มาต่อกันกับ Blog ที่ 2 ของผม เที่ยวสบายๆสไตล์Supernovaman!!!

  เมื่อคราวที่แล้ว ได้พาคุณผู้อ่านไปฟิลิปปินส์กันมาแล้ว

  คราวนี้เราขอพาบินลัดฟ้ามาเที่ยวยังประเทศที่ใกล้ๆกลับบ้านเรา ตามวิชาประวัติศาสตร์ที่เราเคยได้เล่าเรียนกันมา ประเทศนี้จะอยู่ทางใต้ของประเทศไทย มีพรมแดนบนแผ่นดินเชื่อมติดกันกับประเทศไทยถึง 595 กม. อาหารที่มีชื่อเสียงของเขาก็คือ Nasi Lemak และมีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ จะเป็นประเทศไหนไปไม่ได้เลย นอกจาก ประเทศมาเลเซีย นั่นเอง โดยเมืองที่เราจะเดินทางไปในวันนี้ คือ กัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศ หรือเรียกสั้นๆว่า KL

 

  คาดว่าหลายท่าน อาจจะเคยมาสัมผัสประเทศนี้กันมาบ้าง ด้วยความที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ใกล้ไม่ไกล เดินทางสะดวก เลยเป็น 1 ในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยในภูมิภาคASEANของเรา แต่น้อยคนนักจะรู้ว่า ภายใน สนามบิน Kuala Lumpur International (KUL) หรือ KLIA ที่เราได้เดินทางกันมานั้น จะมีที่ค้างแรมชั่วคราวหรือข้ามคืนสำหรับผู้มาใช้บริการสนามบินแห่งนี้ โดยเราจะมารีวิวโรงแรมแห่งนี้กัน

  แต่ก่อนอื่น ขอเล่าเท้าความสักเล็กน้อย ว่าทำไมต้องมาใช้บริการโรงแรมแห่งนี้

  การเดินทางของเรา เดินทางด้วยสายการบิน Malaysia AirAsia. แต่ด้วยความที่ เดินทางในช่วงเดือน มิถุนายน 2565 ซึ่งเพิ่งเปิดประเทศหลังจากสถานการณ์โควิดใหม่ๆ ทำให้ตารางเที่ยวบิน ยังมีความถี่ไม่มากนัก และเวลาว่างของเราตรงกับไฟลท์ดึก เดินทางถึงสนามบิน KLIA เวลา 02:00 น. ซึ่งดึกมากจึงตัดสินใจจองที่พักโรงแรมแคปซูลนี้ล่วงหน้า ให้ร่างกายได้พักผ่อน ก่อนตื่นเช้าไปผจญภัยใน Kuala Lumpur กันต่อ

Capsule Transit Hotel

  โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในสนามบิน KLIA Terminal2 ชั้นล่างระดับพื้นดิน, เรียกได้ว่า ลงจากเครื่องผ่านimmigrationปุ้ป ลงบันไดเลื่อนมาก็เจอโรงแรมเลยสะดวกมากสำหรับคนที่จะมาต่อเครื่อง ที่โรงแรมนี้จะเป็นโรงแรมแคปซูล คือ 1คนนอนใน1ช่อง โดยต่อไปนี้จะขอเรียกว่าช่องพัก แทน ห้องพัก เนื่องจากขนาดที่เล็กเกินกว่าจะเรียกว่าห้องได้ ช่องพักจะดีไซน์เป็นเหมือนนอนในตู้คอนเทนเนอร์ ซ้อนกันหลายๆชั้น 

โรงแรมจะมีช่องพักหลาย type ให้เลือก แต่ทุกแบบ จะเป็นรูปแบบนอนในช่องๆทั้งหมด
- Female Single Capsule
ช่องแคปซูล สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ โดยผู้จะเข้าโซนช่องพักได้ จะต้องแสกนบัตรผ่านประตู ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงเดินทางคนเดียว นอนได้เพียง 1 คน
- Mixed Single Capsule
ลักษณะเดียวกันกับโซนหญิงล้วน แต่จะสามารถใช้บริการได้ทุกคน นอนได้คนเดียวเช่นกัน
- Queen Capsule
ช่องพักนี้จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น สามารถนอนได้ถึง 2 คนด้วยกัน
- Private Capsule Suite
แบบสุดท้ายนี้ จะใหญ่ที่สุด สามารถจุคนได้ถึง3คน แต่แน่นอน เป็นแบบช่องๆแคปซูล

  โดยราคาช่องพัก จะขึ้นอยู่กับ ประเภทและระยะเวลาที่ใช้บริการ โดยราคาที่ปรากฏนี้ เป็นราคาของช่องพักประเภท Mixed Single Capsule ซึ่งก็เป็นประเภทที่เราใช้บริการในครั้งนี้ ในเดือน มิย 65 โดยได้ใช้บริการไปทั้งสิ้น 6 ชั่วโมง ราคารวม 115 ริงกิตมาเลเซีย หรือ ประมาณ 912 บาท

  เมื่อเราเดินเข้าไป หลังจากเช็คอินที่เค้าน์เตอร์เรียบร้อยแล้ว ก็จะพบกับ ช่องพักมากมาย โดยโรงแรมนี้ จะมีห้องพักรวมทั้งสิ้น 120 ห้อง

  และแล้วก็มาถึง โซนที่เรานอน โซนD แต่ต้องขึ้นบันไดไปอีกนะ เพราะช่องพักอยู่ชั้น 2 ต้องขึ้นบันไดตะแกรงเหล็กในรูป

  ถึงหน้าช่องพักเราแล้ว มีเพื่อนข้างห้องอยู่หลายคนเหมือนกันแหะ แต่ละช่องจะมีม่านม้วน เอาไว้หมุนขึ้นลงเพื่อความเป็นส่วนตัว ล็อบบี้จะให้ Keycard มา 1 ใบเพื่อใช้เสียบเปิดไฟในช่องพัก

  ภายในช่องมี ฟูก,หมอน,ผ้าห่ม,ไฟ1ดวง,พัดลมดูดอากาศและโต๊ะพับได้ติดข้างฝา ก็ถือว่าครบครันสำหรับโรงแรมที่ทำมาเพื่อพักผ่อนนอนเอาแรง เตียงกับหมอนนุ่มดีเลยทีเดียว

  ช่องพักสามารถยืดขาได้เต็มที่ ถ้าเทียบกันง่ายๆ ส่วนตัวสูง 180 ซม. สามารถยืดขาได้ แถมยังมีพื้นที่เหลือปลายเตียงอีกต่างหาก 

  ช่องพักจะมี USB พร้อมปลั้กเต้ารับแบบUniversal อย่างละ 1 ช่อง เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ไม่ใช่สำหรับผม ฮ่าๆ gadgetเยอะ พกปลั้กพ่วงไปด้วย เสียบใช้งานสบายๆ 

  เวลาcheck-in โรงแรมจะให้ถุงผ้าที่ใส่ผ้าเช็ดตัว,แปรงสีฟัน,ยาสีฟัน และน้ำเปล่าcomplimentaryอีก1ขวด เหมือนโรงแรมทั่วไป แต่ไม่มี Breakfast ให้ ก็เพราะเป็นโรงแรมCapsule

  สภาพตอนตี2 แต่ขอปิดหน้าไว้ก่อน เพราะสภาพรุงรังมาก นอนพักผ่อนเอาแรง เพื่อตื่นเช้ามาจะได้ไปเที่ยว Kuala Lumpur กันต่อ

  ตื่นเช้ามาก็ต้องอาบน้ำ ชำระล้างร่างกายให้สะอาด ห้องน้ำของที่นี่จะเป็นห้องน้ำรวมแบบแยกชายหญิง โดยห้องย่อยภายใน มีส้วมและฝักบัวอาบน้ำอุ่นในตัว สำหรับผู้ชายไซส์ผมก็อาจจะรู้สึกค่อนข้างเล็กและกลับตัวลำบาก แต่ถ้าเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ก็อาจจะกำลังดี ถึงจะขนาดไม่ใหญ่มากแต่ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งาน มีสบู่แชมพู ตะขอแขวนสิ่งของ ให้ครบ

  พื้นที่บริเวณ Shower อาจจะเล็กไปสักนิด แต่พอใช้งานได้ สำหรับโรงแรมประเภทนี้ ที่เน้นลูกค้าขาจร

  โรงแรมจะมี Locker ให้บริการฟรี ในระหว่างที่แขกเข้าใช้บริการ มีLockerทุกไซส์สำหรับกระเป๋าทุกขนาด โดยLockerเก็บกระเป๋า จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Reception ของโรงแรม

สรุปโดยรวม

  โรงแรมนี้เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องลงไฟลท์ดึกๆ หรือมาต่อเครื่องที่มีเวลาน้อย สะดวก และมีอุปกรณ์ครบครันสำหรับนักเดินทาง พักผ่อนนอนหลับสบาย ราคาพอรับได้ แต่ผนังช่องทำจากไม้อัด แอบบางเล็กน้อย ทำให้เมื่อเรากรนดังมาก หรือช่องข้างๆกรนเสียงดัง หรือขยับตัวกระแทก ก็อาจจะมีเสียงปึงปังได้ หากใครเป็นคนที่ต้องการความเงียบสงัดในเวลานอน ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์นัก

  Blog หน้า ผม Supernovaman จะพาไปเที่ยวที่ไหนต่อ รอติดตามกันนะครับ 

สุดท้ายนี้ Readme มี Projectใหม่ ชื่อ Tripster เป็น First Ever Travel to Earn Platform หากใครสนใจ สามารถร่วมติดตามได้ที่ FB : Tripster ตามลิ้งค์ด้านล่างได้เลยย ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะคร้าบบ

Tripster | Facebook