัยก่อน ตั้งอยู่ในร้านด้วย 

ชอบโทนสีมาก 

เห็นบาร์ดูดีแบบนี้ นึกว่าขนม เครื่องดื่มจะแพง

ที่ไหนได้.. ไม่แพงเลยจ่ะ นี่ไปกัน 3 คน ทุกคนสั่ง

ขนม เครื่องดื่ม คนละอย่าง บิลออกมา 18.40 EUR

คือสมเหตุสมผลอ่ะกับรสชาติและบรรยากาศ

ป.ล. ชาพีชอร่อยมาก ต้องลองงงงงงงงงง <3

เวลาเปิดปิดแต่ละวันไม่เหมือนกัน เข้าไปดูได้ในนี้

http://www.fondazioneprada.org/barluce-en/?lang=en

Duomo di Milano

เช็คอินแลนด์มาร์คแล้วหนึ่ง!! วิหารประจำเมืองมิลาน

ที่สวย ใหญ่อลังการ จนเค้าล่ำลือกันไปทั่วโลก

สถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุดชื่อว่า Duomo เลย

รับรองไม่มีหลงค่ะ! ใครอยากเข้าชมด้านใน

(ซึ่งแนะนำมากๆ) ควรจองตั๋วออนไลน์ไป

จะได้ไม่ต้องไปต่อคิวยาวเหยียดดดดดดด

ตั๋วเค้ามีหลายแบบ หลายราคา แต่ละแบบจะ

จำกัดโซนที่เราเข้าชมได้แตกต่างกัน

เข้าไปอ่านและทำความเข้าใจจากลิงก์นี้ได้เลยค่ะ 

https://www.duomomilano.it/it/buy-tickets/

วิวจากด้านบนวิวหารค่ะ ^^

Milano vibe 

Galleria Vittorio Emanuele II

นี่เป็นศูนย์การค้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเลยนะ!

สร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 จุดเด่นคือโครงสร้างอาคาร

4 ชั้น ที่เชื่อมต่อกันด้วยโดมกระจกทรงแปดเหลี่ยม และเพดาน

กระจก ที่ช่วยให้แสงส่องเข้ามาในอาคารตลอด ข้างในคือ

ถูกใจสายช้อปปิ้งเลย มีร้านแบรนด์เนมอย่าง Prada, Gucci,

Louis Vuitton และอีกมากมายยยยยย 

ห้างวินเทจเว่อร์ 

ที่ห้ามพลาดคือการไปยืนบนตรารูปกระทิง

แล้วหมุนตัวด้วยส้นเท้า เค้าเชื่อว่าทำแล้ว

จะโชคดี ก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ย แต่คนทำกันเยอะมากจน

กระเบื้องโมเสกบุ๋มเป็นหลุมลงไปเลย 

Parco Sempione & Castello Sforzesco

Parco Sempione คือสวรสาธารณ

ะประจำเมืองมิลาน อารมณ์สวนลุมในกรุงเทพเลย

แต่ใหญ่กว่า55555555 ด้านในมีสถานที่สำคัญอย่าง

Castello Sforzesco หรือปราสาทเก่าแก่

ที่สร้างตั้งแต่ยุค 1300s ให้เข้าชมด้วย

ตัวปราสาทเข้าชมฟรีค่ะ แต่โซนพิพิธภัณธ์มีค่าเข้านะ

ดูรายละเอียดได้ในลิงก์นี้ 

https://www.milanocastello.it/en/content/hours-and-admission

ในสวนร่มรื่นสุดๆ 

Navigli District

นี่คือย่านสังสรรค์ยามค่ำคืน ที่อยู่ริมคลอง Navigli ค่ะ

ในย่านนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ ร้านไอศกรีม

ร้านหนังสือ ร้านขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ และ

ของกระจุ๊กกระจิ๊กเต็มไปหมด 

ยิ่งตกเย็น คนก็จะยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ แต่ด้วยความที่

คนประเทศนี้ติดชิลล์ slow life ชีวิตเค้าจะดำเนินช้าหน่อย

เรามาถึงหกโมงเย็นคือแบบ คนน้อยจนตกใจ555555

แต่ก็เดินเล่นรอบๆ ถ่ายรูป เก็บภาพสวยๆได้อยู่ 

Le Tournedos

ร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่ดีจริง เด็ดจริง

ร้านไม่ใหญ่มากค่ะ ต้องจองโต๊ะก่อนเท่านั้น

ไม่จองมา คือรอนานเลยแหละ เพราะลูกค้า

เค้าเยอะ และเข้ามาเรื่อยๆ.. เมนูที่ปิงลองคือ

หอยนางรมสด ก่อนเลยยยย สดม๊ากกกกกกก! 

ตามด้วยสลัดผักรวม สปาเก็ตตี้ซีฟู้ด

Deep fried mixed seafood

คือ ปลาหมึก กุ้ง ปลา ชุบแป้งทอด เสิร์ฟกับ

เฟรนซ์ฟราย แต่ที่พีคสุดคือสเต็กเนื้อ นุ่ม ละลายในปาก

ทานคู่กับไวน์แดงคือ perfecto! 

Lago Maggiore

ทะเลสาบขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของมิลาน

ที่คนชอบไปเที่ยว / พักผ่อนกัน เพราะมีสถานที่

ท่องเที่ยวเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเกาะต่างๆ

หมู่บ้านริมทะเลสาป พระราชวัง ฯลฯ เรียกได้ว่า

ไปวันเดียว ได้เที่ยวแบบครบรสเลยยยยย 

อ่านรายละเอียดเรื่องการเดินทาง และการซื้อตั๋ว

เข้าชม ตั๋วเรือ ในรีวิวเต็มนะคะ 

https://tinyurl.com/y28pwjfw

Isola Bella คือเกาะแรกของพวกเราวันนี้

จุดเด่นของเกาะนี้คือวัง Palazzo Borromeo

และนกยูงขาวค่ะ 

ฝาก IG ปิงด้วยน้า “pingpitchayaa” 

https://instagram.com/pingpitchayaa

บนเกาะมีร้านค้าน่ารักๆเยอะเลย 

เกาะที่สองคือ เกาะ Isola Mandre

นอกจากสวนดอกไม้สุดอลังการรอบเกาะ

จุดเด่นอีกอย่างของเกาะนี้ คือ นกยูงหลายสายพันธุ์

ในรูปนี้คือ โซนพิพิธภัณฑ์ค่ะ เคยเป็นที่อยู่ของครอบครัว

Borromeo ซึ่งเค้ายังดูแลรักษาห้องต่างๆไว้ให้ดูใหม่

มีทั้งห้องนอน ห้องโถง ห้องทานข้าว ห้องดูหุ่นกระบอก

และของใช้ เฟอร์นิเจอร์เก่าๆ สวยๆมากมายเลย 

ด้านในพิพิธภัณฑ์ค่ะ ^^

Nilufar Depot

warehouse ที่จัดแสดงคอลเลคชั่น ของสะสม

เฟอร์นิเจอร์ และ ของตั้งโชว์ต่างๆ ของ แฟชั่นดีลเลอร์

ชื่อดัง ชาวอิตาลี ที่ชื่อว่า Nina Yashar

โดยของทุกชิ้นที่อยู่ที่ Nilufar Depot

สร้าง / ถูกผลิตขึ้นในศตวรรษที่ 20 ค่ะ

เค้าเอา warehouse มาจัดแบ่งพื้นที่เป็นห้องๆ

แล้วจับโต๊ะ เก้าอี้ พรม โคมไฟ ฯลฯ ที่ดูเข้ากัน

มาไว้ในห้องเดียวกัน 

ส่วนตัวไม่เคยไปชม warehouse

แบบนี้เลย เคยแต่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ไม่ก็แกลลอรี่

ปิงว่าที่นี่เจ๋งมากอ่ะ และเจ้าของก็อัจฉริยะ +

รสนิยมดีมาก ที่เอาของจากประเทศต่างๆ คนสร้าง

คนละคน มาไว้รวมกันในที่เดียว ให้ดูลงตัวได้ขนาดนี้

แต่ละห้องจะมีสมุดเล็กๆ รวมคำอธิบาย

ที่มาของเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของทุกชิ้น

ว่าแบบ เค้าซื้อมาจากไหน คนสร้างชื่ออะไร

สร้างเมื่อปี ค.ศ. อะไร ยิ่งทำให้เราสนุกกับ

การเดินดูเข้าไปอีก 

ได้เห็นตอนเค้าทำ ยั่วน้ำลายไปอีก 

La Ravioleria Sarpi

ร้านนี้มี 2 สาขานะ อยู่บนถนนเดียวกัน ใกล้ๆกันเลย

สาขาสีแดงจะขายพวกซาลาเปา แซนวิชแบบจีน

มีขนมจีบด้วย แต่ชิ้นใหญ่ ทุกอย่างของร้านนี้ค่ะ

สั่งชิ้นเดียวอิ่มค่ะ ส่วนอีกสาขา หน้าร้านจะสีขาว

คือร้านนี้แหละที่เรามา เค้าขายขนมจีบไซส์กลางๆ

ไม่อยากใช้คำว่าพอดีคำ เพราะปิงกินสองคำต่อชิ้น

มีไส้หมู ไก่ ผัก แป้งสีพาสเทลน่ารักดี อร่อยด้วย!

ได้เห็นตอนเค้าทำ ยั่วน้ำลายไปอีก

Fioraio Bianchi Caffe

ปิงไปเห็นคาเฟ่นี้จากรีวิวของฝรั่ง เค้าบอกว่า

ร้านนี้เปิดมากว่า 40 ปีแล้ว! ถือเป็นคาเฟ่เก่าแก่

ของมิลานเลยยยยยย ตัวร้านไม่ใหญ่ แบ่งเป็น

2 โซน ถ้ามาตอนเช้า นั่งโซนไหนก็ได้ เพราะเค้ามี

เมนู breakfast แล้วก็พวกชา กาแฟ

เค้ก เบเกอรี่ เหมือนคาเฟ่ทั่วไป แต่ถ้ามาหลังเที่ยง

โซนด้านหลังจะกลายเป็นร้านอาหารทันที

ซึ่งต้องจองล่วงหน้า แล้วปิงไม่รู้ ปิงไปหลังเที่ยง

เลยได้นั่งแค่โซนข้างนอก กับกินได้แค่เบเกอรี่

เพราะของคาวเป็นจานๆเค้าจะเสิร์ฟแค่ในอีกโซนค่ะ

แต่บรรยากาศร้านคือโอเคเลย อบอุ่น ตกแต่งด้วย

เฟอร์นิเจอร์วินเทจ ของสะสม ดอกไม้แห้ง ฯลฯ

ร้านเปิดยาว 8.00 – 24.00 น. มาโดนกันได้จ้า 

Pirelli HangarBicocca

contemporary art museum ที่ไม่ใช่

ตึกหรืออาคารหลายๆชั้นที่ให้เราเดินวนดูรูปภาพ

หรือรูปั้นต่างๆ แต่มันเป็นโกดังเปล่าๆเลย ไม่มีการ

ประดับ ตกแต่ง หรือซอยเป็นชั้นอะไรทั้งสิ้น

แล้วเค้าก็เอาชิ้นงานศิลปะขนาดใหญ่บึ้ม

ตั้งลงไปในโกดังนั่นแหละ ให้คนเดินดูกัน

แปลกดี! 

ที่นี่เปิดแค่วันพฤหัส – อาทิตย์ 10.00 – 22.00 น.

หยุดวันจันทร์ – พุธ ค่ะ แล้วก็ไม่มีค่าเข้าชมนะ ฟรี!

อันนี้เว็บไซต์ เผื่อใครอยากเข้าไปดูรายละเอียดของ

นิทรรศการก่อน ถ้าไม่ถูกใจจะได้ไม่ต้องไปน้า ^^

https://pirellihangarbicocca.org/en/

จบทริปมิลาน 3 วัน 3 คืน 12 จุดเช็คอิน 

ใครมีแพลนเที่ยวยุโรป อย่าลืมไปตามอ่านรีวิว EP. อื่นๆน้า

ย้ำว่ารีวิวละเอียดมาก ไปตามรอยได้จริง

EP.1 Hallstatt + Salzburg ออสเตรีย https://tinyurl.com/y29bzavk

EP.2 Capri + Palermo อิตาลี https://tinyurl.com/y6rwfxlw

EP.3 Milan อิตาลี https://tinyurl.com/y28pwjfw

EP.4 Barcelona สเปน https://tinyurl.com/y36s6mgk

แล้วเจอกันใหม่ รีวิวหน้าค่ะ

Bliss Out There

 วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 16.34 น.

ความคิดเห็น