7วันที่ไป ถนนเส้นนี้ ทางสวยที่สุด วิวสวยที่สุด

จุดหมายปลายทางในวันนี้คือ บ้านห้วยห้อม


ซึ่งระยะทางห่างจากแม่โถเพียงแค่ 45 กิโลเมตร เท่านั้น เมื่อวานขับมาจากตัวเมืองเชียงใหม่ตั้ง 163km เปรียบเทียบกันแล้วระยะทางแค่นี้มัน "จิ๊บๆ กระจิบกระจาบ" //ยักไหล่ พร้อมยิ้มที่มุมปากเล็กๆ แบบผู้ชนะ ขับรถชมวิวสวยๆสินะ แค่ใกล้ๆเอง กางแขนรับลม ให้ลมเย็นตีหน้า สะบัดผมสวยๆ

..................สิ่งที่กำลัง มโน บรรทัดข้างบนนั้น.......ผิด หมด........

ถึงแม้จะเป็นถนนที่ไม่ได้ลาดยา ง เป็นทางเล็กๆลัดเลาะไปตามเขาเป็นสิบเป็นร้อยลูก และไม่ค่อยมีคนสัญจรมากนัก แต่ถนนเส้นนี้ก็เป็นถนนหลวงที่มีหมายเลขถนนนะจ๊ะ อีหยักๆ ยึกๆยักๆนั่น ถ้าลองซูมใน google ดู จะเห็นว่า มันไม่มีตรงไหนเป็นทางตรงๆเกิน 200 เมตรเลย โค้งพับไปพับมาอยู่อย่างนั้น แผนที่จะเห็นได้ว่ามีสองทาง เราเลยถามชาวบ้านตรงแยกนั้นว่าไปทางไหนดีกว่ากัน นางตอบมาว่าทางที่เราไปถนนดีกว่า ใกล้กว่า ซึ่งมารู้ทีหลังว่า มันไม่จิง ถนนแย่กว่า และระยะทางไกลไม่เป็นไรถ้าถนนมันดีกว่า แต่เราก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองไปว่า ไม่เป็นไร ทางมันสวยดีนะ แต่ทางมันก็วิบากมาก

มาๆจะเล่าให้ฟัง


YAMAHA NMAX สปอร์ตเมติก 155cc CVT 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำเต็มระบบ พร้อมกระบอกสูบไดอะซิล ทน แกร่ง บิดอัดได้เต็มอัตรานั้น ได้กลายเป็น "มอเตอร์ไซค์วิบาก" ไปเป็นที่เรียบร้อย

45กิโลเมตรนั้น เป็นทางลาดยางเพียงแค่ช่วงต้นๆ เท่านั้น นอกนั้นเป็น ลูกรังก้อนกรวดก้อนหินขนาดเล็กบ้างใหญ่บ้าง พร้อมด้วยพื้นผิวถนนแบบพื้น ผิวบนดวงจันทร์ งบประมาณประจำปีสำหรับทำถนนหมดหรือไงไม่รู้ ทำไมไม่ทำให้ให้สุดทางคะผู้ว่า T T

ตลอดเวลา 3ชั่วโมงในการเดินทางนั้น ถึงแม้ว่าก้นเรา จะมีไขมันสะสมไว้เยอะมากแล้วก็ตาม แต่มันสู้ไม่ไหวจริงๆ ไหนจะกระเป๋าสัมภาระที่ผูกไ ว้ข้างหลัง กินที่นั่งคนซ้อน และไม่มีที่ให้เกาะ ไหนจะเบาะรถที่อยู่ๆก็เว้าปาดลงไปหาคนขับ

ในเมื่อมือไม่มีที่ให้เกาะ สิ่งเดียวที่เราจะยันตัวไว้ ไม่ให้ไหลไปกองรวมกับเพื่อนได้ นั่นคือ "การเกร็งหน้าขากับที่เหยียบเท้า" เอาไว้ เรานี่เกร็งขาคล้ายการทำคาดิโอ้ ตลอดเวลา แถมนั่งสั่นสะเทือน งึกๆๆๆ เป็นการสลายไขมันพร้อมยกกระชับกล้ามเนื้อไปในตัว.....ถรุ้ยยย!!


จนหลังๆที่หมดแรงเกร็งแล้ว ตะคริวกินไปหลายรอบแล้ว บางทีก็ไหลไปกองกับเพื่อนข้างหน้า คือ ก็สงสารคนขับนะ ขับรถก็ยาก ทางก็เลวร้าย ต้องคอยหลบก้อนหิน ถนนก็โค้งไปโค้งมา ไหนยังต้องคอยเอาตูดดันเราไว้อีก......เราขอโทษเพื่อนรัก เราพยายามแล้ววว เราหมดแรงคาดิโอ้แล้ว เมื่อไหร่จะถึงสักที บางทีก็นั่งชิดกันมากจนเรียกได้ว่า แทบจะได้เสียกัน

45กิโล 3ชั่วโมง เรียกได้ว่า ทางโหดมาก!! แต่มันก็สวยมากๆเหมือนกัน

เกริ่นยาวไปแล้ว ดูรูปดีกว่า วันนี้รูปถนนและวิวเยอะหน่อย เพราะวิวระหว่างทางสวยจิงๆ



ช่วงแรกๆที่ออกจากแม่โถ อยู่ในเขตชุมชน ยังพอพบบ้านเรือนและผู้คนอยู่ บ้าง



ถนนก็ยังเป็นถนนลาดยางดีๆ ปกติอยู่ ขับรถชมวิวข้างทางสวยๆไปอย่างเพลิดเพลิน รถเราเป็นคันที่สอง ดังนั้นจะเห็นคันนำไปตลอดทาง และปิดท้ายด้วยคันที่สาม เลยไม่ค่อยมีภาพเลย ถ่ายลำบากไป



ภาพข้างล่างนี้ วิวสวยจนต้องจอดค่ะ ท้องฟ้า ภูเขา สวยมากๆ



เราถ่ายรูปจากหลังมอร์เตอร์ไซค์ไปตลอดทาง ถ่ายไปเรื่อยๆ ไม่มีการเล็งอะไรทั้งนั้น วินาทีที่รถวิ่ง แค่สองวินาที วิวก็เปลี่ยนมุมไปแล้ว ดังนั้น ถ่ายไปเถอะ แล้วค่อยมาเลือกเอาทีหลัง



วิวตรงไหนสวยมาก ก็จอดรถข้างทางแล้วลงไปถ่ายรูปกัน รถสวนทางนั้นไม่ต้องพูดถึง ครึ่งชั่วโมงจะมีผ่านมาสักคัน ปลอดภัยแน่นอน

..... คือก็ไม่รู้จะทาปาก ปัดแก้ม กรีดตาออกมาแต่เช้า ไปเพื่ออะไร ปิดมิดทั้งตัวเลย โผล่มาแต่ตา ซึ่งขี่รถก็ใส่แว่นกันแดดเข้าไปอีก



แม่ลาน้อย ขึ้นชื่อเรื่องการทำนาขั้นบันได คือสวยแปลกตา ไม่เหมือนการทำนาบนที่ราบ ข้างขวาเป็นลำธาร เสียงน้ำไหลดังก้องหุบเขา ยังมีฝูงวัว และกระท่อมเล็กๆ เหมือนมีใครมาเซ็ทฉากให้เรา ถ่ายรูปยังไงยังงั้นเลย สวยมากๆ



ขี่ไปเรื่อยๆ ถนนเริ่มมีหลุมมีบ่อ ก็หลบบ้าง ลงบ่อบ้าง แล้วแต่่คนขับ ถ้าวิวสวย นางก็จะไม่ค่อยมองหลุมเท่าไหร่ ตึกตักๆ กันไป



แถวนี้มีแปลงปลูกกะหล่ำ บนไหล่ภูเขาหลายลูก ไกลสุดลูกหูลูกตาเลย



ขับไปๆ ถนนก็แย่ลงเรื่อยๆ จนเป็นแบบนี้ นั่งสั่นสะเทือนตลอดเวลา ในใจคิดอยากได้แพมเพิ้ทผู้ใหญ่ไว้ใส่ซ้อนกันสักสามชั้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ร้องในใจว่า ฉันเกลียดดดดดดดด ลูกรัง!!!

แต่ระหว่างความปวดก้น ก็ยังมีวิวสวยๆให้เราได้ดูไปตลอดทาง ไว้คลายความปวดร้าวได้บ้าง



ถนนเป็นแบบนี้เกือบตลอดทาง ขนาดไปผ่านมา6-7เดือนแล้ว นั่งดูรูปแล้วปวดตูดปวดขาขึ้นมา ซะยังงั้น



พอก้นเราชาถึงที่สุดแล้ว ก็จอดพักสักครู่ หายชาแล้วลุยต่อ (แกมากะเค้าเองนะ ไม่มีใครบังคับให้แกมา ..... เอ๊ะ หรือเราโดนหลอกมากันแน่เนี่ย ในใจเริ่มอยากหาคนรับผิดชอบ ต่อความลำบากครั้งนี้)



วิ่งกันฝุ่นตลบ รถสวนแทบจะไม่มี ที่มีสวนใหญ่จะเป็นกะบะโฟวิลทั้งนั้น เจอรถสวนทางประมาณ 5คัน ตลอดการเดินทาง

ถามว่าขี่ยากมั๊ย? คือ ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น เพียงแต่หลุมเยอะ ล่องถนนก็เยอะ แถมโค้งก็เยอะ ต้องไปช้าๆ ฝุ่นนี่ยิ่งเยอะมาก



คันที่3 ขี่ทิ้งห่างมากไป พอถึงทางแยกเลยเลี้ยวผิดไปอีกทาง เลยจอดรอเพื่อน เป็นการรอไปเรื่อยๆ เนื่องจากแถวนั้นไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ถึงมีก็สัญญาณหายเป็นช่วงๆ ไม่สามารถที่จะติดต่อกันได้เลย

ระยะทางนั้นก็ใกล้จะถึงแล้ว ระหว่างรอเพื่อนคันที่สามหลงไปอีกทาง มีรถขายไอติมผ่านมาพอดี นั่งกินติมรอเพื่อนอย่างใจเย็น ชื่นใจ เดี๋ยวเพื่อนก็มาเอง ถนนก็มีอยู่ไม่กี่ทางหรอก จะไปไหนได้!!!



เมื่อเพื่อนตามมาถึงก็เดินทางต่อ มีเสียงบ่นกันเล็กน้อย นี่แหละ คันนำ ก็นำไป คันตามก็ตามไป หายไปตอนไหนไม่รู้



และในที่สุด

ถึงซักที ไม่ไหวแล้ว ตูดเราไม่ใช่ของเราอีกต่อไป ขาก็ไม่ใช่ มันไร้ความรู้สึกสลับกับปวด คือไม่รู้จะบรรยายความเมื่อ ยล้าออกมาเป็นคำได้ยังไง แต่ดีใจมากที่เห็นป้ายหมู่บ้านนี้สักที



จากปากทางป้ายหมู่บ้านเราเจอรถกะบะ คันนึงวิ่งฝุ่นตลบมาจากอีกทาง นั่นหมายความว่า หมู่บ้านนี้มาได้หลายทาง และเราเลือกทางวิบากมากัน

แน่หล่ะสิ หมู่บ้านมีชื่อเสียงขนาดนี้ คนมาเที่ยวก็เยอะแยะ ถ้าทางมามันลำบากขนาดที่เรามา นักท่องเที่ยวจะมากันได้ยังไง แล้วทำไมเราต้องมาทางนี้.....นั่นสิ......อ๋อออออ ก็เพราะเราเดินทางเป็นวงกลมไง เราจะไปแม่ฮ่องสอน เข้าใจนะทุกคน



บ้านห้วยห้อม เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ในหุบเขา อยู่ใน อ. แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ชาวบ้านนับถือศาสนาคริสต์ อาชีพหลักคือปลูกข้าว โดยการทำนาขั้นบันไดและยังมีต้นหมากเป็นทิวแถว มากมาย ที่นี่มีเสาวรส และกาแฟอันธุ์อาราบิการที่รสชาติเข้มข้น มีการเลี้ยงแกะ ทำให้เกิดอาชีพเสริมคือการทอผ้าจากขนแกะ และฝ้าย ธรรมชาติ ผู้คนที่หมู่บ้านนี้ไม่ค่อยออกไปทำงานที่อื่น เพราะภายในหมู่บ้านมีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ จึงมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย (สาระก็มีบ้าง)



คืนนี้เรามานอนโฮมสเตย์ ที่นี่สะดวกสบายมาก ดูได้จาก มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ใช้ด้วย (เมื่อคืนที่แม่โถ น้ำเย็นมาก ขนาดล้างหน้ายังหน้าชา ตบไม่เจ็บ เรื่องอาบน้ำนั้น ขันแรกก็เหมือนโดนน้ำมนต์ มันเย็นบาดใจ แทบจะช๊อคตายคาถังน้ำเลยทีเดียว) และที่นี่ มี Wifi ให้ใช้ด้วย คุณพระ!

พักเรื่องความสะดวกสบายไว้ก่อน กลับมาที่เรื่อง ทำไมเราต้องดั้นด้นมานอนที่นี่กันด้วยนะ

ดูนี่สิ วิวหน้าบ้านเราเอง ...... มันคือวิว ระดับจักรพรรดิ์ งดงาม อลังการ ในราคาคืนละ 150บาท



ทั้งวันเพิ่งได้ถ่ายรูปตัวเองก็ตอนนี้แหละ ถ่ายเสร็จไปอาบน้ำ ล้างหน้า ใส่ชุดนอน บางทีก็ไม่รุ้ว่าทุกวันที่ไปนี่เราจะแต่งหน้าทำไมนะ อยู่แต่ในหมวกกันน๊อค กินข้าวกันค่ะ กินชดเชยแคลลอรีที่หายไปจากการทำ คาดิโอบนหลังมอร์เตอร์ไซค์

การเดินทางวันนี้เป็นวันที่ประทับใจมาก อีกวันหนึ่ง นี่แค่วันที่สองยังโหดขนาดนี้ วันต่อไปก็ไม่กลัวอะไรแล้วแหละ พูดเลย



อาหารเย็นของเรา ผัดยอดฟักแม้วที่ทางบ้านพัก ปลูกเอง ปลาก็ปลาเลี้ยงในบ่อ ไข่เจียวจากไก่ ทุกอย่างคือของหาได้จากไต้การปลูกและเลี้ยงเอง กินเสร็จแล้วก็นั่งชิล จิบเบียร์ ดูดาว พักร่าง พักขา พักตูด อากาศเย็นประมาณ 10กว่าองศา กำลังดีเชียว



อากาศยามเช้าตรู่ หมอกแผ่วๆและต้นหมาก จิบกาแฟห้วยห้อม เป็นกาแฟที่มีชื่อเสียง รสชาติอ่อนนุ่มละมุนลิ้น และกินข้าวเช้ากัน



หมอกยามเช้ามีแค่นี้เอง วันที่สองก็ยังไม่เจอทะเลหม อกแบบสะใจสักที ไว้รอลุ้นวันที่3ก็ได้



อาบน้ำ ล้างหน้าล้างตา เก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางก ันต่อ ป้ายหน้า ดอยแม่อูคอ ไปดูดอกบัวตอง และพักค้างคืนกันที่ภูชี้เพ้อ กัน



ตามดูรีวิววันอื่นได้ที่

7วัน วงกลมตามเข็ม เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ::::::::Day1::::::::เชียงใหม่ สวนสน อุทยานแห่งชาติแม่โถ

7วัน วงกลมตามเข็ม เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ::::::::Day2::::::::บ้านห้วยห้อม

7วัน วงกลมตามเข็ม เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ::::::::Day3:::::::: ทุ่งดอกบัวตอง-ภูชี้เพ้อ

7วัน วงกลมตามเข็ม เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ::::::::Day4:::::::: เมืองแม่ฮ่องสอน วัดพระธาตุดอยกองมู สะพานซูตองเป้ สถานีวิจัยทดสอบพันธุ์สัตว์หน่วยปางตอง ปางอุ๋ง บ้านรักไทย

7วัน วงกลมตามเข็ม เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ::::::::Day5:::::::: บ้านจ่าโบ่


ฝากติดตามเพจน้อยๆ เป็นเพจท่องเที่ยวและเม้าท์กันแบบสบายๆ เหมือนนั่งเล่าให้เพื่อนฟัง

https://www.facebook.com/sandysohappy/

"แสนดีแฮปปี้ คนอ่านก็แฮปปี้"

ความคิดเห็น